ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 26 ผมจะเป็นหมอตี๋ให้กับคุณผู้ชายฉิน

คำพูดไม่กี่ประโยคของคนไม่กี่คน ก็ทำให้ฉินจุนกลายเป็นอยู่ในฐานะที่ต้องทำตัวนอบน้อม

ราวกับค่งฝานหลินเป็นอาจารย์ที่อยู่ขั้นบน และฉินจุนก็เป็นนักเรียนที่ก้มหมอบอยู่กับพื้นต้องการรับคำสั่งสอนอย่างไรอย่างนั้น

ฉินจุนหัวเราะเย็นๆเสียงหนึ่ง “ขอให้คุณสอน? ความผิดปกติของคุณก็ยังรักษาเองไม่หาย แล้วยังจะสามารถสั่งสอนคนอื่น?”

สิ้นเสียงคำพูดลง สีหน้าของค่งฝานหลินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“หมายความว่ายังไง คุณบอกว่าผมผิดปกติ?”

จินซานหลงเองก็หัวเราะเสียงเย็นขึ้นมา “คุยโวโอ้อวดจริงๆเลยนะ ในมณฑลของพวกเราหมอเทวดาค่งได้รับฉายาว่าหมอค่งปราชญ์ทางการแพทย์เชียวนะ คุณกลับกล้าพูดว่าหมอเทวดาค่งผิดปกติ ผมดูท่าว่าคุณบ้าไปแล้วหรือเปล่า!”

แม้จะพูดว่าผู้เป็นหมอไม่สามารถรักษาให้ตัวเองได้ แต่นั่นก็เป็นคำพูดเก่าๆไปแล้ว เงื่อนไขการรักษาในปัจจุบันนี้ก็ก้าวหน้าขนาดนี้แล้ว เพียงแค่หมอมีทักษะทางการแพทย์ ตรวจโรคให้ตนเองก็ไม่มีปัญหา ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่ยอดเยี่ยมอย่างหมอเทวดาค่ง จะมีโรคได้ยังไงกัน?

ฉินจุนมองขึ้นบนลงล่างตรวจสอบค่งฝานหลินทีหนึ่ง หลังจากนั้นก็พูดว่า

“โรคความผิดปกติทางทวารทั้งร่าง ติดต่อในผู้หญิงไม่ติดต่อผู้ชาย ในร่างกายผู้ชายไม่ได้แสดงอาการอะไร ไม่แตกต่างอะไรกับคนร่างกายแข็งแรง แต่บนร่างกายของผู้หญิงก็ไม่แน่ ไม่ทราบว่าหมอเทวดาค่งท่านนี้มีลูกสาวหรือไม่…”

ได้ยินคำพูดแล้ว สีหน้าของค่งฝานหลินก็เปลี่ยนไปอย่างมาก

“คุณรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง!”

ทักษะทางการแพทย์ที่ลึกล้ำเช่นนี้ ขนาดเขาก็ยังต้องค้นหาในหนังสือโบราณจำนวนมาก ผ่านมาการทำความเข้าใจมาหลายวิธี ถึงจะสามารถฝืนทนเดาออกมาได้

แต่เพราะไม่มีประสบการณ์การทดสอบทางการแพทย์ ดังนั้นทฤษฎีข้อนี้จึงไม่สามารถเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวางได้

แต่ฉินจุน แค่คำพูดไม่กี่คำก็สรุปรวบยอดผลลัพธ์ทั้งหมดที่เขาค้นคว้ามาได้ พูดได้ถูกต้องและได้ใจความอย่างที่สุด กระทั่งทำให้เขานึกออกได้อย่างฉับพลัน

โดยเฉพาะประโยคนั้นที่บอกว่าติดต่อในผู้หญิงไม่ติดต่อในผู้ชาย ก็ได้คลายความสงสัยในตลอดหลายปีของเขา

แต่… เขายังอายุน้อยเช่นนี้ ทำไมถึงได้รู้เรื่องพวกนี้ได้?

ฉินจุนไม่ได้ตอบอะไรไป ทักษะทางการแพทย์ของเขาล้วนร่ำเรียนมากับอาจารย์ ในส่วนที่ว่าอาจารย์ร่ำเรียนกับใครนั้น เขาก็ไม่สามารถรู้ได้

อารมณ์ของค่งฝานหลินเปลี่ยนไปเป็นมีความตื่นเต้นอยู่บ้าง สายตาจับจ้องอยู่ที่ฉินจุนอย่างเอาเป็นเอาตาย ไม่วินาทีหลังจากนั้น เขาก็พูดว่า

“ผมมีลูกชายหนึ่งคนลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายร่างกายแข็งแรง ไม่มีอาการของโรคอะไร”

“แต่ลูกสาว… ปีนี้อายุสิบหกปี มักจะปวดหัวหน้ามืดตาลายอยู่บ่อยๆ อัมพาตไปครึ่งร่าง มีหลายครั้งตอนที่ข้ามถนนเท้าขวาพลันผิดปกติ ล้มลงไปนอนอยู่บนพื้น เกือบจะเกิดเป็นอุบัติเหตุครั้งใหญ่”

ฉินจุนพูดพึมพำว่า “อายุสิบหกปี… ยังรักษาได้อยู่”

ได้ยินคำพูดของฉินจุน สีหน้าของค่งฝานหลินก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ในใจราวกับเกิดคลื่นที่โหมซัดสาดอย่างบ้าคลั่งอย่างไรอย่างนั้น ยินดีอย่างที่สุด

เดินขึ้นหน้าก้าวหนึ่ง โค้งเอวก้มลง แสดงความเคารพอยู่ตรงหน้าของฉินจุนอย่างนอบน้อม

“ขอให้คุณผู้ชายสอนสั่งผมด้วย!”

นี่…

การกระทำของค่งฝานหลิน ทำให้ทุกคนงงงันกันไป

ไม่ใช่พูดไว้อย่างดีหรือว่าจะให้ค่งฝานหลินสั่งสอนฉินจุนน่ะ ทำไมครู่เดียว ก็เปลี่ยนเป็นขอให้สั่งสอนแล้ว?

ทั้งสองคนเพียงแค่ยืนอยู่ตรงนี้พูดคุยกันไม่กี่ประโยค พูดคำพวกโรคภัยสักพักหนึ่ง ผลสุดท้ายค่งฝานหลินก็แพ้แล้ว? โค้งเอวขอให้สั่งสอน?

จินซานหลงเองก็มองอย่างโง่งมแล้ว แน่นอนว่าเขาไม่รู้ถึงทักษะทางการแพทย์ระดับสูงที่สามารถมองเพียงครั้งเดียวก็มองออกว่าค่งฝานหลินมีโรคเกี่ยวกับความผิดปกติทางทวารทั้งร่าง เขาเพียงรู้แค่ว่า ค่งฝานหลินเป็นหมอเทวดา เวลานี้ควรจะทำให้ฉินจุนอับอายขายหน้าอย่างหนักถึงจะถูก!

“หมอเทวดาค่ง! นี่คุณทำอะไรน่ะ เขาก็เป็นแค่เด็กธรรมดาคนหนึ่ง ทำไมคุณถึงโค้งให้เขา?”

ค่งฝานหลินขมวดคิ้ว “ความรู้ไม่มีขอบเขต ผู้ที่บรรลุเข้าใจได้ก่อนก็สมควรนับถือ ถ้าคุณผู้ชายฉินสามารถรักษาโรคของลูกสาวผมให้หายดีได้จริงๆ อย่าพูดแค่โค้งตัวเลย แม้คำนับกราบเป็นอาจารย์ ผมก็ไม่มีปฏิเสธเป็นอื่น!”

ฉินจุนโบกมือ หัวเราะเรียบๆ

“กราบอาจารย์นั้นก็ช่างมันเถอะ คุณยังขาดความฉลาดมากเกินไป”

ทุกคน “…”

คำพูดนี้เองก็โอ้อวดเกินไปหรือเปล่า?

หมอเทวดาค่งขาดความฉลาดมากเกินไป?

ความหมายก็คือหมอเทวดาค่งที่เป็นคนเก่งกาจเช่นนี้ กราบคุณเป็นอาจารย์ ก็ยังมีคุณสมบัติไม่พอใช่ไหม?

เย่อหยิ่ง เย่อหยิ่งมากเกินไปแล้ว!

หมอเทวดาค่งมีฐานะอะไร?

ปราชญ์ทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงในมณฑล แม้ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงมากก็ยังมาขอให้หมอเทวดาค่งสอนสั่งทักษะทางการแพทย์ ฉินจุนคุยโวโอ้อวดเช่นนี้ ก็เหมือนกับการหาเรื่องตายชัดๆ!

เห็นว่าฉินจุนทำให้ทุกคนเกิดความสงสัย จู้ซานเตาก็พูดว่า

“ผมเคยบอกไว้แล้วว่า ทักษะทางการแพทย์ของเสี่ยวจุนเก่งกาจยอดเยี่ยม ไม่กี่วันก่อนผมนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ผู้อำนวยการหลิวของโรงพยาบาลเพื่อประชาชนก็ยังบอกว่าคงจะช่วยผมกลับมาไม่ได้แล้ว เสี่ยวจุนใช้เวลาไม่กี่นาที ก็ดึงผมกลับมาจากประตูผีมาได้”

“พวกคุณคิดว่า ผมกำลังชมเขาอย่างไร้สมอง?”

คำพูดของจู้ซานเตา ทำให้สีหน้าท่าทางของทุกคนเปลี่ยนเล็กน้อย

แน่นอนว่าคุณปู่จู้ไม่มีทางชมเขาอย่างไร้สมอง ก่อนหน้าพวกเขาเองก็ได้ยินแล้วว่าคุณปู่อาการกำเริบด่วนต้องไปโรงพยาบาล แต่วันนั้นเห็นแล้วกลับไม่ได้มีอาการป่วย ยังคิดว่าเรื่องราวไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น

วันนี้มาพูดเช่นนี้ พวกเขาถึงจะรู้ ที่แท้แล้วคุณปู่จู้ถูกคนดึงกลับมาจากประตูผี?

ฉินจุนคนนี้ยังเป็นเด็กหนุ่มเช่นนี้ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้จริงๆหรือ?

หมอเทวดาค่งได้ยินคำพูดแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความมั่นใจว่าฉินจุนจะสามารถรักษาโรคของลูกสาวเขาหายได้จริงๆ จึงโค้งตัวอีกครั้ง

“ขอให้คุณผู้ชายฉินสอนผมด้วย!”

ท่าทางของค่งฝานหลินคนนี้ก็กลับกลายเป็นถ่อมตัวและนอบน้อม

“ผมจับจับชีพจรก่อนแล้วกัน”

ฉินจุนขึ้นหน้าไป สองมือจับข้อมือสองข้างของค่งฝานหลินเอาไว้

และไม่เหมือนกับการใช้นิ้วมือสามนิ้ววัดชีพจรทั่วๆไป เพียงแค่กำรอบๆเท่านั้น

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ก็ปล่อยออก

“ยังดี อาการยังไม่ได้หนักมาก ดูจากชีพจรของคุณ น่าจะดื่มยาต้มที่มีส่วนผสมของจินวูหรือก็คือวิหคสุริยันอยู่เล็กน้อยตลอดทั้งปี แม้จะพูดว่าไม่มีผลการรักษาที่พิเศษอะไร แต่ก็สามารถควบคุมอาการของโรคได้”

“ถ้ามีเวลาก็ให้ลูกสาวของคุณมาได้ ผมจะตรวจชีพจรของเธอเอง ถึงจะสามารถจ่ายยาให้เธอได้”

สองประโยคของฉินจุน ทำให้ค่งฝานหลินตะลึงไปอีกครั้ง

มือนั้นเพิ่งจะกุมเพื่อจับชีพจร ก็ทำให้เขายินดีถึงขีดสุด

แล้วก็ เพียงแค่อาศัยการจับชีพจร ก็สามารถรู้ได้ว่าเขาดื่มยาต้มจินวูอยู่ตลอดทั้งปี ผู้เชี่ยวชาญระดับสูง นี่คือผู้เชี่ยวชาญระดับสูงจริงๆ!

คิดไม่ถึงว่า เวลานี้ยังมีหมอเทวดาที่อายุน้อยขนาดนี้อีก!

โรคของลูกสาวมีความหวังแล้ว!

ค่งฝานหลินทำความเคารพอีกครั้ง พูดอย่างนอบน้อมนับถือ

“คุณผู้ชายฉิน ผมนี่โง่เง่าอย่างแท้จริง ไม่กล้ากราบเป็นอาจารย์ แต่หวังว่าคุณผู้ชายจะรับเอาไว้ ทำงานเบ็ดเตล็ดอยู่ข้างคุณ เป็นหมอตี๋”

คำพูดของค่งฝานหลิน ทำให้ทุกคนช็อก

ค่งฝานหลินปราชญ์ทางการแพทย์ของทั้งมณฑล กลับต้องการเป็นหมอตี๋ให้กับเด็กหนุ่มทั่วไปคนหนึ่ง? ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป ใครจะกล้าเชื่อ?

ฉินจุนคิด แล้วก็พูดว่า

“ได้ อีกสักไม่กี่วัน ผมกำลังเตรียมตัวเปิดโรงพยาบาล ถึงตอนนั้นคุณก็เข้ามาแล้วกัน”

สีหน้าค่งฝานหลินยินดีมาก

“ได้ ขอบคุณคุณผู้ชายฉินที่รับเอาไว้!”

จินซานหลงก็มองจนงงงันไปหมดแล้ว ขมวดคิ้วเดินออกมา

“หมอเทวดาค่ง ทำไมคุณถึงได้… คุณเป็นถึงหมอประจำตระกูลจินของผมนะ คุณทำอย่างนี้ ไม่ใช่ทำให้ตระกูลจินของผมอับอายหรือ!”

ยังไงก็เป็นคนตระกูลจินของพวกเขา เห็นอยู่ชัดๆว่าให้เขาไปทำให้คนอื่นอับอาย ผลสุดท้ายกลับกลายเป็นคุกเข่าให้!

ค่งฝานหลินหันหน้ากลับมา มองจินซานหลงอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า

“ผมเป็นหมอประจำตระกูลของพวกคุณ ไม่ใช่คนรับใช้ของคุณ คุณมีสิทธิ์อะไรมาด่าผม?”

“แล้วก็ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมก็ไม่ใช่หมอประจำตระกูลจินของพวกคุณอีกแล้ว หลังจากนี้ ผมเป็นหมอตี๋ของคุณผู้ชายฉิน”

สีหน้าของจินซานหลงเปลี่ยนไป “คุณ! หมอเทวดาค่ง! คุณคิดดีแล้ว?”

ค่งฝานหลินเหล่มองเขาทีหนึ่ง และไม่ได้ตอบไป แต่ความหมายก็ชัดเจนมากแล้ว

สีหน้าของจินซานหลงเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวคล้ำ เปลี่ยนไปมาอย่างน่าตะลึงอยู่หลายรอบ ดูตลกเป็นอย่างมาก

กำหมัดแน่นอย่างเอาเป็นเอาตาย ขบฟันกัดดังกรอดๆ

“คนแซ่ฉิน! ฝากไว้ก่อนเถอะ! เรื่องของวันนี้ ตระกูลจินของผมไม่จบกับคุณง่ายๆแน่!”

ฉินจุนแหกหน้าเขาสองครั้งติดกัน ทำให้จินซานหลงไม่รู้ว่าจะเก็บหน้าไว้ที่ไหน เขาไม่มีหน้าจะอยู่ที่นี่ต่อไปอีกแล้ว

บอกลากับจู้ซานเตาทีหนึ่ง แล้วจากไปอย่างโกรธจัด

จู้ซานเตากังวลเล็กน้อย

“อำนาจของตระกูลจินในมณฑลนี้ไม่ธรรมดา ขัดแย้งกับพวกเขาแล้ว วันต่อๆไปก็เกรงว่าจะผ่านไปได้ไม่ดีนักนะ”

ฉินจุนหัวเราะเรียบๆ “คุณปู่จู้ไม่จำเป็นต้องกังวล คนชั่วที่ทำอะไรไม่ได้แบบนี้ ผมไม่เคยวางไว้ในสายตามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset