อารองฉินยิ้มอย่างไร้เดียงสาและพยักหน้า
หลังจากที่พูดจบ คนของตระกลูไช่ทั้งสามคนก็มองไปที่ฉินจุน
แม้ว่าฉินจุนจะไม่ได้พูดอะไร แต่มันก็เห็นอย่างชัดเจนว่าถ้าต้องการเงิน ก็ต้องไปเอาจากฉินจุนเพราะเค้าคือคนที่มีเงิน
แม้ว่าอารองฉินจะเป็นผู้ใหญ่ แต่เค้าก็เป็นไอ่โง่ที่ไม่สามารถทำอะไรได้ ถ้าฉินจุนยอม พวกเค้าก็จะได้เงิน
ฉินจุนยิ้มจางๆแล้วพูดว่า “ต้องการเท่าไหร่?”
มันก็มีเหตุผล ตระกูลฉินเองก็ได้สะใภ้ มันเห็นได้อย่างชัดเจน
ต้องการเท่าไหร่ก็สามารถให้ได้ ฉินจุนเองก็ไม่ได้เดือดร้อนเงินทองอะไร
อย่างไรก็ตาม นิสัยของคนตระกูลไช่พวกนี้ก็ไม่ดีเท่าไหร่ พวกเค้าก็ไม่ได้ดีอะไรกับอารองฉินมากนัก ดังนั้นฉินจุนก็ไม่เคยสนใจอะไรพวกเค้าเลย
นอกจากนี้อารองฉินเองก็สุขภาพไม่ค่อยดีซะเท่าไหร่ ฉินจุนที่เป็นหลานเองก็ไม่เหมาะเท่าไหร่ที่จะจัดการเรื่องสินสอดแทนอารองฉิน
เค้าคิดว่าน่าจะต้องปล่อยให้อารองดีขึ้นก่อนแล้วให้เค้าจัดการกับเรื่องนี้ด้วยตัวของเค้าเอง
จู่ๆคนตระกูลไช่ก็ร้อนใจขึ้นมาแล้วก็เข้ามาขอเงินโดยตรง
ไช่เฉียงก็คิดอยู่ซักพัก จากนั้นก็พูดว่า “หนึ่งล้านหยวน”
ไช่หยานก็ลุกยืนขึ้นทันที “แกบ้าไปแล้วเหรอ! พูดออกมาได้ยังไง! หนึ่งล้าน? ไม่ได้!”
เดิมทีไช่เฉียงต้องการแค่สองแสนหยวนก็เท่านั้น เค้าต้องการที่จะเอาไปใช้หนี้ก่อน แต่เมื่อเค้าเห็นว่าบ้านของฉินจุนหรูหรามาก เค้าก็โลภและต้องการขอเงินเพิ่ม
ฉินจุนยิ้มจางๆ เมื่อได้ยินหนึ่งล้านหยวน เค้าก็ไม่พูดอะไร อารองของเค้าเองก็แต่งงานไปแล้ว เงินนี่เค้าเองก็ไม่ได้ลังเลอะไรเลย
แต่การให้คนอย่างไช่เฉียงเป็นคนมาขอ นี่มันก็ไม่ใช่นิสัยของฉินจุนเลย
ฉินจุนเหลือบมองไปที่อารองเค้าและถามว่า “อารอง หนึ่งล้านหยวนอาคิดว่าไง?”
อารองฉินก็หัวเราะเบาๆ “ได้สิ”
เมื่อเห็นว่าอารองยิ้ม ฉินจุนก็ยิ้มเช่นกัน
“งั้น หนึ่งล้านหยวน ฉันจะให้คนไปถอนเงินมา”
ฉินจุนเรียกพ่อบ้านมาแล้วให้เค้าไปเอาเงินสดหนึ่งล้านหยวนมา
ทันทีที่เห็นว่าฉินจุนให้เงินแล้วจริงๆ สองสามีก็ยิ้มขึ้นมา แต่ไช่เชียงกลับดูไม่พอใจเล็กน้อย เงินหนึ่งล้านหยวนนี่มันจะไม่น้อยไปหน่อยเหรอ!
เค้าเป็นคนที่ได้คืบจะเอาศอก ความโลภเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้ต้องการแค่สองแสน แต่ตอนนี้ก็มองว่าเงินล้านยังน้อยไป
ไช่เฉียงชี้ไปที่รถ “ฉันยังพูดไม่จบ นอกจากเงินหนึ่งล้านหยวนแล้ว ฉันยังต้องการรถคันนั้น”
ไช่หยานก็มองไป “ไช่เฉียง! อย่าให้มันมากเกินไป!”
