“อื้ม”
ซูเหวินฉียังคงดูเย็นชาเมื่ออยู่หน้ากล้อง รักษาบุคลิกที่เท่ของเธอ ไม่ว่าเธอจะปฏิบัติต่อใครก็ตาม
ระหว่างทาง ฉินจุนยังแสร้งทำเป็นไม่รู้จักกัน ทั้งสองเป็นเหมือนคนแปลกหน้า และแลกเปลี่ยนคำพูดกันเป็นครั้งคราว
ผู้ชมด้านข้างและพนักงานอิจฉาเป็นอย่างมาก สามารถร่วมงานกับซูเหวินฉีได้ช่างโชคดีจริง ๆ ผู้สัญจรไปมาน่าจะมีความสุข
รายการเรียลลิตี้โชว์เป็นเกมที่สร้างโดยคนดังสองสามคน ซึ่งออกหลังจากตัดต่อแล้ว พวกมันเป็นรายการวาไรตี้ที่ได้รับความนิยมมาก
รายการนี้มีชื่อว่า Running Boy และได้รับเชิญชื่อใหญ่ ๆ มากมาย ซึ่งทั้งหมดอยู่ในระดับเดียวกับซูเหวินฉี
มีลิงก์ที่เชิญคู่หูที่สัญจรไปมาเพื่อเล่นเกมให้จบ ซูเหวินฉียังคงคิดว่าจะหาใครเจอ แต่เธอเห็นฉินจุน ซึ่งมันเป็นเรื่องบังเอิญ
เมื่อไปถึงสถานที่จัดการแข่งขัน เธอเห็นว่ามีสี่หรือห้าคู่รออยู่ที่นั่นแล้ว
พิธีกรมาสัมภาษณ์ฉินจุน
“สุภาพบุรุษท่านนี้ คุณโชคดีมากที่ได้รับเลือกจากซูเหวินฉี ถามหน่อยครับคุณเป็นแฟนคลับของควีนซูหรือไม่?”
ฉินจุนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เอ่อ … อย่างนั้นก็ได้ครับ”
ด้วยดารามากมาย เขารู้จักซูเหวินฉีคนเดียว ดังนั้นจึงแทบจะเรียกได้ว่าเป็นแฟนคลับไม่ได้
ซูเหวินฉีอยากจะหัวเราะเยาะ แต่ก็ยังรั้งหน้ากล้องไว้
“เอาล่ะ ลิงค์แรกของเราคือการทดสอบความเข้าใจโดยปริยาย มาดูกันว่าดารา และผู้สัญจรไปมาของเรามีความเข้าใจโดยปริยายหรือไม่!”
เนื้อหาของเกมค่อนข้างง่าย ท้ายที่สุดแล้ว ผู้สัญจรไปมามีส่วนร่วม และกลุ่มโปรแกรมจะไม่ทำให้ผู้ที่ผ่านไปมาอับอาย
เนื้อหาน่าจะอยู่ที่ว่ามีคนถามคำถาม และคนสองคนเขียนคำตอบพร้อม ๆ กัน ถ้าคำตอบเหมือนกันจะถือเป็นคะแนน
ฉินจุนและซูเหวินฉีหยิบกระดานคำถามขึ้นมา และยืนเผชิญหน้ากัน
พิธีกรกล่าวว่า “คำถามแรก อาหารประเภทไหนที่ซูเหวินฉีชอบกิน โปรดตอบด้วยครับ!”
ในไม่ช้า ทั้งคู่ก็เขียนคำตอบ และยกกระดานขึ้น
“หลัวซือเฟิ่น”
“หลัวซือเฟิ่น”
คำตอบของคนสองคนนั้นสอดคล้องกันมาก และพวกเขาต่างก็เป็นหลัวซือเฟิ่น
พิธีกรยิ้ม “สุภาพบุรุษคนนี้เพิ่งถามว่าคุณเป็นแฟนคลับของควีนซูหรือไม่ คุณพูดอย่างไม่เต็มใจ ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น คุณไม่ลังเลเลยที่จะเขียนอาหารโปรดของควีนซู เห็นได้ชัดว่าคุณเป็นแฟนตัวยงของควีนซูนะครับ”
ฉินจุนยิ้มจาง ๆ และไม่พูดอะไร ซูเหวินฉีชอบกินหลัวซือเฟิ่น แฟน ๆ ส่วนใหญ่รู้ดี เพราะเว่ยป๋อของซูเหวินฉีมักจะอัปเดตเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตราบใดที่คุณติดตามแฟน ๆ เป็นระยะเวลาหนึ่ง คุณจะรู้ว่าซูเหวินฉีมีชื่อเสียงในการชิมอาหาร
แต่ฉินจุนไม่ได้รู้จากโซเชียล เขากับซูเหวินฉีเคยไปตลาดกลางคืนแผงขายอาหารมาหลายครั้งแล้ว และเขารู้ว่าเธอมีรสนิยมเล็กน้อย แต่นี่อยู่หน้ากล้อง ไม่สะดวกแน่นอนที่จะพูดแบบนี้ …
“คำถามที่สอง สีโปรดของซูเหวินฉีคืออะไร?”
ทั้งสองเขียนไวน์แดงบนกระดานดำตอบโดยไม่ลังเล
เมื่อเห็นคำตอบ พิธีกรก็แปลกใจอีกครั้ง มองไปที่ฉินจุนด้วยสีหน้าตลก ๆ แล้วพูดว่า
“คุณไม่ใช่แฟนคลับของควีนซูเหรอ? แฟน ๆ หลายคนไม่สามารถตอบสีที่ซูเหวินฉีชอบได้ คุณตอบอย่างมีความสุขจริง ๆ แม้ว่าจะผมจะเป็นแฟนคลับที่ซื่อสัตย์ของควีนซูเป็นเวลาห้าปี ผมก็ไม่รู้ว่าสีอะไรควีนซูชอบ คุณนี่ไม่สุดยอดเกินไปหน่อยเหรอ?”
“อะแฮ่ม …” ฉินจุนอายเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่าซูเหวินฉีชอบสีอะไร แต่ครั้งสุดท้ายที่บ้านของเขา ซูเหวินฉีดื่มมากเกินไป ฉินจุนบังเอิญเห็นว่าชุดชั้นในของเธอเป็นสีเไวน์แดง เขาก็เลยคาดเดาไปเฉย ๆ
พิธีกรเหลือบไปที่ซูเหวินฉี ทันใดนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้ม
“พี่ซู ทำไมหน้าแดงล่ะ?”
แน่นอนว่าซูเหวินฉีก็รู้ว่าฉินจุนรู้คำตอบอย่างไร เธอจึงหน้าแดงอย่างเป็นธรรมชาติ
ผู้เด็กคนนี้ ใส่ชุดชั้นในสีอะไรก็จะชอบสีนั้นเหรอ! มั่วซั่วจริง ๆ!
หลังจากผ่านไปสองรอบ คำตอบในหลาย ๆ กลุ่มก็เหมือนกัน เพราะเป็นทั้งดาราและคนสัญจรร่วมกัน แน่นอนว่าหลายคนรู้ดีว่าความชอบของดาราเหล่านี้คืออะไร
ชายหนุ่มข้าง ๆ เขาที่มีท่าทีอ้อนแอ้นเหมือนผู้หญิง เขาเหลือบไปที่ฉินจุน และพูดด้วยความเหยียดหยาม
“เหวินฉีมีแฟน ๆ มากมาย เกมนี้ค่อนข้างไม่ยุติธรรม”
เขาพูดเหมือนล้อเล่น แต่มีนัยน์ตาเป็นศัตรู เมื่อเขามองไปที่ฉินจุน
ฉินจุนก็รู้จักดาราชายคนนี้เช่นกัน หลังจากที่ได้พบกับซูเหวินฉี เขาก็ให้ความสนใจกับวงการบันเทิงมากขึ้น ผู้ชายคนนี้ชื่อ ลู่ฟาน ซึ่งเป็นที่นิยม และเป็นดารายอดนิยม
ทักษะการร้องเพลงก็ธรรมดา ทักษะการแสดงก็แย่ แต่เขากลับมีหน้าตาที่สวยงาม ภายใต้การสนับสนุนจากบริษัทนายหน้า ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ในแง่ของจำนวนแฟน ๆ นั้นสูงกว่าซูเหวินฉี แต่ความเป็นจริงมันเป็นยังไงก็ไม่มีใครรู้ได้
ฉินจุนหันศีรษะและมองหน้ากันกับลู่ฟาน จากสายตาของลู่ฟาน เขาเห็นคำใบ้ของความเย็นชา และคำเตือน
มีข่าวลือบางอย่างเกี่ยวกับลู่ฟานบนอินเทอร์เน็ต โดยบอกว่าลู่ฟานและซูเหวินฉีกำลังดูใจกัน และบางคนก็บอกว่าพวกเขากำลังออกเดตกันจริง ๆ แม้ว่าพวกเขาจะโปรโมตรายการวาไรตี้นี้ทั้งหมด แต่สื่อจำนวนมากกล่าวว่าพวกเขามี จมูก ตา และมีหลักฐานเยอะ แสดงให้เห็นว่าทั้งคู่ดูออกเดตกันจริง ๆ
ดังนั้นทุกคนจึงตั้งหน้าตั้งตารอรายการวาไรตี้นี้จนเกือบสุดขั้ว ส่วนใหญ่ร้องเพลงหรือปาร์ตี้ในวันธรรมดา แต่ในรายการเรียลลิตี้ ต้องมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคน
ตราบใดที่คุณอยู่หน้าจอเดียวกัน คุณจะเห็นว่าคุณกำลังมีความรักในชั่วพริบตาหรือไม่
ฉินจุนเพิกเฉยต่อคำเตือนของลู่ฟาน
พิธีกรถือไพ่ในมือแล้วพูดขึ้นทันทีว่า “คำถามสองข้อในตอนนี้ง่ายเกินไปที่จะถือว่าเป็นการทดสอบโดยปริยาย ต่อไป เรามาเปลี่ยนกันเถอะ”
“ตัวเอกของคำถามต่อไปนี้ คือผู้สัญจรของเรา!”
ทันใดนั้น ทุกคนตะลึง เล่นแบบนี้จะสนุกเหรอ ผู้สัญจรเป็นใครไม่มีใครรู้จัก เป็นคนที่ดึงมาร่วมงานจากข้างถนน ความเคยชินในการใช้ชีวิตของพวกเขาใครจะไปรู้ นี่มันเป็นการเดาชัด ๆ
“เอาละ คำถามแรก อาหารโปรดของเพื่อนที่เดินผ่านไปมาคนนี้คืออะไร ช่วยตอบที!”
ทันใดนั้น ทุกคนก็เริ่มเข้าสู่กระดานคำถาม ยังไงก็ไม่รู้ ก็แค่เดาไป
ฉินจุนและซูเหวินฉีปรากฏตัวในบอร์ดพร้อมกัน ซึ่งกล่าวว่า “เนื้อแกะเสียบไม้ย่าง”
ทันใดนั้น ทุกคนก็อุทานออกมา และพิธีกรก็ผงะและปรบมืออีกครั้งแล้วครั้งเล่า
“ว้าว พี่ซูก็คือพี่ซู โชคดีมาก เดาถูกด้วย”
ซูเหวินฉีอยากจะหัวเราะ เพราะเธอกินกับฉินจุนมากกว่าหนึ่งครั้ง และแน่นอนว่าเธอรู้นิสัยการกินของฉินจุนดี
พิธีกรยิ้มแล้วพูดว่า “ตอนแรกคิดว่าพี่ซูจะเดา แต่ยังไงเนื้อแกะเสียบไม่ย่างของเมืองตงไห่ก็มีชื่อเสียงมาก คนที่ชอบกินเนื้อแกะเสียบไม้ย่างก็เยอะมากเช่นกัน แต่ไม่บอกไม่ได้ว่าพี่ซูโชคดีมาก ตอนนี้เดาคำถามสุดท้าย ผลลัพธ์คือตบถูก นั่นก็เอามงกุฎไปเลย”
พิธีกรถามว่า “ขอโทษครับ วิวทิวทัศน์ที่ผู้สัญจรชอบมากที่สุดคือที่ไหน?”
ทุกคนต่างตกตะลึง และเริ่มเขียนลายเส้น
ทะเลสาบตะวันตก กำแพงเมืองจีน เทียนอันเหมิน และจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ ขึ้นอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า อย่างไรก็ตาม การคาดเดานั้นผิด
“เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว โปรดเปิดกระดานคำถาม!”
ฉินจุนและซูเหวินฉีเปิดกระดานคำถามพร้อมกัน และเขียนคำว่าเนินเขาชิงเหมยไว้
