“นายน้อยเซี๋ยมีชื่อเสียงขนาดไหนนายเองก็เคยได้ยินมา ทางที่ดีอย่าทำก่อเรื่องอะไรไม่ดี ต่อให้นายไม่คิดถึงตัวเอง ก็ต้องคิดถึงตระกูลจู้”
นอกจากชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ของนายน้อยเซี๋ยแล้ว ความเย่อหยิ่งอวดดีของเขาก็ขึ้นชื่อเลย ทุกคนก็ต่างรู้สึกว่าเขาเป็นคนไม่ดี ความจริงก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ
ถ้าหากจู้หลินหลินยังคิดไม่ได้ แล้วเกิดไปมีอะไรต่ออะไรกับฉินจุนขึ้นมา ถ้านายน้อยเซี๋ยรู้เข้า แล้วโกรธขึ้นมา มาลงที่ตระกูลจู้ แบบนั้นก็จบกันพอดี
จู้หลินหลินขมวดคิ้วเธอหมดคำจะพูดจริง ๆ
“คุณย่าคะ อย่าพูดอะไรซี้ซั้วแบบนี้สิคะ หนูไม่เคยเจอนายน้อยเซี๋ยอะไรนั่นเลยด้วยซ้ำ เขาจะมาชอบหนูได้ยังไง พวกคุณย่าอย่าเดาอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าได้ไหมคะ?”
หวังหยุนชี้ไปที่เครื่องประดับเงินประดับทองที่อยู่ที่พื้นแล้วพูดว่า “สินสอดก็อยู่ตรงนี้หมดแล้ว ยังจะมีอะไรผิดพลาด?”
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มีพิธีรีตองอะไร แต่ว่านายน้อยเซี๋ยส่งเครื่องประดับเงินประดับทองมาให้มากมายขนาดนี้ ก็น่าจะเป็นสินสอดไหมล่ะ?
หวังหยุนเอ่ย “ไม่ว่ามันจะเป็นความตั้งใจของนายน้อยเซี๋ย หรือว่าความตั้งใจของท่านประธานเหอก็ตาม นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ลูกจะต้องรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี ๆ อย่าไปอยู่ใกล้คนที่ไม่เกี่ยวข้อง เข้าใจไหม?”
หญิงชราเองก็พยักหน้า “พูดถูก ต่อให้นายน้อยเซี๋ยไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นหรือทำไปโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ไม่แน่แบบนี้ก็ถือว่าเราก็มีโอกาส”
“หลินหลินเปรียบเสมือนหงส์ของตระกูลจู้ของเรา ไม่ใช่ดอกไม้ริมทางที่ใครจะเด็ดดมก็ได้ง่าย ๆ นายคนแซ่ฉิน นายเองก็น่าจะรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้วก็ออกไปจากบ้านตระกูลจู้ของพวกเราได้แล้ว”
หญิงชราพูดจบ ฉินจุนก็หัวเราะอย่างเย็นชาออกมาเอ่ย
“พวกคุณเข้าใจอะไรกันผิดหรือเปล่า ที่นี่คือบ้านของผม”
“ในเมื่อพวกคุณไม่อยากอยู่กับผม ก็เชิญออกไปได้เลย”
ฉินจุนพูดจบ ทุกคนก็ได้สติทันที จริงด้วยที่นี่มันเป็นบ้านของฉินจุน!
แม้ว่าไอ้กระจอกนี่มันจะไม่มีความสามารถอะไร แต่ว่ามันเป็นผู้สืบทอดคฤหาสน์หลังนี้!
พวกของหญิงชราต่างก็มาเกาะเขากิน หน้าด้านหน้าทนย้ายเข้ามาอยู่เอง มาตอนนี้ยังหน้าไม่อายมาไล่เจ้าของบ้านอย่างฉินจุน ช่างไร้สาระจริง ๆ
สีหน้าหญิงชราออกอาการสับสน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา สุดท้ายก็กัดฟันแล้วเอ่ย
“ไป!พวกเราย้ายออก นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันไม่อนุญาตให้คบค้าสมาคมกับนายคนแซ่ฉินอะไรนี่อีก!”
แม้ว่าการได้อยู่ในคฤหาสน์ชิงเหมยจะเป็นความฝันของหญิงชรา เธอเองก็ตัดใจไม่ลงที่จะต้องย้ายออกจากที่นี่ แต่ว่าเมื่อเทียบกับสิ่งล่อตาล่อใจจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุปแล้ว หญิงชราก็รู้ดีว่าอันไหนมันสำคัญมากกว่า
แม้ว่าจะต้องย้ายออกจากคฤหาสน์ชิงเหมย เธอก็ต้องทำให้จู้หลินหลินตัดขาดความสัมพันธ์กับฉินจุนให้ได้
หญิงชราลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไป แต่ทว่าจู้หลินหลินยังคนยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน
หญิงชราขมวดคิ้ว “หลินหลิน!ยังไม่มากับย่าอีก มัวแต่อึ้งอะไรอยู่!”
จู้หลินหลินกัดฟันนัยน์ตาแสดงถึงความแน่วแน่ “หนูจะไม่ทำแบบนี้กับพี่เสี่ยวจุน หนูไม่ไป”
ตอนที่ใช้พี่ฉินจุน พวกเขาก็ทำเป็นพูดดี พูดถึงเรื่องความหลังนู่นนี่นั่น
พอหมดประโยชน์ก็ตีตัวออกหาก เมื่อครู่พี่ฉินจุนยังช่วยรักษาให้คุณย่าอยู่เลย แต่สุดท้ายท่านกลับไม่สำนึกบุญคุณเลยสักนิดเดียว ทำเอาจู้หลินหลินรู้สึกผิดหวังมาก ๆ
หญิงชราถลึงตาเอ่ยด้วยสีหน้าโมโหมาก ๆ “จู้หลินหลิน!เดี๋ยวนี้แม้แต่คำพูดของย่าแกก็ไม่ฟังแล้วหรือไง!”
จู้หลินหลินกัดริมฝีปากไม่ได้พูดอะไรออกมา
หญิงชราโกรธจนตัวสั่น “ได้!จู้หลินหลิน!แกจะให้ฉันโมโหจนอึดอัดใจตายหรือยังไง!”
หวังหยุนเองก็โมโหมาก ๆ เธอไม่อยากให้จู้หลินหลินอยู่กับฉินจุนตลอดเวลา เห็นอยู่ชัด ๆ ว่ากำลังถูกตระกูลเหอสู่ขอ จะยังมาอยู่บ้านของฉินจุนได้ยังไง?
ถ้าเกิดมีใครรู้เข้า จะไม่เอาไปพูดกันให้ทั่วเหรอ?
“หลินหลิน!คุณย่าเพิ่งจะหายดี ทำไมไปทำให้ท่านโมโหขนาดนี้ ถ้าหากเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง!”
พอหวังหยุนพูดมาแบบนี้ หญิงชราก็รีบไปตามน้ำ กุมหน้าอกตัวเองพร้อมกับแกล้งทำเป็นไอขึ้นมา
“หลินหลิน!ลูกดู ลูกกะจะให้คุณย่าตายไปเลยหรือยังไง!”
ทั้งครอบครัวยืนอยู่ที่หน้าประตูต่างมองมาด้วยสายตาโมโห ราวกับว่าการที่จู้หลินหลินคบค้าสมาคมกับฉินจุน เป็นนักโทษของตระกูล
จู้หลินหลินกัดฟันเธอทนไม่ไหว หันไปมองหน้าฉินจุนด้วยดวงตาแดงก่ำ
ฉินจุนยิ้มแล้วเอ่ย “ไม่เป็นไรหรอก เธอกลับไปเถอะ รักษาตัวดี ๆ พรุ่งนี้เจอกัน”
จู้หลินหลินพยักหน้า เธอไม่มีทางทำแบบนั้นกับพี่เสี่ยวจุนแน่นอน ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เงินหรือว่าบ้าน
จู้หลินหลินเดินออกไปด้วยสีหน้าเย็นชา
ก่อนจะเดินออกไป หญิงชราหันหน้ากลับมาเอ่ย “นี่ไอ้คนแซ่ฉิน พวกฉันออกจากประตูนี้ไป นับแต่นี้เป็นต้นไปพวกเราสองตระกูลไม่มีความสัมพันธ์อะไรต่อกันอีก ต่อไปนี้แกอย่ามาทำตัวเป็นคนของตระกูลจู้อีก!”
เมื่อสักครู่หญิงชราได้ยินฉินจุนพูดว่าพรุ่งนี้เจอกัน ก็รู้สึกไม่เข้าหู
พรุ่งนี้จะมาจงมาเจออะไร?
พรุ่งนี้เราจะไปงานแถลงข่าวของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุป บริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุปเป็นคนเชิญพวกเราตระกูลจู้เองเลย
ฟังจากความหมายของฉินจุน เหมือนมันจะไปด้วย
หญิงชราต้องคุยเรื่องนี้ให้เคลียร์ ต่อไปพวกเขาจะไม่มีความสัมพันธ์อะไรต่อกันแล้ว ฉินจุนจะมาอ้างชื่อตระกูลจู้ทำเรื่องต่าง ๆ ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาพวกเขาจะซวยไปด้วย
ตัดขาดกันไปก็ดีแล้ว ไอ้ฉินจุนนี่นอกจากคฤหาสน์หลังนี้แล้ว ก็ไม่มีค่าอะไรแล้ว
ถ้าพูดถึงเรื่องมิตรไมตรี ช่วงนี้ตระกูลจู้เป็นฝ่ายช่วยเขามากกว่าเสียอีก หญิงชราคิดแบบนั้น
ฉินจุนเพียงแค่ยิ้มบาง ๆ ถือเป็นการตกลงไปในตัว
พวกเขาเดินออกมาด้วยท่าทางสง่าผ่าเผยถือดี แต่ถ้าคิดอยากจะกลับมา มันก็คงไม่ง่ายแบบนั้นแล้ว
ระหว่างทางกลับไม่มีใครพูดอะไร แม้แต่หญิงชราเอ่ยถามจู้หลินหลินก็ไม่ตอบ
ถึงแม้ว่าจู้หลินหลินจะยอมกลับมากับพวกเขา แต่ว่าในใจของเธอนั้นโกรธมาก ๆ พวกเขาทำแบบนี้กับฉินจุน ทำให้คนอื่นรู้สึกผิดหวังมาก ๆ
หญิงชราก็รู้ดีว่ามันเป็นเพราะอะไร จึงถอนหายใจเอ่ย
“หลินหลิน อย่าโทษว่าย่า ไร้ความปรานีเลยนะ แต่ว่าตอนนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อน ฉินจุนไม่มีทั้งอำนาจและอิทธิพล พวกเราเองก็ไม่มีความสามารถอะไร”
“ถ้าหากว่าตระกูลเหอไม่ได้ถูกใจหลาน หลานจะคบค้าสมาคมกับฉินจุนก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้หลานมีความเป็นไปได้ที่จะได้เป็นสะใภ้ตระกูลเหอ พวกเราต้องทำเพื่อตระกูลนะ”
จู้หลินหลินหัวเราะอย่างสมเพช “ขายหนูให้พวกเขา แล้วพวกคุณย่าก็เสวยสุขบนกองเงินกองทองน่ะเหรอคะ?”
“แก……ยัยเด็กคนนี้ ทำไมถึงพูดจาไม่น่าฟังขนาดนี้!”
จู้หลินหลินนั่งหลับตาลงบนรถ ไม่สนใจใครอีกต่อไป
……
ทางด้านตระกูลเหอ กำลังยุ่งกันชุลมุนวุ่นวาย ทุกคนกำลังช่วยกันจัดงานไม่มีใครกล้าละลเลย
แม้แต่เซี๋ยต้าหลินที่มักจะทำตัวเย่อหยิ่งอวดดีก็ยังมาช่วย นี่เป็นอะไรที่เปิดหูเปิดตาทุกคนจริง ๆ ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน
เซี๋ยต้าหลินนอกจากโอบเอวสาว เล่นโทรศัพท์ วัน ๆ ก็ไม่ทำอะไร เคยเห็นเขาทำงานที่ไหนกัน?
“นายน้อยเซี๋ยครับ ท่านพักก่อนไหมครับ ให้ผมทำเอง?” ชายหนุ่มคนหนึ่งทำทีเข้าไปประจบ
เซี๋ยต้าหลิน “ไสหัวไปไกล ๆ ฉันจะทำของฉันเอง พวกแกมันไม่ได้เรื่อง ถ้าหากละเลยลูกพี่ของฉันขึ้นมา พวกแกรับผิดชอบไม่ไหวแน่!”