ตุบ!
หนังสือที่อยู่ในมือของผู้กำกับหล่นลงพื้น ทุกคนไม่รู้จะพูดอะไรออกมา
“ผู้อำนวยการจ้าว คุณกำลังล้อเล่นอะไรอยู่! 25-26 ปี? นั่นมันไม่ใช่หมอที่เพิ่งจะจบใหม่หรอกเหรอ? เรียนทางด้านการแพทย์อย่างน้อยๆก็ต้องเรียนถึง 5 ปี และเมื่อจบมาก็จะมีอายุประมาณ 23-24 ปี แบบนี้เขาจะไปเอาประสบการณ์มาจากที่ไหน? ผู้อำนวยการจ้าวแบบนี้มันไม่เด็กไปหน่อยเหรอ?”
“อายุ 25-26 ปี เขารักษาคุณได้จริงๆเหรอ? คุณคงไม่ได้ถูกหลอกใช่ไหม?”
“ใช่ หมอบางคนอาจจมีคัมภีร์แพทย์จีน หรือไม่ก็ความกล้าจากการที่ยังเป็นหนุ่ม รวมกับความโชคดี ผู้อำนวยการจ้าวบางทีคุณอาจจะถูกหลอกจริงๆก็ได้”
“ฉันว่าหาจากรายชื่อแพทย์แผนจีนเล่มนี้จะดีกว่า แต่ถ้าหากหาไม่ได้จริงๆ เราเอาข่งฝานหลินมาก็ไม่เลว”
เมื่อได้ยินเสียงแห่งความสงสัยของทุกคน ผู้อำนวยการจ้าวก็พูดขึ้นมาว่า
“พวกนายยังไม่รู้อะไร ข่งฝานหลินที่พวกนายกำลังพูดถึง เขาก็เป็นหมอคนที่สองรองจากหมอท่านนั้น!”
ทุกคนตกตะลึง
หมอลำดับที่สอง?
ข่งฝานหลินคนนี้เป็นอาจารย์ใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงคลีนิกเลย ต่อให้เป็นโรงพยาบาล เขาคนนี้ก็จะต้องอยู่ในลำดับของผู้ชำนาญการอย่างแน่นอน
คนพวกนี้เป็นคนที่มีศักดิ์ศรีเป็นของตัวเอง พวกเขามันจะเปิดคลีนิกขึ้นมาด้วยตัวเอง ไม่ก็เป็นหมอประจำตระกูลไหนสักตระกูล
แล้วคนประเภทนี้จะยอมเป็นหมอลำดับที่สองรองจากคนอื่นในคลีนิกเล็กๆอย่างงั้นเหรอ?
“ผู้อำนวยการจ้าว คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม คุณแน่ใจเหรอว่าคนคนนั้นคือข่งฝานหลิน?”
“เขาคงไม่ได้ให้ใครปลอมตัวมาเป็นข่งฝานหลินเพื่อจะหลอกคุณใช่ไหม?”
“ฉันยังไม่ค่อยเชื่อว่าจะมีหมอหนุ่มๆที่เก่งขนาดนนั้น”
“……..”
ทุกคนพูดออกมาต่างๆนานา สรุปก็คือพวกเขาไม่ค่อยเชื่อคำพูดของผู้อำนวยการจ้าว ผู้อำนวยการจ้าวจึงยิ้มออกมา เขารู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้ ดูแล้วมันคงถึงเวลาที่ต้องทำอะไรสักอย่าง
“พวกนายรู้จักหลิ่วชิงชิงไหม”
“หลิ่วชิงชิง? ประธานบริษัทเครื่องสำอางแบรนด์เฉิงยวิน? รู้จักสิ”
ผู้อำนวยการจ้าวพูดออกไปว่า “ฉันรู้จักกับหลิ่วชิงชิงมาตั้งนานแล้ว พวกนายรู้ไหมว่าทำไมเมื่อก่อนเธอถึงไม่ยอมออกทีวี?”
ทุกคนส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว พวกเขาจะไปรู้ได้อย่างไง
ผู้อำนวยการจ้าวพูดออกมาว่า “เนื่องจากเมื่อก่อนหลิ่วชิงชิงหน้าตาไม่ดี!”
“อะไรนะ? เป็นไปได้อย่างไง!”
ความงดงามของหลิ่วชิงชิงนั้นเป็นที่กระจ่างสำหรับทุกคน หลังจากที่เธอปรากฎตัวออกมาเพียงไม่กี่วันก็ได้ลงนิตยสารระดับประเทศ นอกจากเธอจะมีบริษัทที่ยิ่งใหญ่แล้ว ความสวยของเธอก็ไม่แพ้ใคร
หลิ่วชิงชิงแสดงให้เห็นถึงความงดงามของหญิงสาวแบบตะวันตกออกจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอสวมชุดกี่เพ้า คนทั้งประเทศก็ตกหลงใหลในตัวเธอ
ผู้หญิงที่งดงามขนาดนี้ จะขี้เหร่ได้อย่างไร?
