เข็มแต่ละแท่งที่แทงลงไป ก็ทำให้ร่างกายของท่านผู้เฒ่าดีขึ้นมาทีละนิด อาการปวดที่กระเพาะก็ทุเลาลง ร่างกายของท่านก็รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย
เข็มสิบแปดเล่มถูกแทงลงไปจนหมด ท่านผู้เฒ่าก็ถอนหายใจยาวๆ อย่างโล่งอก ความรู้สึกนั้น มันเหมือนกับได้ยกก้อนหินหลายพันกิโลที่กดทับร่างกายออกไป
ไม่กี่นาทีต่อมา บนเข็มของฉินจุนก็ค่อย ๆ กลายเป็นสีดำ ขณะที่สีดำกำลังจะถึงจุดบนสุดของเข็ม ฉินจุนก็ถอนเข็มออก
เมื่อถอนเข็มทั้งสิบแปดเล่มออกมาจนหมด ท่านผู้เฒ่าก็สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง ท่านพลิกตัวกลับมา ถึงแม้ว่าใบหน้าจะซีดขาว แต่ว่าแววตาดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
“ท่านหมออัจฉริยะ ขอบพระคุณท่านมาก!”
สองพี่น้องตระกูลเฝิงรีบพุ่งเข้า “คุณพ่อ!คุณพ่อฟื้นแล้ว!”
ท่านผู้เฒ่าลุกขึ้นนั่ง รู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างอ่อนแรง แต่ว่าก็ดีขึ้นมากล้ว
“ฉันรู้สึกหิวนิดหน่อย”
“มีอาหารอยู่ครับ นี่เป็นโจ๊กที่ต้มไว้ให้คุณพ่อ!”
พอได้ยินว่าท่านผู้เฒ่าอยากอาหาร ทุกคนก็โล่งอก ดูเหมือนว่าอาการป่วยนี้จะดีขึ้นแล้ว ถ้าสามารถกินอะไรได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
สองพี่น้องตระกูลเฝิง รวมถึงเฝิงจื้อผิงต่างขอบคุณกันยกใหญ่
“ท่านหมออัจฉริยะฉิน ท่านคือแพทย์ผู้พลิกชีวิตจริง ๆ !นี่มันเทพชัด ๆ !”
เฝิงชูเหวินเองก็นับถือเขาเช่นกัน”ท่านหมออัจฉริยะ อายุเพียงเท่านี้แต่กลับมีความสามารถขนาดนี้ ช่างเป็นความโชคดีของคนไข้จริง ๆ !”
มีเพียงหลี่เจี้ยนหงเท่านั้นที่มีสีหน้าอับอาย ใบหน้าของเขายังเต็มไปด้วยเลือดน่าขยะแขยง แตกต่างกับท่าทางทะนงตน ยิ่งผยองของเขาก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด
หลี่เจี้ยนหงเช็ดเลือดที่หน้า ก่อนจะก้มหน้าเอ่ยถาม
“เข็มสิบแปดเล่มเมื่อกี้……คือการฝังเข็มแบบไท่อี่เหรอ?”
ฉินจุนพยักหน้า “ใช่มันคือการฝังเข็มแบบไท่อี่ ทำไมอยากเรียนเหรอ?”
หลี่เจี้ยนหงใช้ชีวิตมาห้าสิบกว่าปี วันนี้เป็นวันที่เขาขายหน้ามากที่สุด เขาเองก็ไม่ได้เป็นคนหน้าด้านหน้าทนอะไร
“ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ฉันมันตาบอดเอง”
พูดจบหลี่เจี้ยนหงก็รีบคว้ากล้องพยาบาลวิ่งออกไปทันที เขาอยากจะแทรกแผ่นดินหนีจริง ๆ
พอทานโจ๊กจนหมดชาม ท่านผู้เฒ่าเฝิงก็อาการดีขึ้นมาก ฉินจุนสั่งยาให้เขา เพียงแค่ทานยาตามเวลา ภายในสามสัปดาห์ก็หายขาดแล้ว
ท่านผู้เฒ่าเฝิงนั่งพิงเตียงผู้ป่วย กุมมือของฉินจุนพร้อมกับเอ่ย
“ท่านหมออัจฉริยะ ขอบคุณท่านมาก ชู่เฉียง รีบเขียนเช็คจำนวนหนึ่งร้อยล้านหยวนให้ท่านหมออัจฉริยะ”
ฉินจุนส่ายหน้า “ไม่ต้องมากมายขนาดนั้นหรอกครับ ให้ผมแค่สองร้อยหยวนก็พอ ผมรักษาให้คนอื่น ๆ ก็ราคานี้ทั้งนั้น”
เวลาที่ฉินจุนรักษา เขาไม่ได้เพิ่มเงินค่ารักษาเพียงเพราะว่าคนไข้รวย แน่นอนว่านอกเสียจากว่าโรคนั้นจะเป็นโรคที่รักษายาก มันก็อีกเรื่องหนึ่ง
ท่านผู้เฒ่าเฝิงออกอาการแปลกใจ เอ่ยอย่างซาบซึ้ง “ทั้งหนุ่มทั้งมีความสามารถ แถมยังมีคุณธรรม ฉันนับถือพ่อหนุ่มจริง ๆ ”
พอเห็นเข็มดำ ๆ ที่อยู่ที่พื้น ท่านผู้เฒ่าเฝิงก็เอ่ยถาม
“ในเมื่อคุณหมอไม่ได้ต้องการเงิน ฉันก็จะไม่ให้เงินท่านเพิ่ม แต่เข็มพวกนี้มันเสียหมดแล้ว ถ้าหากไม่ชดใช้ฉันคงรู้สึกผิดแย่”
“ชู่เฉียง ยกร้านเครื่องประดับที่เป็นชื่อของแกให้คุณฉินสักหนึ่งร้าน”
“ให้คุณฉินเป็นคนเลือกเงินเลือกทองเอามาทำเป็นเข็มเอง เพื่อนำไปรักษาคนอื่นในอนาคต ถือว่าฉันมีส่วนช่วยเหลือสังคมบ้าง”
ท่านผู้เฒ่าเฝิงคนนี้นับว่าเป็นคนดีคนหนึ่ง ฉินจุนไม่ได้ต้องการเงินมากมายขนาดนั้น เขาก็ยกร้านเครื่องประดับให้เลย ครั้งนี้ฉินจุนไม่ปฏิเสธ เขาทิ้งข้อมูลเอาไว้ เพื่อทำการโอนย้าย
ดึกมากแล้ว พอเสร็จเรื่องฉินจุนก็กลับบ้านทันที
พอกลับมาถึงบ้าน ฉินจุนก็ได้รับข้อความวีแชทจากหวังตงเสวี่ย
“พี่ฉิน พรุุ่งนี้พี่ติดธุระไหม?”
“ไม่มีธุระอะไร ทำไมเหรอ?”
“พรุ่งนี้พวกฉันมีนัดรวมตัวเพื่อนสมัยมัธยม พี่มาได้ไหม?”
เมื่องานวันเกิดครั้งที่แล้ว หวังตงเสวี่ยมีความสุขมาก ๆ ฉินจุนเตรียมดอกไม้ เค้ก และดอกไม้ไฟให้เธอ มันช่างโรแมนติกสุด ๆ ทำเอาภายในใจของหวังตงเสวี่ยหวั่นไหว รับรู้สึกรสชาติความหวานของเวลาคนมีความรัก
“ได้สิ พรุ่งนี้พี่ไปรับเธอ”
ภายในความทรงจำ ความสัมพันธ์ระหว่างหวังตงเสวี่ยกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ครั้งนี้เธอเป็นคนอยากจะไปร่วมงานรวมตัวเอง ถือว่าน่าแปลกใจพอสมควร
หวังตงเสวี่ยก็เหมือนจะพอเดาความในใจของฉินจุนได้ จึงเอ่ยปากอธิบาย
“เพื่อนสมัยมัธยมดีต่อฉันกันมาก แต่ก่อนบ้านของฉันฐานะไม่ค่อยดี พวกเขามักช่วยเหลือฉันเรื่องเงินตลอด ฉันคอยหาโอกาสเพื่อจะขอบคุณพวกเขาตลอด”
“แบบนี้เองเหรอ เพื่อนเหล่านี้ของเธอนิสัยดีจริง ๆ พรุ่งนี้พี่เตรียมของขวัญไปให้พวกเขาหน่อยดีกว่า”
“หา?มันเปลืองเงินเปล่า ๆ ค่ะ……”
“ไม่เป็นไรหรอก”
หวังตงเสวี่ยหน้าแดงพร้อมกับตอบไปว่าค่ะ แม้ว่าในวีแชทจะดูไม่ค่อยออกอาการอะไร แต่ความเป็นจริงแล้วหน้าเธอกำลังเห่อแดงด้วยความเขินอาย
เช้าวันต่อมา ฉินจุนมาที่ร้านเครื่องประดับตระกูลเฝิงตามที่อยู่ที่ชู่เฉียงให้มา
เมื่อวานท่านผู้เฒ่าเฝิงได้กล่าวไว้แล้วว่า ตอนนี้ร้านเครื่องประดับนี้เป็นของฉินจุน ประจวบเหมาะที่เขากำลังหาของขวัญพอดี จึงมาหาของขวัญที่ร้านตัวเองสักหน่อย
ขนาดของร้านเครื่องประดับนี้ไม่เล็กเลย ประตูร้านใหญ่มาก มีทั้งหมดสามชั้น เกือบจะเทียบเท่าห้างเล็ก ๆ ได้เลย
ชั้นหนึ่งจะเป็นพวกเงินทอง ชั้นสองเป็นพวกหยก ส่วนชั้นสามจะเป็นพวกอัญมณีแพง ๆ
ฉินจุนค่อนข้างพอใจกับร้านนี้ ครั้งหน้าเขาจะพาพวกป้ารองมาเลือกเครื่องประดับพวกนี้สักหน่อย
พอเดินเข้ามา ก็มีพนักงานหญิงคนหนึ่งกำลังฟุบอยู่บนโต๊ะ พอเห็นคนเดินเข้ามา ก็ทำหน้าตาหงุดหงิดทันที ดูจากท่าทางแล้วเหมือนกับว่าเพิ่งตื่นนอน
พนักงานสาวคนนี้ถือว่าสวยมากเลย หุ่นก็เซ็กซี่สุด ๆ สวมใส่ชุดยูนิฟอร์มสีดำของร้าน ยิ่งขับผิวของเธอให้ขาวผ่อง เสื้อบริเวณเนินอกเผยผิวขาวเนียน
หวังอีเจียวเห็นฉินจุนแต่งตัวดูธรรมดา ๆ ก็ขมวดคิ้วมุ่นทันที
“มาขอทานอะไรแต่เช้า?ที่นี่ไม่มีหรอกนะ ไสหัวไปซะ!”
ฉินจุนขมวดคิ้ว “ท่าทางนี้ของเธอมันหมายความว่าไง?ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไร เธอก็ไล่ฉันแล้วเหรอ?”
ร้านไม่เท่าไหร่ แต่คุณภาพของพนักงานที่นี่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง
หวังอีเจียวส่งเสียงอย่างไม่พอใจ “ไม่ใช่ขอทาน?แล้วเป็นอะไรพวกขายตรงเหรอ?หรือคนเก็บขยะ?รีบไสหัวไปตอนที่ฉันยังอารมณ์ดี ๆ ไม่งั้นอย่ามาหาว่าฉันไม่เกรงใจ!”
สีหน้าของฉินจุนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถ้าเป็นปกติเขาอาจจะไม่ยุ่ง แต่ว่าตอนนี้ร้านนี้เป็นของเขาแล้ว จะปล่อยให้พนักงานมีท่าทางบริการแบบนี้น่ะเหรอ?
“ผู้จัดการของเธออยู่ไหน ไปเรียกผู้จัดการมาเดี๋ยวนี้!”
หวังอีเจียวหัวเราะออกมาทันที “คนเก็บขยะอย่างนายกล้าเรียกผู้จัดการของพวกฉัน?นายอย่ามาเล่นแถวนี้ มาทางไหนไสหัวกลับไปทางนั้นซะ……”
ขณะที่หวังอีเจียวกำลังพูด ก็มีชายหนุ่มใส่สูทคนหนึ่งเดิมเข้ามา
“เกิดอะไรขึ้น?”
หวังอีเจียวเบ้ปากเอ่ย “ผู้จัดการคะ ไอ้คนเก็บขยะนี่ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ยอมไป!”
ผู้จัดการขมวดคิ้วพลางเอ่ย
“ช่างมันเถอะ ตามฉันมา ที่ชั้นสามมีขยะอยู่”
พูดไปผู้จัดการก็เดินขึ้นไปข้างบน
บนใบหน้าของฉินจุนมีรอยยิ้มอย่างสมเพชปรากฏ ก่อนจะเดินตามขึ้นไปง่าย ๆ
มาถึงชั้นสาม ผู้จัดการหยิบกล่องกระดาษแข็งสองสามกล่องแล้วโยนลงบนพื้น
“โอเคละ นายเอาไปเลย”
ฉินจุนเอ่ยเสียงเย็น “ฉันไม่ใช่คนเก็บขยะ ฉันเป็นเจ้าของร้านนี้”
ผู้จัดการร้านหัวเราะเยาะ “นายอยากจะมีเงินจนบ้าไปแล้วเหรอ?นายเป็นเจ้าของร้านคนใหม่ของร้านฉัน?ฉันเป็นผู้จัดการร้านทำไมฉันถึงไม่รู้?”
ฉินจุนหัวเราะเสียงเย็น “ที่นายไม่รู้อาจจะเป็นเพราะระดับของนายสูงไม่พอ ฉันแนะนำให้นายโทรศัพท์ไปยืนยันให้แน่ใจดู”