เจิ้งซูตกตะลึงครู่หนึ่ง หันศีรษะและเหลือบไปที่ฉินจุน
“เด็กคนนั้น? เขาเป็นใคร?”
จิ้งจอกตัวน้อยกล่าวว่า “เผด็จการท้องถิ่น มักจะให้รางวัลแก่คู่แข่งของฉัน เขาเคยเอาชนะฉันมาก่อน”
หลังจากพูดจบ จิ้งจอกตัวน้อยก็ปิดหน้าเธออย่างอ่อนโยน แสร้งทำเป็นว่าทำน้อยใจอย่างมาก
เจิ้งซูลุกเป็นไฟ “จริงเหรอ? กล้ารังแกเธอแบบนี้เหรอ? เผด็จการบ้าบออะไร มาดูเลยฉันจะจัดการเขา!”
จิ้งจอกตัวน้อยยังคงดึงเขา “พี่เจิ้ง ไม่ต้องหรอก คนคนนั้นค่อนข้างทรงพลัง บางทีเขาอาจมีที่ยืนในวงการบันเทิง!”
เจิ้งซูเยาะเย้ย “ที่ยื่น? บอกกับฉันคนอย่างเจิ้งซูว่ามีตำแหน่งในวงการบันเทิงเหรอ? งั้นฉันจะปล่อยให้เขาไม่มีตำแหน่งจากนี้ไป”
หลังจากพูด เจิ้งซูลุกขึ้นยืนตรง และเดินไปที่ฉินจุน และกล่าว
“ไอ้หนู ลุกขึ้นสิ”
เมื่อเห็นการกระทำของเจิ้งซู จิ้งจอกตัวน้อยก็แสดงสีหน้าภูมิใจ นี่คือสิ่งที่เธอต้องการ
นับว่าเจิ้งซูโชคดีที่ได้อยู่ในแวดวงลูกคนรวย ในช่วงเวลานี้ จิ้งจอกตัวน้อยรู้จักหัวใจของชายผู้นี้ดี พอดีที่เจิ้งซูได้ลิ้มรสอีกสักหน่อย แล้วให้ของเล่นไว้ในน้ำมือของเขา
หากคุณต้องการให้เจิ้งซูเคลื่อนไหว การกระตุ้นโดยตรงจะได้ผลดีที่สุด
เจิ้งซูนี้เป็นลูกรวย และเป็นดาวรุ่นที่สอง
พ่อของเจิ้งซูคือเจิ้งเสี่ยวหลง ดาราภาพยนตร์กังฟูที่เล่นเป็นตัวร้าย และมีบทบาทสนับสนุนเหรียญทอง
เขามีภูมิหลังที่แข็งแกร่งในการเดบิวต์มาหลายปี แม้ว่าเขาจะมีบทบาทสนับสนุนอยู่เสมอ แต่ความสัมพันธ์เบื้องหลังของเขานั้นยากมาก และสถานะของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก
เจิ้งซูเป็นดารารุ่นที่สอง แต่แทนที่จะใช้เส้นทางการแสดง เขาก็อยู่เบื้องหลัง
เขาชอบชีวิตแบบนี้ มันสบายมากที่ได้เป็นเบื้องหลัง คนดังในอินเทอร์เน็ต และหลับใหลกับดาราหญิง
เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ฉินจุนก็ขมวดคิ้ว เงยหน้าขึ้น และเหลือบมองที่เจิ้งซู ไม่สนใจเขา และรับประทานอาหารต่อ
เหลยหงก็เฝ้าดูอย่างเย็นชาอยู่ข้าง ๆ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตลก
เจิ้งซูขมวดคิ้ว “ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ บอกให้ยืนขึ้น!”
ฉินจุนเริ่มใจร้อนเล็กน้อย “เรารู้จักกันเหรอ?”
เจิ้งซูกล่าวว่า “ฉันไม่รู้ แต่ฉันได้ยินมาว่าแกรังแกผู้หญิงของฉันใช่มั้ย?”
เจิ้งซูชี้ไปที่จิ้งจอกน้อย แล้วพูดว่า “แกไปขอโทษเธอซะ และโค้งคำนับสามครั้ง แล้วฉันจะปล่อยแกไปวันนี้!”
ฉินจุนเยาะเย้ย “ไอ้โง่ตัวน้อยนี่ออกมาจากที่ไหน ออกไปซะ”
เจิ้งซูถูกด่า และใบหน้าของเขาดูน่าเกลียดเล็กน้อย
“แกอยากตายสินะ แกไม่รู้หรือว่าข้าเป็นใคร พ่อของฉันคือเจิ้งเสี่ยวหลง! ไปถามใครก็ได้ เชื่อมั้ยฉันจะฆ่าแก?”
เจิ้งซูก้าวไปข้างหน้าสองก้าว และเหลยหงก็ลุกขึ้นยืน และพูดอย่างเย็นชา
“อย่าทำให้คุณฉินขุ่นเคือง มิฉะนั้น แกอาจได้รับบาดเจ็บ”
เมื่อเหลยหงพูดเช่นนี้ ความสนใจของเจิ้งซูก็ตกอยู่ที่เธอ และดวงตาของเขาก็วาบขึ้นมาทันที
นี่ก็สวยเกิน
รูปลักษณ์ของเหลยหงนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ผมสั้น มีความสามารถและกล้าหาญมาก ด้วยความกล้าหาญแบบหญิงโบราณ เต็มไปด้วยความกล้าหาญระหว่างคิ้ว ริมฝีปากสีแดงและฟันขาว สวยงามมาก
ผู้หญิงคนนี้แม้แต่เจิ้งซูที่อ่านผู้หญิงมานับไม่ถ้วนก็เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นแบบนี้
นี่คือดาราที่เพิ่งเดบิวต์?
ความคิดชั่วร้ายผุดขึ้นในใจของเจิ้งซู และพูดกับเหลยหง
“คุณมาจากต้นสังกัดไหน เป็นนักแสดงนางแบบหรือนักร้อง? เขาให้สัญญาอะไรกับคุณ บอกว่าจะเป็นที่นิยมในตัวคุณ?”
“ผมจะบอกคุณให้นะ พ่อของผมคือเจิ้งเสี่ยวหลง ตราบใดที่คุณรอผมอยู่บนเตียง อย่างน้อยผมก็สามารถโปรโมตคุณในฐานะนักแสดงระดับสองได้ เป็นไง?”
หลังจากพูดแล้ว เจิ้งซูก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว และเขาก็กำลังจะเอื้อมมือไปกอดเอวของเหลยหง
เหลยหงขมวดคิ้วทันที และดึงมีดออกจากเอวของเขา!
เหลยหงไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา นั่นคือผู้มีอำนาจในเมืองหลวงของจังหวัด!
เมื่อเหลยหงเป็นคนกร่างในท้องที่ในตอนนั้น ด้วยมีดในมือข้างเดียว เขาก็เป็นแม่ทัพผู้กล้าหาญด้วย และผู้ชายหลายคนก็เทียบไม่ได้
บรรดาผู้ที่กล้าทำร้ายเหลยหง มันจะจบลงอย่างน่าสังเวช
เหลยหงดึงกริชออกจากเอวของเธอ แทงมันลง และเจาะหลังมือของเจิ้งซูโดยตรง เจาะหลังมือของเขา และเจาะเข้าไปในโต๊ะ
“อ้า!”
เจิ้งซูกรีดร้อง และคุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวด มือของเขาถูกตอกไปที่โต๊ะ และเขาไม่กล้าขยับ
“นังบ้า! แกกล้าแตะต้องตัวฉันเหรอ แกรู้มั้ยว่าพ่อข้าเป็นใคร แกเชื่อมั้ยฉันจะกำจัดพวกแก!?”
เจิ้งซูก็เหมือนหมาบ้า เขาถูกเลี้ยงดูมาอย่างเอาใจจนนิสัยเสียตั้งแต่เด็ก เขาต้องทนกับความอัปยศเช่นนี้เมื่อใด?
เหลยหงเยาะเย้ย “ฉันไม่สนใจว่าพ่อของแกเป็นใคร ฉันชื่อเหลยหง หากแกมีความไม่พอใจใด ๆ เพียงแค่มาหาฉัน”
หลังจากพูดแล้วเหลยหงก็ชักมีดของเธอกลับ เจิ้งซูทรุดตัวลงกับพื้น กำมือที่เต็มไปด้วยเลือดของเขา ใบหน้าของเขาราวกับฝนตกด้วยเหงื่อที่เย็นยะเยือก
“แกตายแน่ แกเสร็จแน่ นังบ้า รอก่อนเถอะ!”
หลังจากพูดแล้ว เจิ้งซูก็หยิบโทรศัพท์ออกมา และกดหมายเลขของพ่อ
“พ่อ! ผมถูกมีดแทงในร้านอาหารโฟร์ซีซั่นส์!”
“อะไรนะ! ใครกล้าแตะต้องนาย! นายรอก่อน ฉันจะไปทันที!”
หลังจากวางสาย จิ้งจอกตัวน้อยก็รีบหยิบผ้าเช็ดปากสีขาวพันผ้าให้เจิ้งซู และพูดขณะพันผ้าพันแผล
“พวกแกไม่รู้จริง ๆ ว่าความเป็นความตายคืออะไร พ่อของนายน้อยเจิ้งคือเจิ้งเสี่ยวหลง! ถ้าลุงเจิ้งมาที่นี่ พวกแกทั้งหมดจะโดนกำจัด!”
สุนัขจิ้งจอกตัวน้อยดูโกรธมากบนพื้นผิว แต่เธอก็มีความสุขในใจ การต่อสู้นั้นดี ยิ่งการต่อสู้รุนแรงเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เป็นการดีที่สุด ที่จะหักแขนและขา เมื่อถึงเวลาที่เจิ้งเสี่ยวหลงมาจะได้แก้แค้นอย่างบ้าระห่ำ เธอจะรอดูว่าฉินจุนจะยังวางมาดอีกมั้ย!
เจิ้งซูโทรหาใครสักคน เหลยหงไม่สนใจ และอยากจะหัวเราะ
“ในเมื่อแกเรียกคนอื่นมา ฉันก็เรียกด้วยละกัน”
หลังจากพูดแล้ว เหลยหงก็โทรออกเช่นกัน
เหลยหงดูเหมือนจะไม่เคยมีประสบการณ์กับความตื่นเต้นร่วมกันแบบนี้มาเป็นเวลานานแล้ว และพบว่ามันตลก ราวกับว่าเธอกลับไปสู่วันที่เธอกร่างในพื้นที่
ฉินจุนไม่สนใจเลย ลูกคนรวยอย่างเจิ้งซูที่สมองตายและรวย ไม่ได้เรื่องได้ราว และพ่อของเขาไม่ใช่คนที่ดีเท่าไหร่
ในไม่ช้า มีรถสองสามคันจอดอยู่ที่ประตู และมีคนชุดดำสองสามคนลงมา ล้อมรอบด้วยชายวัยกลางคนในชุดขาว และเดินเข้าไปในสายลม
หลังจากเข้าไปแล้ว บอดี้การ์ดหลายคนก็เริ่มจัดการทันที
“ทุกคน ออกไป!”
เมื่อแขกเห็นว่าจะทะเลาะกัน ก็รีบออกจากที่เกิดเหตุ และหยุดกินที่นี่
บริกรและผู้จัดการร้านอาหารไม่กล้าพูดอะไรเมื่อเห็นฉากนี้ และแม้แต่ลูกค้าเหล่านั้นก็ไม่กล้าขอ
หลังจากบอดี้การ์ดสองสามคนเคลียร์พื้นที่ได้ ชายในชุดขาวและแว่นกันแดดก็เดินเข้ามาหาเขา
“พ่อ!”
ชายวัยกลางคนสวมเสื้อผ้าสีขาวและแว่นกันแดด เป็นพ่อของเจิ้งซู เจิ้งเสี่ยวหลง
เจิ้งเสี่ยวหลงถอดแว่นตาของเขา และเห็นเลือดบนมือของลูกชายมากมาย และใบหน้าของเขาน่าเกลียดมาก
“ไอ้สารเลวตัวไหนกล้าที่จะแตะต้องลูกชายของเจิ้งเสี่ยวหลงของฉัน!”
เจิ้งเสี่ยวหลงหันศีรษะ สายตาจับจ้องไปที่ฉินจุนและเหลยหง
เหลยหงหยิบกริชเปื้อนเลือดออกมาอีกครั้ง วางลงบนโต๊ะแล้วเยาะเย้ย
“ฉันเอง”
เจิ้งเสี่ยวหลงขมวดคิ้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
“ผู้หญิง? แกเป็นใคร?”
จู่ ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็กล้าทำอะไรแบบนี้ ดูเหมือนเธอจะไม่ใช่ตัวละครธรรมดา ๆ
“ฉันชื่อเหลยหง”
