ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 113 หวังหยุนมอบของขวัญ

แน่นอนว่าภายในใจของหวังหยุนนั้น ค่อนข้างเอนเอียงไปที่ท่านประธานที่อยู่เบื้องหลังคนนั้น เพราะถึงแม้ว่าความสามารถของตระกูลจะแข็งแกร่ง แต่ถึงอย่างไรก็เป็นคนต่างถิ่น ถ้าลูกสาวของเธอแต่งออกไป แต่ธุรกิจต่าง ๆ ก็ยังอยู่ทางนี้ จะไป ๆ มา ๆ ก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่

อีกอย่างต่อให้ตระกูลจินเก่งกาจแค่ไหน คุณชายจินนั่นก็คือว่าเป็นรุ่นที่สาม เหนือเขายังมีพ่อและปูอยู่ พวกเขาพูดอะไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น ไม่รู้ว่าอีกกี่ปีถึงจะใช้ชีวิตอย่างมีอำนาจมีอิทธิพล

และมันไม่เหมือนกับท่านประธานใหญ่แห่งซวนหยวนกรุ๊ป เขาเป็นถึงคุณชายเศรษฐี มีทั้งอำนาจที่ยิ่งใหญ่และร่ำรวยเงินตรา

มีบริษัทมูลค่ากว่าหลายหมื่นล้านขนาดนี้ ฐานะนี้เหนือกว่าคุณชายจินเป็นไหน ๆ

……

ฉินจุนได้รับโทรศัพท์จากหวังหรุ่ย บอกว่ามีคนส่งของขวัญมาให้แก่เขา เดิมทีฉินจุนไม่อยากจะไปรับ เพราะเขาไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับบริษัทอยู่แล้ว ใครจะส่งของอะไรให้กับเขาก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร

พูดกันตามตรง ถ้าหากจะมีใครส่งของขวัญมาให้เขาเพื่อขอความช่วยเหลือ ส่งของขวัญให้หวังหรุ่ยโดยตรงยังจะดีเสียกว่า

แน่นอนว่าหวังหรุ่ยจะรับหรือไม่รับก็เป็นเรื่องของเธอแล้ว

มาส่งถือหน้าประตูขนาดนี้ ฉินจุนเองก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธ จึงเชิญหวังหรุ่ยเข้ามาในบ้าน

“ท่านประธานฉินคะ มีคนฝากให้ดิฉันนำของขวัญมามอบให้กับคุณ ตอนแรกฉันไม่ได้สนใจอะไร แต่ว่าเห็นว่าของขวัญชิ้นนี้ค่อนข้างมีมูลค่าราคาแพง เลยมามอบให้คุณด้วยตัวเองค่ะ”

ฉินจุนรับกล่องของขวัญมา พอเห็นของที่อยู่ในกล่อง ก็พูดไม่ออกทันที

นี่มันโสมไม่ใช่เหรอ?

ตอนแรกที่ฉินจุนทำโสมให้กับจู้หลินหลินนั้น เธอบอกว่าจะเอาไปมอบให้คนอื่น ฉะนั้นฉินจุนจึงขอจากข่งฝานหลินว่าอยากได้โสมสักต้น โสมต้นนี้มีมูลค่ามากก็จริง แต่ทำไมมันถึงกลับมาอยู่ในมือของเขา?

“ใครส่งมาให้?”

หวังหรุ่ยเอ่ย “เป็นคุณผู้หญิงท่านหนึ่งชื่อว่าหวังหยุนค่ะ”

ฉินจุนพูดไม่ออก ที่จู้หลินหลินซื้อโสม ก็คือช่วยซื้อให้หวังหยุน ส่วนหวังหยุนซื้อโสมก็เพื่อเอามามอบให้เขา?

ของสิ่งนี้วนไปวนมา สุดท้ายก็กลับมาตกอยู่ในมือของฉินจุน มันช่างน่าตลกเสียจริง ๆ

“โอเคผมรู้แล้ว คุณกลับไปเถอะ”

ฉินจุนนำโสมส่งกลับไปให้จู้หลินหลิน ของสิ่งนี้มาอยู่ในมือเขาก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไร ต่อให้มันสามารถรักษาโรคได้ ฉินจุนก็ไม่ใช้โสมที่แก่ขนาดนี้ ฤทธิ์ของมันแรงเกินไป ในทางกลับกันมันจะทำให้เราไม่สามารถควบคุมได้

เพราะฉะนั้นเก็บไว้ให้จู้หลินหลินเอาไว้ใช้มอบเป็นของขวัญเวลาทำธุรกิจดีกว่า

พอมาถึงบ้านตระกูลจู้ ฉินจุนก็เดินถือโสมเข้าไป

หวังหยุนกำลังฝันหวาน เมื่อสักครู่หวังหรุ่ยตอบกลับมาว่า ได้ไปมอบของขวัญให้แล้ว ส่งโสมไปให้เป็นของขวัญ อีกไม่นานก็น่าจะมีการตอบแทน

ต่อให้ไม่มีการส่งของขวัญตอบกลับมา ยังไงก็ต้องมีการโทรศัพท์สักหน่อยล่ะ หรือไม่ก็ไปพบปะ ทานอาหารกันสักหน่อยอะไรประมาณนั้นมั้ง?

