เรื่องมันแปลกเกินไปแล้วใช่มั้ย?
เธอทำให้ลู่ฟานขุ่นเคือง และ Aimei youpin พยายามอย่างดีที่สุดที่จะปราบปรามเธอ มันเกือบจะเป็นสถานการณ์ที่ตายได้ ในกรณีนี้ แม้แต่ซูเหวินฉีก็ไม่สามารถยืนขึ้นได้
แต่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญนี้ หลิ่วชิงชิงตกลงมาจากฟากฟ้า ผู้บริหารระดับสูงในประเทศจีน ซึ่งร่ำรวยที่สุดในจีน และแม้แต่ผู้ประกอบการหญิงยอดเยี่ยมที่กำลังจะไปถึงชายที่ร่ำรวยที่สุดคนแรก ก็ช่วยเธอด้วยวิธีนี้
จู่ ๆ ซูเหวินฉีก็นึกถึงสิ่งที่ฉินจุนพูดเมื่อวานนี้ เขาบอกว่าสิ่งต่าง ๆ จะได้รับการแก้ไขเสมอ
ซูเหวินฉีไม่ได้จริงจังกับมันมากนักในตอนนั้น เธอแค่คิดว่ามันเป็นประโยคปลอบโยน แต่ตอนนี้ พอฉันคิดดูแล้ว ประโยคนี้ดูมีความหมายมาก เป็นไปได้มั้ยที่ฉินจุนจะช่วย?
ไม่หรอก เขารู้จักผู้ประกอบการที่มีอำนาจแบบนี้ได้ยังไง?
แต่ทำไมก็รู้สึกว่าแม้ว่าหลิ่วชิงชิงกำลังช่วยเธอ แต่ยังมีร่องรอยของความตั้งใจอยู่ล่ะ?
หลังจากส่งหลิ่วชิงชิงออกไปแล้ว ซูเหวินฉีก็ขึ้นลิฟต์กลับชั้นบน
เมื่อฉันกลับมาครั้งนี้ สายตาของทุกคนมองไปที่ซูเหวินฉีเปลี่ยนไปอย่างมาก
แม้แต่คนจำนวนมากก็ไม่กล้ามองตรงมาที่พี่ซู ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าพี่ซูกำลังจะจบ ไม่มีใครยืนขึ้นพูดแทนเธอ แม้หลังจากถูกเฉิงหย่าเย้ยหยันมาก ตอนนี้พวกเขาอายอย่างเป็นธรรมชาติ ที่จะเลียหน้าของเธอ และกล่าวสวัสดี
ซูเหวินฉีก็เพิกเฉยต่อคนเหล่านี้ มิตรภาพในวงการบันเทิงนั้นไม่น่าเชื่อถือ และไม่ต้องพูดถึงว่าคนเหล่านี้ดูถูก
หลังจากที่ซูเหวินฉีกลับมา ทุกคนกลับไปทำงาน และทำงานอย่างตรงไปตรงมา ราวกับว่าเช้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ใบหน้าของเฉิงหย่าน่าเกลียดมาก เธอกัดฟันและเดินไปหาซูเหวินฉี ก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า
“พี่ซู ไม่ต้องสนใจที่ฉันพูดก่อนหน้านี้นะ มันเป็นความผิดของฉันเอง”
ไม่มีทาง เฉิงหย่าไม่ต้องการก้มศีรษะ แต่ถ้าเธอไม่ก้มศีรษะ เธอก็จะไม่ลำบากในอนาคต
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า รายการ Running Boy จะขอให้เธอเป็นแขกรับเชิญ นี่เป็นโอกาสที่เธอใช้ทรัพยากรจำนวนมากเพื่อเอาชนะ หากซูเหวินฉีโกรธเคืองมันจะถึงตาย เธอเกรงว่าโอกาสนี้จะหายไป
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูเหวินฉีก็เยาะเย้ย “เงยหน้าขึ้น”
เฉิงหย่าเงยหน้าขึ้นและยิ้ม รอยยิ้มของเธอแข็งทื่อ น่าเกลียดและน่าสมเพชเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้น ซูเหวินฉีก็ตบเธอ
เพียงพริบตา ลายนิ้วมือทั้งห้าก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าสีขาวของเฉิงหย่า
ที่นี่คือห้องประชุม หน้าบริษัทมีพนักงานและศิลปินหลายร้อยคน เสียงตบนี้คมชัดจริง ๆ
เฉิงหย่าถูกทุบตี กำหมัดและกัดฟัน แต่เธอไม่กล้าขัดขืน หันศีรษะไปครึ่งหนึ่งใบหน้าแดงระเรื่อ แต่เธอยังคงกัดหนังศีรษะและยิ้ม
“พี่ซูสั่งสอนถึงจะถูก”
ซูเหวินฉีเยาะเย้ย “ส่องกระจกเพื่อไปดูว่าตัวเองน่าดูถูกแค่ไหน”
ซูเหวินฉีอยู่ในโลกนี้มาหลายปีแล้ว จากความมืดมิด ไปจนถึงนักร้องชาวเอเชีย เธอไม่มีวันที่จะถูกคนอื่นรังแก
การตบครั้งนี้เพื่อสั่งสอนเฉิงหย่า และเตือนทุกคนด้วย
แม้ว่าซูเหวินฉีจะล้มลง แต่ก็ไม่มีใครสามารถเหยียบมันได้
ประธานสวี่ยังยิ้ม และพูดอย่างสุภาพ
“อย่าโกรธเลยเหวินฉี วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดคือเราจะติดต่อกับเครื่องสำอางแบรนด์เฉิงยวิน เพื่อเริ่มดำเนินการทันที และใช้ประโยชน์จากความนิยมนี้ เพื่อทำให้คนตื่นเต้น และมันจะเป็นการโปรโมตรายการวาไรตี้นี้ไปในตัว
เดิมทีนายสวี่เป็นนกสองหัว และมีความสัมพันธ์ที่น่าสนใจกับซูเหวินฉี และเธอก็ไม่สนใจเรื่องนี้เช่นกัน
หลังจากการดำเนินงานของบริษัทนายหน้า ข่าวในเว่ยป๋อก็ล้นหลามในทันที
‘หลังจากที่ซูเหวินฉีถูกขายออกไป เธอยินดีรับการสนับสนุนเครื่องสำอางแบรนด์เฉิงยวิน
’
‘เครื่องสำอางแบรนด์เฉิงยวิน สปอนเซอร์มือใหม่สุดพิเศษของรายกสร Running Boy’
“ซูเหวินฉี ถูกถอนออกจากสปอนเซอร์หลัก และมีสปอนเซอร์รายใหม่ ซึ่งต้องสงสัยได้เลยว่ามันโฆษณาเกินจริง”
‘…’
มีหลายสิ่งในเว่ยเป๋อ ผู้เล่นรายใหญ่หลายคนในวงการบันเทิงจะรู้หลังจากการวิเคราะห์ การถอนเป็นข่าวเชิงลบ จะได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางอย่างแน่นอน บริษัทนายหน้าจะออกอากาศข่าวนี้ก่อนเพื่อให้ทุกคนทราบ หลังจากจ่ายเงินให้ความสนใจ ก็จะคิดหาทางแก้ไข
ด้วยวิธีนี้ เมืองนี้เต็มไปด้วยทั้งขึ้นและลง และการค้นหาที่ร้อนแรงหลายครั้งในสีขาว ถือได้ว่าเป็นวิธีการเก็งกำไร
ทุกคนเลยไม่ได้รู้สึกอะไร ฉันคิดว่าอาจเป็นเพราะเครื่องสำอางแบรนด์เฉิงยวิน ได้ตัดสินใจเป็นสปอนเซอร์ไปแล้ว
แต่ทุกคนไม่เข้าใจสถานการณ์จริง และได้แต่คร่ำครวญว่าซูเหวินฉีอาการสุดยอดขึ้นเรื่อย ๆ และเธอก็สามารถได้เป็นพรีเซนเตอร์เครื่องสำอางแบรนด์เฉิงยวิน
เรียกได้ว่าเครื่องสำอางแบรนด์เฉิงยวิน เป็นแบรนด์อันดับ 1 ของจีน เช่นเดียวกับเหมาไถ ที่เป็นเหล้าแนวหน้าของจีน การเป็นพรีเซนเตอร์ดังกล่าวมักยากที่จะชนะ
คุณเคยเห็นเหมาไถ และขอให้ใครสักคนเป็นพรีเซนเตอร์ตอนไหนบ้าง
ซูเหวินฉีสามารถได้เป็นพรีเซนเตอร์นี้ ชาวเน็ตจำนวนมากจึงถอนหายใจ ควีนก็คือควีน มีทรัพยากรบุคคลเช่นนี้ช่างน่าทึ่งจริง ๆ
หลังจากที่ซูเหวินฉีจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จแล้ว เธอส่งข้อความถึงฉินจุนทันที
“เห็นข่าวเครื่องสำอางแบรนด์เฉิงยวินสนับสนุนฉันมั้ย คุณช่วยฉันใช่มั้ย?”
ฉินจุนยิ้มและตอบว่า “คุณคือราชินีแห่งสวรรค์ บางทีพวกเขาอาจคิดริเริ่มที่จะคิดถึงคุณเองก็ได้?”
ซูเหวินฉียิ้มอย่างขมขื่น คงจะดีถ้าเธอมีเสน่ห์ที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ
ไม่นาน ซูเหวินฉีก็โทรหาฉินจุนทันที หลังจากเชื่อมต่อสายแล้ว เสียงของซูเหวินฉีก็เย็นชาและไม่คุ้นเคย น่าจะมีคนอยู่ใกล้ ๆ เธอ
“เกิดอะไรขึ้น?” โดยทั่วไป ซูเหวินฉียังคงโทรมาเมื่อมีคนอยู่รอบ ๆ
ซูเหวินฉีกล่าวว่า “มีเพื่อนคนหนึ่งต้องการพบแพทย์ และดูเหมือนจะรีบร้อน ฉันแนะนำคุณไปน่ะ”
“ตกลง”
“ขอบคุณ”
ด้วยคำง่าย ๆ ไม่กี่คำ ซูเหวินฉีวางสาย จากนั้นจึงส่งข้อมูลและตำแหน่งไปที่วีแชทของฉินจุน
ฉินจุนโทรหาอีกฝ่าย หยิบกล่องยาแล้วออกเดินทาง
ที่ริมวิลล่าที่มองเห็นวิวทะเลสาบในใจกลางเมือง ฉินจุนมาที่ประตูคฤหาสน์ และกดกริ่ง
ไม่มีใครออกมาหลังจากกดสองสามครั้ง เขาจึงโทรอีกครั้ง
ต้องใช้เวลาถึงสองครั้งจึงจะมีคนรับสาย
แม้ว่าฉินจุนจะไม่พอใจเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้จริงจังกับมัน ท้ายที่สุด มีผู้ป่วยฉุกเฉินอยู่ที่บ้าน และเป็นเรื่องปกติที่จะละเลยหมอ
ไม่นานหลังจากนั้น แม่บ้านคนหนึ่งก็วิ่งออกไป พร้อมใบหน้าขอโทษ
“คุณฉินขอโทษนะครับ ผมเป็นพ่อบ้านที่นี่ เรียกผมว่าเหล่าฉวนก็ได้ครับ”
ฉินจุนพยักหน้า และไม่สนใจ และตามพ่อบ้านเข้าไปในห้อง
มีคนมากมายยืนอยู่ รอบเตียงผู้ป่วย บนเตียงมีเด็กสาว สีหน้าซีดเซียว นอนอยู่บนเตียงหมดสติ
ชายวัยกลางคนยืนอยู่ข้างเธอ ด้วยสีหน้ากังวลใจ
“อาเหยียน! อาเหยียน!”
ก่อนที่จะมา ฉินจุนก็รู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับคนไข้รายนี้ด้วย หญิงสาวชื่ออาเหยียน ซึ่งเป็นดาราหญิงในวงการบันเทิง เธอมีความสนิทสนมกับซูเหวินฉีบ้าง แต่ไม่ลึกซึ้ง ครั้งนี้การแนะนำของซูเหวินฉีน่าจะเป็นการขอร้องให้เธอแนะนำใครสักคนมา
