ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 317 เอาตัวสาวน้อยกลับมาด้วย

ฉินจุนยิ้มขึ้นมา “ผมคิดว่าอารองของผมเค้าน่าจะเก่งกว่าผมนะ”

เย่ซวนหยวน ถอนหายใจออกมา “หยุดเลย เธอคิดว่าฉันอายุเท่าไหร่กัน? สามปี เค้าหละ?”

ไม่ว่าจะเป็นการเรียนแพทย์ กังฟู หรือการเรียนรู้ต่างๆ ยิ่งอายุน้อยก็ยิ่งดี ในตอนที่ฉินจุนเค้ามา ตอนนั้นอายุของเค้าก็กำลังพอดีเลย

นอกจากนี้แล้ว เค้ายังมีความสามารถ ขยันและใผ่เรียน ด้วยความเกลียดชังในใจที่เค้ามี ฉินจุนก็เลยทำงานหนักกว่าคนอื่นๆและด้วยการชี้แนะของอาจารย์ที่มีชื่อเสียงอย่างเย่ซวนหยวน เค้าก็เลยสามารถที่จะสร้างฉินจุนแบบทุกวันนี้ได้

ประสบการณ์แบบนี้มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดขึ้นมาอีก แม้ว่าจะเป็นเย่ซวนหยวนที่สอนอีกครั้ง แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เค้าจะเป็นเหมือนกับฉินจุน

“อารองของเธอหันมาแล้ว พวกเค้าออกไปเถอะ หลังจากนี้อีกสองสามปีค่อยให้เค้ากลับมาที่ภูเขานี่”

ฉินจุนพยักหน้า แม้ว่าอากับหลานจะพึ่งได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เค้าเองก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ถ้าหากว่าอารองสามารถที่จะเรียนรู้จากอาจารย์ของเค้าได้ซักสองสามปี สิ่งเหล่านี้นมันจะเป็นประโยชน์ต่อเค้าในอนาคต

หลังจากที่อยู่ในชนบทแห่งนี้มาแล้วสองสามวัน ฉินจุนก็ยังไม่ยอมแพ้ เค้าขี่วัวของอาจารย์และเริ่มเดินเตร่ไปมา แต่ที่นี่มันก็ไม่มีสัญญาณมือถือเลย สองสามวันมานี้เค้าไม่ได้ข่าวอะไรเลย เค้าเองก็กลัวว่าที่ตงไห่มันจะเกิดเรื่องขึ้น

เมื่อฉินจุนเดินไปรอบๆในทุ่งพร้อมกับวัว เค้าก็มองเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนแน่นิ่งอยู่ในทุ่ง เค้าเลยรีบไปตรวจ

เมื่อพลิกตัวเธอขึ้นมา เธอยังเด็ก ผมสีบลอนด์ ตาสีฟ้า เธอดูอายุแค่สิบสี่สิบห้าปีเท่านั้น เนื้อตัวมอมแมม ไม่รู้จริงๆเลยว่าเด็กสาวต่างชาติคนนี้ เธอมาที่นี่ได้ยังไงกัน

หลังจากการตรวจชีพจรพื้นฐานแล้ว ฉินจุนก็พบว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เธอหมดสติไปแล้ว แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรร้ายแรงเลย

เค้าอุ้มเธอขึ้นมา วางไว้บนหลังวัว จากนั้นก็พาเธอกลับมา

“อาจารย์ ผมพาเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วย”

เย่ซวนหยวนไม่ลืมตาขึ้นมาเลย “ก็ดี เอาทำเมียเธอซะสิ ฉันเห็นด้วย”

ฉินจุนกลอกตาไปมาอย่างเงียบๆ ชายชราเองก็ไม่ได้จริงจังอะไร

เมื่อวางเด็กหญิงลง ฉินจุนก็ฝังเข็มเงินสองอันลงไปและเด็กน้อยก็ค่อยๆฟื้นขึ้นมา เธอเอนตัวไปที่กำแพงอย่างอ่อนแรง

ในหม้อมันก็มีข้าวเหลืออยู่นิดหน่อย ฉินจุนตักข้าวแล้วเอาไปให้เธอ

“กินสิ กินข้าวแล้วก็น่าจะดีขึ้นนะ”

ไม่รู้เลยว่าเด็กผู้หญิงคนนี้เธอฟังเข้าใจหรือไม่ แต่ที่แน่ๆเธอหิว แค่รู้แค่ว่าต้องกิน

เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ เมื่อเห็นอาหาร แววตาของเธอก็เป็นประกายขึ้นมา เธอหยิบช้อนขึ้นและตักอาหารเข้าปากราวกับผีที่หิวโหย เธอกินข้าวชามโตหมดในเวลาเพียงแค่ห้านาทีก็เท่านั้น

หลังจากกินข้าวแล้ว เธอก็ดื่มน้ำอีกถ้วยใหญ่ จากนั้นก็เอนพิงกำแพงอย่างสบายใจแล้วเรอออกมา

เด็กผู้หญิงคนนี้ เธอพูดภาษาจีนไม่ได้เลย ที่คอของเธอก็มีเชือกคล้องคออยู่ เธอก็หยิบอุปกรณ์เล็กๆออกมาจากเชือกนั่น หลังจากพูดไปสองสามคำ เธอก็เริ่มที่จะเขียนภาษาจีนขึ้นมา

“พี่ใหญ่ ขอบคุณนะคะ”

ฉินจุนตระหนักว่าอุปกรณ์เล็กๆของเธอนี่เป็นเครื่องมือในการสื่อสารของเธอ เธอคนนี้ค่อนข้างฉลาด ไม่อย่างนั้นเธอเองก็ไม่รู้ว่าเธอพูดภาษาอะไร นั่นมันจะทำให้ฉินจุนไม่เข้าใจเลย อย่างไรก็ตามภาษาที่เธอพูดออกมามันไม่ใช่ภาษาอังกฤษแล้วก็ไม่ใช่ภาษาทั่วไป

“เธอมาทำอะไรที่นี่ พ่อแม่เธอหละ?”

สาวน้อยก็พูดขึ้นมาว่า “หนูชื่อซาซ่าและชื่อเต็มของหนูคือคริสซาซ่า หนูมาจากอิรักและแอบออกมาเที่ยวเล่น”

ฉินจุนแปลกใจเล็กน้อย “เธออยู่คนเดียวเหรอ เธอแอบลักลอบจากประเทศอีรักเข้ามาในประเทศจีนเหรอ?”

“หึหึ ฉันขโมยเครื่องบินส่วนตัวบินมา ในตอนที่เครื่องจะตก ฉันหาที่ลงจอดไม่เจอ ก็เลยกระโดดร่มลงมา”

ฉินจุน: …

นี่มันไม่สามารถเจอได้ง่ายๆเลย เด็กอายุ 13 ขวบขับเครื่องบินได้ เธอบินมาที่จีนแล้วยังกระโดดร่มเองได้อีก นี่มันน่ามหัศจรรย์จริงๆ

“เธอจะติดต่อครอบครัวของเธอยังไง ให้ฉันช่วยติดต่อไหม”

“ไม่ต้อง! ฉันอยากเที่ยวเล่นที่จีนซักพัก! พี่ใหญ่ ฉันขอติดตามพี่ไปด้วยได้ไหม”

เมื่อฉินจุนเห็นว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆนี่ เธอเองก็น่าสงสารมากเหมือนกัน เค้าก็รู้สึกใจอ่อนขึ้นมาเล็กน้อย “ก็ได้ อย่างมากก็เจ็ดวัน หลังจากเจ็ดวันเธอต้องติดต่อพ่อแม่ของเธอนะ”

“ได้ค่ะ! ขอบคุณพี่ใหญ่มาก!”

ซาซ่ามีความสุขมาก แล้วเธอก็กินข้าวเข้าไปอีกชามใหญ่

……

จากนั้นไม่นาน อาการบาดเจ็บของฉินจุนก็แทบจะหายเป็นปกติแล้ว อารองกับซาซ่าเด็กน้อยที่มาจากอิรัก พวกเค้าก็เดินไปตามท้องถนน

หลังจากที่ออกจากหมู่บ้านเล็กไปแล้ว พวกเค้าก็กลับไปที่ตงไห่อีกครั้ง

ในตอนที่เข้าสู้เขตตงไห่ ฉินจุนก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเค้าออกมาแล้วรีบโทรหาเมิ่งเหวินกัง

เสียงของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาได้สองสามครั้ง ในที่สุดเสียงของเมิ่งเหวินกังก็ดังขึ้นมา

“ศิษย์พี่!?”

น้ำเสียงของเมิ่งเหวินกังดูตื่นเต้นมาก ก่อนหน้านี้ข่าวนี้มันดังมากเลย พวกเค้าต่างพูดกันว่าฉินจุนตายไปแล้ว

คิดไม่ถึงเลยว่าสถานการณ์แบบนี้เค้าจะได้รับสายจากศิษย์พี่

ฉินจุนก็พูดขึ้นมาว่า “ไม่เป็นไร อาจารย์ช่วยฉันไว้”

เมิ่งเหวินกังก็ยิ่งตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น “ท่านอาจารย์! พี่ได้เจออาจารย์เหรอครับ?”

“อืม อาจารย์เค้ามาที่ตงไห่กับฉันด้วย ฉันจะหาโอกาสให้นายได้เข้าพบเค้า สถานการณ์ของนายตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”

เมิ่งเหวินกังดีใจมาก เค้าเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากที่ผ่านมาแล้วหลายปี เค้าจะได้เจออาจารย์อีก นี่มันเยี่ยมยอดมาก!

แต่เมื่อเค้าพูดถึงตัวเอง น้ำเสียงของเมิ่งเหวินกังก็ค่อนข้างจะอึดอัดเล็กน้อย “ศิษย์พี่ เมิ้งกรุ๊ปของผมล้มละลายแล้ว”

ฉินจุนผงะไปซักพัก “เมิ่งกรุ๊ปล้มละลายเหรอ? แค่ไม่กี่วันเนี่ยนะ?”

แม้ว่าฉินจุนเองก็เดาเอาไว้ว่าเมิ่งกรุ๊ปจะต้องได้รับผลกระทบบ้าง แต่เค้าก็คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะล้มละลายเร็วขนาดนี้!

ต้องรู้ว่าเมิ่งกรุ๊ปเป็นองค์กรชั้นนำในมณฑลตงไห่ มันจะล้มละลายไปได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?

เมิ่งเหวินกังก็ถอนหายใจออกมา “มีหลายตระกูลที่เก่งกาจจากต่างแดนมากดขี่ เมิ่งกรุ๊ปของเราในเวทีระหว่างประเทศ การค้าส่งออกทั้งหมดโดนขวางแล้วพวกเค้าก็แบ่งผลประโยชน์กัน ราคามันลดลงและเราไม่สามารถควบคุมมันได้อีกต่อไป พวกเราทำได้เพียงแค่ประกาศล้มละลายก็เท่านั้น ”

“ยังไงก็ตาม ซวนหยวนกรุ๊ปเองก็ล้มละลายเหมือนกัน”

ซวนหยวนกรุ๊ปนี้ก่อตั้งขึ้นโดยเมิ่งเหวินกกัง แต่บริษัทถูกส่งต่อให้กับฉินจุนและด้วยเหตุนี้เอง บริษัทจึงล้มละลาย

บริษัทของเมิ่งเหวินกังต่างตกเป็นเป้าหมายการโจมตี นี่มันไม่ต้องพูดถึงของฉินจุนเลย ซวนหยวนปรุ๊ปเป็นกลุ่มแรกที่ถูกโจมตีหลังเกิดเรื่องขึ้น

ฉินจุนพยักหน้า “อืม ฉันเข้าใจแล้ว”

แม้ว่าเรื่องต่างๆมันจะค่อนข้างยุ่งยาก แต่เนื่องจากฉินจุนเองก็กลับมาแล้ว สิ่งเหล่านี้จะได้รับการแก้ไขในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน

หลังจากนั้น ฉินจุนก็ได้สอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุ๊ป

ท้ายที่สุดแล้ว บริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุ๊ปก็เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ในประเทศจีน ถึงแม้ว่าจะถูกตั้งเป้าหมายเอาไว้ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะล้มบริษัทนี้

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุ๊ปดิ่งลงเกือบหมด นักลงทุนทั้งหมดทิ้งหุ้น เทียนเทียนเว่ยอยู่ที่ประตูสำนักงานใหญ่บริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุ๊ป ตอนนี้คนที่ทำงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุ๊ปก็ไม่กล้าไปทำงาน หลายคนก็แอบกระโดดหนีออกไปจากอาคาร.

อสังหาริมทรัพย์ของเขาจากสิบอันดับแรกในประเทศไป มันก็ตกลงไปเป็น 30 อันดับแรกและลดลงเรื่อยๆ แต่เหอเนี่ยนอิงก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมาเลย มีเพียงเซี๋ยต้าหลินเท่านั้นที่ออกมาจัดการเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่เร่งรีบเป็นอย่างมาก

ฉินจุนขมวดคิ้วของเค้าขึ้นมา แม้แต่เหอเนี่ยนอิงก็ยังได้รับผลกระทบขนาดนี้เลยเหรอ ดูเหมือนว่าคนที่ลงมือในครั้งนี้มันจะไม่ง่ายเลยจริงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset