แม้ว่าคำพูดของถังโหรวจะดูโหดร้าย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลเลย พนักงานก็ลังเลทันที
การจองโต๊ะไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน และก็มีลูกค้าจำนวนมากจองโต๊ะไว้แล้วก็ไม่มา ทางร้านก็ทำอะไรไม่ได้
ฉินจุนขมวดคิ้ว จริงๆ วันนี้เขามาเดินช็อปปิ้งกับหวังตงเสวี่ยด้วยอารมณ์ค่อนข้างดี และเขาก็ไม่อยากจะสนใจคนแบบนี้
“ไม่เป็นไรหรอก ให้พวกเขานั่งข้างบน เรานั่งข้างล่างก็ได้”
หลังจากพูดจบ ฉินจุนและหวังตงเสวี่ยก็เดินไปนั่งตรงมุมห้องและสั่งอาหารด้วยรอยยิ้ม เพราะพวกเขาก็ไม่ได้เรื่องมากกับเรื่องกินเท่าไหร่
ในร้านอาหารแบบนี้อาจจะรู้สึกพิเศษสำหรับถังโหรว ราวกับว่าการจะมากินแต่ละครั้งมันยากมาก แต่สำหรับฉินจุนแล้วมันเป็นแค่อาหารธรรมดาๆ เท่านั้น
เมื่อเห็นพวกหวังตงเสวี่ยนั่งอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ใบหน้าของถังโหรวก็แสดงออกถึงความพึงพอใจ
“เฮอะ จะมาแย่งกับฉันเหรอ?”
พนักงานเสิร์ฟพูดพร้อมกับหัวเราะแห้งๆ
“คุณผู้หญิงคะ ในเมื่อตำแหน่งผิดแล้ว ดิฉันขออนุญาตแจ้งคุณหน่อยนะคะ”
“โต๊ะหมายเลข 1 ที่ชั้น 3 มีค่าอาหารขั้นต่ำค่ะ ไม่รวมไวโอลินและเครื่องดื่ม ซึ่งค่าอาหารขั้นต่ำจะอยู่ที่ 68,000 หยวนค่ะ”
“อะ…อะไรนะ?” ตาของถังโหรวเบิกกว้าง เปิดโลกเธอจริงๆ แค่อาหารมื้อเดียวต้องแพงขนาดนี้เลยเหรอ?
และนี่ยังเป็นแค่ค่าอาหารขั้นต่ำเท่านั้นนะ!
ไม่รวมเครื่องดื่ม!
ไวโอลินเมื่อกี้ก็เก็บเงินด้วยเหรอ? !
ถ้าคิดรวมหมดนี่คงไม่ต่ำกว่า 100,000 หยวน!
แม้ว่าแฟนหนุ่มของเธอเว่ยเจี้ยนจวินจะทำธุรกิจอัญมณี แต่เขาก็ยังเป็นแค่ผู้จัดการเล็กๆ เท่านั้น พูดตรงๆ ก็คือเขาทำงานให้กับคนอื่น ดังนั้นจะไปมีเงินเยอะแยะอะไรกัน
แต่เมื่อกี้ถังโหรวได้โม้ไว้แล้ว และมีผู้คนจำนวนมากกำลังจับจ้องอยู่ ถ้าเธอจะเปลี่ยนที่นั่งเพราะไม่สามารถจ่ายได้มันจะไม่เสียหน้าไปหน่อยเหรอ?
โดยเฉพาะต่อหน้าหวังตงเสวี่ย เธอยิ่งไม่โอเค
“อ่อไม่เป็นไรหรอก แค่นี้จะเป็นอะไรล่ะ เรื่องเล็กน้อย”
ถังโหรวกัดฟันพูด จากนั้นก็ขึ้นไปชั้นบน
เมื่อถึงชั้นสามก็เห็นว่าบนโต๊ะได้มีอาหารมาการเสิร์ฟบ้างแล้ว เว่ยเจี้ยนจวินกำลังรอเธออยู่
“เสี่ยวโหรว รีบมากินเถอะ รอคุณตั้งนานแล้ว”
ถังโหรวค่อยๆ นั่งลง การแสดงออกของเธอแข็งทื่อ
บนโต๊ะมีจานอยู่ไม่เยอะ และก็ไม่ได้ดูแพงอะไรนัก เห็นได้ชัดว่าไม่ถึง 68,000 ด้วยซ้ำ
“สามี เราสั่งอาหารเพิ่มอีกหน่อยได้มั้ยคะ”
ยังไงก็ต้องจ่ายค่าอาหารขั้นต่ำอยู่แล้ว ถ้าไม่สั่งอาหารมันก็จะเสียเปล่าสิ…
เว่ยเจี้ยนจวินพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “มันแพงเกินไป เรากินทีเดียวก็น่าจะห้าหรือหกพันแล้วมั้ง? มันฟุ่มเฟือยเกินไป”
ตอนนี้ถังโหรวเพิ่งจะเข้าใจ ที่แท้ฐานะทางการเงินของเว่ยเจี้ยนจวินก็เป็นอย่างนี้นี่เอง กินข้าวมื้อละห้าหกพันก็เรียกได้ว่าฟุ่มเฟือยมากสำหรับเขาแล้ว ถ้ามื้อนี้ต้องจ่ายแสนกว่าเว่ยเจี้ยนจวินจะต้องโกรธอย่างแน่นอน!
เว่ยเจี้ยนจวินเป็นคนอารมณ์รุนแรงมาก พอโมโหเธอก็กลัวว่าจะถูกทุบตี
“แหะๆ สามีกินเยอะๆ นะ เดี๋ยวฉันจะไปเข้าห้องน้ำก่อน”
ถังโหรวร้อนรนมาก อาหารราคาแพงขนาดนี้เธอกินไม่ลงแล้ว เธอลงไปชั้นล่างด้วยท่าทางสงบ และตอนที่เธอเดินไปที่ห้องน้ำ เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แสร้งทำเป็นโทรศัพท์ แล้วเปิดประตูออกไป
หลังจากออกมาจากร้าน ถังโหรวก็นั่งแท็กซี่ออกไปเลย แม้ว่านี่จะยิ่งกระตุ้นความโกรธของเว่ยเจี้ยนจวิน แต่ก็ช่วยไม่ได้
ถ้าเธอไม่ออกมา เธอรู้จักเว่ยเจี้ยนจวินดี เงิน 100,000 หยวนนี้เธอต้องช่วยออกครึ่งหนึ่ง
อาหารมื้อละเป็นแสน ถังโหรวจ่ายไม่ไหวหรอก
แต่ถ้าออกมาอย่างนี้ทั้งสองคนก็คงต้องเลิกกัน แต่ถังโหรวก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายอยู่แล้ว
เขาก็ไม่ได้มีดีอะไรนักหรอก แค่ร้านอาหารฝรั่งเศสก็ไม่มีปัญญาจ่าย มันเหมาะกับเธอแล้วเหรอ?
แต่ที่น่าเสียดายก็คือ อาหารตั้งเยอะแยะขนาดนั้นเธอไม่ได้กินสักคำ รู้งี้กินสักสองสามคำค่อยออกมาซะก็ดี
ถังโหรวหนีออกมาอย่างร้อนรน เมื่อคิดถึงหวังตงเสวี่ยกำลังมีความสุขกับแฟนหนุ่มของเธอในร้านอาหาร ใจเธอก็เริ่มร้อนรนขึ้นมาทันที
เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรหาเพื่อนสนิทของเธอสวีเหมยเหม่ย
“ฮัลโหลเหมยเหม่ย คืนนี้ออกไปกินข้าวด้วยกันนะ ฉันเลี้ยง!”
สวีเหมยเหม่ยลังเลเล็กน้อย เธอปฏิเสธไปหลายครั้งแล้ว เธอไม่อยากไป
ถังโหรวขมวดคิ้ว “เหมยเหม่ยเธอเป็นอะไรไป เดี๋ยวก็บอกว่าเล่นไพ่นกกระจอก เดี๋ยวก็บอกว่าไปช็อปปิ้ง ตกลงตอนเย็นเธอทำอะไรกันแน่?”
“ฉัน ฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ” สวีเหมยเหม่ยพูด
“เหมยเหม่ย! เธอยังเห็นว่าฉันเป็นเพื่อนอยู่ไหม?” ถังโหรวเริ่มขู่
สวีเหมยเหม่ยถอนหายใจและพูดว่า “ถังโหรวคืนนี้เรามีงานเลี้ยงรุ่น… ”
ถังโหรวขมวดคิ้ว ดูเหมือนจะเริ่มนึกอะไรขึ้นมาได้
“งานเลี้ยงรุ่น? เลี้ยงรุ่นม.ปลายของเรา? ห้องเรา?”
สวีเหมยเหม่ยรู้สึกอึดอัดมาก “ใช่”
ถังโหรวโกรธเล็กน้อย “เยี่ยมเลย งานเลี้ยงรุ่นพวกเธอก็ไม่ชวนฉัน นิสัยฉันมันแย่มากเหรอ?”
“ถังโหรวเธออย่าคิดมาก นี่ไม่ใช่งานเลี้ยงที่ฉันจัด ฉันก็พูดอะไรไม่ได้ แล้วตอนนี้เธอก็เป็นถึงคุณผู้หญิงคั่วแล้ว เธอก็คงไม่ค่อยอยากมางานเลี้ยงรุ่นหรอกมั้ง”
ถังโหรวโกรธแล้ว “ทำไมฉันจะไม่ไป? ฉันถามเธอหน่อยว่าหวังตงเสวี่ยก็ไปด้วยใช่ไหม?”
“ใช่”
“โอเค เธอบอกเพื่อนด้วยว่าคืนนี้ฉันจะไปด้วย เรื่องค่างานเลี้ยงตอนเย็นฉันจ่ายเอง!”
ถังโหรวยอมไม่ได้จริงๆ มีสิทธิ์อะไรกัน หวังตงเสวี่ยก็ไม่มีอะไรเลย ทำไมมันได้ดีกว่าเธอ นี่ทำให้ถังโหรวรู้สึกไม่ยุติธรรม
เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา ลังเลนิดหน่อยก่อนจะกดส่งข้อความไปหาเว่ยเจี้ยนจวิน
“สามีฉันขอโทษ…”
……..
ตอนนี้เว่ยเจี้ยนจวินยืนอยู่ที่หน้าเคาท์เตอร์ของร้านอาหารด้วยสีหน้าบูดบึ้ง โทรศัพท์ไปหาถังโหรวหลายครั้งก็ไม่ติด เขาโกรธจนอยากจะด่า
มื้อนี้โดนไป 80,000 กว่าหยวน!
เขาก็เป็นแค่ผู้จัดการเล็กๆ ที่ขับออดี้เท่านั้น ถ้าเขามีเงิน 80,000 หยวนขนาดนั้นเขาก็จ่ายค่างวดรถหมดแล้ว!
สุดท้ายผู้หญิงคนนี้ก็สุดยอดเลยจริงๆ ให้เขาจ่ายค่าอาหารแพงขนาดนี้! เขาโกรธจนอยากจะด่าเลยจริงๆ!
เมื่อเห็นข้อความของถังโหรว เว่ยเจี้ยนจวินก็โทรไป
“นังสารเลว! แกอยู่ที่ไหน! แกหลอกฉันเหรอ!”
ถังโหรวไม่มีอะไรจะอธิบาย ถ้าหากต้องการคืนดีกับเขา เธอก็ต้องยอมรับความผิด
ช่วยไม่ได้คืนนี้ก็ต้องพึ่งเขาเพื่อแสร้งทำเจ๋ง จำเป็นต้องประนีประนอม
“สามีฉันขอโทษ เดี๋ยวเจอกันฉันจะอธิบายให้ฟังทีหลังนะคะ ฉันเปิดห้องที่ม่านรูดข้างๆไว้ ฉันจะรอคุณอยู่ที่นี่นะคะ…”
เมื่อเว่ยเจี้ยนจวินได้ยินว่าไปโรงแรมม่านรูด ความโกรธของเขาหายไปเล็กน้อย แต่เขาก็ยังโกรธอยู่ ต้องใช้บัตรเครดิตสองสามใบถึงจะจ่ายได้หมด
ในโรงแรม หลังจากผ่านศึกหนักมา เว่ยเจี้ยนจวินก็นอนสูบบุหรี่อยู่บนเตียง ถังโหรวนอนพิงหน้าอกของเขา และพูดเบา ๆ
“สามีนี่เป็นความผิดของฉันเอง ฉันก็ไม่รู้ว่าร้านนี้จะแพงขนาดนี้ คุณดูสิฉันไม่ได้กินอาหารสักคำ น่าสงสารแค่ไหน”
“คืนนี้ฉันมีงานเลี้ยงรุ่น คุณไปกับฉันได้ไหม?”
เว่ยเจี้ยนจวินแค่นหัวเราะอย่างเย็นชา “งานเลี้ยงรุ่นเหรอ เธอคงไม่ได้มีความคิดแผลงๆอีกใช่ไหม?”
เมื่อถังโหรวได้ยินเขาเริ่มพูดแล้ว เธอก็รีบพูดขึ้น “คุณวางใจได้ เพื่อนฉันเป็นคนธรรมดา มีคนรวยไม่กี่คนหรอก คุณไปรับรองจะต้องเป็นคนสำคัญของงานแน่นอน!”