ทุกคนรู้ดีถึงความยากของการฝังเข็ม เข็มที่ใช้ในการฝังเข็มนั้นบางมาก
หากจะใช้เข็มชนิดนี้เจาะเข้าไปที่ผิวหนังจะต้องใช้ทักษะมาก
หากคนทั่วไปเอาเข็มเงินไปแทงตัวเอง สุดท้ายเข็มก็ต้องเด้งออกมา ไม่ปักที่ผิวหนัง
หากต้องการฝังไปที่จุดฝังเข็มอย่างแม่นยำ จะต้องมีการกำหนดแรงที่แม่นยำมาก
จับเข็มด้วยสามนิ้วแล้วกดเข้าไปในผิวหนัง
แต่การเคลื่อนไหวของฉินจุนทำให้ทุกคนประหลาดใจจริงๆ
อย่างแรกเลยฉินจุนใช้สองนิ้วจับเข็ม ในจุดนี้เป็นเรื่องที่สุดยอดมาก เว้นแต่เขาจะเป็นเชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนที่ใช้เข็มได้อย่างชำนาญถึงจะสามารถใช้แรงของเขาได้อย่างแม่นยำ
ทั้งต้องสามารถเจาะผ่านผิวหนังเข้าไปได้แล้วยังต้องสามารถฝังเข้าไปได้ถูกจุดฝังเข็มอย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังต้องควบคุมการออกแรงให้ได้ตามที่ต้องการอีกด้วย
อย่างที่สองฉินจุนฝังเข็มแบบกลับด้าน
โดยปกติแล้วเข็มจะถูกฝังจากบนลงล่าง แต่เนื่องจากผู้ป่วยถูกแขวนไว้บนรั้วเหล็ก และไม่สามารถพลิกตัวได้ ดังนั้นฉินจุนจึงต้องฝังเข็มจากล่างขึ้นบนเท่านั้น
ในรูปแบบนี้ดูเหมือนเป็นการฝังแบบมั่วๆ แต่จริงๆ แล้วก็เป็นไปตามหลักพื้นฐาน
แม้ว่าคณบดีเมิ่งจะชำนาญในเรื่องการฝังเข็มมาก แต่ถ้าจะทำให้ได้เหมือนฉินจุนก็คงจะเป็นไปไม่ได้
จากนั้นฉินจุนก็ฝังเข็มที่สองต่อไป
เข็มที่สาม และเข็มที่สี่!
ยิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ และมั่นคงขึ้นเรื่อยๆ
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่วิธีการฝังเข็มแบบกลับด้านนี้ก็ทำให้คณบดีเมิ่งเชื่อยอมแล้ว
หลังจากฝังไปเก้าเข็ม นักศึกษาคนนั้นก็มีสติกลับมาทันที
“คณบดีครับ ท้องของผมดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไรแล้วครับ หรือว่าผม…”
ฉินจุนพูด “อย่าเพิ่งขยับ การรักษาด้วยเข็มเก้าเล่ม แน่นอนว่าจะทำให้ไม่มีความรู้สึก แต่ตอนนี้ยังคงอันตรายมาก ทุกคนฟังตามคำสั่งของผมนะ ยกเขาขึ้น!”
“เตรียมตัว 1, 2, 3!”
ฉินจุนไม่ให้เวลาพวกเขาได้เตรียมตัวเลย ออกคำสั่งทันที ดังนั้นนักศึกษาทุกคนต่างก็ทำตามคำสั่งของเขา ยกผู้ป่วยคนนั้นออกมา
จริงๆ แล้วการทำแบบนี้เสี่ยงมาก พวกเขายังไม่ทันรับรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นก็ต้องยกผู้ป่วยออกมาแล้ว
ทันทีที่ยกลงมา ที่บริเวณหน้าท้องก็เริ่มมีเลือดออกมาก
ทุกคนต่างก็ตื่นตระหนก
“ทำยังไงดี!”
ฉินจุนรีบวางผู้ป่วยให้ราบอย่างรวดเร็ว เหยียดนิ้วโป้งออกมา กดไปที่เส้นเลือดใหญ่อย่างแม่นยำ จากนั้นก็ยื่นมืออีกข้างออกมา
“มีดผ่าตัด!”
