หัวหน้าหลิวชะงักไปเล็กน้อย หยิบแว่นขยายออกมา ตรวจสอบมองดูลูกวอลนัทของจินซานหลงอย่างละเอียดครู่หนึ่ง แล้วพูดกลั้วหัวเราะ
“คุณผู้ชายท่านนี้พูดเรื่องน่าขำแล้ว ของราคาพันแปดหยวน ไม่ต้องใช้การรับรอง”
สีหน้าของจินซานหลง เปลี่ยนไปเป็นอับอายอย่างที่สุดในพริบตา
พันแปดหยวน?
หมายความว่าอะไร!
ลูกวอลนัทที่จินซานหลงให้ มีค่าพันแปดหยวน?
ความสามารถในการวินิจฉัยและแยกแยะของสำนักงานรับรองเอกสารเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประเทศ และก็เป็นหน่วยงานที่มีอำนาจมากที่สุด
คำพูดของหัวหน้าหลิว เชื่อถือได้แน่นอน
และก็พูดได้ว่า ลูกวอลนัทที่จินซานหลงให้มานี้ เป็นของปลอม?
ก่อนหน้านี้เขาก็ยังเคยพูด ลูกวอลนัทบางลูกสามารถทำได้ผ่านเครื่องมืออุปกรณ์ จนผิวเปลือกมันวาวคล้ายหยกเช่นนี้ หลอกลวงด้วยรูปลักษณ์ภายนอกก็ยังได้อยู่…
จู้หลินหลินพูดพร้อมหัวเราะอย่างเย็นชา “คิดไม่ถึงว่าของที่คุณชายจินให้กลับเป็นของไม่ดี?”
จินซานหลงใบหน้าแดงก่ำ รู้สึกเพียงแค่ว่าบนใบหน้าร้อนผะผ่าว นี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าตนเองยื่นหน้าเข้าไปให้คนอื่นตบเอง!
“เหอะๆ คุณปู่จู้ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ตาของผมไม่มีแววเลย มองไม่ออกว่าลูกวอลนัทเป็นของไม่ดี”
จู้ซานเตาหัวเราะเรียบๆ “ไม่เป็นไร น้ำใจมาถึงก็พอแล้ว ลูกวอลนัทก็เอากลับไปเถอะ ผมรับไว้ด้วยใจแล้ว”
มีนัยน์ตาเพลิงแล้ว ใครจะยังอยากได้ของเล่นเน่าๆของคุณอยู่อีก?
นัยน์ตาเพลิงที่ฉินจุนให้มานี้ แม้ว่าบนโทรทัศน์จะไม่ได้ประกาศราคาเอาไว้ แท้ที่จริงแล้วราคาเท่าไหร่นั้นพวกเขาเองก็ไม่รู้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่สามารถมั่นใจได้ก็คือ จะต้องเป็นหลักร้อยล้านแน่นอน!
แค่ของขวัญวันเกิดชิ้นเดียวนะ กลับราคากว่าร้อยล้าน!
สายตาที่ทุกคนมองไปทางฉินจุนล้วนเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นเล็กน้อย
ยิ่งกว่านั้นจู้ซานเตาก็รู้สึกไม่ดีอยู่บ้าง เขาไม่เคยคิดเลยว่า ของที่เยี่ยมยอดในเรื่องนั้น จะตกมาอยู่ในมือของเขาได้ในสักวันหนึ่ง
“เสี่ยวจุน นี่มันมีค่ามากเกินไปหรือเปล่า?”
ฉินจุนเอาลูกวอลนัทออกมาอย่าง่ายๆ แล้ววางลงในมือของจู้ซานเตา
“เทียบกับบุญคุณของคุณปู่จู้แล้ว ของเล็กน้อยนี้ ไม่นับว่าเป็นอะไร”
กรอบตาของจู้ซานเตาแดงน้อยๆ อ้าปากครึ่งหนึ่ง สักพักหนึ่งถึงจะพูดออกมาได้
“ลูกหลานของเหล่าฉิน ยอดเยี่ยมมากแล้ว!”
บนใบหน้าของจู้หลินหลินเองก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา กระทั่งว่ายังมีความพอใจสายหนึ่งอยู่ด้วย ใครให้พวกคุณดูถูกพี่เสี่ยวจุนของฉัน แค่มอบของขวัญให้ก็ทำให้พวกคุณตกใจแทบตายแล้ว!
แขกคนอื่นๆล้วนประหลาดใจมาก รีบถามขึ้นทันที
“คุณปู่จู้ พ่อหนุ่มคนนี้ เป็นคุณชายตระกูลไหนกัน?”
“ใช่ๆ ไม่เคยได้ยินแซ่ฉินในตงไห่เลย ในมณฑลเองก็เหมือนจะไม่มี หรือว่าอยู่ในเมืองหลวง?”
“คุณชายฉินลงมือไม่ธรรมดาเช่นนี้ไม่มีทางเป็นลูกของคนในครอบครัวธรรมดาทั่วไปแน่ๆใช่ไหม?”
จู้ซานเตายิ้มเล็กน้อย พูดว่า
“เสี่ยวจุนเป็นหลานเพื่อนของผม แน่นอนว่าเป็นแค่ครอบครัวธรรมดา แต่ว่าเสี่ยวจุนมีทักษะการแพทย์ที่ครอบคลุมฟ้า ยอดเยี่ยมมาก”
แน่นอนว่าเรื่องของตระกูลฉินในปีนั้นจู้ซานเตาไม่สามารถพูดออกมาได้ ในแขกจำนวนมากหลายคนหลายปากเช่นนี้ ใครจะรู้ว่ามีคนเอาออกไปพูดซี้ซั้วไหม
ดังนั้นก็ทำได้เพียงพูดว่าฉินจุนมีทักษะการแพทย์ติดตัว ในคำพูดก็หมายถึงว่า ความร่ำรวยของฉินจุนนั้น เขาล้วนอาศัยความสามารถของตนเองสร้างมา
หวังหยุนที่อยู่ด้านข้างกลับขมวดคิ้วแน่น
ของขวัญราคาร้อยกว่าล้าน?
เขาเอาเงินมาจากที่ไหน?
ฉินจุนเป็นคุณชายของตระกูลที่ตกต่ำ ทรัพย์สมบัติเดิมก็ไม่ได้เหลือไว้ให้เขาแม้แต่น้อย อย่าพูดถึงร้อยล้านเลย แม้แต่ไม่กี่ร้อยหยวนก็ยังไม่มีให้เอาออกมาเลยหรอกนะ?
หวังหยุนพลันคิดถึงอะไรขึ้นมาได้ หันหน้ามามองจู้หลินหลิน สีหน้ามืดครึ้มลง
“จู้หลินหลิน! แกให้เงินนี่กับเขาใช่ไหม?!”
จู้หลินหลินงงงวยเล็กน้อย ส่ายหน้า “ไม่ใช่”
“เฮอะ แกอย่ามาเล่นลิ้นเลย ถ้าไม่ใช่แกให้ แล้วเขาจะมีเงินมากขนาดนั้นได้ยังไง?”
แม้ว่าจู้หลินหลินจะได้สี่พันเก้าร้อยล้านของซวนหยวนกรุ๊ปมา แต่ก็ไม่สามารถฟุ่มเฟือยแบบนี้ได้นี่
ให้ของขวัญราคาร้อยล้านไปชิ้นหนึ่ง ยังให้ฉินจุนเป็นคนที่โดดเด่นอีก ในใจของหวังหยุนรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก กรอกตามองบนอย่างคับใจ กอดอกด้วยท่าทางที่แสดงความโกรธ
จู้หลินหลินเองก็ขมวดคิ้ว งงงันอยู่บ้าง
แน่นอนว่าเธอรู้อยู่แล้ว ว่าตนเองไม่เคยให้เงินฉินจุน แต่หนึ่งร้อยล้านนี้ พี่เสี่ยวจุนเอามาจากที่ไหน? เป็นหมอทำเงินได้เยอะขนาดนี้เชียว?
ได้ยินว่าฉินจุนเป็นหมอ ดวงตาจินซานหลงพลันวาววาบ
ลูกวอลนัทเมื่อกี้นั้น ทำให้เขาอับอายอย่างที่สุด
ของขวัญที่ใช้เงินซื้อไปมากกว่าสิบล้าน แต่ผลสุดท้ายกลับกลายเป็นของปลอม ถูกคนในที่นี้ตบหน้าเปรียบเทียบไป เลือดที่ออกอย่างหนักเช่นนี้ กลับไม่ได้รับความประทับใจดีๆของคนอื่นมาสักนิดเดียว ทำให้จินซานหลงคับแค้นใจอยู่บ้างจริงๆ
แต่เมื่อได้ยินว่าฉินจุนเป็นหมอ ฉันพลันเขาก็รู้สึกสนุกขึ้นมาทันที
“คิดไม่ถึงว่าคุณชายฉินก็ยังเป็นหมอด้วย? พอดีเลย วันนี้หมอเทวดาค่งของตระกูลจินเองก็อยู่ที่นี่ อย่างนี้ดีไหม พวกคุณแลกเปลี่ยนฝีมือกันที่นี่สักหน่อย?”
ตามมาจากสัญลักษณ์มือของจินซานหลงนั้น ทุกคนก็เห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมา
หมอเทวดาค่งสวมชุดจงซานจวงที่คล้ายราชปะแตนไทย ดูเคร่งขรึมเคร่งเครียดอย่างยิ่ง สวมแว่นตา ผมหวีอย่างเรียบแปล้ แม้ว่าจะอายุไม่มาก แต่กลับให้ความรู้สึกอย่างอวดดีกับผู้คน
หมอเทวดาค่งดันแว่น เดินออกมา จับมือกับฉินจุน
“สวัสดี ผมค่งฝานหลิน สืบทอดความรู้จากแพทย์แผนจีนสกุลหัว ตอนนี้เป็นหมอส่วนตัวประจำตระกูลจิน”
ชื่อเสียงของค่งฝานหลิน ทุกคนล้วนเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง
ชื่อของหมอที่อยู่ในมณฑล ที่สามารถได้ยินชื่อเสียงในตงไห่ได้ แสดงอย่างชัดเจนว่าค่งฝานหลินคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ
ในความเป็นจริง ค่งฝานหลินมีตำแหน่งสูงมากในระดับมณฑล แม้จะไม่ได้ทำงานในโรงพยาบาลใดๆเลย และก็ไม่มีคำนำหน้าศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญอะไร แต่ทักษะทางการแพทย์ของค่งฝานหลินยังไม่มีใครไม่ยอมรับ
ตระกูลจินมีอำนาจยิ่งใหญ่ สามารถเชิญค่งฝานหลินมาเป็นหมอประจำตระกูลได้ มีผู้เชี่ยวชาญตรวจให้เช่นนี้ คนในบ้านแทบจะไม่ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว
ถ้าวันนี้ฉินจุนมีอาชีพอื่น แม้ว่าจะเป็นซาเล้ง จินซานหลงก็ไม่สามารถพูดอะไรได้
แต่ฉินจุนกลับเป็นแพทย์แผนจีน!
นี่มันเข้าทางพอดีจริงๆ!
ให้เขาและค่งฝานหลินแข่งกันในเรื่องทักษะทางการแพทย์สักหน่อย สักนิดสักหน่อยก็สามารถมองออก ฉินจุนไม่มีทางเทียบเท่ากับหมอเทวดาค่งแน่นอน หลังจากนั้นเขาก็สามารถพูดได้ว่าฉินจุนเป็นคนหลอกลวง ลูกวอลนัทที่ใช้เงินมากขนาดนั้นซื้อมา ก็ล้วนใช้เงินที่หลอกลวงคนอื่น ถึงตอนนั้นดูสิว่าเขายังมีหน้าอยู่ที่นี่ต่อหรือไม่
หลังจากค่งฝานหลินและฉินจุนจับมือกันแล้ว ก็ถามว่า
“คุณผู้ชายฉินอายุยังน้อยเช่นนี้ สอบถามหน่อยครับว่าจบจากคณะแพทยศาสตร์จากที่ไหน?”
ฉินจุนส่ายหน้า “ผมไม่ได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัย”
ทันใดนั้น มุมปากของจินซานหลงก็ปรากฏความดูถูกออกมา
มหาวิทยาลัยก็ยังไม่เคยเรียน กลับยังกล้าที่จะมาเป็นหมอ?
หมอในปัจจุบันนี้ มีคนไหนที่ไม่ได้จบจากสายการเรียนแพทย์โดยตรง?
กระทั่งนักศึกษาปริญญาเอกปริญญาโทของคณะแพทยศาสตร์จำนวนมากที่ไม่ได้ใบรับรองคุณสมบัติการเป็นแพทย์ก็ยังไม่ได้ออกมารักษาคนไข้ คนอย่างคุณที่ไม่ได้จบจากสายการเรียนแพทย์โดยตรง กลับกล้าเรียกตนเองว่าเป็นหมอเทวดา?
ค่งฝานหลินขมวดคิ้ว “เช่นนั้นขอรบกวนถามว่าคุณผู้ชายฉินรับการเรียนรู้มาจากผู้ใด?”
ฉินจุนเองก็ไม่ได้ปิดบัง “รับมาจากคุณผู้ชายเย่ซวนหยวน”
ชื่อของอาจารย์ พูดออกมาแล้วก็คงไม่มีใครรู้จัก
อย่างที่คาดเอาไว้ ค่งฝานหลินขมวดคิ้ว แสดงท่าทางว่าไม่เคยได้ยินมาก่อน
จริงๆแล้วแวดวงแพทย์แผนจีนเล็กมาก ถ้าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงสักหน่อยก็คงได้ยินผ่านหูมาบ้าง
แต่เย่ซวนหยวนสามคำนี้ เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ ทันในนั้นในใจก็ดูถูกฉินจุนขึ้นมาอีกสักกี่ส่วน
“ผมเห็นว่า ไม่มีความจำเป็นจะต้องเทียบกันแล้วนะ”
พูดตามจริง ค่งฝานหลินดูถูกฉินจุนอยู่หน่อยๆ คนแบบนี้ก็เป็นแค่เด็กหนุ่มทั่วไปเท่านั้น ไม่แน่ว่าอาจจะเคยฝึกทำงานอยู่ที่คลีนิกไหนสักแห่ง แล้วก็คิดว่าตนเองเป็นหมอเทวดาไปแล้ว ไม่คู่ควรที่จะเทียบทักษะทางการแพทย์กับเขา
แน่นอนว่าจินซานหลงไม่มีทางเห็นด้วย ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้โอกาสนี้มา แน่นอนว่าต้องให้เขาอับอายอย่างที่สุดก่อนถึงจะได้
“หมอเทวดาค่ง แม้ว่าเขาจะไม่มีคุณสมบัติพอให้เทียบกับคุณ แต่ดีเลวยังไงคุณก็ได้ชี้แนะเขาสักหน่อย ยังไงก็เป็นญาติของคุณปู่จู้ คุณก็คิดซะว่าได้สอนสั่งเด็กๆละกัน”
ค่งฝานหลินพยักหน้า “ก็ได้ ก็ถือว่าให้เกียรติกับคุณปู่จู้สักหนหนึ่ง”
พูดไปแล้ว ค่งฝานหลินก็ชี้ไปที่ฉินจุน
“คุณเข้ามาเถอะ มีปัญหาอะไรคุณก็สามารถขอให้ผมสอนได้ ผมจะให้คำตอบคุณในที่นี้ทันที”