ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 150 บริษัทอสังหาริมทรัพย์เทียนกรุ๊ปแล้วยังไง

เมื่อสิ้นเสียงของผู้จัดการเทียนจุนไคและคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงทันที

“อะไรนะ? แขกวีไอพี? เขาน่ะเหรอ?”

อู๋นานาหัวเราะออกมาทันที

“ฉันว่านะสหายพวกนายต้องเข้าใจกันผิดแน่ ๆ ท่านนี่ไม่ใช่แขกวีไอพีของเจ้านายของคุณหรอก เขาเป็นแค่คุณชายตกอับที่มาขอกินข้าวกับเราเท่านั้น!”

ผู้จัดการมองไปที่คนเหล่านั้นที่อยู่ในห้องด้วยสายตาเย็นชา ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามันน่าขำมาก

คนกลุ่มนี้นั่งอยู่โต๊ะเดียวกับคนที่มีอิทธิพลจริง ๆ แต่กลับไม่รู้งั้นเหรอ?

นี่คือแขกวีไอพีที่ประธานเหอของพวกเขากำชับเองว่าต้องต้อนรับอย่างดี แต่คนพวกนี้มันอะไรกัน? ทำไมพวกเขาถึงเข้ามาได้ บ้าไปแล้วเหรอ?

เห็นคนเหล่านี้ทำให้แขกวีไอพีของพวกเขาไม่พอใจ ผู้จัดการจึงไม่เกรงใจแล้ว รปภ.20 คนเดินตรงเข้ามาพร้อมกับกระบองไฟฟ้าและยืนอยู่ข้างหลังคนเหล่านี้

เพียงกดปุ่มกระบองไฟฟ้าก็จะเริ่มทำงาน ดูน่าขนลุกมาก

เทียนจุนไคก็ดูตื่นตระหนกเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วและพูด

“พวกคุณเป็นอะไรกัน ฉันคุณชายเทียนจุนไคแห่งบริษัทอสังริมทรัพย์เทียนกรุปนะ เมื่อกี้พ่อฉันโทรหาพวกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ!”

ผู้จัดการแค่นหัวเราะอย่างเย็นชา “บริษัทอสังหาริมทรัพย์เทียนกรุปแล้วไง? มาทำให้แขกวีไอพีของประธานเหอของเราไม่พอใจ ถ้าคุณไม่ให้คำอธิบายมาพวกคุณอย่าคิดว่าจะได้ออกไปดี ๆ ”

ลูกน้องของเหอเนี่ยนอิงมีแต่คนโหด ๆ รปภ.เหล่านี้ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่เกษียณจากกองทัพแล้วทั้งนั้น มีร่างกายแข็งแกร่งมาก การสู้กับลูกคนรวยพวกนี้ หนึ่งต่อห้าก็ได้สบาย ๆ

หากพวกเขาลงมือจริง ๆ คนเหล่านี้อาจจะเสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียวเลย

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือพวกเขาไม่สนใจฐานะใด ๆ ทั้งสิ้น พวกเขาไม่สนใจว่าจะเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์เทียนกรุปอะไรนี่เลยสักนิด

สีหน้าของเทียนจุนไคดูบูดเบี้ยว “ลูกพี่ครับ คุณจำผิดคนแล้วจริง ๆ เขาไม่ใช่แขกวีไอพีที่คุณพูดถึงแน่นอน เขาเป็นแค่ไอ้กระจอกคนหนึ่งเท่านั้น!”

เมื่อสิ้นเสียงนั้น รปภ.ก็ใช้กระบองไฟฟ้าช็อตทันที

เปรี๊ยะ ๆ ๆ !

ร่างกายของ เทียนจุนไคก็กระตุกทันที ตาขาวกลับขึ้นมา จากนั้นก็ล้มลงลงบนโต๊ะจนทำให้จานชามหลายใบแตก

“ถ้ายังกล้าพูดจาดูหมิ่นอยู่อีก ต่อไปจะเอาให้หนักกว่านี้!”

เมื่อเห็นว่าเทียนจุนไคถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยช็อตด้วยกระบองไฟฟ้าก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก คนของบริษัทอสังหาหาริมทรัพย์เหอกรุปนั้นเจ๋งจริง ๆ เป็นแค่ผู้จัดการแต่กลับไม่สนใจคุณชายเทียนเลย!

