……
หลังจากที่เห็นข่าวแล้วฉินจุนก็รู้สึกโกรธนิดหน่อย วีดีโอที่เขาใช้เพียงแค่เข็มเดียวก็สามารถทำให้โอเว่นคุกเข่าได้ถูกปล่อยออกไป และยอดการรับชมไม่ต่ำกว่าล้านครั้ง แม้ว่าผู้คนมากมายเหล่านั้นไม่ได้สนใจฉินจุน แต่คนที่รู้จักเขาแค่มองแวบเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นเขา
ถังหมิ่นร้อนรนพร้อมกับลากหลินเยวี่ยเหยามาดู “เยวี่ยเหยาๆ ! “ลูกรีบมาดูเร็ว พี่เค้าได้ออกทีวีแหน่ะ !
หลินเยวี่ยเหยาเห็นคลิปนี้ตั้งนานแล้ว จึงตอบกลับผู้เป็นแม่อย่างเซ็งๆ
“พี่น่ะวู่วามเกินไป ถ้าเกิดโชคร้ายนายฝรั่งนั่นตายไปพี่เขาคงรับผิดชอบไม่ไหวหรอกนะ ”
ถังหมิ่นตอบ “ใครบอก ลูกดูสิทักษะแพทย์ของพี่เค้าก็เก่งมากเลยไม่ใช่หรอ ! ”
หลินเยวี่ยเหยาส่ายหัว “การฝังเข็มแบบนี้เป็นความรู้พื้นฐาน แม้ว่าวิธีการฝังเข็มของเขาจะดูไม่เลว แต่ก็ยังเรียกว่าเก่งไม่ได้หรอก ก็แค่ดูหลายๆครั้งเลยทำได้แค่นั้นเอง ”
“ทำเอาซะตัวเองโด่งดังขนาดนี้ ถ้าเกิดมีคนมารักษากับเขา ไม่ใช่ว่าไปทำขายขี้หน้านะ ? ”
หลินเยวี่ยเหยากังวลนิดน่อย เพราะการที่ฉินจุนโด่งดังขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่ แต่ว่าก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เขาคลุกคลีอยู่ในวงการแพทย์แถมเหล่าผู้อาวุโสเองก็ดูแลเขา ถ้าเกิดปัญหาอะไรก็มีคนช่วยอยู่แล้ว
ทางด้านหวังตงเสวี่ยกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องเรียน เพื่อนสนิทของเธอที่นั่งอยู่ข้างๆโต๊ะรีบถือโทรศัพท์วิ่งเข้ามา
“นี่ๆๆ แฟนเธอได้ออกทีวีด้วยหละ ! ”
หวังตงเสวี่ยรีบหันไปดู และก็มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าในแววตาเธอชื่นชมสุดๆ
“นี่แน่ะๆ ดูเธอสิแบบนี้คืออาการตกหลุมรักใช่มั้ย ? ”
หวังตงเสวี่ยกลอกตา “อะไรกันเล่า ทักษะแพท์ของพี่ฉินยอดเยี่ยมมากต่างหากหละ ฝรั่งนั่นเทียบไม่ติดด้วยซ้ำ ”
“บ้าผู้ชายจริงๆเลย…… ”
……
ณ ร้านเครื่องสำอางแบรนด์เฉิงยวิน ในห้องทำงานของผู้บริหาร ทุกคนกำลังรอประชุมกับหลิ่วชิงชิง แต่หลิ่วชิงชิงกลับดูโทรศัพท์อย่างสนุกสนาน
เลขาซุนทนไม่ไหวแล้ว “ประธานหลิ่วคะ กำลังดูอะไรอยู่หรอคะ…… ”
ประธานหลิ่วยื่นไปให้เธอดู และกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เห็นหรือยัง หมอเทวดาคนนั้นน่ะ ”
“นี่มัน…… คุณหมอฉินที่เคยรักษาคุณใช่ไหม ? ”
“อืม ”
วีดีโอสั้นๆแค่นี้ไม่รู้ว่าหลิ่วชิงชิงดูไปกี่รอบแล้ว ในวีดีโอเห็นแต่โอเว่นซะส่วนใหญ่ ไม่ได้ถ่ายติดฉินจุนมากขนาดนั้น แต่หลิ่วชิงชิงก็ยังดูมันอย่างชอบใจ
เลขาซุนเองก็ไม่กล้าพูดมาก เธอได้แต่บ่นพึมพำ ไม่ใช่ว่าประธานหลิ่วชอบหมอคนนี้ขึ้นมาแล้วหรอ ?
เหล่าผู้บริหารหลายคนในห้องประชุมต่างกำลังรอเธออยู่ แต่เธอกลับเอาแต่ดูวิดีโอนี่……
นอกจากหลิ่วชิงชิงแล้ว ยังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งก็แอบดูวีดีโอนี้อยู่เช่นกัน ซูเหวินฉีนั่นเอง
ซูเหวินฉีเพิ่งเสร็จจากการบันทึกรายการเรียลลิตี้โชว์ ขณะที่เธอกำลังขับรถออกจากที่นั่น เธอก็โทรหาฉินจุนระหว่างทาง
“ว่าไง คุณหมอเทวดา ตอนนี้ดังใหญ่แล้วนะ ”
ฉินจุนหงุดหงิด “พูดอะไรไร้สาระ ฉันดังเท่าเธอแล้วหรือไง ? ”
“เหอะๆ นายยุ่งอยู่หรือเปล่า ไปหาท่านผู้อาวุโสกับฉันไหม ”
“ได้สิ แล้วต้องเตรียมอะไรไหม ? ”
ซูเหวินฉีคิด “ปกติแล้วควรเป็นฉันที่ต้องเตรียม แต่ฉันหาซื้อไม่ได้ ผู้อาวุโสคนคนนี้ชอบไม้กฤษณามาก นายรู้จักที่ที่ซื้อไม้กฤษณาบ้างไหม ? ”
ของที่ไม่ค่อยนิยมแบบนี้ฉินจุนเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ “ฉันจะลองถามดูแล้วกัน ”
ฉินจุนวางสายโทรศัพท์ และคิดว่าจะโทรไปหาเหอเนี่ยนอิง เพราะเธอเป็นเศรษฐีน่าจะมีคอนเนคชั่นเยอะ
แต่จู่ๆเจ้าอ้วนหม่าก็โทรมาเสียก่อน ฉินจุนจึงรับสายโทรศัพท์ของเขาก่อน
“ศิษย์พี่ ! ผมเห็นคลิปพี่ในแพลตฟอร์มวีดีโอสั้นนั้น พี่จะให้ผมหาคนมาดันให้ไหม ? หรือทำกิจกรรมหน่อยเป็นไง ? ”
ฉินจุนหัวเราะ ในวงการบันเทิงชายอ้วนนี่เก่งจริงๆนั่นแหละ ถ้าเขาอยากทำให้ใครดังหละก็ทำได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
ฉินจุนตอบ “ไม่เอาหรอก ฉันไม่ได้อยากดัง อีกอย่างถ้าจะโปรโมทการแพทย์แผนจีน ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งวีดีโอสั้นๆนั้นหรอก ”
“โอเค ผมเข้าใจแล้ว ”
ในเมื่อชายอ้วนโทรมาหาเขาแล้ว เขาจึงถือโอกาสถามไปด้วยเลย
“นายรู้จักที่ที่ขายไม้กฤษณาบ้างไหม ฉันจะซื้อไปเป็นของขวัญ ”
“หา ? “ชายอ้วนชะงักไปหนึ่งที “ที่ผมมีอยู่หนึ่งอันพอดี แต่ว่า…… ”
“แต่ว่าอะไร ? ”
“ไม่มีอะไรๆ ไม้กฤษณาอันนี้ก็ไม่เลว แล้วผมก็ห่อมันไว้แล้วด้วย เดี๋ยวจะให้คนเอาไปส่งให้ศิษย์พี่เดี๋ยวนี้เลย ! ”
“ได้ ขอบคุณมากๆเลย ”
“ศิษย์พี่ไม่ต้องเกรงใจ ! ”
หลังจากวางสายโทรศัพท์ไม่นาน ชายอ้วนก็ให้คนนำไม้กฤษณามาส่งให้เขา
เขาเปิดกล่องโบราณที่ดูเรียบง่ายแต่สวยงามนี้ออก ข้างในเป็นชิ้นไม้ขนาดเท่าฝ่ามือรูปร่างคล้ายๆกับตอไม้ ซึ่งดูอ่อนนุ่มและอบอวลไปด้วยกลิ่นหอม
ฉินจุนรู้ได้ทันทีว่านี่คือไม้กฤษณา
เมื่อก่อนสมัยที่อยู่บนภูเขา ท่านอาจารย์มักจะใช้ไม้นี้จุดไฟ ซึ่งว่ากันว่าสามารถช่วยสงบจิตใจได้
ฉินจุนรู้จักของพวกนี้ดี แต่เขาแค่ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไรเท่านั้นเอง
ไม่นานซูเหวินฉีก็ขับรถของบริษัทมารับฉินจุน หลังจากขึ้นไปบนรถ ฉินจุนก็หยิบไม้กฤษณานั่นออกมา
“แค่นี้พอไหม ? ”
“ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกว่ามันเอาไว้ใช้ทำอะไร “ซูเหวินฉีกล่าว
ฉินจุนตอบ “นี่คือไม้กฤษณาป๋ายฉีสองร้อยปี สรรพคุณของมันไม่เลว กลิ่นก็ดีมาก ให้เป็นของขวัญได้แน่นอน ”
ซูเหวินฉีพยักหน้า “อย่างงั้นก็ดี ! ผู้อาวุโสที่เราจะไปพบครั้งนี้ เป็นคนใหญ่คนโตที่สำคัญมากๆ ฉันไม่อยากทำให้อะไรผิดพลาด ”
ฉินจุนรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย “คนใหญ่คนโตที่ไหนที่ทำให้เธอกังวลใจได้ ? ”
ซูเหวินฉีตอบ “เขาเป็นผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์คนเก่า ฉันต้องเรียกว่าคุณน้าถ้านับกันตามอายุ เธอเกษียณมาหลายปีแล้ว ในตอนนั้นศิลปินหลายคนได้รับความช่วยเหลือจากเธอ คุณน้าหยางปิงเป็นคนที่ฉันเคารพนับถือมากๆ ”
“แม้ว่าทุกวันนี้คุณน้าหยางปิงจะเกษียณแล้ว แต่เธอก็ยังเป็นที่นับหน้าถือตาของคนในวงการบันเทิง ตอนที่ฉันพึ่งเดบิวต์ใหม่ๆ ฉันเองก็เคยได้รับความช่วยเหลือจากเขา ครั้งนี้ก็เลยตั้งใจจะไปเยี่ยมเธอสักหน่อย ”
ฉินจุนงงเล็กน้อย “ทำไมหละ เรื่องคราวที่แล้วยังจัดการไม่ได้หรอ ? ต้องไปขอให้คนช่วยอีกแล้ว ? ”
ครั้งก่อนที่ซูเหวินฉีกับลู่ฟานทะเลาะกันใหญ่โต และแม้แต่ประธานของบริษัทเครื่องสำอางก็ยังถอนทุนเพราะซูเหวินฉี เธอเองเกือบจะถูกแบล็กลิส โชคดีที่บริษัทเครื่องสำอางแบรนด์เฉิงยวินออกหน้าช่วยเหลือซูเหวินฉีไว้
แม้ว่าภายนอกจะคิดว่ามันเป็นการสร้างกระแส แต่ซูเหวินฉีเองก็รู้ดีว่าเธอเกือบจะทำลายอาชีพนักแสดงของเธอแล้วในตอนนั้น
การปรากฏตัวของบริษัทเครื่องสำอางแบรนด์เฉิงยวินช่วยเธอแก้ไขปัญหาใหญ่ให้เธอก็จริง แต่ความคิดเห็นของสาธารณชนในเชิงลบก็ยังมีผลกระทบกับเธออยู่
โดยเฉพาะเรื่องการถอนทุน ปะธานบริษัทเอเจนท์ซีของพวกเขา โปรดิวเซอร์และผู้กำกับรายการรันนิ่งบอยโชว์ต่างก็กังวลมาก ถ้าซูเหวินฉีถูกถอนทุนอีกหละก็ ความเสียหายนี้พวกเขาเองก็แบกรับไม่ไหว