ผู้อำนวยการจ้าวพูดออกมาว่า “เมื่อก่อนฉันเคยเห็นหลิ่วชิงชิง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยสิว มีแผลพุพองตามผิวหนังมากมาย ไม่ว่าเธอจะสวมกางเกงขายาว เอาหน้ากากมาสวม หรือผันผ้าอะไรต่างๆ มันก็ยังคงหลงเหลือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกมาจากตัวเธอตลอดเวลา”
“ก่อนหน้านี้ที่หลิ่วชิงชิงไม่ยอมออกทีวีก็เพราะว่าถ้าเธอเอารูปลักษณ์แบบนั้นของเธอออกมาให้คนอื่นได้เห็นแล้ว มันจะมีผลกระทบอันยิ่งใหญ่ต่อบริษัทของเธอ”
“เธอเดินทางไปทั่วโลกเพื่อที่จะรักษา แต่ก็ไม่สามารถรักษามันได้ นั่นมันคงไม่ใช่เพราะคิดว่าหลิ่วชิงชิงไม่มีเงินใช่ไหม?”
แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้สงสัยในเรื่องเงินทองของหลิ่วชิงชิง ถึงแม้ว่าในตอนนั้นเธอจะไม่ได้ร่ำรวยที่สุด แต่ก็เป็นหนึ่งในสิบของคนที่มีเงินของประเทศ
มีเงินทองมากมายขนาดนี้แต่ไม่สามารถรักษาโรคได้ พูดอีกอย่างก็คือมันเป็นโรคที่รุนแรงมาก
“โรคนี้สามารถรักษาได้โดยแพทย์อัจฉริยะตัวน้อย เปลี่ยนสัตว์ประหลาดให้กลายเป็นหลิ่วชิงชิงในทุกวันนี้”
“ทักษะการแพทย์แบบนี้ มันยากที่จะทำให้คนเชื่อ!”
สำหรับอายุของนายแพทย์นั้นไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาเป็นเกณฑ์ในการชี้วัด แต่ที่ควรจะเอามาก็คือผลงานที่เขาได้ทำเอาไว้ แบบนี้ใครจะไม่เชื่อใจ?
ไม่ว่าหลิ่วชิงชิงจะร่ำรวยแค่ไหนก็ไม่มีหมอคนไหนสามารถรักษาอาการของเธอได้
แล้วผลสุดท้ายเป็นอย่างไร คนที่รักษาเธอก็คือฉินจุน แบบนี้ยังต้องสงสัยในความสามารถของเขาอีกเหรอ?
การยกตัวอย่างกรณีของหลิ่วชิงชิงทำให้ทุกคนเงียบไปทันที
มันยากที่จะพูดอะไรออกมา การที่รักษาโรคที่หลิ่วชิงชิงเป็นได้นั้นถือว่าเป็นการพิสูจน์ที่ดีที่สุด
เหล่าผู้กำกับขมวดคิ้วขึ้นมา
“ผู้อำนวยการจ้าว ถึงแม้ว่าหมอหนุ่มคนนี้จะมีทักษะที่ดีมากก็จริง แต่ว่าเพื่อผลสำเร็จของรายการของเรา เราควรจ้างหมอที่มีอายุมากกว่านี้ ถ้าหากเราจ้างหมอหนุ่มๆเข้ามาในรายการมันจะทำให้รายการของเราดูแปลกไป”
ผู้อำนวยการจ้าวพูดออกมาว่า “ฉันคิดว่าพวกเราควยจะเปลี่ยนทัศนคติของคนและทำในสิ่งใหม่ๆให้มากขึ้นเพื่อทำลายความเข้าใจผิดๆของประชาชนกับแพทย์แผนจีน ที่จริงแล้วหมอจีนบางคนก็มีอายุมากเกินไปจนไม่สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ บางก็ก็มีแต่อายุที่มากเพียงอย่างเดียวแต่กลับเรียกตัวเองว่าหมอยาจีน แบบนั้นมันก็ไม่ต่างอะไรกับพวกหลอกลวง”
“แทนที่จะไปหาคนอื่นแถมยังไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ไม่สู้ทดลองสิ่งใหม่ๆไม่ดีกว่าเหรอ?”
“ฉันกล้ารับประกัน หมอท่านนี้ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน แถมจะทำให้รายการของเราโด่งดังมากกว่าเดิมด้วย”
ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์หลายคนมองหน้ากันและในที่สุดก็พยักหน้า ที่ผู้อำนวยการจ้าวพูดออกมามันก็ไม่เลว ถ้าหากมันเป็นตามที่เขาว่า ผลมันจะต้องออกมาดีมากอย่างแน่นอน
หมอจีนที่อายุยังน้อย เปิดตัวออกมาในการประชุมใหญ่การแพทย์แผนจีนในตำแหน่งสำคัญ เดิมทีมันก็ต้องทำให้ผู้คนตกใจมากอยู่แล้ว
รายการของช่องCCTVมักจะเป็นแบบออร์โธดอกซ์ ดังนั้นเรตติ้งจึงเอาไปรวมกับรายการอื่นๆและจะออกมาเป็นค่าเฉลี่
ทุกคนก็อยากจะปรับปรุ่งด้านนี้ให้ดีขึ้นแต่ก็ไม่มีใครกล้าโวยวายออกมา ในเมื่อมันเป็นรายการทีวี โดยเฉพาะช่อง CCTV มันจึงต้องจริงจังมากกว่าปกติ
“เหละ ผู้อำนวยการจ้าว พวกเราจะลองตามที่คุณบอก แต่ว่าอย่างน้อยต้องพิสูจน์เขาก่อนเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขามีดีกว่าแพทย์คนอื่นทั่วไป”
ผู้อำนวยการจ้าวพยักหน้า “ได้ งั้นฉันจะลองติดต่อเขาดู”
หลังจากที่ติดต่อกับฉินจุน เมื่อได้ยินว่าจะให้เข้าร่วมรายการฉินจุนก็ไม่ได้ดีใจอะไรเนื่องจากทั้งหมดมันก็เป็นแค่การแสดง
แต่ในเมื่อผู้อำนวยการจ้าวมาขอร้องเขาด้วยตัวเอง และก่อนหน้านี้ฉินจุนก็ได้ช่วยเขาไว้ถึงสองครั้ง และนี่มันก็เป็นรายการเกี่ยวกับเรื่องของการแพทย์แผนจีน มันก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย สุดท้ายเขาจึงตอบตกลงไป
“คุณฉิน ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์เหล่านี้คิดว่าคุณยังเด็กเกินไป เขาต้องการหาหมอจีนมาเพิ่มอีกสองสามคนเพื่อพูดคุณกับคุณ คุณโอเคไหม?”
ฉินจุนยิ้มออกไป เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้ยังไม่เชื่อใจในฝีมือของฉินจุน
แต่มันก็ไม่เป็นไร เห็นกับตาเมื่อไหร่ก็จะรู้เอง
“ได้ คุณจัดการได้เลย”
ในตอนเย็นผู้อำนวยการจ้าวนัดฉินจุนมาพบกับคนอื่นๆในสตูดิโอของช่อง CCTV เพื่อบันทึกเทป ในตอนกลางคืนไม่มีใครทำงาน ดังนั้นทุกคนจึงนั่งเพื่อทำความคุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อม
ผู้กำกับเกาพาชายชราสามคนไปที่สตูดิโอและแนะนำให้ทุกคนรู้จัก
“สามคนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน คนหนึ่งคืออายุรแพทย์ คนนี้คือศัลยแพทย์ ส่วนคนสุดท้ายคือกุมารแพทย์”
แพทย์แผนจีนกับแพทย์แผนปัจจุบันมีความแตกต่างกัยอย่างมาก ศัลยแพทย์ของแพทย์แผนปัจจุบันคือจะเน้นไปที่การผ่าตัด
แต่ศัลยแพทย์จีน คือเรียกรวมกันทั้งหมด ดูแลโรคผิวหนัง อาการปวด พบอาการใดๆเจ็บปวดผิดปกติ ก็จะเรียกศัลยแพทย์จีน
และกุมารแพทย์ผู้นี้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์เป็นหลัก และโดยพื้นฐานแล้วเขาสามารถทำได้ในทุกๆด้าน แต่ด้านของด้านกุมารเวชศาสตร์จะชำนาญเป็นพิเศษ
หลังจากที่แพทย์อัจฉริยะทั้งสามนั่งลง พวกเขาพูดอย่างดูถูก
“ผู้กำกับเกา ฉันได้ยินมาว่าพวกคุณพาแพทย์หนุ่มมาคนหนึ่งให้มาเป็นผู้นำของกลุ่มแพทย์? รายกานของพวกคุณตอนนี้ถึงได้เลือดคนที่ไม่เหมาะกับหัวข้อ?”