ทุกคนมองไปที่ฉินจุน และพบว่าตอนนี้ใบหน้าของฉินจุนนั้นนิ่งมาก ไม่มีอาการตื่นตระหนกใด ๆ เลย

เขาเหลือบมองไปที่เทียนจุนไคที่ยังคงตัวสั่น และยังคงไม่ได้สติ ฉินจุนจึงพูดขึ้น

“ผมให้คุณสองทางเลือก”

“อย่างแรกคุกเข่าและคำนับสามครั้ง แล้วผมจะปล่อยคุณไป”

“อย่างที่สอง ถ้าคุณดื่มเหล้าทั้งโต๊ะหมดคุณก็ไปได้เลย”

นี่คือสิ่งที่เทียนจุนไคเพิ่งพูดไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน แบบเดียวกันเป๊ะ ๆ ฉินจุนตอกกลับแบบเดียวกันกับที่เขาถูกกระทำในตอนแรก

เทียนจุนไคกัดฟันแน่นด้วยความแค้น

อวดดีนักนะ!

ถ้าไม่ใช่เพราะผู้จัดการนั่นจำคนผิด ตอนนี้เขายังจะทำเป็นเก่งอีกเหรอ?

เทียนจุนไคโกรธจัด ตอนนี้กลับถูกไอ้คนกระจอกเช่นนี้มาเหยียบหัว!

เทียนจุนไคก็อยากจะต่อต้าน แต่ไม่มีทางเลือก ผู้จัดการที่สมองมีปัญหานี่ก็คิดว่าฉินจุนเป็นแขกวีไอพีของพวกเขา ทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่น

แม้ว่าเขาจะตระกูลใหญ่โตแค่ไหน แต่กระบองไฟฟ้าที่อยู่ในมือของรปภ.ตรงหน้าทำให้พวกเขาต้องยอมทำตามแต่โดยดี

เหล้าสิบกว่าขวดที่อยู่เต็มโต๊ะ ถ้าดื่มจนเลือดคงออกในกระเพาะแน่!

เทียนจุนไคลังเลสักพัก จากนั้นก็ค่อย ๆ คุกเข่าลงลงบนพื้น เขากัดฟันแน่น และโค้งคำนับลงสามครั้ง

ฉินจุนลุกขึ้นและเดินออกจากห้องส่วนตัวไป

ผู้จัดการโบกมือให้รปภ.เก็บกระบองไฟฟ้า

“คุณแซ่เทียนครับจะดีมากถ้าคุณไม่มาสร้างปัญหาที่นี่ บริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุปไม่ใช่ที่ที่พวกคุณจะมามีเรื่องด้วยได้”

หลังจากที่ผู้จัดการเตือน เขาก็เดินตามฉินจุนออกไป

หลายคนที่อยู่รอบ ๆ ก็ช่วยพยุงเทียนจุนไคขึ้นมา แต่เพราะเขาถูกกระบองไฟฟ้าช็อต คุณชายเทียนก็ยังไม่ได้สติกลับมาครบถ้วน ร่างกายเขายังรู้สึกอ่อนปวกเปียก

“แม่งเอ๊ย! ฉินจุนไอ้คนชั้นต่ำ อวดดีจริง ๆ สั่งให้ฉันคุกเข่า! แกรนหาที่ตายจริง ๆ !”

คนอื่น ๆ ต่างก็แสดงสีหน้าเย็นชาออกมาเช่นกัน “นั่นสิ ฉินจุนอวดดีเกินไปจริง ๆ อาศัยว่าพวกรปภ.เข้าใจผิดก็แสร้งทำเป็นเจ๋ง ถ้าประธานเหอมาฉันจะรอดูว่าเขาจะเสแสร้งยังไงอีก!”

เทียนจุนไคนั่งบนเก้าอี้อย่างยากลำบาก ปวดไปทั้งตัว กัดฟันพูด

“เดี๋ยวปล่อยให้มันอวดดีไปก่อน รอประธานเหอมา รอดูประธานเหอจัดการมัน! ทุกคนกินข้าวกันก่อน!”

…….

เมื่อออกมาจากห้องส่วนตัว ผู้จัดการก็พาฉินจุนไปที่ห้องหรูหราชั้นบน และเหอเนี่ยนอิงก็วิ่งมาที่นี่

สิ่งที่เห็นคือหญิงวัยสี่สิบที่ถูกสัมภาษณ์ในทีวีอยู่บ่อยครั้ง ฉินจุนมองเธอด้วยความรู้สึกคุ้นเคย

“ศิษย์พี่! คุณคือศิษย์พี่ฉินใช่ไหมคะ?”

ฉินจุนและเหอเนี่ยนอิงจับมือกัน ทันใดนั้นเหอเนี่ยนอิงก็ยิ้มออกมาทันที เมื่อได้เจอศิษย์พี่ก็รู้สึกเป็นเกียรติราวกับได้เจอท่านอาจารย์

เธอรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เรียนกับอาจารย์เป็นสิบปี

“ศิษย์พี่อาจารย์สบายดีไหมคะ?”

ฉินจุนพยักหน้า “อาจารย์อาศัยอยู่บนภูเขาตลอดทั้งปี บำเพ็ญเพียร สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดีทุกอย่าง”

เหอเนี่ยนอิงพยักหน้า คิดถึงตอนที่เรียนกับอาจารย์เธอก็รู้สึกตื่นเต้น ถ้ามีโอกาสได้พบอาจารย์อีกก็คงจะดีมาก

ทั้งสองคุยกันเยอะมาก ส่วนมากเหอเนี่ยนอิงมักจะถามถึงท่านอาจารย์ พวกเขาพูดถึงการใช้ชีวิตบนภูเขา เหอเนี่ยนอิงก็มักจะมีสีหน้าอิจฉา

หลังจากที่คุยกันไปกว่าครึ่งชั่วโมง เหอเนี่ยนอิงก็ไม่กล้าคุยต่อ เพราะกลัวว่าศิษย์พี่จะเหนื่อย

“ศิษย์พี่คะ ฉันได้ยินมาว่าบ้านของตระกูลคุณอาจถูกรื้อถอน ถ้าคุณคุยกับผู้บริหารซุนก็อาจจะเก็บไว้ได้นะคะ”

ฉินจุนส่ายหัว แม้ว่าบ้านนั้นจะมีแต่ความทรงจำ แต่ก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเก็บไว้ เขาไม่สามารถปล่อยให้มันมีผลกระทบต่อการวางผังเมืองได้เพียงเพราะเขาคนเดียว ฉินจุนไม่ได้ต้องการอำนาจอะไรขนาดนั้น

“รื้อก็รื้อสิ ถึงฉันจะคุยกับซุนเจี้ยนหมินได้ แต่ไม่จำเป็นต้องทำให้ฉันเป็นคนพิเศษหรอก”

เนี่ยนอิงพูด “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็ได้เตรียมของขวัญไว้ให้ศิษย์พี่แล้ว”

เมื่อพูดจบเหอเนี่ยนอิงก็หยิบแผนผังออกมาจากกระเป๋าของเธอแล้วกางออกต่อหน้าฉินจุน

“ศิษย์พี่คะ เป็นพื้นที่เปล่าตรงเชิงเขาชิงเหมย ฉันซื้อมาแล้ว ตอนนี้ฉันสร้างคฤหาสน์ไว้หลังหนึ่ง คฤหาสน์หลังนี้ดีที่สุดในจีน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ใหญ่กว่าจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงอย่างบ้านของตระกูลเฉียวอีกค่ะ”

“คฤหาสน์สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโบราณ ป่าไผ่ สะพานเล็ก ภูเขาจำลอง น้ำพุ น้ำพุร้อน ต้นซากุระ ไม้ผลต่าง ๆ มีทั้งหมด 200 ห้อง ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ชั้นยอด สิ่งอำนวยความสะดวกทันสมัย ​​สะดวกสบายมาก”

“หลังจากที่ได้ยินว่าท่านอาจารย์เปิดรับลูกศิษย์ ฉันก็มองหาคฤหาสน์นี้มาตลอด สุดท้ายตอนนี้ก็สร้างเสร็จแล้ว อีกไม่กี่วันก็จะสมบูรณ์ค่ะ”

ฉินจุนพยักหน้า “คฤหาสน์ขนาดใหญ่ขนาดนี้ต้องใช้เงินเยอะมากเลยนะ ทำให้คุณเสียเงินเยอะเลย”

เหอเนี่ยนอิงยิ้ม “ของขวัญที่มอบให้ศิษย์พี่ใช้เงินมาวัดไม่ได้หรอกค่ะ แค่คฤหาสน์ธรรมดา ๆ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดไม่ถึง 600 ล้าน”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset