ฉินจุนพยักหน้า รถพลังงานไฟฟ้าจอดไว้ที่ร้านอาหาร ทั้งสามคนเรียกแท็กซี่กลับบ้าน
ถึงบ้านแล้ว เย่หลงก็จัดเตรียมอาหารไว้เรียบร้อย กำลังรออยู่
เทียบกับผู้กล้าในปีนั้น เย่หลงก็แก่ขึ้นไปเยอะมาก
“ลุงเย่”
เห็นฉินจุนเข้ามา แก้วเหล้าในมือของเย่หลงพลันร่วงลงไปบนพื้น
“คุณคือ… เสี่ยวจุน?”
…
อาหารค่ำ เย่หลงดื่มเหล้าไปเยอะมาก เห็นลูกชายของเพื่อนเก่าเมื่อวันวาน ก็ปลื้มใจอย่างมาก
ความทรงจำนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในหัวใจ น้ำตาร้อนๆก็รื้นขึ้นในกรอบตาทันที
“เสี่ยวจุนกลับมาก็ดีแล้ว อย่าไปหาเรื่องคนพวกนั้นอีกเลยนะ ใช้ชีวิตเงียบๆ มีชีวิตอยู่ได้ถึงจะสำคัญที่สุดนะ”
ฉินจุนเพียงแค่หัวเราะ ไม่ได้ตอบอะไร
เขากลับมาในครั้งนี้ ก็คือต้องการให้เรื่องในปีนั้น ทวงคืนความยุติธรรมกลับมา!
“เสียดายที่ตอนนี้ลุงเย่ไม่มีความสามารถแล้ว ไม่งั้นก็จะหางานให้คุณ มีคืนวันที่มั่นคง เฮ้อ”
เย่หวันเอ๋อพูดว่า “พ่อ ตอนนี้พี่เสี่ยวจุนยอดเยี่ยมมากเลยนะ มีทักษะทางการแพทย์ติดตัว ยอดเยี่ยมกว่าหมอหลิวของพวกเราที่สถานพยาบาลอีก เขาพูดกันว่าเขาคือหมอเทวดานะ!”
เย่หลงชะงัก “งั้นก็ดีมากเลย รักษาคนไข้เป็นเรื่องดี สามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้”
เห็นเย่หลงดื่มเหล้าไปไม่น้อย ทอดถอนใจ เรื่องของวันนี้หวังเหมยก็ไม่ได้บอกกับเขา รอพรุ่งนี้ให้มีสติเต็มที่แล้วค่อยบอกแล้วกัน
เย่หวันเอ๋อถามว่า “พี่เสี่ยวจุน คุณเก่งขนาดนี้ ถ้าไปโรงพยาบาลล่ะก็ อย่างน้อยก็ได้เป็นหัวหน้าแพทย์ผู้ทำการรักษานะ?”
ฉินจุนส่ายหน้า “ผมไม่เตรียมตัวไปโรงพยาบาล ผมเตรียมตัวเปิดคลินิกของตัวเอง คุณยินยอมมาช่วยผมไหม?”
ฉินจุนเป็นลูกศิษย์ผู้สืบทอดของปู่เย่ซวนหยวน สถานพยาบาลใช้ชื่อซวนหยวน ร่ำเรียนมาสิบปี ไม่สามารถไม่ส่งต่อได้ สถานพยาบาลซวนหยวนนี้ก็จำเป็นต้องเปิดต่อไปโดยปริยาย ประกอบอาชีพเป็นหมอรักษาโรคช่วยเหลือประชาชน
แม้ว่าเมิ่งเหวินกังจะเปิดบริษัทซวนหยวนกรุ๊ปแล้ว แต่บริษัทนั้นและสถานพยาบาลก็ยังมีข้อแตกต่างอยู่ ไม่สามารถรวมนับได้
“ได้สิ ฉันเองก็ยังไม่มีงานอยู่พอดีเลย ก็ทำงานให้คุณแล้วกัน”
ตั้งแต่เด็กๆเย่หวันเอ๋อก็อยากเรียนหมอ ในตอนที่ไม่มีโอกาสเรียนจึงไปทำงานทุกที่เพื่อเรียนรู้กับคุณหมอ ตอนนี้ข้างตัวมีพี่ชายหมอเทวดาอย่างนี้คนหนึ่งแล้ว แน่นอนว่าเธอยินดีมาก
“ได้ งั้นพรุ่งนี้พวกเราไปดูห้องกันก่อน”
ในตอนแรกที่เห็นฉินจุน แน่นอนว่าต้องพูดเรื่องของในปีนั้น พูดคุยกันไปค่อนคืน หวังเหมยและเย่หลงถึงจะนอนหลับไป
ยังมีเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงฟ้าก็สว่างแล้ว ฉินจุนเองก็ไม่เตรียมตัวนอนแล้ว นั่งทำสมาธิอยู่ในห้องรับแขก
เช้าวันต่อมา ฉินจุนก็เตรียมตัวไปดูห้องกับเย่หวันเอ๋อ
“พี่เสี่ยวจุน ทำเลที่ดีที่สุดของตงไห่ในตอนนี้ก็คือลานประชาชนและลานประชาชนใหม่สองที่นี้ ทั้งสองที่ตอนนี้มีห้องขายอยู่ แต่ว่าราคาแพงมาก”
“ราคาไม่ใช่ปัญหา”
เย่หวันเอ๋อพยักหน้า เมื่อวานพี่เสี่ยวจุนเพิ่งจะได้เงินค่ารักษามาสิบล้าน เงินไม่น่าจะใช่ปัญหาแน่นอน
และจากระดับทักษะทางการแพทย์ของพี่เสี่ยวจุน คาดว่าปีนี้คงจะทำเงินได้ไม่น้อยแน่นอน แม้ว่าตอนนี้ราคาห้องจะแพงกว่าปกติ แต่ซื้อห้องๆหนึ่งก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร
“งั้นพวกเราก็ดูแต่ละห้องๆเถอะ”
มาถึงสำนักงานขายแล้ว ทั้งสองคนก็เดินเข้าไป
สำนักงานขายขนาดใหญ่นี้ตกแต่งอย่างหรูหรามาก สามารถเห็นได้ถึงความสามารถของบริษัทนี้
ยังเดินไม่ถึงหน้าประตู ก็มีที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์เข้ามาต้อนรับ
“คุณผู้ชายคุณผู้หญิง มาดูห้องใช่ไหมครับ…”
“อืม มาดูห้องการค้า”
ได้ยินพูดว่ามาดูห้องการค้า ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ก็กระตือรือร้นขึ้นมา พวกเขาได้ค่าคอมมิชชั่นจากการขายห้องตามราคาของห้อง แน่นอนว่ายิ่งขายได้แพงก็ยิ่งได้มาก
“ได้ครับ ทั้งสองท่านเรียกผมว่าเสี่ยวหลิวแล้วกัน ผมจะแนะนำให้กับพวกคุณ…”
พูดไปพลางก็เดินเข้าไปในห้องโถงของสำนักงานขายไปพลาง เพิ่งจะเข้าไป ชายหนึ่งหญิงหนึ่งด้านในพลันหันหน้ามา
ฝ่ายหญิงร้องตกใจเสียงหนึ่ง
“เอ๊ะ นี่ไม่ใช่เย่หวันเอ๋อเหรอ?”
ได้ยินเสียงแล้วมองตามไป เย่หวันเอ๋อขมวดคิ้ว พูดเสียงเบาอยู่ข้างหูของฉินจุนว่า
“พี่เสี่ยวจุน นี่คือหวังเจียวเจียวเพื่อนสมัยมอปลายของฉัน ค่อนข้างน่ารำคาญ อย่าไปสนใจเธอ”
เย่หวันเอ๋อไม่อยากสนใจคนคนนี้ แต่ว่าหวังเจียวเจียวกลับเหมือนค้นพบประเทศจีนแห่งใหม่ก็ไม่ปาน ก้าวเท้าเดินเข้ามาด้วยสีหน้าได้ใจพร้อมควงผู้ชายพุงพลุ่ยหน้าใหญ่ใบหูโตคนหนึ่ง ส่ายเอวบิดสะโพก
“หวันเอ๋อจ๋า ไม่เจอกันนานแล้วจริงๆนะ พวกเราเพื่อนกัน ไม่ได้เจอกันมาสิบปีแล้วใช่ไหม?”
สีหน้าของเย่หวันเอ๋อเย็นชา พูดลวกๆไปประโยคหนึ่ง “ประมาณนั้น”
เห็นเย่หวันเอ๋อแต่งตัวธรรมดา ทั้งยังสะพายกระเป๋าเก่าๆขาดๆนั่นอีก ความได้ใจบนใบหน้าของหวังเจียวเจียวก็ยิ่งเห็นชัดเข้าไปอีก
ในปีนั้นพวกเธออยู่มอปลายที่เดียวกับ ไม่ว่าตรงไหนหวังเจียวเจียวก็เทียบกับเย่หวันเอ๋อไม่ได้เลย
สวยไม่เหมือนเธอ ชาติตระกูลไม่เหมือนเธอ แม้แต่เรื่องเรียนก็สู้ไม่ได้
แล้วตอนนี้เหรอ ครอบครัวเย่หวันเอ๋อตกต่ำ ได้ยินว่าไม่สามารถสอบมหาวิทยาลัยได้ด้วย
เจอกันอีกครั้งในวันนี้ คนช่างเปลี่ยนไปจริงๆ
กระเป๋าเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้เย่หวันเอ๋อก็ยังสะพายอยู่
ส่วนเธอเหรอ แต่งงานกับเจ้าของกิจการคนหนึ่ง กลายเป็นคุณนายผู้ร่ำรวย
เรื่องราวเปลี่ยนแปลงพลิกผันจริงๆนะ
วันนี้เจอเย่หวันเอ๋อ ประชดประชันเธอสักหน่อยถึงจะดี
“นี่คือสามีของฉัน เจ้าของปี่คู่คาราโอเกะ พวกคุณเรียกว่าประธานสวีก็ได้ คนคนนี้คือ…”
เย่หวันเอ๋อยังตอบกลับอย่างไม่แยแสเช่นเดิม “เพื่อนฉัน”
สถานะของฉินจุนค่อนข้างล่อแหลม คนอย่างหวังเจียวเจียวแบบนี้ ไม่สมควรรู้
หวังเจียวเจียวมองพินิจบนล่างฉินจุนครู่หนึ่ง จุ๊ๆสองเสียง แม้ว่าจะไม่ได้พูดจาแดกดันออกมาตรงๆ แต่ว่าสีหน้าท่าทางก็เห็นชัดสามารถมองออกได้ว่า ดูถูกฉินจุนอย่างมาก
ตั้งแต่บนลงล่าง ไม่มีของแบรนด์เนมเลยสักชิ้น
แม้จะพูดว่าผู้ชายไม่สนใจเรื่องแบรนด์เนม มักจะมองคุณภาพมากกว่า แต่ว่านี่น่ะแม้แต่คุณภาพก็ยังไม่มีนะ.?
เข็มขัด รองเท้าหนัง นาฬิกา ส่วนที่ควรจ่ายเงินก็ไม่มีเลยสักนิด เป็นผู้ชายจนๆที่ธรรมดาที่สุดพวกนั้น
เย่หวันเอ๋อตกต่ำแล้วจริงๆ หาผู้ชายก็ยังหาที่เป็น‘กิ่งทองใบหยก’พวกเขาก็ยังจะมาซื้อห้องอีก?
“พวกคุณเองก็มาดูห้อง? แต่อสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในตงไห่ของพวกเรา ราคาห้องจะสูงมาก ราคาเฉลี่ยก็สองหมื่นขึ้นไปแล้ว พวกคุณมาที่ผิดหรือเปล่า?”
ความหมายในคำพูดของหวังเจียวเจียวชัดเจนมาก ห้องที่แพงอย่างนี้ พวกเขาไม่เหมือนคนที่มีความสามารถจะซื้อเลย
“และตึกนี้ล้วนเป็นขนาดใหญ่ เล็กที่สุดก็ร้อยยี่สิบตารางเมตร ไม่มีพื้นที่เล็กๆอย่างสามสิบสี่สิบตารางเมตรหรอกนะ”
เย่หวันเอ๋อกรอกตามองบน ขี้เกียจจะสนใจเธอ
ชายอ้วนข้างตัวของหวังเจียวเจียวหัวเราะขึ้น เอ่ยปากพูดว่า
“เจียวเจียว จะพูดอย่างนี้ก็ไม่ได้นะ ที่นี่พวกเขาเองก็มีห้องราคาพิเศษ ห้องจำนวนมากที่อยู่ใกล้ภูเขาติดถนน ในซอกในมุม สภาพห้องไม่ดีมากๆ ตึกหนึ่งยากที่จะมีครอบครัวเดียว ห้องอย่างนี้ราคาก็ค่อนข้างต่พ เหมาะกับชนชั้นแรงงานอย่างพวกเขา”
“อาจจะต่ำถึงหนึ่งหมื่นห้าต่อหนึ่งตารางเมตร ราคาทั้งหมดก็ล้านกว่า ถ้าจ่ายเงินไปก่อนสามสี่แสน ก็สามารถซื้อมาได้ จ่ายรายเดือนหกเจ็ดพัน สำหรับพวกเขาแล้วอาจจะมีความกดดันค่อนข้างมาก”
คนอ้วนแซ่สวีนี้แสดงท่าทางราวอยู่บนที่สูง เหมือนคนรวยที่สงสารพวกเขาชนชั้นคนธรรมดาแบบนั้น ใบหน้ายโสโอหังอย่างยิ่ง
ฉินจุนและเย่หวันเอ๋อเมินพวกเขา หันหน้าพูดกับเสี่ยวหลิวที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ว่า
“คุณแนะนำหน่อยเถอะ”
เสี่ยวหลิวเองก็ไม่เข้าใจสถานการณ์ พูดอย่างเกรงใจมากๆว่า
“ได้ครับ ห้องการค้าของพวกเรามีสามร้อยตารางเมตรห้าร้อยตารางเมตรและเจ็ดร้อยตารางเมตรสามแบบ คุณอยากดูแบบไหนครับ?”
ได้ฟังเสี่ยวหลิวพูดจบแล้ว หวังเจียวเจียวพลันหัวเราะเสียงดังขึ้นมา
“อะไรนะ? ห้องการค้า? พวกคุณอยากดูห้องการค้า?”