ทุกคนตะลึง ปฏิกิริยาของฉินจุนนั้นเร็วมาก เขาใช้แค่มือข้างหนึ่งกดไปที่หลอดเลือดแดง ปริมาณเลือดที่ไหลออกมานั้นเยอะมาก
หมอบางคนที่ถือมีดผ่าตัดติดตัวมาด้วยจึงรีบส่งให้ฉินจุนทันที ฉินจุนรีบกรีดแผลบริเวณที่สกปรกออกทันที
“เค่อเอ๋อร์ มาเย็บแผล!”
เฉินเค่อเอ๋อร์รู้สึกประหม่าเล็กน้อย และผู้เชี่ยวชาญหญิงคนหนึ่งก็ยืนขึ้น และพูดว่า “ให้ฉันทำเถอะ ฉันเป็นหัวหน้าพยาบาล!”
“ไม่ต้อง เค่อเอ๋อร์มา!”
เฉินเค่อเอ๋อร์สูดหายใจเข้าลึกๆ รีบคุกเข่าลงข้างฉินจุน และเย็บแผลตามคำสั่งของฉินจุน
หลังจากผ่านไปประมาณห้านาทีก็เย็บแผลเสร็จ ปลอดเชื้อแล้ว
หลังจากนั้นเข็มเงินทั้ง 9 เล่มก็หลุดออกมาเอง การรักษาด้วยเข็มเก้าเล่มมีเวลาอยู่ได้เพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น ถ้าหากสามารถใช้เวลาไม่กี่นาทีนี้เย็บแผลให้เสร็จได้ก็ไม่มีปัญหา
หากไม่สามารถทำการช่วยเหลือได้สำเร็จ แม้จะมีการรักษาด้วยเข็มเก้าเล่มก็ไม่มีประโยชน์
เมื่อเข็มเงินหลุดออกมา ผู้ป่วยสูดหายใจเข้าลึกๆ สามารถหายใจได้สะดวก ก็ลืมตาขึ้นมองไปที่ฉินจุน
“ขอบคุณครับศาสตราจารย์ฉิน”
วิธีการรักษาของฉินจุนนั้นน่าทึ่งจริงๆ ทุกคนต่างก็ปรบมือให้
นี่เป็นการช่วยชีวิตที่น่าตื่นเต้นจริงๆ
แม้ว่านักศึกษาคนนี้ไม่ได้เสียชีวิต แต่ถ้าเมื่อกี้วิธีการของฉินจุนเกิดความผิดพลาดขึ้นมานิดหนึ่ง นั่นก็มีโอกาสมากที่จะทำให้นักศึกษาตายเพราะม้ามแตก
การรักษาด้วยเข็มเก้าเล่มบวกกับการตัดแผลบริเวณที่ติดเชื้อออกไปอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการเย็บแผลในขั้นตอนสุดท้าย เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีขาดช่วงเลย
ในกระบวนการทั้งหมด บทบาทของฉินจุนคือหมอ หรือพยาบาล?
หากบอกว่าเป็นหมอ การรักษาด้วยเข็มเก้าเล่มเมื่อกี้นี้เป็นหน้าที่ของพยาบาล และตอนสุดท้ายที่ฉินจุนช่วยห้ามเลือดไว้ นั่นก็เป็นหน้าที่ของพยาบาลเช่นกัน
รวมไปถึงการเย็บแผลที่สำคัญของเฉินเค่อเอ๋อร์ด้วย นั่นก็เป็นงานของพยาบาล
การผ่าตัดที่น่าตื่นเต้นในครั้งนี้ เป็นส่วนของการพยาบาลไปมากกว่าครึ่ง ทักษะของแพทย์จริงๆ แล้วมีเพียงการลงมีดตัดแผลออกเท่านั้น แม้ว่ามันจะมีความสำคัญมาก แต่ก็ไม่ทั้งหมด
คณบดีเมิ่งมองไปที่ผู้ป่วยที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยความรู้สึกทึ่ง
สุดยอดมาก
นี่คือความสามารถของศาสตราจารย์ฉินงั้นเหรอ…
ตั้งแต่เริ่มต้นจับชีพจร การตัดสินใจ การฝังเข็ม และการสั่งให้นักศึกษายกเขาขึ้นมาอย่างเด็ดขาด ถ้าเหตุการณ์นี้เป็นคณบดีเมิ่งเป็นคนจัดการด้วยตัวเองก็อาจไม่สามารถทำได้อย่างชำนาญเหมือนฉินจุน
