สีหน้าของผอ.โจวเปลี่ยนไปเล็กน้อย “คุณเป็นใคร คุณคิดจะทำอะไร ! ”
ผอ.โจวเคยได้ยินแต่ชื่อของปรมาจารย์ฉิน แต่เขาไม่เคยเห็นกับตาตัวเองว่าปรมาจารย์ฉินเป็นใคร
เมื่อเห็นฉินจุนวิ่งเข้ามา เขาก็จ้องมองด้วยใบหน้าโกรธเคือง
ฉินจุนยิ้มอย่างเย็นชา “ผมเป็นใครคุณไม่ต้องรู้หรอก แต่คุณน่าจะรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร ”
หลังจากพูดจบ ผอ.โจวถึงได้เห็นว่ามีคนมากมายยืนอยู่ด้านหลังของฉินจุน บางคนก็ถือไมค์ บางคนก็ถือกล้องถ่ายรูป
“นักข่าวหรอ ? ”
ผอ.โจวตกตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าคนคนนี้จะพานักข่าวมา สิ่งที่พวกเขากลัวที่สุดคือการเป็นข่าว เมื่อข่าวรายงานออกไป คงหนีไม่พ้นผู้อำนวยการอย่างเขาต้องมารับผิดชอบแน่นอน
“อะไรเนี่ย พวกคุณถ่ายอะไรกัน ที่นี่คือโรงพยาบาลนะครับ ไม่ใช่ที่ที่พวกคุณจะเข้ามาถ่ายรูปตามใจได้นะ ! ”
พูดจบผอ.โจวก็ปิดประตูทันที ภายในห้องเหลือเพียงหลินเยวี่ยเหยา ฉินจุน และก็พวกเขาสองพ่อลูก ส่วนพวกนักข่าวถูกปิดประตูไม่ให้เข้าอยู่ด้านนอก
หลินเยวี่ยเหยางงเล็กน้อย เธอถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “พี่มาได้ไง ? ”
ฉินจุนมองไปที่ใบสั่งยาบนโต๊ะและพูดกับหลินเยวี่ยเหยา
“น้าเฝิงมารักษาที่นี่และกินยาไปสองตัว แล้วเธอเป็นลมอยู่ที่บ้าน ”
หลินเยวี่ยเหยผงะ “อะไรนะ ? ใบสั่งยาของน้าเฝิงก็มียาพวกนี้อยู่ด้วยหรอ ? ”
หลินเยวี่ยเหยาขมวดคิ้วและจ้องไปที่โจวคุนอย่างโกรธๆ ไม่ต้องถามก็รู้ว่าโจวคุนเป็นคนทำ
โจวคุนร่วมมือกับร้านขายยา สั่งผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพให้กับผู้ป่วย เพื่อแลกกับค่าคอมมิชชั่นของตัวเอง คนประเภทนี้ควรค่าแก่การเป็นหมอแล้วหรอ
โจวคุนที่ไม่พูดมาสักพัก ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
“รองผู้อำนวยการหลิน คุณอย่าคิดว่าหาคนมาช่วยได้แล้วจะจบนะ เมื่อกี้พ่อผมก็พูดไปแล้ว ว่าเรื่องนี้ทั้งหมดเป็นความรับผิดชอบของคุณ ”
“แม้ว่าคุณจะบอกความจริงออกไป แต่คุณในฐานะแพทย์ที่เข้าร่วมการรักษาก็ต้องรับผิดชอบเช่นกัน ยังไงก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันอยู่แล้ว ไม่สู้คุณรับผิดชอบเรื่องนี้เองทั้งหมด พวกเราสองพ่อลูกก็จะจดจำน้ำใจของคุณไว้ ”
หลินเยวี่ยเหยาแสดงความไม่พอใจ “ฝันไปเถอะ ! ”
โจวคุนหัวเราะอย่างเย็นชา “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็อย่ามาหาว่าผมไม่เกรงใจก็แล้วกัน ! ”
หลังจากพูดจบ โจวคุนก็ถอดเสื้อกาวน์สีขาวของตัวเองออก เขาสวมเสื้อแขนสั้นอยู่ข้างใน เผยให้เห็นแขนสองข้างที่แข็งแรงและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ
โจวคุนแสดงสีหน้าไม่พอใจ “ผมลืมบอกไปว่าตอนสมัยเรียน ผมเป็นแชมป์การต่อสู้ระดับจังหวัด”
สีหน้าของหลินเยวี่ยเหยาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ปกติแล้วถ้าฉินจุนอยู่ข้างๆเธอจะค่อนข้างมีความมั่นใจมาก แต่เธอไม่คิดว่โจวคุนจะแข็งแกร่งขนาดนี้ และเป็นถึงแชมป์การต่อสู้ !
ผอ.โจวเองก็มองอย่างเยาะเย้ย เขาถอยหลังไปสองสามก้าวเป็นการยอมรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ดูเหมือนว่าพ่อลูกคู่นี้พร้อมที่จะสู้ !
โจวคุนกำหมัดของตนเองและเดินเข้าไปหาฉินจุนกับหลินเยวี่ยเหยาทีละก้าว แต่สำหรับฉินจุนแล้วคนผอมบางอย่างนี้ไม่ควรค่าที่จะให้เขาสู้ด้วยหรอก
“ถ้าวันนี้ตกลงกันไม่ได้ คุณสองคนก็อย่าคิดว่าจะได้ออกไปจากห้องนี้เลย ”
หลังจากพูดจบ โจวคุนก็ยื่นมือออกมาและจับไปที่ไหล่ของฉินจุน เตรียมที่จะกดเขาลงกับพื้นก่อนค่อยว่ากัน
แต่ทว่าทันทีที่โจวคุนเอื้อมมือออกไป ฉินจุนก็จับข้อมือของเขาทันที
มือของฉินจุนราวกับที่คีบเหล็กอันหนึ่ง โจวคุนออกแรงที่ข้อมือและเขาก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย เด็กคนนี้ทำท่าแปลกๆ เขาใช้มือขวากำลังจะต่อยเข้าที่หน้าของฉินจุน
แต่ทว่ายังไม่ทันที่หมัดจะถึงเขา ฉินจุนก็ออกแรงและใช้มือขวาหักข้อมือของโจวคุนทันที
เมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้น โจวคุนถูกรวบข้อมือและก็คุกเข่าลงกับพื้นทันที
“ปล่อยฉันนะ แกเชื่อไหมฉันจะฆ่าแกแน่ ! ”
ฉินจุนยิ้มจางๆ “ฉันไม่เชื่อ ”
หลังจากพูดจบฉินจุนก็ใช้มือข้างหนึ่งจับคอของโจวคุนและยกเขาจนตัวลอยขึ้น
เขาเปิดหน้าต่างและยื่นตัวโจวคุนออกไป โดยรั้งไว้นอกหน้าต่าง
“คุณเชื่อไหมว่าผมโยนคุณออกไปได้ ? ”
โจวคุนตกใจมาก เพราะเขาเป็นผู้ชายที่หนักแค่80กว่าโล ในมือของฉินจุนเขาก็เหมือนกับของเล่นชิ้นหนึ่ง เขาสามารถถูกโยนไปนอกหน้าต่างได้อย่างง่ายดาย
นี่เป็นตึกสิบชั้น ตกลงไปก็คงตายอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อเท้าลอยอยู่ในอากาศ โจวคุนก็รู้สึกหวาดกลัว และขาทั้งสองข้างเริ่มสั่นเทาจนแทบจะฉี่รดกางเกง
“ผมเชื่อแล้ว ผมเชื่อ…… ”
ผอ.โจวเองก็ตกตะลึง เขาไม่คิดว่าลูกชายของเขาจะต้องมาพ่ายแพ้ให้กับเด็กคนนี้
“อย่าขยับ ! อย่าขยับนะ ฉันผิดไปแล้ว คุณต้องการยังไงก็เอาอย่างงั้นเลย ! ”
ผอ.โจวหน้าซีเผือดจนแทบจะคุกเข่าอ้อนวอนฉินจุนแล้ว
หลินเยวี่ยเหยาเองก็ตกใจ เธอไม่คิดว่าฉินจุนจะโหดร้ายขนาดนี้ แต่วิธีการใช้กำลังเพื่อคุมความรุนแรงนี่มันโหดเหี้ยมจริงๆ
“พี่ ! อย่าฆ่าคนนะ ! ”
ฉินจุนค่อยๆดึงโจวคุนกลับเข้ามา โยนเขาลงบนพื้นและพูดอย่างเย็นชา
“ถ้าคุณไม่กล้าพอก็อย่ามาเล่นแบบนี้ คนที่โหดร้ายกว่าคุณน่ะมีอีกเยอะ ”
โจวคุนรู้สึกหวาดกลัวจนเหงื่อออกทั่วตัว ตัวเดินกะเผลกอยู่บนพื้น ไม่สามารถพูดอะไรได้สักคำ
จากนั้นฉินจุนก็เปิดประตูปล่อยให้นักข่าวเข้ามาเพื่อเป็นพยานในที่เกิดเหตุ
……
ไม่นานนักเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็กลายเป็นข่าวแพร่ออกไป อันที่จริงก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ได้รับอันตรายจากยาทั้งสองชนิดนั้น แต่หนึ่งในนั้นมีคนที่มีฐานะพิเศษที่สุดคือเสวี่ยหยู่เชียว ประธานของตงฉีกรุ๊ป ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมาก
โรงงานผลิตยาบำรุงกำลังและยาบำรุงเลือดแห่งนี้ ชื่อว่าโรงงานยาตงหลิน เจ้าของชื่อว่าฝูตงหลิน หลังจากมีการรายงานข่าวของเหตุการณ์นี้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เบอร์โทรศัพท์ของเขาก็ถูกโทรหาจนสายไหม้ ผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มร้องเรียนและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาก็เริ่มตรวจสอบเขาทันที
ที่จริงแล้วฝูตงหลินได้เตรียมรับมือกับเรื่องนี้ไว้นานแล้ว เขารีบนำของขวัญไปยังคฤหาสน์แห่งหนึ่งที่ห่างไกลและเงียบสงบ
ภายในสวนของคฤหาสน์ มีชายชราผมหงอกกำลังนั่งดื่มชาอยู่ในสวน ฝูตงหลินเข้าไปในสนามและพูดด้วยรอยยิ้ม
“คุณลุงฉู่ ผมมาเยี่ยมแล้วครับ ”
ถ้าหากคนที่โรงพยาบาลเพื่อประชาชนเห็นเขา จะต้องนึกออกอย่างแน่นอน ชายชราผู้นี้ก็คือคุณปู่ฉู่ เป็นอดีตผู้อำนวยการของโรงพยาบาลเพื่อประชาชนและเขามีชื่อเสียงอย่างมาก
ชายชราสวมแว่นตาและยิ้มให้กับตงหลิน “ตงหลินมาแล้วเหรอ คิดยังไงถึงมาเยี่ยมคนแก่ๆอย่างฉันได้หละ ? ”
“ลุงฉู่ครับ พูดอะไรอย่างนั้น ปกติผมก็มาเยี่ยมคุณนะ แต่ช่วงนี้ผมมีปัญหานิดหน่อยยุ่งจนหัวหมุน เลยไม่มีเวลาว่างมาที่นี่เลย ”
ชายชราชะงัก “เรื่องอะไรกันทำให้นายยุ่งจนหัวหมุนได้ ? ”
“จริงสิ ผอ.ครับ ผมเคยเอายาบำรุงกำลังกับบำรุงเลือดให้คุณใช่ไหม ตอนนี้มีคนในโรงพยาบาลกินยาทั้งสองตัวนี้ไปแล้วมีปัญหา แต่จะมาโทษผมก็ไม่ได้นะ มันเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพไม่ใช่ยาสักหน่อย ถ้าผู้ป่วยกินไปแล้วมีอาการไม่พึงประสงค์ ก็ไม่ได้หมายความว่าผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลสุขภาพของผมมีปัญหาใช่ไหมหละ ? ”
ผอ.ฉู่ขมวดคิ้ว “ฉันอ่านข้อมูลผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพสองตัวนี้ของนายแล้ว สูตรนี้ไม่มีปัญหาและฉันลองกินแล้วด้วยนะ ประสิทธิภาพค่อนข้างดีเลยนะ มันจะผิดพลาดได้อย่างไร ? ”
ฝูตงหลินตบเข่าดังฉาด “คุณพูดถูกเผงเลย ! หมอนั่นไม่ยอมพูดออกมาชัดๆว่าการรักษาผู้ป่วยของเขาหน่ะมีปัญหา แต่กลับมาโยนความผิดให้ผมแทน ตอนนี้สื่อกำลังรอสัมภาษณ์ผมอยู่ ลุงฉู่ครับ คุณว่าผมควรทำอย่างไรดี ? ”
ฝูตงหลินผู้นี้ค่อนข้างที่จะสนิทสนมกับผอ.ฉู่พอสมควร เมื่อชายชราได้ยินดังนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว
“ไป ฉันจะไปโรงพยาบาลกับนาย ถ้าเกิดว่าปัญหาอยู่ที่หมอจริงๆ ฉันจะช่วยพูดให้นายเอง ! ”
ผอ.ฉู่เองเคยได้เห็นผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพสองตัวนี้แล้ว ถ้าว่ากันตามเหตุผลก็ควรจะไม่มีปัญหาอะไร แม้แต่คนที่แพ้ง่ายก็ไม่น่าจะมีผลข้างเคียงอะไรหลังจากทานยา ทำไมถึงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ได้ ?