อู๋เฉียงพลันถลึงตามอง ความโกรธเต็มไปทั้งใบหน้า
“วันๆก็รู้จักแต่จะซื้อผู้ชาย! ดูแกสิ ยังจะมีท่าทางเหมือนคุณหนูตรงไหนอีก?! ทำให้ตระกูลอู๋ของพวกเราขายหน้าจริงๆเลย!”
เทียบกับอู๋ฟางแล้ว อู๋เฉียงนับได้ว่าเป็นคนที่โดดเด่น
ไม่เพียงมีกิจการที่ประสบความสำเร็จ ทั้งยังเก่งทั้งบุ๋นและบู๊ ว่ากันว่ายังเคยได้รับแชมป์ศิลปะการต่อสู้ระดับมณฑลด้วย
ดังนั้น ความรู้สึกของอู๋เฉียงที่มีต่อน้องสาวคนนี้ ก็คือต้องการเข้มงวดกับเธอ ทุกครั้งล้วนอยากจะสั่งสอนสักชุดหนึ่ง
แต่… ยังไงก็เป็นน้องสาวแท้ๆ หลายๆครั้ง อู๋เฉียงเองก็ทำได้เพียงปล่อยไปตามนิสัยเธอ
อู๋ฟางได้ยินเข้า ก็ไม่พอใจในทันที เริ่มงอแงกระฟัดกระเฟียด
“ฉันไม่สนๆ ฉันจะเอาๆ!”
อู๋ฟางเหมือนเป็นคนลอยชายไปวันๆอย่างไรอย่างนั้น ทำให้อู๋เฉียงทั้งโกรธทั้งเอือมระอา
“พอได้แล้ว! ดูตัวแกเองสิ มีแต่เรื่องอื้อฉาว!”
สุดท้ายยังไงก็เป็นน้องสาว ให้เธองอแงอยู่ตรงนี้ ตระกูลอู๋ก็ได้แต่ขายหน้าเข้าไปอีก
ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องอย่างนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่อู๋ฟางทำ ยังไงก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ในอนาคตก็ไม่จำเป็นต้องประสบความสำเร็จมากนักก็ได้ เธอสบายใจก็แล้วกันไป
อู๋เฉียงถอนหายใจ เดินไปด้านหน้าฉินจุน มองเขาอย่างโกรธเคือง
“อายุก็ยังน้อย ทำอะไรก็ไม่ดี ก็เลยมาเป็นผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกิน! อย่างคุณแบบนี้ เป็นความอับอายของผู้ชายอย่างพวกเราจริงๆ!”
“ไอ้ขยะเอ๊ย!”
แม้ว่าในใจจะดูถูกฉินจุนอย่างที่สุด แต่อู๋เฉียงก็ยังทำตามความต้องการของน้องสาว
ส่งเสียงเฮอะเย็นชาทีหนึ่ง หยิบบัตรธนาคารสีทองใบหนึ่งออกมาจากในกระเป๋าอย่างไม่ยินยอมอย่างที่สุด
“ในบัตรนี้มีห้าล้าน รีบไสหัวไปหาน้องสาวของผม! อย่าทำให้คนของตระกูลอู๋ของผมต้องขายหน้าอยู่ที่นี่!”
อู๋ฟางหัวเราะหึๆขึ้นมา เดินขึ้นหน้าไปเกี่ยวแขนของอู๋เฉียง พูดอย่างออดอ้อนว่า
“ก็ยังเป็นพี่ที่ดีกับฉัน!”
อู๋เฉียงส่งเสียงเฮอะเย็นชาทีหนึ่ง “ต่อไปก็หาเรื่องวุ่นวายให้พี่น้อยลงหน่อย!”
แม้ว่าอู๋ฟางเป็นลูกคุณหนู แต่เงินที่เธอสามารถใช้จ่ายได้ก็ยังห่างไกลกับอู๋เฉียงมากนัก
ห้าล้าน อย่าพูดว่าฟาดให้ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินคนหนึ่งเลย แม้จะฟาดใส่ดาราขั้นที่สามก็ยังสามารถฟาดให้ก้มลงหมอบคลานได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฉินจุนคนบ้านนอกแบบนี้อีก
อู๋ฟางแสดงความมั่นใจเต็มเปี่ยม เชิดคางขึ้น ชี้ที่เท้าของตนเองแล้วพูดว่า
“ยังไม่รีบไสหัวเข้ามาอีก!”
หนึ่งฝ่าเท้าเมื่อกี้ของฉินจุน เธอยังเจ็บอยู่จนถึงตอนนี้ แต่เธอเองก็ไม่มีทางให้พี่เธอทำร้ายหรอก ถ้าทำของเสียขึ้นมาก็เล่นสนุกไม่ได้แล้ว รอกลับบ้านไปก่อน แน่นอนว่าเธอมีวิธีทรมานเขาอย่างแน่นอน
อู๋เฉียงเห็นว่าฉินจุนไม่รับบัตร ก็ขมวดคิ้ว
“ยืนโง่อยู่ทำไมล่ะ? ต้องให้ผมเชิญคุณเหรอ! ไอ้ขยะ!”
พูดไปแล้ว อู๋เฉียงก็เอาบัตรในมือโยนใส่หน้าของฉินจุน
ริมฝีปากขมุบขมิบ
ฉินจุนใช้สองนิ้วคีบ คีบบัตรใบนั้นได้อย่างแม่นยำ
มุมปากปรากฏความสนุก
“พวกคุณสองพี่น้อง แสดงละครพอแล้วหรือยัง?”
สีหน้าของอู๋เฉียงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มืดคลึ้มลงในพริบตา
“หมายความว่าไง? คุณอยากตายใช่ไหม?!”
อู๋เฉียงเดินขึ้นหน้าไปก้าวหนึ่ง รูดแขนเสื้อขึ้น ดวงตาเบิกกลมมองอย่างโกรธจัด
จู้หลินหลินพลันหวาดหวั่นขึ้นมา ดึงแขนของฉินจุนไว้ พูดเสียงเบา
“พี่เสี่ยวจุน! ระวังนะ เขาเป็นแชมป์ศิลปะการต่อสู้ของทั้งมณฑล เก่งกาจมาก!”
ใบหน้าฉินจุนกลับมีรอยยิ้ม ไม่เอามาใส่ใจแม้แต่น้อย
อู๋เฉียงเฮอะเสียงหนึ่ง กำลังจะลงมือ ก็เห็นเพียงสองนิ้วของฉินจุนขยับ
ฉับพลันนั้น บัตรธนาคารสีทองใบนั้นก็บินลอยออกไป หมุนปลิวทิ่มแทงเข้าไปด้านในหัวเข่าของอู๋เฉียง
“อ๊าก!!”
ความเจ็บปวดที่กระจายออกมาจากหัวเข่า ทำให้อู๋เฉียงคุกเข่าบนพื้นในพริบตา
หน้าผากพลันมีเหงื่อเย็นๆผุดออกมาเหมือนฝน!
สีหน้าอู๋ฟางเปลี่ยนไปอย่างมาก
“คุณกล้าทำร้ายพี่ชายฉัน! คุณไม่อยากอยู่ต่อแล้ว พี่ชายฉันเป็นเขยของตระกูลซู!”
คำพูดสิ้นสุดลง ฉินจุนตบเข้าที่ใบหน้าทีหนึ่ง
เสียงเพี๊ยะดังขึ้น อู๋ฟางลอยไปอีกครั้ง
ยังคงเป็นตำแหน่งเดิม กระแทกเข้ากับบนกำแพง
เพียงแต่ว่า ครั้งนี้ฉินจุนเพิ่มเรี่ยวแรงไปอีกสักกี่ส่วน
ใบหน้าครึ่งหนึ่งของอู๋ฟางบวมเป่งขึ้นมาในพริบตา คายฟันที่เต็มไปด้วยเลือดออกมา ท่าทางดุร้ายอย่างที่สุด แต่กลับพูดคำออกมาไม่ได้
“คนที่ผมทำร้าย ก็คือเขยตระกูลซู”
ฉินจุนยืนอยู่ด้านหน้าอู๋เฉียง มองต่ำลงไปยังเขาอย่างเย็นชา
“ตระกูลอู่ เองก็ชอบเป็นหมาให้คนอื่นมากใช่ไหม?”
สีหน้าอู๋เฉียงเขียวคล้ำ เขาไม่เข้าใจ ฉินจุนทำ
ได้ยังไง!
แค่บัตรธนาคารใบหนึ่ง ทำไมถึงทำร้ายเขาจนอยู่ในสภาพนี้ได้!
ร่างกายของอู๋เฉียงกำยำแข็งแรง แม้ว่าจะมีกระบองอยู่ด้วย ก็ไม่สามารถทำร้ายเขาได้ แต่ฉินจุน ใช้เพียงบัตรธนาคารใบหนึ่ง ก็สามารถทำให้เขาเคลื่อนไหวไม่ได้!
“หาเรื่องตาย! คุณรู้ไหมว่าพ่อของผมเป็นใคร! ตระกูลอู๋ของผมไม่ปล่อยคุณไปแน่!”
ฉินจุนหัวเราะอย่างเย็นชา “หวังว่ากระดูกของคุณ จะแข็งเหมือนกับปากนะ”
พูดไปแล้ว ฉินจุนดึงเข็มเงินออกมาสามเข็ม
นิ้วมือทิ่มไป เข็มเงินสามเข็มต่างแยกกันก็แทงอยู่บนไหล่ซ้ายขวาของอู๋เฉียง รวมถึงด้านบนหัวเข่าอีกข้างที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
“อ๊ากๆ!!”
เข็มเงินเข้าไปในร่างกาย อู๋เฉียงพลันร้องตะโกนเสียงดังออกมาในพริบตา เปล่งเสียงอย่างรวดร้าว ราวกับเจ็บปวดเหมือนกัดกินหัวใจทำลายกระดูกอย่างไรอย่างนั้น
“คุณตายแน่ คุณตายแน่ๆ!!”
ฉินจุนหัวเราะอย่างเย็นชา เอาโทรศัพท์ของเขาออกมาจากในประเป๋าของเขา
“ผมช่วยคุณโทรเรียกคนละกันนะ”
รายชื่อด้านในโทรศัพท์ หลังหาเบอร์โทรศัพท์พ่อของอู๋เฉียงเจอแล้ว ก็โทรศัพท์ออกไป
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น โทรศัพท์ก็รับสาย
“ลูก มีอะไร?”
“พ่อ! พ่อช่วยผมด้วย!” อู๋เฉียงเองก็ดิ้นรนมาก ตะโกนร้องเรียกอย่างรวดร้าว
อีกด้านของโทรศัพท์ อู๋เฟิงเหนียนพลันร้อนรน
“ลูก! แกเป็นอะไร ใครกล้าทำแก!?”
ฉินจุนรับโทรศัพท์มา
“ผมเอง ผมแซ่ฉิน”
อู๋เฟิงเหนียนโกรธเกรี้ยวอย่างที่สุด พูดอย่างเย็นชาว่า
“ผมไม่สนว่าคุณเป็นใคร รีบปล่อยลูกชายผมเดี๋ยวนี้ ถ้าคุณยังกล้าแตะเขาแม้แต่ขนเส้นเดียวอีกล่ะก็ ผมจะทำให้คุณตายไร้ที่ฝัง!”
ฉินจุนหัวเราะเสียงเย็นชา “งั้นคุณก็ฟังให้ดีนะ”
สิ้นเสียงคำพูด ฉินจุนก็ใช้เท้าเหยียบลงไปบนข้อเท้าของอู๋เฉียง
กร๊อบ!
“อ๊ากๆ!!” เสียงร้องอนาถของอู๋เฉียงดังเข้าไปในไมค์ของโทรศัพท์
อู๋เฟิงเหนียนตะโกนสุดเสียง “ไอ้ชั่ว คุณตายแน่! ผมจะทำให้คุณตายทั้งบ้าน!”
คำพูดของอู๋เฟิงเหนียน ในที่สุดก็ทำให้ฉินจุนโกรธแล้วจริงๆ
“ดี สวนหลวงที่แปดในชานเมืองทิศตะวันตก ผมจะรอคุณ”
ฉินจุนแจ้งที่อยู่ของบ้านตนเองออกไป หลังจากนั้นก็วางสายโทรศัพท์
อู๋เฉียงดิ้นรนอยู่บนพื้นไม่กี่นาที แล้วก็สลบไป
สีหน้าของจู้หลินหลินเปลี่ยนไป “พี่เสี่ยวจุน เขา… เป็นอะไรไป?”
ฉินจุนพูดว่า “ไม่ได้ทำให้ตาย แค่ทำให้มือเท้าของเขาใช้งานไม่ได้ก็เท่านั้น”
เข็มเงินของฉินจุน ช่วยคนได้ ฆ่าคนได้
หักแขนหักขา ใช้เพียงแค่เข็มเงินเข็มเดียวเท่านั้น
จู้หลินหลินรู้สึกกังวลใจอยู่บ้าง ความรู้สึกผิดเต็มใบหน้า
“พี่เสี่ยวจุน ขอโทษด้วย… ต้องโทษฉัน ถึงได้กลายเป็นอย่างนี้”
ฉินจุนพูดว่า “ไม่เป็นไร ไม่เกี่ยวกับคุณ”
“มีบางคน ชอบเป็นหมา ในเมื่อเป็นอย่างนี้งั้นผมก็จะเติมเต็มพวกเขา พอดีเลย ที่บ้านฉันยังมีโซ่ล่ามหมาอยู่สักหลายเส้น”
เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ทั้งสองคนเองก็ไม่กะจิตกะใจจะเดินซื้อของแล้ว
ฉินจุนส่งจู้หลินหลินกลับไปก่อน เพื่อไม่ให้อีกเดี๋ยวเธอจะเป็นภาพบางอย่างที่ไม่ค่อยสอดคล้องนัก
หลังจากส่งกลับไปที่ตระกูลจู้แล้ว ฉินจุนก็กลับไปที่บ้านของตนเอง
เห็นด้านในยังมีโซ่ล่ามหมาสามเส้นแขวนไว้อยู่ บนใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มเยือกเย็น
ก็ยังว่างๆไม่มีอะไรทำอยู่ ในเมื่อมีคนยินยอมเป็นหมาเช่นนี้ งั้นก็ให้โอกาสกับพวกเขาสักครั้งแล้วกัน