ไช่เฉียงก็บ่นขึ้นมา “ฉันเยอะเหรอ? พี่เป็นพี่ของฉัน พี่พึ่งแต่งงานกับเค้า ฉันขอรถนี่มันมากเกินไปอย่างงั้นเหรอ ฉันต้องใช้รถนี่กับเงินเพื่อทำธุรกิจเลี้ยงดูพ่อแม่ในอนาคต?”
“นาย……”
ไช่เฉียงพูดออกมา สีหน้าของเค้าดูเฉยเมย เค้ากำลังใช้วิธีการต่อรองเดียวกันกับที่ผู้ประกาศข่าวหญิงใช้มันกับเค้า?
ฉินจุนก็หัวเราะขึ้นมา “ถ้านายต้องการรถ ใช่ มันเป็นรถใหม่ มันยังไม่มีประกัน นายก็ขับออกไปเถอะ”
นี่คือMercodez-benzคันใหม่ที่ฉินจุนซื้อมาเมื่อวาน รถสปอร์ตของเค้าขับไม่ง่ายเลยๆ ไช่เฉียงเองก็บังเอิญมาชอบรถคันนี้ เค้าก็เลยยกให้ไป
ในตอนที่ไช่เฉียงกำลังจะหยิบกุญแจรถ ฉินจุนก็คว้ามือของเค้าแล้วพูดว่า
“เงินหนึ่งล้านหยวน รถเบ้นซ์หนึ่งคัน แค่สองอันนี้?”
ไช่เฉียงก็ยิ้มขึ้นมา “ใช่ นี่คือเงินค่าสินสอด ต่อจากนี้ไป พี่สาวของผมจะเป็นคนของตระกูลฉิน เราจะเป็นญาติกัน!”
ฉินจุนก็ปล่อยมือ ความขี้เล่นมันก็ปรากฎขึ้นมาบนใบหน้าของเค้า
“ก็ดี”
ไช่เฉียงเอาเงินกับกุญแจรถไป เค้าแทบทนรอไม่ไหวที่จะออกจากที่นี่
ฉินจุนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วส่งข้อความถึงต้วนเป่าตง
“หาคนล้วงกระเป๋าให้ฉันหน่อยสิ”
แม้ว่าฉินจุนจะรวย แต่มันก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมาฉวยเอาประโยชน์จากเค้าได้ คนอย่างไช่เฉียงมันก็แค่อันธพาล
หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าของอาสะใภ้รอง ฉินจุนคงจัดการเค้าไปแล้ว
เหตุผลที่ฉินจุนยอมเอาเงินออกมามันก็เพราะฉินจุนต้องการที่จะเล่นงานพวกเค้า ถ้าไม่ให้พวกเค้าได้เจอกับบทเรียน พวกเค้าก็จะไม่รู้จักเข็ด
ต้วนเป่าตงตอบทันทีว่า “ได้คนล้วงกระเป๋าแล้วครับ คุณฉันสั่งมาได้เลยครับ”
ต้วนเป่าตงเค้ามีพวกนักย่องเบา นักล้วงกระเป็ามากมาย พวกเค้าสามารถทำมันได้โดยไม่ต้องโดนข้อหาอะไร
ฉินจุนก็ส่งหมายเลขทะเบียนรถไป “มีสามคนในรถและเงินสดอีกหนึ่งล้าน”
“รับทราบ!”
เมื่อตวนเป่าตงได้รับข้อความแล้ว เค้าก็เริ่มจัดการทันที
ไช่เฉียงกับพ่อแม่ก็ขึ้นรถในทันที พวกเค้าตื่นเต้นมาก นี่มันเป็นครั้งแรกเลย พวกเค้าไม่เคยใช้รถดีๆแบบนี้มาก่อนเลย
“ลูก ขับระวังๆนะ รถคันนี้ค่าซ่อมมันแพงมากไม่ใช่หรือ?”
ไช่เฉียงก็บอกว่า “แม่ ไม่ต้องห่วง ฉันเคยขับแท็กซี่มาก่อน ผมขับได้น่า”
ไช่เฉียงเคยขับรถแท็กซี่มาก่อน แต่หลังจากทำงานไม่กี่เดือน เค้าเลิกทำเพราะเหนื่อย ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เค้ารู้วิธีขับรถ ทั้งสามก็ออกจากคฤหาสน์ชิงเหมยและลงจากเขาไป
ระหว่างทาง ทั้งสองก็เปิดดูเงินในถุง เงินสดสีแดงจำนวนมากมาย พวกเค้ายิ้มกันอย่างมีความสุข
เหล่าไช่ก็พูดขึ้นมาว่า “หนึ่งล้านหยวนนี่มันจะเป็นของปลอมไปได้ยังไงกัน หนึ่งล้านนี้หนักมาก หากเป็นสิบล้านมันก็ไม่น่าจะยกไหวนะ”
เป็นครั้งแรกที่พวกเค้าเห็นเงินมากมายขนาดนี้ เงินถุงหนึ่งล้าน ถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายที่แข็งแรงของไช่เฉียงแล้ว พวกเค้าก็ไม่น่าจะยกมันไหว
“แม่ ไปหาร้านอาหารทะเลเพื่อฉลองกันดีไหม?”
“เอาสิ ยังไงพวกเราก็ไม่ได้ไม่มีเงินแล้ว”
ทั้งสามมีความสุขมาก เมื่อเจอร้านอาหารขนาดใหญ่ พวกเค้าก็จอดรถไว้ที่ประตูทางเข้า
“ลูก เราจะเอาเงินนี่ไปด้วยหรือเอาไปไว้ในรถดี?”
เหล่าไช่ก็กังวลขึ้นมาเล็กน้อย “ทำไมไม่ฝากธนาคารไว้ก่อน” เงินสดเยอะขนาดนั้น เธอเองก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย
ไช่เฉียงก็บอกว่า “ไม่เป็นไรแม่ ไปกันเถอะ มันสายเกินไปแล้วที่จะไปฝากเงิน การได้กินข้าวที่ร้านอาหารใหญ่ๆแบบนี้จะพลาดไม่ได้เลยนะแม่ ไม่ต้องกังวลไปหรอก”
ไช่เฉียงก็หยิบกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นมา แม้ว่ามันจะหนัก แต่มันก็คือเงิน เมื่อเค้าคิดว่าเค้ากำลังแบกเงินหนึ่งล้าน เค้าก็มีความสุขมากแล้ว
พอเข้าไปในโรงแรม เค้าก็แสดงท่าทีอย่างจองหอง “ฉันต้องการห้องอาหารส่วนตัว!”
ไช่เฉียงและคนอื่นๆก็เข้าไปที่ห้องส่วนตัวและสั่งอาหารจานใหญ่ พวกเค้าทั้งสามคนไม่ได้กินอะไรดีๆแบบนี้มาก่อน ดังนั้นในตอนนี้พวกเค้าก็เลยมีความสุขมาก
นอกจากความอร่อยของอาหารทะเลแล้ว ทั้งสามคนยังสั่งเหมาไถอีกสองขวด ไวน์ราคากว่า 1,000 หยวน รายการอาหารอีกมากมาย
จากนั้นไช่เฉียงก็โทรหาพี่หวงและพูดว่า “พี่หวง! ฉันอยู่ที่ร้านอาหาร เหอซุน ฉันมาถอนเงิน ไม่ต้องห่วง ฉันจะคืนเงินให้พี่อย่างแน่นอน!”
คำพูดที่ว่า ความมั่งคั่ง ร่ำรวย และถ้าคุณมีเงิน มันก็พูดได้
ในตอนที่ทั้งสามกำลังนั่งกินกันอยู่นี้เอง ทันใดนั้นประตูห้องส่วนตัวก็ถูกเปิดออก
“พี่ใหญ่! ฉันดื่มให้พี่!”
ทันใดนั้นคนเมาก็เข้ามา ในมือของเค้าก็ถือขวดเบียร์เอาไว้
ไช่เฉียงก็ขมวดคิ้ว “นายเป็นใคร เข้าผิดห้องเปล่า?”
ชายขี้เมาสูงเกินหนึ่งเมตรแปดสิบ เค้าดูแข็งแรงมาก เมื่อไช่เฉียงเห็นและทั้งสามคนจ้องเขม็ง
“พวกคุณเป็นใคร พี่ใหญ่ของฉันเค้าอยู่ที่ไหนกัน!”
