ฉินจุนขมวดคิ้ว แม้ว่าเขาจะไม่ใช่รปภ. แต่คนที่อยู่ข้างในนั้นคือซูเหวินฉี เขาไม่มีทางปล่อยให้ใครเข้าไปข้างในมั่วซั่วแน่นอน
ถ้าเป็นพวกแฟนคลับที่ทำตัวดีกว่านี้สักหน่อย ไม่แน่ฉินจุนก็อาจจะปล่อยให้เธอได้เข้าไปข้างใน
แต่ฉินจุนรู้ดีว่าจิ้งจอกน้อยเป็นคนยังไง ก่อนหน้านี้ที่เคยดูถ่ายทอดสดของเธอ ผู้หญิงคนนี้เลวได้ไร้ขอบเขตสุดๆไปเลย
ดังนั้นสำหรับเธอแล้วฉินจุนไม่มีความรู้สึกดีดีอะไรทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้นคำพูดคำจาก็แย่มาก ฉินจุนจะปล่อยให้เธอทำตามอำเภอใจได้อย่างไร
“ไม่อนุญาต ”
จิ้งจอกน้อยจ้องตาเขม็งทันที “ไอ้รปภ. นี่แกกล้าขวางทางฉันหรอ ? แกเชื่อไหมว่าฉันประจานแกได้ ? ”
ในขณะที่พูดจิ้งจอกน้อยก็หันหน้าจอไปทางฉินจุน และพูดบางอย่างในห้องถ่ายทอดสด
“ทุกคนดูสิ ไอ้รปภ.นี่ขวางทางไม่ให้ฉันเข้าไป ! ”
ขณะที่จิ้งจอกน้อยกำลังหันกล้องเข้าหาหน้าเธอและฉินจุน จู่ๆฉินจุนก็หยิบกระดาษทิชชู่เปียกจากด้านข้างออกมาหนึ่งแผ่น แล้วเช็ดลงบนหน้าของจิ้งจอกน้อยอย่างรวดเร็ว
เพียงเท่านี้ ก็ทำให้ใบหน้าของจิ้งจอกน้อยกลายเป็นเหมือนกับการแยกแยะผิดชอบชั่วดีไปเลย !
ครึ่งหน้าด้านซ้าย เป็นใบหน้าด้านที่มีเมคอัพอยู่
ส่วนครึ่งหน้าด้านขวา เป็นใบหน้าด้านที่ถูกฉินจุนเช็ดเมคอัพออกแล้ว เผยให้เห็นทั้งฝ้า กระ ริ้วรอย ผิวหยาบกร้านและคล้ำหมอง เปลือกตาก็มีชั้นเดียว
จุดด้อยทั้งหมดบนใบหน้าถูกเปิดโปงออกมา เหล่าชาวเน็ตในห้องถ่ายสอดสดต่างตกใจกันหมด
“แม่งเอ้ย จิ้งจอกน้อยเธอนี่มัน…… ”
“คนหลอกลวง นี่มันหลอกกันชัดๆ ฉันคิดว่าปกติจิ้งจอกน้อยแต่งหน้าแบบธรรมชาติซะอีก ที่แท้ก็โบกอย่างกับใส่หน้ากานี่เอง ธรรมชาติซะที่ไหนหละ ! ”
“ถ้าไม่ใช่เพราะพี่รปภ.คนนั้นหละก็ พวกเราก็คงจะโดนจิ้งจอกน้อยหลอกไปตลอดชีวิต ! ”
“เชอะ หน้าตาอย่างงี้ยังกล้ามาขอรางวัลอีก ดีนะที่ฉันเคยให้เธอไปแค่ไม่กี่ร้อยหยวน เอาเงินฉันคืนมา ! ”
“ใช่ เอาเงินคืนมา ! ยัยคนหลอกลวง ! ”
ในวินาทีนั้นห้องถ่ายทอดสดของจิ้งจอกน้อยเดือดจนแทบจะระเบิดแล้ว ปกติแล้วพวกคนที่เข้ามาดูจิ้งจอกน้อยเกินครึ่งก็เป็นพวกเจ้าชู้ลามกที่ชอบรูปร่างหน้าตาของเธอเท่านั้น ผลสุดท้ายไม่นึกเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนหลอกลวง แต่งหน้าเก่งอะไรขนาดนั้น ตัวจริงถึงได้น่าเกลียดขนาดนี้ !
นี่แค่ใช้ทิชชู่เปียกเช็ดเฉยๆก็รู้เลย ยังเหลือพวกเมคอัพกันน้ำที่ต้องใช้น้ำยาล้างเมคอัพเช็ดออกอีก ถ้าอย่างนั้นไม่ยิ่งดูไม่ได้เข้าไปใหญ่เลยหรอ ?
จิ้งจอกน้อยตกใจรีบปิดการถ่ายทอดสดทันทีและหันกลับมาด่าฉินจุนชุดใหญ่
“แกบ้าหรือเปล่าเนี่ย ! แก…… ”
ขณะที่กำลังจะด่าต่อก็มองเห็นพี่หูเดินมาจากระยะไกลๆ จิ้งจอกน้อยรีบก้มหัวและวิ่งเขาห้องน้ำไปทันที ถ้าเกิดถูกพี่หูเห็นใบหน้านี้เข้าจะยิ่งแย่กันไปใหญ่
เวลาผ่านไปได้สักพักจิ้งจอกน้อยถึงเติมหน้าเสร็จและออกมา เธอควงแขนพี่หูพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ
“พี่หู ! พี่บอกว่าพี่เป็นสปอนเซอร์คอนเสิร์ตของซูเหวินฉีใช่ไหม พี่พาฉันไปทำความรู้จักกับซูเหวินฉีดีไหม ? ”
พี่หูหัวเราะออกมา “ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ”
เมื่อพูดจบทั้งสองก็กำลังจะเดินไปที่หลังเวที
จิ้งจอกน้อยมองเห็นฉินจุนก็แสดงความไม่พอใจ “ไอ้รปภ. แกยังกล้าขวางฉันอีกหรอ ? นี่คือประธานหู สปอนเซอร์ของคอนเสิร์ตครั้งนี้นะ ! ยังไม่รีบหลบไปอีก ! ”
ฉินจุนยิ้มเยาะ “สปอนเซอร์แล้วยังไง ที่นี่คือหลังเวทีและคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องห้ามเข้า ”
ประธานหูขมวดคิ้ว “คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ? ฉันเป็นคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไง ? แหกตาของแกดูซะ ทั้งงานคอนเสิร์ตนี้ฉันเป็นผู้สนับสนุนทั้งหมด แกยังไม่ให้ฉันเข้าอีกหรอ ? ”
……
ขณะเดียวกัน เย่หวันเอ๋อและเฉินชูพร้อมกับเพื่อนๆก็มาถึงที่ตีนเขาแล้วเช่นกัน ผู้หญิงสวมชุดเดรสยาวสีเหลืองอ่อนคนหนึ่งเอ่ยถาม
“เสี่ยวชู หวันเอ๋อ เพื่อนของพวกเธอสามารถพาพวกเราไปขอลายเซ็นของซูเหวินฉีที่หลังเวทีได้จริงๆหรอ ? ”
“จริงสิ พี่เสี่ยวจุนเขารู้จักกับซูเหวินฉี เขาบอกว่าไปหลังเวทีได้ไม่มีปัญหา ”
หวงซานซานเบะปากและรู้สึกไม่ค่อยไว้ใจ เย่หวันเอ๋อกับเฉินชูไม่ใช่คนเก่งกาจอะไร เหมือนกับคำที่บอกว่า กาเข้าฝูงกา หงส์เข้าฝูงหงส์ เธอคิดว่าอย่างพวกเขาก็ไม่น่าจะมีเพื่อนเก่งๆ ดังนั้นหวงซานจึงไม่ได้คาดหวังมาก
หวงซานซานเป็นเพื่อนของเย่หวันเอ๋อและเฉินชูที่ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว แต่ครั้งนี้ได้ยินว่าพวกเขาสามารถหาบัตรคอนเสิร์ตของซูเหวินฉีได้จึงมาด้วย
“ฉันว่านะ พวกเธอหาบัตรให้ได้จริงๆหรือเปล่า คนอื่นเขาต่อแถวตรวจบัตรกันหมด พวกเราไม่มีแม้แต่กระดาษสักใบ เดี๋ยวก็คงโดนไล่ออกมาแน่ๆ ”
หวงซานซานกอดอกพร้อมกับทำหน้าตารังเกียจ
เฉินชูขมวดคิ้ว “ถ้าเธอไม่เชื่อ เธอจะไปซื้อบัตรเองก็ได้นะ ”
เย่หวันเอ๋อตอบ “วางใจเถอะ พี่เสี่ยวจุนจะหาตั๋วมาให้เราเอง ”
หวงซานซานเบะปากอีกครั้ง เธออยากจะเจอนักคนที่พวกเขาเรียกว่าพี่เสี่ยวจุนสรุปแล้วเป็นใครกันแน่
ทั้งสามมาถึงยอดเขาก็เดินมาที่ห้องแต่งหน้าด้านหลังเวทีและมองไปเห็นฉินจุน
“พี่เสี่ยวจุน ! ”
เย่หวันเอ๋อตะโกน และทั้งสามก็เดินเข้าไป
เมื่อเห็นฉินจุนหน้าตาพอใช้ได้ หวงซานซานก็ค่อยๆพยักหน้า หน้าตาก็ใช้ได้อยู่แต่ว่าสังคมสมัยนี้หน้าตาของผู้ชายไม่ได้มีค่าเท่าไหร่
ขณะนั้นประธานหูกำลังทะเลาะกับฉินจุนอยู่
“แกเป็นแค่รปภ.กล้ามาขวางฉันหรอ ? แกรู้มั้ยฉันยกหูโทรศัพท์ครั้งเดียวก็สามารถทำให้แกตกงานได้เลยนะ ?! ”
หวงซานซานขมวดคิ้ว “เย่หวันเอ๋อ พี่เสี่ยวจุนที่เธอพูดถึงคือเขาอย่างนั้นหรอ ? ฉันก็คิดว่าจะเป็นคนใหญ่คนโตอะไร ก็แค่รปภ.เองไม่ใช่หรอ ? ”
หวงซานซานผิดหวังสุดๆ เธอยังอยากไปที่ประตูหลังเพื่อถ่ายรูปกับซูเหวินฉีอยู่เลย ผลสุดท้ายเมื่อเดินเข้าประตูหลังมา ที่จริงแล้วก็คือป้อมยาม
อย่าว่าแต่จะเข้าไปหลังเวทีเลย แม้แต่ตั๋วก็คงหาให้ไม่ได้หรอกมั้ง ?
ฉินจุนยืนอย่างเฉยเมย ไม่ว่าประธานหูจะพูดอะไรก็ตาม ฉินจุนก็ไม่ยอมให้เขาเข้าไป
“แกรนหาที่ตายใช่ไหม ! ”
ประธานหูโกรธ เขาเป็นถึงสปอนเซฮร์ของงานคอนเสิร์ต อยากจะเข้าไปเจอกับซูเหวินฉีบ้างไม่ได้งั้นหรอ ?
ประธานหูหยิบอิฐก้อนหนึ่งขึ้นมาจากพื้น แล้วทุบไปที่หัวของฉินจุน
ฉินจุนชินปล่อยให้เรื่องไร้สาระแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง ?
เขาใช้ขาหนึ่งข้างเตะร่างอ้วนๆของประธานหูลอยออกไปทันที
จิ้งจอกน้อยที่อยู่ด้านข้างก็หน้าถอดสีทันที
“แกบ้าไปแล้ว ! แกกล้าลงมือกับประธานหู ! แกอยากตายใช่ไหม ! ”
ทันทีที่ลงมือ ก็ดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้างไม่น้อย รปภ.สองสามคนที่อยู่รอบๆก็รีบวิ่งเข้ามาด้วยเช่นกัน
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ! ”
จิ้งจอกน้อยรีบเข้าไปช่วยพยุงพี่หูลุกขึ้น เธอชี้ไปที่ฉินจุนและตอบ
“มัน มันกล้าทำร้ายประธานหู ! พวกแกรีบไปจับตัวมันมาให้ฉันเดี๋ยวนี้ ! ”
หวงซานซานที่มองดูเหตุการณ์ด้วยความอึดอัดและพูดอย่างช่วยไม่ได้
“หวันเอ๋อ เสี่ยวชู เพื่อนของพวกเธอนี่โง่สมองกลวงจริงๆ เป็นแค่พนักงานรักษาความปลอดภัยกระจอกๆ ยังกล้าทำแบบนี้กับเจ้านายอีก ตลกจริงๆเลย ! ”
หวงซานซานรู้สึกหวังมากๆกับการมาในวันนี้ เธอคิดว่าพวกเขารู้จักคนใหญ่คนโตอะไรซะอีก สุดท้ายก็แค่พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เซงจริงๆ
ทันใดนั้นจู่ๆก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากด้านหลัง
“หลีกไปให้หมด ! ”
หลังจากสิ้นเสียงลง ทุกคนหันหลังไปมองและก็อุทานออกมาทันที
“เถียนอิง ! ”
“พี่อิงนี่นา ! พี่อิงก็มาด้วยหรอเนี่ย ? ”
“พี่อิงมาดูคอนเสิร์ตของซูเหวินฉีด้วยหรอ ? หรือว่ามาเป็นแขกรับเชิญ ? ”
“แกโง่หรือเปล่าเนี่ย เถียนอิงกับซูเหวินฉีน่ะถือเป็นศัตรูคู่อาฆาตเลยนะ คงจะมาหาเรื่องกันหละสิ ! “