การรักษาของฉินจุนช่างน่าทึ่งจริงๆ มันได้ลบล้างความคิดความเข้าใจของคณบดีเมิ่งไปจนหมด
จริงๆ แล้วการพยาบาลก็มีความสำคัญพอๆ กันกับรักษาของแพทย์
เหตุผลที่ฉินจุนตำหนิพวกเขานั้นก็เป็นเพราะทฤษฎีของพวกเขาผิดจริงๆ
เมื่อก่อนมักจะคิดว่าการพยาบาลนั้นไม่สำคัญ เป็นเหมือนตัวประกอบเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
“เอาล่ะ รีบพาคนไข้ไปส่งโรงพยาบาล นี่เป็นแค่การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเท่านั้น ต้องไปฆ่าเชื้อ ตรวจอย่างละเอียด และฉีดบาดทะยักด้วย”
ฉินจุนกำชับแค่ไม่กี่ประโยค รถพยาบาลมาถึงทันเวลาพอดี ทุกคนต่างก็เป็นนักศึกษาคณะแพทย์ ก็ค่อยๆ พยุงคนไข้ไปที่รถพยาบาล
หลังจากที่รถพยาบาลออกไป คณบดีเมิ่งและคนอื่นๆ ก็รีบล้อมเขาเข้ามา มองไปที่ฉินจุนและพูดอย่างตื่นเต้น
“ศาสตราจารย์ฉินที่แท้คุณก็คือศาสตราจารย์ฉิน ตอนแรกพวกเราตาบอดเองที่มองไม่ออก ขอโทษจริงๆ ครับ!”
“ศาสตราจารย์ฉิน ขอถามหน่อยครับคุณอายุมากแต่กลับมีความสามารถทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ หรือว่าคุณเรียนแพทย์แผนจีนมาตั้งแต่ยังเด็กหรือเปล่าครับ?”
“ศาสตราจารย์ฉิน ขอถามหน่อยครับทำไมการฝังเข็มของคุณทำได้อย่างใจคิดอย่างนั้นล่ะครับ คุณมีวิธีการควบคุมการออกแรงในการฝังเข็มยังไงครับ?”
“…….”
ทุกคนต่างก็แย่งกันถามคำถาม ซึ่งแตกต่างกับท่าทางที่เย่อหยิ่งก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ทุกคนต่างก็เปลี่ยนไปมีท่าทางที่เคารพและถ่อมตนมาก เป็นการถ่อมตัวเพื่อขอคำแนะนำ
คณบดีเมิ่งเองก็รู้สึกละอายเช่นกัน
“ศาสตราจารย์ฉินครับ ผมมันแก่แต่กลับไม่มีความสามารถ บทเรียนที่ศาสตราจารย์ฉินให้นั้นมันล้ำค่ามาก ผมไม่สมควรเป็นครูจริงๆ ! ผมจะลาออกจากการเป็นคณบดี!”
สีหน้าของคนอื่นๆ เปลี่ยนไปอย่างมาก “คณบดีเมิ่ง! คุณอย่าพูดแบบนั้นสิ ถ้าคุณไม่เป็นคณบดี แล้วใครจะมาเป็นหัวหน้าเราล่ะ!”
“ยังมีนักเรียนอีกมากมายที่รอให้คุณถ่ายทอดความรู้ให้นะ!”
“คณบดีเมิ่ง คุณจะไปไม่ได้นะครับ!”
ฉินจุนพูด “คณบดีเมิ่งคุณพูดเกินไปแล้ว มันเป็นแค่การโต้เถียงทางวิชาการเท่านั้น การรักษาด้วยเข็มเก้าเล่มนี้ถ้าพวกคุณอยากเรียนผมสอนให้ได้ครับ”
เมิ่งจ้าวหลินอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นใบหน้าของเขาก็แสดงออกถึงความตื่นเต้นอย่างหาที่เปรียบมิได้
“คุณฉิน คุณแน่ใจหรือครับ?”
“โดยปกติแล้วเทคนิคการฝังเข็มขั้นสูงแบบนี้จะไม่สามารถเผยแพร่ให้คนอื่นรู้ คุณ…”