ตู้ยาพังยับเยิน ยาจีนข้างในถูกขโมยไปจนหมด และยาราคาถูกก็ถูกโยนทิ้งจนเกลื่อนพื้น
เมื่อฉินจุนเห็นแบบนั้นใบหน้าของเขาก็มืดมนทันที คลีนิกซวนหยวนนี้เป็นสิ่งที่เขาสร้างมาด้วยแรงใจทั้งหมดที่มี แต่วันนี้กลับมาถูกทำลายลง ใจของเขาก็ต้องโกรธขึ้นมาเป็นเรื่องธรรมดา
“หลบหน่อย!”
เมื่อได้ยินเสี่ยงที่ดังขึ้น ทุกคนก็ต่างตกใจและหลีกทางให้โดยไม่รู้ตัว
ฉินจุนปรากฎตัวออกมา สีหน้าของเย่หวันเอ๋อและคนอื่นๆก็ดีขึ้น
“พี่เสี่ยวจุน! พี่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”
ฉินจุนพยักหน้า เขาหันหลังกลับมา มองไปที่ทีมรื้อถอนที่อยู่ด้านหน้าของเขา และพูดออกมาไปอย่างเยือกเย็นว่า
“ใครสั่งให้พวกนายมารื้อคลีนิกของฉัน?”
ชายคนหนึ่งก้าวออกมา ถือค้อนอยู่ในมือแล้วพูดว่า “ฉันชื่ออู๋เฟิง เป็นหัวหน้าของคนงานเหล่านี้ พวกเราเป็นคนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลินเคอ ที่ตรงนี้มันเป็นที่ดินของพวกเรา พวกเราจำเป็นต้องมาจัดการกับมัน”
ฉินจุนหัวเราะออกไป “บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลินเคอ? นี่เป็นบ้านที่ฉันซื้อมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และจ่ายไปเต็มจำนวน พวกนายมีสิทธิอะไรมารื้อถอน?”
อู๋เฟิงตกใจ สีหน้าของเขามีความเหยียดหยามแสดงออกมาให้เห็น
“นายบอกว่านายจ่ายไปเต็มจำนวน? มีหลักฐานไหม? ฉันจะบอกนายให้ อย่ามาขวางทางพวกเรา ไม่อย่างนั้นถ้านายเป็นอะไรไปฉันไม่รับผิดชอบนะ!”
เมื่อพูดจบ อู๋เฟิงก็เหวี่ยงค้อนทำให้คนอื่นตกใจ
ค้อนนั้นผ่านหน้าฉินจุนไป สีหน้าของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง จู่ๆเขาก็ยื่นมือออกไปจับไปที่หัวค้อนและทุบมันอย่างรุนแรง ทำให้ค้อนที่หนาๆนั้นแตกออกเป็นสองส่วน
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้คนตกใจจนอ้าปากค้าง
ฉินจุนโยนมันลงไปกับพื้น จากนั้นผู้คนก็ต่างก้าวถอยหลังไป
นี่มันจะบ้าไปแล้วหรือเปล่า ค้อนอันใหญ่ขนาดนี้แต่สามารถทำลายได้ด้วยมือเปล่า?
สีหน้าของอู๋เฟิงขาวซีด เขาคิดไม่ถึงว่าค้อนอันนี้จะถูกทำลายไปด้วยมือของฉินจุน!
“นาย…นายอย่าเข้ามานะ พวกเรา พวกเราเป็นคนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลินเคอนะ!”
ฉินจุนยิ้มและพูดออกมาว่า “บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลินเคอใช่ไหม ฉันแหละสงสัยจริงๆ ที่นี่เป็นที่ที่ฉันใช้เงินซื้อมาอย่างถูกต้อง บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลินเคอของพวกนายมีสิทธิอะไรมารื้อถอน?”
พูดจบฉินจุนก็โทรไปหาเหอเนี่ยนอิง เมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมดเหอเนี่ยนอิงก็โกรธขึ้นมาทันที
ถึงแม้ว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลินเคอจะเป็นบริษัทที่แยกตัวออกมาต่างหาก แต่ก็อยู่ในเครือของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุป หรือจะพูดอีกอย่างก็คือ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีเถ้าแก่เพียงคนเดียว แต่บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลินเคอก็ยังอยู่ในความดูแลของเหอเนี่ยนอิง
“ช่างกล้าเสียเหลือเกิน น้องชายรอเดี๋ยว ฉันจะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลย”
ถ้าหากเป็นเรื่องอื่นเหอเนี่ยนอิงอาจจะไม่โกรธมากถึงขนาดนี้ แต่นี่เป็นเรื่องของคลีนิกของน้องชาย นั่นคือคลีนิกซวนหยวน มันเปรียบเสมือนตัวแทนของเหล่าอาจารย์ทั้งหลาย!
