ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 224 ท่าทางเปลี่ยนไป

“แม่คะ……”จู้หลินหลินขมวดคิ้ว รีบเอ่ยเรียกทักท้วง

ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากให้พวกท่านเข้ามาอยู่ แต่ว่าที่นี่เป็นบ้านของฉินจุน ไม่ใช่บ้านของตระกูลจู้ด้วยซ้ำ ถ้าหากว่าคุณย่าอยากจะย้ายเข้ามาอยู่จะทำยังไง?

หวังหยุนพูดจบ หญิงชราก็ชะงัก ก็จะรีบยิ้มหน้าบานออกมา

“ดีเลย หลินหลินถ้าพวกย่าจะย้ายเข้ามาหลานไม่ว่าอะไรใช่ไหม?” เดิมทีหญิงชราก็ใฝ่ฝันถึงคฤหาสน์ชิงเหมยแห่งนี้มาโดยตลอด ได้มาอยู่ที่นี่เป็นความฝันของเธอเลยแหละ

ครั้งที่แล้วเธอโดนฉินจุนไล่ออกมา เธอก็ไม่กล้าหน้าด้านหน้าทน ครั้งนี้หวังหยุนเป็นคนเอ่ยปากก่อน แน่นอนว่าเธอก็คว้าโอกาสนี้เอาไว้

“เอ่อ……” จู้หลินหลินหันไปมองหน้าฉินจุนอย่างลำบากใจ นี่มันบ้านของฉินจุนเชียวนะไม่ใช่ของเธอเสียหน่อย

ฉินจุนเอ่ย “เธอตัดสินใจเลย”

จู้หลินหลินรู้สึกซาบซึ้งใจ เธอพยักหน้าก่อนจะเอ่ย “ในเมื่อคุณย่าชอบก็ย้ายเข้ามาอยู่ก็ได้ค่ะ”

“ได้จ้ะ ๆ ๆ !”

หญิงชราออกอาการดี๊ด๊าขึ้นมาทันที อาการป่วยก่อนหน้านี้หายไปเลย เดินตัวปลิวเข้าไปเลือกห้องเหมือนกับคนที่ไม่ได้เป็นอะไร

ครั้งนี้หญิงชราไม่กล้าถือดี เธอเลือกห้องที่อยู่ไกล ๆ และไม่ได้หรูหราอะไร เพื่อที่จะได้ไม่ถูกไล่ออกไป

“หลินหลิน เรื่องที่บริษัทคงต้องให้หลานเป็นคนช่วยจัดการ ตอนนี้เรามีเวลาไม่มากแล้ว โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับซวนหยวนกรุ๊ป……”

เรื่องราวที่มันพัวพันกันอยู่นี้ เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องที่โดนซวนหยวนกรุ๊ปยุติความร่วมมือ ไหนจะท่านฝั่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุป

หลังจากได้ยินเรื่องราวทั้งหมด จู้หลินหลินเองก็ตกใจ ไม่คิดเลยว่าตระกูลจู้จะเจอเรื่องราวขนาดนี้

“คุณย่าคะ หนูก็ไม่ค่อยแน่ใจ หนูคงต้องลองดู”

อาจจะเป็นเพราะว่าซวนหยวนกรุ๊ปไว้หน้าเธอ แล้วบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุปล่ะ?ธนาคารอีก?พวกนี้เธอยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่

หญิงชราจัดหาที่พักเรียบร้อยก็เอ่ย “หลานพยายามอย่างถึงที่สุดก็พอแล้ว ย่าจะไปกับเราด้วย”

นี่เป็นเรื่องใหญ่สุดของตระกูลจู้ ไม่มีใครกล้าเมินเฉย เหล่าสมาชิกสำคัญของตระกูลจู้ต่างพากันไปที่ซวนหยวนกรุ๊ป

ระหว่างทาง จู้หลินหลินหยิบโทรศัพท์ออกมา ลองโทรไปหาหวังหรุ่ยเพื่อลองสอบถาม เธอค่อนข้างเป็นกังวล

ตื้ด…ตื้ด…ตื้ด

รอสายไม่นานหวังหวังหรุ่ยก็รับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร

“ประธานจู้เหรอคะ?”

“ฉันเองค่ะรองผู้อำนวยการหวัง คุณอยู่ที่บริษัทหรือเปล่าคะ?ฉันอยากจะไปคุยกับคุณเรื่องความร่วมมือของเรา”

“ได้สิคะ จริงสิ คุณได้รับการคืนสิทธิ์ผู้ถือหุ้นหรือยังคะ?”

พูดจบ จู้หลินหลินก็หันไปมองคุณย่า หญิงชราก็พยักหน้าทันที

“กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้วค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีค่ะ ฉันจะรอคุณที่บริษัทนะคะ”

ระหว่างที่สนทนากันก็คุยกันด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ไม่ได้มีท่าทางวางอำนาจกดขี่คนอื่น เหมือนกับเพื่อนเก่าทักทายกันปกติ

การปฏิบัติที่แตกต่างกันนี้ทำให้หญิงชราช็อกมาก ๆ จู้หลินหลินมีพลังวิเศษอะไรถึงได้ทำให้ซวนหยวนกรุ๊ปให้ความสำคัญขนาดนี้?

พอมาถึงซวนหยวนกรุ๊ป หวังหรุ่ยก็ยืนรออยู่ที่หน้าประตูแล้ว พอจู้หลินหลินเดินลงจากรถมา ก็มีคนรีบเข้ามาช่วยถือกระเป๋า

“ประธานจู้เชิญด้านในค่ะ”

หวังหรุ่ยเดินเข้ามาคล้องแขนจู้หลินหลินอย่างกระตือรือร้น เธอเพียงเหลือบตาไปมองหญิงชรากับพวกจู้หมิง แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรพวกเขา เดินเข้าไปในห้องประชุมทันที

ภายในห้องประชุมเจรจาเพียงไม่นานก็ตกลงกับเรียบร้อย กลับไปร่วมงานกันเหมือนเดิม

ใช้เวลาประมาณไม่เกินครึ่งชั่วโมงได้ ส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการดื่มน้ำชาถามไถ่สารทุกข์ ไม่ได้ทำอะไรมาก

ทันทีที่จู้หลินหลินลงมือ ปัญหาที่ยากที่สุดก็สามารถจัดการแก้ไขได้

จู้หมิงยืนอยู่ด้านนอก มองดูสถานการณ์ในห้องประชุมก็ทำหน้านิ่งขรึม

“ยัยจู้หลินหลิน ดูเหมือนจะใช้เต้าไต่จริง ๆ แอบกุ๊กกิ๊กกับประธานใหญ่ของซวนหยวนกรุ๊ปแบบนี้จะไม่ทำให้ตระกูลจู้ของเราขายขี้หน้าเหรอครับ?”

“แกหุบปากไปเลยนะ!” หญิงชราถลึงตาใส่เขา “พูดอะไรมั่ว ๆ ออกมา!ต่อไปหัดสำรวมซะบ้าง!”

หญิงชราดูออกว่าโปรเจกต์ตอนนี้ของซวนหยวนกรุ๊ป ล้วนแต่เป็นเพราะจู้หลินหลิน ถ้าหากไม่มีเธอ ก็คงจะไม่ได้ร่วมงานกับซวนหยวนกรุ๊ป

จู้หลินหลินนั้นต้องเป็นตำแหน่งสำคัญ อย่างน้อยที่สุดในช่วงเวลาที่ร่วมงานกับซวนหยวนกรุ๊ปนั้นก็ต้องให้เธอรับผิดชอบในตำแหน่งสำคัญ

พอออกมาจากซวนหยวนกรุ๊ป จู้หลินหลินก็ติดต่อหาผู้จัดการฝ่ายนิติบุคคลของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุป

“สวัสดีค่ะ ดิฉันจู้หลินหลินนะคะ คือว่าดิฉันอยากจะเจรจากับคุณเรื่องค่าส่วนกลางน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าคุณอยู่ที่บริษัทไหมคะ?”

โทรศัพท์ครั้งนี้จู้หลินหลินไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ เพราะบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุปไม่ใช่บริษัทเดียวกับซวนหยวนกรุ๊ป ไม่ได้เป็นอะไรกัน อีกอย่างบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุปก็เป็นธุรกิจระดับประเทศ เหอเนี่ยนอิงเป็นเศรษฐีระดับประเทศ คนใหญ่คนโตแบบนี้เธอไม่เคยคบค้าสมาคมมาก่อน

ผู้จัดการฝ่ายนิติบุคคลที่อยู่ปลายสายก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน, “สวัสดีครับท่านประธานจู้ เรื่องค่าส่วนกลางไม่ต้องเจรจาแล้วครับ เพียงคุณกลับมาดำรงตำแหน่ง ค่าธรรมเนียมส่วนกลางก็ฟรีเหมือนเดิม ตึกสำนักงานทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว พวกคุณสามารถกลับไปได้ตลอดเวลา”

“หืม?ถ้าอย่างนั้นก็ดีค่ะ ขอบคุณนะคะ……”

จู้หลินหลินวางสายโทรศัพท์ หญิงชรากับจู้หมิงก็ต่างพากันช็อก “คุยกันเสร็จเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?หรือว่าเขาตัดสายเรา?”

จู้หลินหลินส่ายหน้า “คุยเสร็จแล้วค่ะ ตอนนี้พวกเราสามารถกลับไปได้แล้ว”

“แล้วค่าส่วนกลางล่ะ?”

“ฟรีค่ะไม่ต้องจ่าย”

คราวนี้หญิงชราช็อกจริง ๆ จู้หลินหลินมีความสามารถเกินไปแล้วหรือเปล่า?เธอมีความสัมพันธ์กับซวนหยวนกรุ๊ป อันนี้คนจำนวนมากก็รู้ ซวนหยวนกรุ๊ปช่วยเธอไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง

แต่ว่าเด็กนี่ไปคบค้าสมาคมกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุปตั้งแต่เมื่อไหร่?

ค่าส่วนกลางสิบปี เงินตั้งมากกว่าสามสิบล้านหยวน จู่ ๆ ไม่เอาก็ไม่เอาแล้วแบบนี้เลยเหรอ?

ไม่ใช่แค่นั้น เรื่องเงินกู้จากทางธนาคารก็ไม่ได้มาตามทวงแล้ว บัญชีก็ถูกยกเลิกการระงับแล้ว พนักงานทั้งหมดก็กลับไปทำงานตามปกติ ทุกอย่างกลับไปเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ก่อนหน้านี้บริษัทเกือบจะล้มละลาย แต่พอจู้หลินหลินกลับมา โทรศัพท์เพียงไม่กี่สาย ทุกปัญหาก็คลี่คลาย

แม้ว่าต่อหน้าเหล่าพนักงานจะไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ แต่ก็แอบวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัว

“ได้ยินข่าวหรือยัง ครั้งนี้ต้องขอบคุณท่านประธานจู้จริง ๆ โทรศัพท์กริ๊งเดียวก็จัดการปัญหาได้แล้ว”

“แน่นอนสิ ท่านประธานจู้เก่งจะตาย นายจู้หมิงอะไรนั่นมีดีอะไร คู่ควรกับการเป็นรองประธานเหรอ?”

“แล้วยังมายกเลิกสิทธิ์ผู้ถือหุ้นของท่านประธานจู้อีก ไม่รู้จริง ๆ ว่าคุณท่านคิดอะไรอยู่ ถ้าครั้งหน้าไล่ท่านประธานจู้ออกอีก ฉันก็ไม่ทำแล้ว”

“ถ้าหากบริษัทไม่มีท่านประธานจู้อยู่ก็คงเจ๊งไปนานแล้ว”

ข่าวลือเหล่านี้ถึงหูของหญิงชราอย่างรวดเร็ว ภายในห้องทำงานจู้หมิงยืนอยู่ข้างหญิงชราและกล่าวด้วยสีหน้าขมวดคิ้ว

“คุณแม่ครับ เดี๋ยวนี้จู้หลินหลินชักจะเอาใหญ่ คุณแม่ได้ยินข่าวลือในบริษัทหรือเปล่าครับ ตอนนี้เหล่าพนักงานต่างเอนเอียง พวกเขาต้องการให้จู้หลินหลินขึ้นเป็นประธานใหญ่!”

ใบหน้าของหญิงชราเรียบนิ่งเธอเองก็ได้ยินเรื่องนี้ สิ่งที่คนพวกนี้พูดมันก็เกินไปจริง ๆ

จู้หลินหลินทำผลงานเพื่อบริษัทมากมาย หญิงชราเองก็พอใจมาก

อย่างไรก็ตามการทำเรื่องดี ๆ มากมายก็ไม่ใช่เรื่องดี พฤติกรรมของจู้หลินหลินทำให้หญิงชราหวาดหวั่น

นี่คือธุรกิจของตระกูล และอำนาจสูงสุดของตระกูลต้องอยู่ในมือของหญิงชราเท่านั้น ไม่มีใครสามารถสั่นคลอนได้

“พอแล้ว ก็แค่พวกข่าวลือเท่านั้น ไม่มีทางเป็นจริงหรอก ฉันเชื่อว่าจู้หลินหลินคงไม่ได้หัวสูงทะเยอทะยานขนาดนั้น”

ถึงแม้จะพูดไปแบบนั้น แต่ภายในใจของหญิงชราก็รู้สึกไม่สบายใจมาก ๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset