ฉินจุนขมวดคิ้ว เขาจึงตรวจสอบตำแหน่งของนาฬิกาของจู้หลินหลินทันที และพบว่าเธออยู่ที่บ้าน ค่อยยังชั่ว ฉินจุนถอนหายใจ และตรงไปที่บ้านตระกูลจู้ทันที
ตอนนี้บ้านตระกูลจู้ยุ่งมาก จู้หลินหลินนั่งอยู่บนโซฟาฟังหวังหยุนพูดไม่หยุด
“หลินหลินแกรู้ไหมว่าคนที่เราเชิญมาในวันพรุ่งนี้เป็นคนมีอิทธิพลแค่ไหน ทำไมแกถึงไม่ไปล่ะ?”
จู้หลินหลินพูดไม่ออก
“แม่ก็รู้ว่านี่ว่าไอ้แซ่เซี่ยนั่นคิดกับหนูยังไง แล้วยังจะให้หนูไปอีกเหรอ?”
หวังหยุนจำไม่ได้แล้วว่าเธอไปรู้จักนักธุรกิจผู้มั่งคั่งจากเมืองหลวงได้ยังไง นักธุรกิจคนนี้แซ่เซี่ย และตระกูลเขาก็มีคุณชายอายุใกล้เคียงกับจู้หลินหลิน
ด้วยการแนะนำของหวังหยุน คุณชายแห่งตระกูลเซี่ย เซี่ยหัวเฉียงก็เคยมาเยือนบ้านของพวกเขาครั้งหนึ่ง และหลังจากได้เจอจู้หลินหลิน สีหน้าของเขาเหมือนกับได้เห็นหงส์ฟ้ายังไงยังงั้น
เซี่ยหัวเฉียงคนนี้ดูเหมือนจะเป็นลูกคนรวยที่ไม่ทำการทำงาน เล่นมือถือทั้งวัน ไถติ๊กต่อก ดูสาวๆไลฟ์สด จากนั้นก็ส่งรางวัลไปจีบ จากนั้นก็นัดไอดอลไลฟ์สดไปเปิดโรงแรมนอน เป็นแบบอย่างของคนไร้ประโยชน์โดยแท้
ในหัวเขาเต็มไปด้วยเรื่องผู้หญิง เป็นพวกน่ารังเกียจ เมื่อเห็นจู้หลินหลินก็ประหลาดใจมาก คิดไม่ถึงว่าเมืองเล็กๆ อย่างตงไห่จะมีสาวสวยขนาดนี้
เซี่ยหัวเฉียงพยายามพูดเพื่ออยากสนิทกับจู้หลินหลินโดยพูดด้วยคำพูดต่ำๆ คำสองคำก็วนไปเรื่องบนเตียง ทำให้จู้หลินหลินขยะแขยงมาก เป็นความประทับใจครั้งแรกที่แย่มาก
หลังจากที่เจอเขา เธอก็ไม่คุยกับเขาอีกเลย แต่สุดท้ายแม่ก็ยังดึงดันจะจับคู่เขาทั้งสองคนอีก จู้หลินหลินพูดไม่ออกเลยจริงๆ
หวังหยุนจ้องเขม็งไปที่เธอ “ผู้ชายก็ไม่ได้ดีไปทั้งหมดหรอก ก็ต้องมีทะลึ่งบ้าง ถ้าผู้ชายไม่ทะลึ่งแล้วผู้หญิงจะพยายามแต่งตัวไปทำไมล่ะ?”
จู้หลินหลินพูดไม่ออก นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินทฤษฎีแบบนี้
“แม่รู้ไหม หนูได้ยินมาว่าเขามาเที่ยวฉ่ายอี้คลับบ่อยๆ ที่นั่นคือที่ไหนหนูว่าแม่ก็น่าจะเคยได้ยินมาใช่ไหม? แม่ก็ยังต้องการจะจับคู่หนูกับเขาอีกเหรอ? จะให้หนูแต่งงานกับคนประเภทนี้เหรอ? ”
ฉ่ายอี้คลับเป็นสถานบันเทิงชายที่มีชื่อเสียง และเหล่าคุณนายก็ต้องรู้จักดีอยู่แล้ว
หวังหยุนขมวดคิ้วและกล่าวว่า
“แกสวยกว่าผู้หญิงพวกนั้นตั้งเยอะไม่ใช่เหรอ? ถ้าเขาแต่งงานกับแกเขาจะยังไปที่แบบนั้นอีกเหรอ?”
“นอกจากนี้ผู้ชายจะมั่นคงมากขึ้นเมื่อแต่งงาน ใครจะไม่เคยทำผิดพลาดล่ะ และอีกอย่างแกคิดว่ามีแค่คุณชายเซี่ยที่ไปเหรอ? ฉินจุนก็จะไม่แอบไปเหรอ?”
จู้หลินหลินขมวดคิ้ว “แม่อย่าพูดเรื่องไร้สาระ พี่เสี่ยวจุนจะไปที่แบบนั้นได้อย่างไร?”
หวังหยุนแค่นหัวเราะ “ฉันรู้ว่าแกไม่เชื่อ มาสิ ฉันจะให้แกดูวิดีโอ”
หลังจากพูดจบ หวังหยุนหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมา เปิดคลิปวิดีโอและส่งให้จู้หลินหลิน
ในวิดีโอเป็นภาพของฉินจุนเดินเข้าไปในฉ่ายอี้คลับ
แม้ว่าคุณภาพของภาพจะไม่ค่อยชัด แต่ก็สามารถเห็นได้ชัดเจนว่าคนที่เข้าไปคือฉินจุน
คลิปวิดีโอนี้ไม่ได้ตั้งใจถ่ายเขา แต่ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังถ่ายอุบัติเหตุบนถนน แต่ถ่ายติดฉินจุนอยู่ในนั้นเฉยๆ
ใบหน้าของจู้หลินหลินก็บูดเบี้ยวเล็กน้อย พี่เสี่ยวจุนไปที่สถานที่แบบนั้นได้อย่างไร? ในความคิดของเธอ ฉินจุนไม่น่าใช่คนแบบนี้
แน่นอนว่าจู้หลินหลินไม่รู้ว่าที่ฉินจุนไปที่ฉ่ายอี้คลับครั้งนั้นไม่ได้ไปเพื่อความบันเทิง แต่ไปเพื่อฆ่าคน
เกาเฉิน หัวหน้าแก๊งแห่งเมืองหลวงเสียชีวิตคาเตียงของฉ่ายอี้คลับ ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาฉ่ายอี้คลับก็ถูกปิด และเหลยหงก็ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าคนใหม่อย่างเป็นทางการ
ใบหน้าของหวังหยุนมีปรากฎรอยยิ้มเยาะเย้ย นี่คือผลลัพธ์ที่เธอต้องการ
วิดีโอนี้เธอเห็นมาจากกลุ่มเพื่อนสาวที่สนิทกัน และบังเอิญเห็นฉินจุนเข้า ไม่คิดเลยว่าเด็กคนนี้จะชอบไปที่นั่นเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ
หวังหยุนเก็บวิดีโอนี้ไว้ตลอดมา หาโอกาสเอาให้จู้หลินหลินดู เพื่อให้จู้หลินหลินตัดใจจากฉินจุนได้เสียที
จู้หลินหลินรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย ทำไมพี่เสี่ยวจุนถึงไปที่แบบนั้น?
แต่จะว่าไปแล้วตอนนี้ฉินจุนก็ยัังโสด พวกเขาก็ยังไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรที่เป็นทางการ เขาจะไปที่ไหนจู้หลินหลินจะมีสิทธิ์อะไรไปยุ่งล่ะ?
แม้ว่าจู้หลินหลินจะรู้สึกไม่สบายใจ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร
หวังหยุนพูด “เอาล่ะ วันนี้ฉันไม่ได้นัดเดทให้แกคนเดียว นอกจากคุณชายเซี่ยแล้ว ยังมีคนใหญ่คนโตคนอื่นอีกสองสามคน แกไปรู้จักไว้หน่อยก็จะช่วยในเรื่องธุรกิจของครอบครัวเราได้ในอนาคต”
ตอนนี้จู้หลินหลินออกมาจากตระกูลจู้แล้ว ไม่สามารถใช้เส้นสายของคุณยายเหมือนเมื่อก่อนได้อีกต่อไป ดังนั้นในแง่ของธุรกิจ เธอก็ค่อนข้างไม่ค่อยราบรื่นนัก
ตอนนี้จู้หลินหลินต้องการเส้นสายแบบด่วนมาก ต้องการพันธมิตรที่พึ่งพาได้ ดังนั้นเธอจึงจำเป็นต้องไปงานเลี้ยงครั้งนี้จริงๆ
“ทำไมไม่พูเรื่องนี้ตั้งแต่แรก แค่ไปคุยธุรกิจนะ”
“แกไม่ต้องห่วง!”
ขณะที่ครอบครัวของจู้หลินหลินกำลังจะออกไป ฉินจุนก็เดินเข้ามา
เมื่อเห็นฉินจุน สีหน้าของจู้หลินหลินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอนึกถึงภาพเขาเข้าไปในคลับขึ้นมา เธอก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย แต่เธอก็รีบตั้งสติอย่างรวดเร็วและพูดว่า “พี่เสี่ยวจุนมาแล้วเหรอคะ”
แม้ว่าจะเป็นคำทักทายเหมือนเดิม แต่ฉินจุนก็รู้สึกว่าจู้หลินหลินค่อนข้างเย็นชากว่าปกติ แต่เขาไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด
“หลินหลิน ฉันโทรหาแต่เธอไม่รับ ฉันก็เลยมาดู”
จู้หลินหลินอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และเห็นสายที่ไม่ได้รับหลายสาย เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้ตอนนี้เธอกำลังคุยกับแม่อยู่ เธอปิดเสียงไว้
พี่เสี่ยวจุนต้องมาตามตำแหน่งของนาฬิกาแน่นอน เพราะกลัวว่าเธอจะตกอยู่ในอันตราย
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จู้หลินหลินก็รู้สึกอบอุ่นใจ ผู้ชายก็ต้องเคยทำผิดพลาดกันทั้งนั้น และพวกเขาก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน ดังนั้นจะไปว่าเขาก็ไม่ได้
“พี่เสี่ยวจุนฉันไม่เป็นไรค่ะ พอดีมีงานเลี้ยงหนึ่งที่ฉีนต้องไปน่ะค่ะ ไปด้วยกันไหมคะ?”
“ได้สิ”
หวังหยุนเม้มปากแน่น “น่ารำคาญจริงๆ ได้ แกไปด้วยก็ได้ ฉันจะทำให้แกตัดใจเลิกมายุ่งให้ได้ มาดูกันว่ามังกรท่ามกลางมนุษย์เป็นยังไง”
หวังหยุนถลึงตาใส่ฉินจุนหนึ่งที จากนั้นก็เดินออกไปด้วยความโกรธ
ในสายตาของเธอ เซี่ยหัวเฉียงนั้นแข็งแกร่งกว่าเขาหลายเท่า เธอจะทำให้เขาได้เห็นเศรษฐีที่แท้จริง เขาจะได้ถอดใจ และเลิกเข้าหาหลินหลิน
พวกเขาขับรถมาถึงร้านอาหาร เข้าไปในห้องส่วนตัวและสั่งอาหารก่อน รออยู่ครึ่งชั่วโมงเต็มกว่าคุณชายเซี่ยจะมา
เซี่ยหัวเฉียงสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว และกางเกงสแล็ก โชว์หัวเข็มขัด Hermes ผิวของเขาค่อนข้างขาวผิดปกติ มีรอยคล้ำใต้ตาที่ชัดมาก และผิวของเขามันมาก
ในฐานะแพทย์แผนจีน ฉินจุนสามารถดูออกได้อย่างรวดเร็วเลยว่าเซี่ยหัวเฉียงนี้ใช้ชีวิตอย่างไม่มีวินัย และร่างกายของเขาแย่มากๆ เดาว่าคงจะสิ้นเปลืองพลังงานไปกับผู้หญิงไม่น้อยเลย
“หลินหลิน พวกคุณมาแล้วเหรอ”
เมื่อเซี่ยหัวเฉียงเห็นจู้หลินหลินดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที แม้ว่าเขาจะมีผู้หญิงนับไม่ถ้วน แต่เขากลับรู้สึกว่าจู้หลินหลินสวยและแพงมาก
คงจะดีไม่น้อยถ้าได้แต่งงานกับเธอ