คลีนิคของอาจารย์ถูกคนอื่นทำลายไปแล้ว? คนพวกนี้ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วใช่ไหม!
เหอเนี่ยนอิงรีบโทรไปหาประธานบริษัทหลินเคอ ทันทีในทันที
“สวัสดีครับประธานเหอ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้รับใช้?”
“นี่เจ้าคนแซ่หลิน นายคิดจะทำอะไรของนาย!”
ประธานบริษัทหลินเคอ หลินปู้ฟานตัวสั่นเมื่อได้ยินเสียงของเหอเนี่ยนอิง เนื่องจากปกติแล้วเหอเนี่ยนอิงจะเป็นคนอารมณ์ดีไม่พูดจารุนแรง แต่ครั้งนี้ผิดปกติไปมันจะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่
“ประธานเหอ เกิดเรื่องอะไรขึ้น อย่างใจร้อน ค่อยๆพูด!”
เมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากเหอเนี่ยนอิง หลินปู้ฟานก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที หายใจไม่ออกด้วยความโกรธในท้องของเขา
“โอเคฉันรู้แล้ว ฉันจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ วางใจ ฉันจะต้องให้คำตอบที่น่าพอใจกับคุณ”
เจ้าคนกลุ่มนี้มันสมควรตายจริงๆ เล่นกับใครไม่เล่นไปเล่นกับแขกคนสำคัญอย่างเหอเนี่ยนอิง!
บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลินเคอมีชื่อเสียงโด่งดังในตงไห่ แต่ทำไมมันจึงถึงเติบโตได้จนมาถึงทุกวันนี้หละ? ถ้าหากไม่ใช่เพราะเหอเนี่ยนอิง บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลินเคอของเขาก็คงไม่มีวันนี้
ตอนแรกหลินปู้ฟานมีงานประชุมในวันนี้ แต่พอเขาได้ยินเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดงานประชุมก็ถูกยกเลิกไปทันที เขาเรียกคนขับรถให้พาเขาไปที่ถนนแพทย์แผนจีน
ไม่นานหลินปู้ฟานก็มาถึงถนนแพทย์แผนจีน มีเสียงบีบแตรดังขึ้นสองครั้ง จากนั้นทุกคนก็หลีกทางให้เพราะรู้ว่ารถคันนี้เป็นของประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลินเคอ
สีหน้าของอู๋เฟิงดูดีขึ้นมาทันที เนื่องจากครั้งนี้เขามีเจ้านายมาด้วย เขาจึงมีความมั่นใจมากกว่าเดิม
การรื้อถอนคลีนิกซวนหยวน ประธานซูสั่งให้พวกเขามาทำ แน่นอนว่าความสัมพันธ์ระหว่างประธานซูกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลินเคอนั้นดีมาก เป็นไปได้ไหมว่าการรื้อคลีนิกเล็กๆจะทำให้ประธานซูมีปัญหา?
หลังจากที่หลินปู้ฟานลงมาจากรถ อู๋เฟิงก็ตกใจเล็กน้อย ตอนแรกเขาคิดว่าคนที่มาคงจะเป็นแค่ผู้จัดการสักคน ไม่ก็หัวหน้าแผนก คิดไม่ถึงเลยว่าประธานบริษัทหลินจะมาด้วยตัวเอง!
“ท่านประธานหลิน ฉันนี่คืออู๋เฟิงจากแผนกวิศวกรรมของบริษัทเรา เรียกฉันว่าเสี่ยวอู๋ก็ได้”
สีหน้าของหลินปู้ฟานมืดมน “นายเป็นคนทำลายสถานที่แห่งนี้เหรอ?”
อู๋เฟิงพยักหน้า “ประธานอู๋ กับประธานซู เป็นคน….”
ปัง!
ยังไม่ได้พูดจบหลินปู้ฟานก็ตบเข้าไปที่ใบหน้าของอู๋เฟิง
“ประธานซู? นายเป็นคนของบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลินเคอหรือว่าเป็นคนของซูกรุ๊ป?”
อู๋เฟิงลูบไปที่ใบหน้าที่ถูกตบของเขา
“ประธานหลิน! พวกเรากับตระกูลซูไม่ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดหรอกเรอ? ประธานซูเขาเป็นพี่น้องกับคุณ…..”
“หุบปาก!”
หลินปู้ฟานตบอู๋เฟิงด้วยหลังมืออีกครั้ง ครั้งนี้มีเลือกพุ่งออกมาจากปากของอู๋เฟิง
หลินปู้ฟานโกรธมาก ดวงตาของเขามีเปลวไฟลุกโชนขึ้น ความสัมพันธ์ของเขากับตระกูลซูมันเป็นแค่ความสัมพันธ์ธรรมดาๆเท่านั้น
นั่นมันเป็นแค่การสร้างภาพเท่านั้น ตอนนี้ตระกูลซูไม่ใช่กำลังของตัวเองแต่กลับมาสั่งให้ลงมือกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุป พวกเขากำลังรนหาที่ตายโดยแท้จริง
ถ้าหากตระกูลซูอยากจะตายมากขนาดนั้นก็อย่าเอาเขาเข้าไปเกี่ยวด้วย!
“เจ้าของเขาจ่ายเงินมาครบตามจำนวนแล้วนายมีสิทธิอะไรมารื้อถอน? คนแบบนี้ไม่คู่ควรจะที่อยู่ในบริษัทของฉันต่อไป นายถูกไล่ออก รีบพาลูกน้องของนายไสหัวไปได้แล้ว!”
สีหน้าของอู๋เฟิงเปลี่ยนไปทันที “ท่านประธานหลิน! คุณเข้าใจผมผิดแล้ว ได้โปรดอย่าไล่ผมออกเลย ท่านประธาน!”
แน่นอนว่าหลินปู้ฟานไม่มีทางให้โอกาสเขา เจ้าขยะพวกนี้เกือบจะทำให้เขาต้องไปขุ่นเคืองกับเหอเนี่ยนอิง ถ้าหากประธานเหอโกรธขึ้นมาจริงๆ แบบนั้นเขาเองก็จงถึงคราวสิ้นสุด
“คุณฉิน ฉันคือประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลินเคอ หลินปู้ฟาน นี่คือนามบัตรของผม เรื่องในวันนี้ต้องขอโทษด้วยจริงๆ หลังจากนี้ถ้าหากคุณต้องการอะไรสามารถสั่งมาได้เลย”
“คุณวางใจ ฉันขอเวลา 5 วัน ไม่ สามวัน ฉันจะทำให้คลีนิกนี้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม และมันจะต้องดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน”
ฉินจุนพยักหน้า หลินปู้ฟานคนนี้ท่าทางไม่เลว ถึงแม้มันจะช้าไปหน่อยแต่เขาก็ทำมันได้ดี
ถ้าหากครั้งนี้ฉินจุนไม่ได้กลับมา เกรงว่าจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับตงไห่อย่างแน่นอน
เจิ้งผิงหลง ข่งฝานหลิน เย่หวันเอ๋อทั้งสามคนยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ พวกเขาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้มีอะไรให้ทำมากนัก ดังนั้นตอนนี้ก็ถอว่าเป็นเวลาว่าง เย่หวันเอ๋อจึงออกไปหายามาเพิ่มเติม
ฉินจุนขับรถกลับมาที่คฤหาสน์ชิงเหมยเพียงลำพัง
เกิดเรื่องขึ้นกับเขา คฤหาสน์ชิงเหมยก็น่าจะไม่สงบเป็นแน่
ก่อนหน้านี้บริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุ๊ปถูกเผา แน่นอนว่ามีใครมาดูแลคฤหาสน์ชิงเหมย
เมื่อมาถึงหน้าประตู รปภ. หลายคนก็ออกมาขวางฉินจุนเอาไว้
“นี่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล คนนอกห้ามเข้า”
ฉินจุนยิ้มออกมา รปภ.พวกนี้เพิ่งจะเข้ามาทำงานใหม่ ท่าทางของพวกเขาไม่เลว ถ้าหากเป็นคนก่อนๆคนรู้จักฉินจุน แต่ตอนนี้นอกจากคนที่ย้ายมาใหม่ที่อยู่ด้านใน ก็คงไม่มีใครรู้จักฉินจุน
ฉินจุนอยากรู้จริงๆว่าใครกันที่ย้ายมาอยู่ที่นี่
“ฉันเป็นเพื่อนของเจ้านายของพวกนาย ไปแจ้งเขาให้ทราบที”