ขณะที่เธอกำลังมโน ทันใดนั้นฉินจุนก็ปรากฏตัวขึ้น

เมื่อเห็นฉินจุนถือของบางอย่างอยู่ในมือ หวังหยุนก็เย้ยหยันตามสัญชาตญาณ ปกติเห็นมามือเปล่าทุกครั้ง ครั้งนี้รู้จักซื้อของติดไม้ติดมือมาแล้วเหรอ?

“ถืออะไรมา เอามาให้ฉันดูซิ คงจะไม่ใช่ผลไม้ราคาถูกใช่ไหม?”

พูดจบหวังหยุนก็ก้มลงไปมอง ทันใดนั้นสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที

“เอ้ะ?นี่มันอะไรกัน ทำไมมันไปอยู่กับนายได้!”

พอยกโสมขึ้นมาดู หวังหยุนก็ตกใจทันที นี่มันของที่เธอส่งเป็นของขวัญไปให้ท่านประธานใหญ่ของซวนหยวนกรุ๊ปไม่ใช่เหรอ?

“ครับ”

ฉินจุนเพียงแค่พยักหน้า ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรดีเหมือนกัน จะให้บอกว่าของขวัญของคุณมันวนไปวนมาจนตกมาอยู่ในมือของผมอีกรอบ เอาจริง ๆ แล้วก็เหมือนว่าตัวเองมอบของขวัญให้ตัวเอง?

หวังหยุนยกโสมขึ้นมา และก็รู้ว่ามันไม่ค่อยปกติสักเท่าไหร่ ดูแล้วมันไม่ค่อยเหมือนกับที่เธอส่งเป็นของขวัญสักเท่าไหร่

จริง ๆ แล้วมันคืออันเดียวกัน เพียงแต่ว่าหวังหรุ่ยรู้สึกว่าแพ็คเกจมันสีสันฉูดฉาดไปหน่อย ก็เลยเปลี่ยนถุง

หวังหยุนรู้สึกว่ามันผิดปกติจึงเอ่ยขึ้นมาทันที

“โสมของนายอันนี้ไม่ใช่ของปลอมใช่ไหม?”

ฉินจุนเอ่ย “ไม่ใช่แน่นอนครับ”

เขาเป็นหมอเทพ โสมนี่เป็นของจริงหรือของปลอมเขาจะดูไม่ออกได้ยังไง?

สีหน้าของหวังหยุนเต็มไปด้วยความสงสัย ยกโสมขึ้นมาสลับกับมองหน้าฉินจุน แววตาไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“โสมนี่นายจะเอาไปให้ใคร?”

“จะเอาไว้ให้จู้หลินหลินครับ”

“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว นายกลับไปเถอะ เดี๋ยวจะเอาไปให้เอง”

ฉินจุนพยักหน้าก่อนจะจากไป แค่โสมอันเดียวเขาไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว ถ้าหากหวังหยุนอยากจะได้มันจริง ๆ ก็ให้เธอไป เพราะถึงอย่างไรให้เธอหรือให้จู้หลินหลินก็เหมือนกัน

ฉินจุนจากไป จู้หลินหลินที่ได้ยินเสียงก็เดินออกมา เห็นว่าในมือของหวังหยุนถือโสมอยู่ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง

“แม่คะ แม่ไปเอาโสมมาจากไหนคะ?”

หวังหยุนส่งเสียงไม่พอใจ “ไอ้คนแซ่ฉินนั่นเอามา ได้มาอีกต้นละ โสมนี่มันมีเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?”

จู้หลินหลินส่ายหน้า “หนูเองก็ไม่ทราบ แต่ว่าโสมร้อยปีไม่น่าจะมีเยอะนะคะ”

หวังหยุนขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามันมีอะไรผิดปกติ หรือว่าโสมจะมีของปลอม?

ถ้าโสมอันนี้เป็นของปลอมมันก็ไม่ได้อะไร เธอกลัวว่าโสมที่เธอมอบให้เป็นของขวัญให้เขาคนนั้นจะเป็นของปลอม

พอคิดมาถึงตรงนี้ หวังหยุนก็เหงื่อออกไปทั้งตัว รีบเอ่ยขึ้น

“ลูกแม่ เดี๋ยวไม่ออกไปข้างนอกสักหน่อย!”

หวังหยุนเดินถือโสมออกไปอย่างร้อนอกร้อนใจ เธอเรียกรถมาที่แถว ๆ ถนนแพทย์แผนจีน มาหาคุณหมอหลี่ห้าวหยวนที่มีชื่อเสียงที่สุดในย่านนี้

“คุณหมอคะ มีคนส่งโสมอันนี้มาให้ฉัน ท่านช่วยดูให้หน่อยได้ไหมคะว่าของจริงหรือของปลอม”

หลี่ห้าวหยวนขมวดคิ้ว “คุณผู้หญิงที่นี่เป็นคลินิกรักษา ไม่ใช่ร้านสะสมของเก่า”

หวังหยุนควักเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกงหนึ่งพันหยวนวางลงบนโต๊ะต่อหน้าหลี่ห้าวหยวน

“คุณหมอหลี่คะ รบกวนท่านหน่อยนะคะ!”

พอเห็นเงินสีหน้าของหลี่ห้าวหยวนก็ดีขึ้นมาหน่อย

“ก็ได้ ผมจะช่วยคุณดูละกัน”

พูดจบ หลี่ห้าวหยวนก็ยกโสมขึ้นมา มองซ้ายมองขวา ก่อนจะใช้แว่นขยายส่องดูอย่างละเอียด ลูบเคราก่อนจะพยักหน้า

“คุณผู้หญิง โสมนี้เป็นโสมแดงขึ้นชื่อของภูเขาชีเสีย และเป็นโสมอายุกว่าร้อยปีด้วย ราคาต้องแพงมากแน่ๆ”

หลี่ห้าวหยวนรู้สึกอิจฉาอยู่หน่อย ๆ หญิงสาวตรงหน้าเขาฝีมือไม่ธรรมดา แต่งตัวก็ดูเป็นคุณนายผู้ดี ไม่แปลกใจเลยที่จะครอบครองโสมดีขนาดนี้

หวังหยุนขมวดคิ้วก่อนจะเอ่ยถาม

“โสมแบบนี้มีเยอะไหมคะ?”

หลี่ห้าวหยวนหัวเราะออกมา

“คุณผู้หญิงล้อเล่นอยู่หรือไงครับ ถ้าหากเป็นโสมร้อยปีจากภูเขาฉางไป๋ก็อาจจะมีหลายต้น แต่ว่านี่มาจากภูเขาชีเสีย ไม่ค่อยมีผลผลิตสักเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าช่วงหลายปีมานี้จะไม่มีเลยด้วยซ้ำ โสมต้นนี้ผมกล้ารับประกันเลยว่ามีเพียงต้นเดียว”

“อะไรนะคะ!”

หวังหยุนโมโหมาก มีเพียงต้นเดียวงั้นเหรอ?

ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่า ต้นที่มอบให้แก่ท่านประธานใหญ่ของซวนหยวนกรุ๊ปก็เป็นของปลอมงั้นสิ?!

สีหน้าของหวังหยุนย่ำแย่ลงทันที

ไอ้ฉินจุนนี่มันเลวจริง ๆ ถึงได้กล้าทำโสมปลอมมาให้เธอ!แล้วแบบนี้จะทำยังไงดี!

ไม่แปลกใจเลยที่คนเขาได้โสมไปตั้งนานแล้วยังไม่ตอบกลับอะไรมา หวังหรุ่ยก็ไม่พูดอะไรสักอย่าง ที่แท้โสมอันนั้นก็เป็นของปลอม!

เธอไม่รู้อะไรเลย เพราะฉะนั้นเลยดูไม่ออก แต่ท่านประธานใหญ่เขาเป็นถึงระดับไหน ยังไงก็ต้องดูออกว่าของจริงหรือของปลอม

จบแล้ว ตอนนี้เธอจบสิ้นแล้ว!

หวังหยินถือต้นโสมรีบออกไปเรียกรถไปที่ซวนหยวนกรุ๊ป

หลังจากที่รออยู่หน้ารถออดี้ที่หน้าประตูกว่าครึ่งชั่วโมง ก็เห็นหญิงสาวสวยคนหนึ่งออกมาจากอาคาร หวังหยุนก็รีบเข้าไปหา

“รองผู้อำนวยการหวังใช่ไหมคะ?ฉันคือหวังหยุน พวกเราเคยคุยกันในวีแชท”

หวังหรุ่ยพยักหน้า “ฉันเองค่ะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

หวังหยุนทำหน้าลำบากใจ “ต้องขอประทานอภัยจริง ๆ นะคะ แต่ว่าฉันคงต้องรบกวนคุณอีกสักรอบหนึ่ง”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset