ไม่นานเหยาเหยาก็ซื้อกระบอกไม้ไผ่กลับมาเต็มคันรถ จะรักษาคุณปู่ทั้งทีเธอจะชักช้าไม่ได้ เธอซื้อกระบอกไม้แผ่นทุกประเภททุกชนิดจากร้านขายยาจีนชั้นนำ เพื่อให้ฉินจุนได้เลือกสรร
จริง ๆ แล้วกระบอกไม้ไผ่เหล่านี้ก็ใช้ได้ทั้งหมดนั่นแหละ เขาให้ชายชราลงไปนอนฟุบบนเตียง ถอดเสื้อผ้าออกให้หมดไม่เว้นแม้แต่กางเกงใน
เหยาเหยาและเหลยหงต่างออกไปกันหมด ภายในห้องเหลือเพียงท่านอาจารย์หมอเหยียนกับฉินจุน
ขณะนี้ท่านอาจารย์หมอเหยียนแพทย์ระดับประเทศผู้สูงส่งกลายมาเป็นผู้ช่วยของฉินจุน คอยเป็นลูกมือ
ฉินจุนหยิบกระบอกไม้ไผ่ขึ้นมา นำสำลีแอลกอฮอล์ที่เผาไหม้เช็ดเข้าไปในกระบอกไม้ไผ่อย่างรุนแรงหลายสิบวินาที
ท่านอาจารย์หมอเหยียนขมวดคิ้ว เขาเคยเห็นการครอบแก้ว โดยปกติเขาแค่จะเช็ดด้านในกระบอกเบา ๆ เท่านั้นเอง
วิธีการนี้จะทำให้ไม่เหลืออากาศภายในกระบอก และก็จะทำให้สามารถครอบแก้วได้
แต่ทว่าฉินจุนนั้นเช็ดแล้วเช็ดอีก ขนาดว่าภายในกระบอกไม้ไผ่ติดประกายไฟแล้วเขาก็ยังเช็ดต่อ การกระทำแบบนี้ทำเอาท่านอาจารย์หมอเหยียนงงจนต้องเกาหัว
ฉินจุนเองก็ไม่ได้อธิบาย เขาทำกระบอกไม้ไผ่ที่ติดไฟไปครอบบริเวณจุดฝังเข็มของชายชรา
ทันใดนั้น กระบอกไม้ไผ่ก็กลายเป็นสีแดง ค่อย ๆ มีควันลอยออกมา
จากนั้นฉินจุนก็ทำแบบเดิม นำกระบอกไม้ไผ่ครอบลงไปทั้งร่างกายของชายชรา
ทั้งร่างกายมีจุดฝังเข็มทั้งหมด 108 จุด กระบอกไม้ไผ่จึงครอบติด ๆ กัน เรียงกันตลอดร่างกายของชายชรา
จากนั้น ฉินจุนก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เช็ดเม็ดเหงื่อที่ไหลออกมาบนหน้าผาก แล้วเอ่ย
“กระบอกไม้ไผ่ปกตินั้นมีพลังไม่พอ จำเป็นต้องใช้กระบอกไม้ไผ่ร้อน ๆ ถึงจะสามารถดุงความร้อนในร่างกายของท่านอาวุโสออกมาได้ !”
ท่านอาจารย์หมอเหยียนทำสีหน้าอย่างเข้าใจในทันที ที่แท้ก็เพราะเหตุนี้นี่เอง
หลังจากทำการครอบแก้วแล้ว ชายชราก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ รู้สึกเหมือนมีคนดึงอยู่ทั้งแผ่นหลัง
“สุดลมหายใจเข้าลึก ๆ ครับ แล้วค่อย ๆ ปล่อยออกช้า ๆ ”
ชายชราสูดลมหายใจเข้าไป หายใจออกช้าๆ เขาพยายามหายใจเข้าให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดที่หลังของเขา
ขณะที่ชายชราหายใจอยู่นั้น เห็นได้เลยว่ามีควันออกมาจากปากของเขา
ชายชรานั้นไม่ได้สังเกต แต่ท่านอาจารย์หมอเหยียนนั้นเห็นอย่างชัดเจนจึงเอ่ยถาม
“ควันนี่เกิดอะไรขึ้นหรือครับ?”
“มันคืออากาศที่เป็นพิษในร่างกาย”
“ภายในร่างกายของคนไข้มีสิ่งสกปรกเยอะมาก นอกจากการครอบกระบอกไม้ไผ่แล้ว ยังจำเป็นต้องอาศัยการปรับลมหายใจเพื่อขับออกมา”
ท่านอาจารย์หมอเหยียนออกอาการตกใจ “ท่านอาวุโสไห่ ปรับลมหายใจถอนพิษเป็นด้วยเหรอครับ?”
ฉินจุนยิ้ม “ใคร ๆ ก็สามารถปรับลมหายใจถอนพิษได้ เป็นแต่ต้องปรับวิธีการหายใจนิดหน่อยก็ทำได้แล้ว เพียงแต่ว่าภายในร่างกายของคุณไม่ได้มีพิษหรือของเสียมากมายขนาดนั้น จึงดูไม่ออก”
ท่านอาจารย์หมอเหยียนพยักหน้าอย่างเข้าใจ ได้ถกเถียงทักษะการแพทย์กับท่านปรมาจารย์ฉินนี่ได้รับความรู้มากมาย
ปัง ปัง ปัง !
ทันใดนั้นกระบอกไม้ไผ่ก็แตกออกมาทีละอัน ภายในมีควันลอยออกมา ส่งกลิ่นเน่าคละคลุ้งไปทั่ว
หลังจากแตกออกมา กระบอกไม้ไผ่ก็ตกลงพื้น แผ่นหลังของชายชราก็กลายเป็นสีดำไปหมด
ดำไปหมดจนมันดูน่ากลัวมาก ๆ
ชายชราพยายามใช้แรงในการพลิกตัว รู้สึกเหมือนหลังตัวเองไร้ความรู้สึกไปหมดแล้ว เขานอนเองลงก่อนจะถอนหายใจออกมา
“นานแล้วที่ไม่ได้รู้สึกโล่งสบายแบบนี้ ท่านปรมาจารย์ฉิน ท่านเก่งสมคำร่ำลือจริง ๆ ก่อนหน้านี้เป็นเพราะผมตาถั่วดูถูกท่าน”
ฉินจุนเอ่ย “โรคนี้ของคุณจำเป็นต้องใช้ระยะเวลายาวในการพักฟื้น ถ้าหากคุณไม่ปรับวิถีการกิน มันก็จะเป็นไปเรื่อย ๆ ”
“ผมจะออกสูตรยาให้คุณ อันหนึ่งเป็นสูตรยา ส่วนอันหนึ่งสูตรอาหาร”
“มีทั้งยาเสริมและอาหารเสริม ยังไงก็เห็นผลครับ”
ท่านอาวุโสไห่หนิงนอนอ่อนแรงอยู่บนเตียง เอ่ยอย่างไร้เรี่ยวแรง
“ท่านอัจฉริยะหมอฉิน ต่อไปท่านถือเป็นผู้มีพระคุณของผม สิ่งที่ท่านพูดมา ผมจะส่งให้คนไปทำตามทันทีครับ!”
ถึงแม้ว่าจะอ่อนแรงขนาดนี้ แต่ว่าชายชราก็อยากจะเอ่ยคำขอบคุณออกมา
ถ้าไม่ใช่เพราะฉินจุน เกรงว่าไห่หนิงคงจะไม่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้
ถ้าหากไปพบว่าตัวเองเดินละเมอ เกรงว่าไห่หนิงคงเป็นแบบที่เขาว่าไม่เกินเดือนต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงแน่
ด้วยวัยของเขาแล้ว ถ้าหากกลางดึกยังกินเนื้อดิบทุกวันอยู่อีก จะมีจุดจบที่ดีได้ยังไง?
อีกอย่างเขากินเนื้อดิบเข้าไป เป็นเพราะว่าในตู้เย็นมีแต่ของสด ถ้าในตู้เย็นมีปลาดิบ เขาไม่กัดปลาดิบเข้าไปเลยเหรอ?
ความเจ็บป่วยที่มาจากการเอาเข้าปาก ถึงเวลานั้นผลลัพธ์มันหายนะยิ่งกว่าที่คิด
ฉินจุนเอ่ย “ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ ที่ผมรักษาให้เป็นเพราะเห็นแก่เหลยหงก็เท่านั้น”
ที่ฉินจุนพูดมานั้นเป็นความจริง ถ้าหากไม่ใช่เพราะรู้จักกับเหลยหง แล้วดูจากท่าทางของเหยาเหยาที่ทำกับเขาแล้ว ฉินจุนคงหมุนตัวออกไปนานแล้วไม่อยู่รักษาให้แน่นอน
ใบหน้าของไห่หนิงเต็มไปด้วยความอับอาย เขาเอ่ย
“คุณฉินให้อภัยพวกเราด้วยนะครับ ส่วนเสี่ยวหงเดี๋ยวผมจะขอบคุณหล่อนด้วยตัวเองแน่นอน”
พูดจบ ไห่หนิงก็ยื่นนามบัตรสีทองใบหนึ่งให้ฉินจุนพร้อมกับเอ่ย
“คุณฉิน นี่เป็นนามบัตรของผม ต่อไปถ้าคุณต้องการความช่วยเหลืออะไรในเมืองหลวง ก็โทรหาผมได้เลยไม่ต้องเกรงใจ พวกเราตระกูลไห่จะช่วยคุณอย่างสุดความสามารถ”
ฉินจุนพยักหน้าจากนั้นก็เก็บนามบัตรไป
จากนั้นก็เรียกแม่บ้านของตระกูลไห่เข้ามา จากนั้นก็บอกว่าได้จ่ายใบสั่งยาให้ท่านอาวุโสไห่เอาไว้ อันหนึ่งเป็นสูตรยา อันหนึ่งเป็นสูตรอาหาร ที่เรียกว่าสูตรอาหารจริง ๆ แล้วก็แค่เมนูอาหาร บอกว่าอันไหนที่ชายชราควรกิน อันไหนที่ไม่ควรกิน
พอจ่ายยาเสร็จ ฉินจุนก็เดินออกจากห้อง
เหยาเหยารีบเดินเข้าไปในห้องเพื่อดูถามสถานการณ์ ไม่นานก็เดินออกมาอีกครั้ง
เหยาเหยามาหยุดยืนตรงหน้าของฉินจุน ใบหน้าเต็มไปด้วยความทำตัวไปถูกและมีความรู้สึกผิดปนอยู่ด้วย
“คุณฉินคะ ขอโทษจริง ๆ นะคะ ก่อนหน้านี้มันเป็นความผิดของฉันเอง ต้องกราบขอโทษคุณจริง ๆ นะคะ”
พูดจบเหยาเหยาก็หยิบบัตรธนาคารและนามบัตรออกมายื่นให้ฉินจุน
“คุณฉินได้โปรดรับไว้ด้วยเถิดนะคะ!”
ฉินจุนคิดลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธรับมันเอาไว้
ถึงแม้ว่าบอกว่าเห็นแก่หน้าของเหลยหงจึงไม่เก็บค่ารักษา แต่ว่าตระกูลไห่ก็ไม่ได้ขาดเหลืออะไรพวกเขามีเงินล้นเหลือ การไม่เก็บค่ารักษาพยาบาลกลับทำให้พวกเขาไม่สบายใจ
พอเก็บเงินมา ฉินจุนกับท่านอาจารย์หมอเหยียนก็เอ่ยลา ออกมาจากตระกูลไห่
เหลยหงที่กำลังจะเตรียมเรียกรถให้ฉินจุนเพื่อกลับไปยังเมืองตงไห่นั้น จู่ ๆ โทรศัพท์ของฉินจุนก็ดังขึ้น
เป็นข้อความวีแชทมาจากเฉินหยวน
“ฮัลโหล นายกลับตงไห่ไปหรือยัง?”
“ยังเลย มีอะไรเหรอ?”
“เอ่อ……คนดีช่วยอะไรแล้วต้องทำถึงที่สุด นายช่วยมาบ้านฉันอีกรอบได้ไหม?”
“เอ่อ ก็ได้ ๆ ”
ไม่นานเขาก็ได้รับตำแหน่งที่อยู่ของเฉินหยวน ฉินจุนจึงให้เหลยหงไปส่งเขาที่นั่น
เฉินหยวนในขณะนี้กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก พ่อแม่และรวมถึงน้องสาวกำลังทำหน้าเหมือนสืบสวนคนร้าย นั่งกอดอกจ้องหน้าเฉินหยวน
“เสี่ยวหยวน ถ้าไม่ใช่เพราะเติ้งเจียบอกพวกเรา ลูกจะไม่บอกความจริงกับพวกเราใช่ไหม?”
เฉินหยวนหมดคำจะพูดจริง ๆ
ก่อนหน้านี้ตอนที่ทานอาหารกันที่ร้านอาหาร เธอมีเรื่องกับพวกเติ้งเจียไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พอเฉินหยวนกับเติ้งเจียออกมา พวกกลุ่มเพื่อน ๆ ก็ไปรับรถที่ฉินจุนรับปากไว้ว่าให้รถฟรีไปรับมาได้เลย
เรื่องนี้ทำเอาพวกเติ้งเจียช็อกไปเลย ไม่คิดเลยว่าฉินจุนจะเป็นมหาเศรษฐี เติ้งเจียนั้นอยากจะหาโอกาสขอโทษเฉินหยวน ไม่อยากจะทำให้ความสัมพันธ์มันแย่
แต่เธอโทรไปหาเฉินหยวนก็ไม่รับสาย เติ้งเจียจึงโทรมาหาแม่ของเฉินหยวน แล้วก็พูดขอโทษแค่ไม่กี่ประโยคเพื่อแสดงความขอโทษ
แม่ของเฉินหยวนขมวดคิ้วเข้าหากันเอ่ย
“แฟนของลูกทำงานอะไร”