“แพทย์แผนจีนรักษาโรคไม่ได้เรื่อง เก่งแต่พูดเก่งและยังเย้อหยิ่งอีกด้วย!”
“คุณ!”
หม่าฮันซิงเกือบจะเอ่ยปากต่อว่า
ทุกคนที่นี่ ก็ล้วนแต่รู้ว่าคนไข้รายนี้เป็นลมหมดสติไป มันเป็นเรื่องง่ายที่สุดของการเป็นลมแดดเท่านั้น
วิธีการฝังเข็มสำหรับโรคลมแดดได้ผลเร็วกว่า หากไปคลินิกฝั่งตะวันตก ก็คงตกนอนเติมน้ำเกลือ
เมื่อลองนึกดูให้น้ำเกลือใช้เวลานาน หรือการฝังเข็มใช้เวลานานกว่ากันแน่?
บางกรณี ความเร็วของการรักษาของแพทย์แผนจีนก็ไม่ได้ช้าไปกว่าการแพทย์แผนตะวันตกเลย
ฉินจุนและคนอื่นเข้าใจดีว่าสิ่งที่หม่าฮันซิงพูดนั้นไม่ใช่เรื่องโกหกหรือการหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบแต่อย่างใด
การฝังเข็มรมยาเป็นเช่นนี้จริง ๆ และโรคบางอย่างก็จะเกิดผลขึ้นทันทีที่รักษา แต่ก็มีบางโรคที่ต้องใช้เวลาในการรักษาสักพัก
นี่เป็นความจริงแม้ว่าจะได้รับการรักษาโดยแพทย์แผนตะวันตกที่หลังก็ตาม
ดังนั้นความเร็วของการรักษาจึงไม่เกี่ยวกับทักษะทางการแพทย์แต่ขึ้นอยู่กับผู้ป่วย
แต่นี่มันเป็นเพียงลมแดดเท่านั้น หม่าฮันซิงจะรักษาไม่ได้ได้อย่างไรกัน?
โอเว่นคนนี้ก็แค่อาศัยโอกาสนี้ เพื่อที่จะใส่ร้ายวงการแพทย์แผนจีน
โอเว่นชี้ไปที่เข็มบนโต๊ะ และหยิบออกมาแล้วพูดกับกล้องอีกครั้งว่า
“แค่เข็มเงินเฉิ่มๆไม่กี่เข็มก็พูดว่ารักษาโรคได้ถ้านี่ไม่ใช่เวทมนตร์แล้วมันจะเป็นอะไร? มีใครเคยเห็นเข็มสองสามอันสามารถรักษาโรคได้จริงๆไหม? นี่มันเป็นการดูหมิ่นแพทย์แผนปัจจุบันชัดๆ!”
โอเว่นพูดมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ฉินจุนและคนอื่นๆ ไม่สามารถทนฟังต่อได้อีก
“คุณเชื่อหรือไม่ เข็มนี้อาจทำให้คุณคุกเข่าลงตรงนี้ได้”
ฉินจุนยืนขึ้นและกล้องก็จับจ้องมาที่เขาทันที
โอเว่นผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มเยาะเย้ย และใช้มือหักเข็มในมือ ทำให้เข็มนั้นบิดงอไปอย่างง่ายดาย
นี่มันก็แค่ขนวัว มันจะทำร้ายคนได้ยังไงกัน? แล้วยังจะสามารถช่วยชีวิตผู้คนได้งั้นเหรอ?นี่มันคืออุปกรณ์ประกอบฉากสำหรับการแสดงของพวกคุณนะสิ! อย่าทำให้ตัวเองขายหน้าต่อผู้คนอีกเลย! ”
ฉินจุนยิ้มเยาะ “ในเมื่อคุณพูดถึงการแสดง งั้นเดี๋ยวฉันจะแสดงให้คุณดูเอง”
หลังจากพูดจบ ฉินจุนหยิบเข็มเงินขึ้นมาแล้วแทงลงไปบนหลังมือของโอเว่นเบา ๆ
เข็มที่บางราวกับขนวัว แทงทะลุผิวหนังของโอเว่นโดยตรงโดยไม่มีความเจ็บปวดใดๆ
โอเว่นยิ้มเยาะ”กล้ามเนื้อของฉัน หรือว่าคุณ……”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ จู่ๆ ขาของโอเว่นก็ไม่ยอมเชื่อฟังเขา และเขาก็คุกเข่าลงต่อหน้าฉินจุนในทันใด
ทันใดนั้น กล้องโดยรอบก็ลดระดับลง ทั้งหมดเล็งไปที่โอเว่นที่คุกเข่าอยู่บนพื้นทันที
ทุกคนตกใจมาก ไม่คิดว่าเข็มเงินบางๆเพียงเข็มเดียวจะมีผลขนาดนี้?
นักข่าวทุกคนตกตะลึง รวมทั้งตัวโอเว่นเองด้วย
ตอนนี้เขาคุกเข่าต่อหน้าฉินจุนในที่สาธารณะ และเขาเองก็รู้สึกอับอายมาก เขาพยายามยืนขึ้น แต่นั่นมันก็ไร้ประโยชน์ เขาไม่สามารถลุกขึ้นด้วยความแข็งแกร่งของร่างกายเขาได้ และขาทั้งสองของเขาก็ยืนไม่ขึ้นเช่นกัน
โอเว่นโกรธมากและเขาก็รีบดึงเข็มเงินออกจากหลังมือของเขาโดยตรง
อย่างไรก็ตาม การเอาเข็มเงินออกก็ไม่มีประโยชน์และโอเว่นยังคงคุกเข่าอยู่ตรงนั้นเหมือนเดิม ขาทั้งสองข้างของเขาหมดแรงไปเสียแล้ว
“คุณทำอะไร! คุณทำการแสดงบ้าอะไรกับฉัน?[Biquge
www.sbiquge.co]! เอาฉันลุกขึ้นเดี๋ยวนี้! ”
หมอหม่าฮันซิง แพทย์อัจยริยะเซี๋ยและคนอื่นๆ ต่างก็แสดงสีหน้าขำ ท่านอาจารย์ฉินนี่เฉียบจริงๆ ทำให้คุณคุกเข่าได้ด้วยเข็มๆเดียว ทำให้คุณดูถูกแพทย์แผนจีนไม่ได้อีก และทำให้คุณดูถูกการฝังเข็มไม่ได้อีกสินะ?
ฉินจุนเพิกเฉยต่อเขา โอเว่นคุกเข่าลงกับพื้นอยู่ครู่หนึ่ง เขาดิ้นรนอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดก็รู้สึกว่าขาของเขามีความรู้สึกแล้วและฝืนยืนขึ้นอย่างไม่เต็มใจ
“พวกคุณ…พวกคุณก็แค่ทำร้ายผู้คน ฉันขอประกาศอย่างจริงจังว่าแพทย์แผนจีนไม่สามารถรักษาโรคได้! หมอจีนทำร้ายคนได้เท่านั้นแหละ! ”
ทันทีที่เสียงหายไป นักข่าวคนหนึ่งก็เช็ดจมูกของเขาและอุทานออกมา
“อ๊ะ เลือดออก!”
นักข่าวผู้หญิงตกใจเมื่อเห็นเลือดกำเดาไหล
นักข่าวคนนั้นตื่นตระหนกมากจึงรีบไปถามหมอที่อยู่ตรงนั้น อย่างไรก็ตาม มีแพทย์จำนวนมากที่นั่น ไม่น่าจะไม่มีใครที่กะแค่เลือดกำเดาไหนก็รักษาไม่ได้
หม่าฮันซิงเหลือบมอง “มันเป็นแค่โรคลมแดด เพียงแค่…”
ก่อนที่หม่าฮันซิงจะพูดจบ โอเว่นก็ขัดจังหวะเขาด้วยการถอนหายใจอย่างเย็นชา
“โรคลมแดด! แพทย์แผนจีนชอบพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ ร้อนในอะไร ความชื้นอะไรไร้สาระ”
“เลือดกำเดาไหล ก็เพราะเยื่อบุจมูกเสียหาย มาเถอะ ฉันจะหยุดเลือดให้”
โอเว่นหยิบสำลีก้าน แอลกอฮอล์ และยาห้ามเลือดจากกล่องยาของเขา
ให้นักข่าวหญิงนั่งบนเก้าอี้ แล้วใช้สำลีก้านฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์ แล้วทาภายในโพรงจมูกเพื่อห้ามเลือด
กล้องกำลังถ่ายกระบวนการทั้งหมดนี่เป็นช่วงเวลาที่เป็นหน้าเป็นตาให้กับแพทย์ตะวันตกและเวลาแบบนี้ต้องถ่ายให้ชัด
แต่ตอนนี้ไม่มีการเปรียบเทียบอะไรทั้งนั้น ถ้าหากว่าให้แพทย์แผนจีนลงมือรักษา พวกเขาก็จะรู้ว่าใครมีประโยชน์กว่ากันจริงๆ
โอเว่นพูดขณะที่กำลังหยุดเลือดกำเดา “ถ้าคุณปล่อยให้แพทย์แผนจีนรักษาคุณ ฉันเกรงว่าเขาคงจะใช้เข็มแทงคุณอีกแล้วละ ไม่แน่พวกเขาอาจแทงมันในจมูกของคุณเลยก็ได้!”
นักข่าวสาวก็ตกใจเช่นกัน ตอนนี้หัวใจของเธอสั่นระรัว
“ต่อไปจะเจ็บนิดหน่อยนะ อดทนไว้นะ”
โอเว่นจุ่มยาห้ามเลือดด้วยสำลีก้านแล้วเสียบลึกเข้าไปในจมูกของนักข่าวหญิง
ก้านสำลีอันเรียวยาวเข้าไปในโพรงจมูก นักข่าวหญิงก็ขมวดคิ้ว สีหน้าเหมือนจะทนไม่ได้
หลังจากใช้เวลาไปประมาณ 1 นาที ในที่สุดเขาก็ดึงสำลีก้านออก นักข่าวผู้หญิงไอจนน้ำตาไหลออกมา
โอเว่นกล่าวว่า “อย่ากังวล แค่อดทนกับความเจ็บปวดเพียงเล็กน้อย แล้วคุณจะดีขึ้น ถ้าคุณปล่อยให้แพทย์แผนจีนรักษาคุณ ไม่รู้ว่าคุณจะได้รับการรักษาแบบใดกัน”
นักข่าวผู้หญิงพยักหน้า และเมื่อเธอกำลังจะพูด เลือดกำเดาก็ไหลออกมาอีกครั้ง
คราวนี้เธอเลือดออกมากขึ้นกว่าเดิมและเข้าไปในปากของเธอโดยตรง ทำให้เธอตกใจมาก
“หมอโอเว่น! ฉัน ฉันยังมีเลือดออกอยู่!”
โอเว่นถึงกับขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยไม่คาดคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น
“ฉันจะลองอีกครั้ง!”
โอเว่นหยิบสำลีก้านออกและเตรียมที่จะเสียบลึกลงไปอีก นักข่าวผู้หญิงดูซีดเซียวและหวาดกลัว
ฉินจุนไม่สามารถยืนดูเฉยๆได้อีกต่อไปและเขาก็ยิ้มเยาะเบาๆ
“หมอต้มตุ๋น พอเถอะ สิ่งที่คุณทำมันยังจะทำลายเยื่อบุจมูกด้วย คุณมันพวกไม่มีการศึกษา ร้อนในก็คือร้อนใน ใส่ยาเท่าไรก็ไม่เป็นผลหรอก ”
คำพูดของฉินจุนพูดความในใจของทุกคนออกมาจนหมด ฝรั่งพวกนี้โง่จริงๆ ไม่เข้าใจร้อนใน เลยบอกว่าแพทย์แผนจีนไร้สาระ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่มีความรู้ในเรื่องนี้เอาซะเลย
เมื่อโอเว่นได้ยินก็โกรธจัด “คุณกำลังพูดถึงอะไร!บอกว่าฉันไม่มีการศึกษายังงั้นเหรอ? งั้นคุณมารักษาสิ!ถ้าคุณรักษาได้ละก็ฉันจะยอมแพ้คุณ!”
ฉินจุนพูดกับข่งฝานหลิน “เตรียมกระเทียมมาสองหัว”
ข่งฝานหลิน เข้าใจทันที “โอเค!”
เมื่อเห็นข่งฝานหลินจะไปเอากระเทียม โอเว่นก็ยิ้มเยาะ “รีบจับกล้องดูเลยนะว่าคนจีนตลกแค่ไหน นักข่าวของเราเลือดกำเดาไหลแล้ว พวกเขายังจะไปหากระเทียมมา นี่หรือว่าจะกินข้าวกันงั้นหรือ? ”
ในไม่ช้ากระเทียมก็พร้อม
ฉินจุนเดินไปหานักข่าวผู้หญิงคนนั้นและนั่งลง
“ผมจะช่วยคุณถอดรองเท้าและถุงเท้า”
นักข่าวสาวตกใจเล็กน้อย “คุณคงจะไม่ใช้เข็มแทงฉันใช่ไหม?”
ชาวต่างชาติกลัวการฝังเข็มมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนักข่าวหญิงถูก โอเว่นแทงที่จมูกด้วยสำลีก้าน มันเจ็บปวดมาก
ฉินจุนยิ้มจาง ๆ “ไม่ต้องกังวล วิธีการของฉันรับประกันว่าคุณจะไม่เจ็บปวดตลอดทั้งกระบวนการ”