ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 210 นาฬิกาปลอม

ทุกคนต่างก็อยากรู้เช่นกันว่านาฬิกาเรือนนี้ของหวังตงเสวี่ยเป็นของจริงหรือของปลอม

ถ้านาฬิกาที่สวยขนาดนี้เป็นของปลอม พวกเขาก็อยากซื้อสักเรือนเช่นกัน

หวังตงเสวี่ยลำบากใจเล็กน้อย แต่เธอก็ถอดออกมา นี่เป็นของขวัญที่ฉินจุนมอบให้ แล้วยังเคยช่วยชีวิตเธอไว้ด้วย

ดังนั้นไม่ว่านาฬิกาเรือนนี้จะของจริงหรือของปลอม เธอก็ชอบมันมาก และไม่รังเกียจมันสักนิด

แน่นอนว่าฉินจุนก็ไม่ได้สนใจอะไร นาฬิกาที่เขาซื้อเองกับมือก็ต้องเป็นของจริงอยู่แล้ว

หลังจากที่ส่งนาฬิกาไปให้ เว่ยเจี้ยนจวินก็ผงะไป เหลือบมองที่หน้าปัด และทันใดนั้นก็ยิ้มออกมา

“โอ้ว ปาเต็กฟิลิปป์เลยเหรอ ฮ่าๆๆ ถ้านาฬิกาเรือนนี้เป็นของจริง คุณก็เป็นเศรษฐีคนเดียวบนโต๊ะของเราเลยนะเนี่ย!”

ปาเต็กฟิลิปป์เป็นเหมือนโรลส์-รอยซ์ของนาฬิกา เป็นนาฬิกาที่หรูหราที่ ถูกที่สุดก็อยู่ที่หลายแสนหยวน เรือนที่สวยหน่อยก็เป็นล้าน

นาฬิกาที่ราคาขนาดนี้มาอยู่ในมือหวังตงเสวี่ยได้อย่างไร

ฟังจากที่ถังโหรวพูด หวังตงเสวี่ยคนนี้เป็นก็เป็นแค่คนจนๆ มาจากชนบท มีชีวิตยากจนมาก เธอจะซื้อนาฬิกาอย่างนี้ได้อย่างไร

ส่วนฉินจุนนั่นก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่เลย เป็นแค่คนกระจอกๆ คนหนึ่ง แม้แต่รถก็ยังซื้อไม่ได้ด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับนาฬิกา

หลังจากรับปาเต็กฟิลิปป์ของหวังตงเสวี่ยมา หวังเจี้ยนจวินก็ขมวดคิ้วทันที เขาก้มศีรษะลงเพื่อมองใกล้ ๆ ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม

ถังโหรวผงะไปครู่หนึ่ง “สามี? เป็นอะไรคะ หรือว่านาฬิกาเรือนนี้เป็นของจริงหรอ?”

เว่ยเจี้ยนจวินทำงานอยู่ในแวดวงธุรกิจเครื่องประดับ เขาต้องรู้จักนาฬิกาที่มีชื่อเสียงอย่างนี้อยู่แล้ว

“ไม่น่าใช่มั้ง…”

นาฬิกาเรือนนี้ดูจากหน้าปัดแล้วน่าจะเป็นของแท้!

แต่นาฬิการาคาแพงขนาดนี้ พวกเขามีปัญญาซื้อได้ยังไง?

เมื่อเว่ยเจี้ยนจวินพูดแบบนี้ ทุกคนก็อยากรู้อยากเห็นทันที หรือว่าไม่ได้เจอกันไม่กี่ปีหวังตงเสวี่ยก็กลายเป็นคุณนายแล้ว?

สามารถใช้นาฬิกาหลายแสนได้แล้ว?

เว่ยเจี้ยนจวินพลิกนาฬิกามาดูดีๆ ก็แค่นหัวเราะออกมา

“ถ้าไม่ดูร่องรอยที่ข้างหลัง ฉันเกือบจะคิดว่ามันเป็นของจริงแล้วนะเนี่ย”

เว่ยเจี้ยนจวินชี้ไปที่น็อตตัวหนึ่งที่อยู่ด้านหลังของหน้าปัด และพูดว่า

“น็อตตัวนี้ถูกปิดไว้เมื่อนำออกมาขาย เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ถูกใครเปลี่ยนชิ้นส่วนภายใน”

“แต่ตอนนี้น็อตที่ปิดไว้ถูกแกะออกมาแล้ว พูดง่ายๆ ก็คือ นาฬิกาเรือนนี้เคยถูกแกะแล้ว”

“เป็นไปไม่ได้เลยที่ปาเต็กฟิลิปป์ของแท้ใหม่เอี่ยมจะถูกแกะ แม้ว่าจะถูกซ่อม มันก็จะถูกปิดผนึกไว้อีกครั้ง”

“มีเพียงสถานการณ์เดียวเท่านั้นที่จะทำลายตัวซีลนี้ นั่นคือการแกะมันเอง”

“นาฬิกาเรือนนี้เป็นของปลอม”

หลังจากพูดจบ เว่ยเจี้ยนจวินก็คืนนาฬิกาให้

“หวังตงเสวี่ยใครให้นาฬิกาเรือนนี้เหรอ?”

หวังตงเสวี่ยกำลังจะพูด ฉินจุนก็ก็ยอมรับโดยตรง

“ผมให้เอง”

ทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็คลุมเครือขึ้นมาทันที ต่างก็มองหน้ากันแต่ไม่ได้พูดอะไร และทั้งโต๊ะก็ตกอยู่ในบรรยากาศที่น่าอึดอัดทันที

ถังโหรวก็แกล้งพูดขึ้น “โอ้สามีทำไมคุณถึงพูดตรงๆ ล่ะ คุณนี่ไม่ไว้หน้าคนอื่นเลยนะ แม้แต่รถพวกเขาก็ไม่มีเงินซื้อด้วยซ้ำ พวกเขาจะไปซื้อนาฬิการาคาแพงขนาดนี้ได้ยังไงกัน คุณจงใจทำให้คนอื่นขายหน้าเหรอ!”

เว่ยเจี้ยนจวินยิ้มและหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา “ผมไม่ทันคิดน่ะ ผมชินกับอาชีพน่ะ พอเห็นของปลอมมันก็อดไม่ได้ที่จะพูด แม้ว่านาฬิกาของคุณจะเป็นของปลอม แต่อย่างน้อยเปลือกนอกก็เป็นของจริงที่ถูกคนอื่นเอาไส้ในออกนะ ก็ถือว่าไม่เลวเลยนะในบรรดาของปลอม…โอ้ย ผมพูดผิดอีกแล้ว ขอโทษที ผมจะลงโทษตัวเองอีกแก้ว!”

เว่ยเจี้ยนจวินหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแสร้งทำเป็นจิบ ตอนเขาพูดก็ดูเหมือนจะขอโทษ แต่เมื่อดูจากการกระทำแล้วกลับไม่มีท่าทีจะขอโทษเลย กลับเต็มไปด้วยความความจงใจพูดถากถาง

หวังตงเสวี่ยยังคงสวมนาฬิกากลับไปเหมือนเดิม เธอไม่สนใจว่านาฬิกานี้จะเป็นของจริงหรือไม่ และเธอก็รู้ด้วยว่าสาเหตุที่น็อตด้านหลังถูกแกะออกนั้นเป็นเพราะพี่ฉินได้ดัดแปลงนาฬิกาให้เธอ

เมื่อกดปุ่ม 3 ครั้ง เขาก็จะได้รับสัญญาณ ครั้งที่แล้วตอนที่ถูกรังแกที่โรงเรียนเธอก็เรียกฉินจุนมาด้วยวิธีนี้

และเธอก็ไม่ได้สนใจว่ามันจะเป็นของจริงหรือของปลอม

ฉินจุนขี้เกียจจะอธิบายว่าเทคโนโลยีทางการทหารในนั้นมันมีค่ามากกว่านาฬิกาเรือนนี้มาก มาพูดเรื่องนี้กับคนแบบนี้ สำหรับฉินจุนแล้วมันช่างไร้สาระเหลือเกิน

ทั้งสองคนต่างก็ไม่ได้สนใจ และทุกคนก็ไม่สนใจมันอีก

แต่ถิงถิง เสี่ยวอวี้และคนอื่นๆ ต่างก็พูดอยู่ข้างๆ ว่า “ตงเสวี่ยไม่เป็นไรหรอก นาฬิกาปลอมแล้วยังไงล่ะ แฟนฉันให้กระเป๋าปลอมฉันเลย ของปลอมก็ดีเหมือนกันแหละ ทั้งสวยทั้งราคาถูก เราก็เป็นแค่คนธรรมดา จะไปใช้ของฟุ่มเฟือยราคาแพงขนาดนี้ได้ยังไงกันล่ะ”

“ใช่ตงเสวี่ย ไม่ต้องไปสนใจหรอก ของปลอมก็ของปลอมสิ สามีฉันไม่ให้แม้แต่ของปลอมด้วยซ้ำ เฮอะ!”

“ฮ่าๆ ฉันก็ด้วย แม้แต่ของปลอมฉันก็ยังไม่เคยได้เลย ฉันอิจฉาพวกเธอจริงๆ”

ทั้งสามคนพูดปลอบหวังตงเสวี่ยเบาๆ พวกเขาก็ยังคิดว่าชีวิตของหวังตงเสวี่ยไม่ได้สบายนัก คบกับแฟนหนุ่มคนธรรมดาๆ

แต่พวกเขาก็ไม่ใช่คนหัวสูง ธรรมดาก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดี แค่เขาดีกับเธอก็พอแล้ว

หวังตงเสวี้ยยิ้ม เธอปลื้มใจมาก เพื่อนสมัยม.ปลายของเธอไม่ได้เปลี่ยนไปเลย เป็นคนที่จริงใจจริงๆ

ทุกคนทานอาหารกันเสร็จแล้ว เว่ยเจี้ยนจวินก็หยิบกล่องยาวออกมาจากกระเป๋าของเขา จากนั้นก็ยืนขึ้นและพูด

“ทุกคนเงียบก่อนครับ ฉันมีเรื่องอยากจะบอกถังโหรว”

ทันใดนั้นทุกคนก็เงียบ และมองไปที่เว่ยเจี้ยนจวิน

แต่ถังโหรวรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้เธอแสร้งทำเป็นประหลาดใจมาก ยกมือขึ้นมาปิดปาก น้ำตาเกือบจะไหลออกมา

“เสี่ยวโหรวแม้ว่าวันนี้จะเป็นเพียงวันธรรมดา แต่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะให้ของขวัญคุณ”

ขณะที่เขาพูดเขาก็เปิดกล่องออกมา ด้านในก็ปรากฎสร้อยคอเงินหนึ่งเส้น และใต้สร้อยนั้นมีจี้รูปหัวใจสีฟ้า เหมือนจะเป็นบลูไดมอนด์

“บลูไดมอนด์นี้เรียกว่าคริสตัลเลิฟ เป็นการฉลองครบรอบ 2 ปีของความรักของเรา ให้ฉันใส่ให้ไหม?”

ใบหน้าของถังโหรวเต็มไปด้วยความตื่นเต้น พยักหน้าอย่างเกินจริง เธอยืนขึ้นและหลับตาลง ด้วยท่าทางที่มีความสุข

หลังจากที่เว่ยเจี้ยนจวินสวมให้เธอแล้ว ทุกคนต่างก็ปรบมือทันที

“ว้าวถังโหรวเธอนี่มีความสุขจังเลยนะ เพชรเม็ดโตขนาดนี้ น่าอิจฉาจัง!”

“นี่มันราคาเท่าไหร่เนี่ย? บลูไดมอนด์เลยนะ น่าจะแพงมากเลยใช่ไหม?”

“นี่สินะชีวิตคนรวย ไม่ใช่วันครบรอบพิเศษอะไรก็ให้ของขวัญด้วย ส่วนที่บ้านฉันน่ะอะไรก็ไม่เคยให้เลย”

“นั่นสิ เราจะไปเทียบกับถังโหรวได้ไงล่ะ ถังโหรวเป็นคุณนายแล้ว”

“ประธานเว่ย คุณรีบบอกมาเลยว่าเพชรนี้ราคาเท่าไหร่ เปิดหูเปิดตาพวกเราหน่อย”

เว่ยเจี้ยนจวินยิ้ม “ถ้าพวกคุณซื้อก็อาจจะแพงมาก แต่ว่าฉันเป็นคนใน ได้รับส่วนลดน่ะ น่าจะซื้อมาได้ในราคา 20,000 กว่าหยวน”

“ว้าว 20,000กว่า แค่จี้อันเดียวก็ 20,000 กว่าแล้ว นั่นมันค่าใช้จ่ายทั้งปีของฉันเลยนะ”

“เทียบไม่ได้จริงๆ ฉันซื้อแค่สองพันกว่าได้ก็พอใจแล้ว”

“คนธรรมดาๆ อย่างพวกเรามีแค่ทองสักเส้นก็บุญแล้ว ใช่ไหมตงเสวี่ย?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset