ท่าทางของผู้เฒ่าชาร์ลีนั้นดูเคารพยำเกรงมาก แม้กระทั่งต้องรอถึงหนึ่งเดือนก็ยินดีจะรอขอเพียงได้พบหน้า
การได้พบหน้ากับฉินจุนนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขาในตอนนี้
ฉินจุนเอ่ย “อาการป่วยของคุณเป็นยังไงบ้างครับ?”
ผู้เฒ่าชาร์ลีเอ่ย “หายแล้วครับ ๆ หายดีแล้ว ต้องขอขอบพระคุณท่านกับท่านผู้เฒ่าเย่ ไม่อย่างนั้นผมคงตายไปนานแล้ว!”
“คุณฉินครับ พรุ่งนี้ท่านสะดวกไหมครับ?”
ฉินจุนเอ่ย “สะดวกครับ เดี๋ยวผมส่งที่อยู่ไปให้คุณ คุณก็มาตามที่อยู่ได้เลย”
จากนั้น ฉินจุนก็บอกที่อยู่ของบ้านตระกูลหลิ่วให้แก่ผู้เฒ่าชาร์ลี พอนัดเวลากันเสร็จสรรพ พรุ่งนี้ก็มาเจอเขาที่นี่ได้เลย
ผู้เฒ่าชาร์ลีคนนี้เป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกมานานหลายปีแล้ว เมื่อหลายปีก่อนผู้เฒ่าชาร์ลีนั้นมีอำนาจและอิทธิพลมาก ๆ แต่ว่าเป็นเพราะมีโรครุมเร้า ไม่หายสักที
ต่อมาเย่ซวนหยวนพาฉินจุนลงมาจากภูเขา ทั้งสองคนทำการรักษาให้ผู้เฒ่าชาร์ลีอยู่หลายครั้งหลายครา สามารถรักษาอาการป่วยของเขาที่เป็นเรื้อรังมาหลายปีให้หายได้ ผู้เฒ่าชาร์ลีนั้นซาบซึ้งในบุญคุณนี้มาก เขายกย่องให้เย่ซวนหยวนเป็นเหมือนพระเจ้า และฉินจุนเป็นเหมือนสาวก ทางฝั่งของผู้เฒ่าชาร์ลีทั้งสองคนถือว่ามีฐานะสูงส่งมาก ๆ
คนทั้งตระกูลชาร์ลีเมื่อได้เห็นฉินจุนก็เหมือนกับว่าได้เห็นเทพเจ้า
แพทย์แผนจีนในสายตาของพวกเขานั้นเป็นอะไรที่น่ามหัศจรรย์มาก เขาสามารถรักษาจากคนที่ใกล้ตายให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง การที่ได้รู้จักกับคนแบบนี้ ถือเป็นความโชคดีของตระกูลพวกเขา
เช้าวันต่อมา ฉินจุนตื่นขึ้นตามเวลาปกติ ส่วนคนอื่น ๆ ในตระกูลหลิ่วนั้นตื่นกันตั้งแต่ไก่โห่แล้ว ตอนนี้ทุกคนกำลังยุ่งชุลมุนวุ่นวาย
พวกเขากำลังตกแต่งสถานที่ ทำความสะอาดบ้าน งานบ้านที่เป็นหน้าที่ของแม่บ้าน ขณะนี้กลายเป็นคนในตระกูลหลิ่วต่างมาลงมือทำกันด้วยตัวเอง
พวกเขาเชิญนางแบบมายืนต้อนรับที่สวน
พร้อมกับปูพรมแดงที่ลานหน้าบ้าน ทั้งสองข้างทางประดับด้วยแจกันดอกไม้สดทรงสูง
ระหว่างดอกไม้สดแต่ละอันก็จะมีนางแบบสาวสวยสูงยาวเข่าดี สวมใส่ชุดกี่เพ้ายืนอยู่ รวมทั้งสองฝั่งแล้วทั้งหมดสิบแปดคน งานถูกจัดขึ้นอย่างเอิกเกริกและยิ่งใหญ่
คนในตระกูลหลิ่วต่างสวมชุดอย่างเป็นทางการ ผู้ชายสวมใส่สูท ส่วนผู้หญิงสวมใส่ชุดกี่เพ้า มองดูแล้วรู้สึกงดงามมาก ๆ ดูก็รู้ว่าตระกูลหลิ่วให้ความเคารพแก่แขกที่มาเยี่ยมเยือนในครั้งนี้มาก
หลิ่วชิงชิงเองก็สวมใส่ชุดกี่เพ้า ชุดที่เธอสวมใส่เป็นชุดที่สวยที่สุด เธออยู่ที่สวนหน้าบ้านด้วยท่าทางของเจ้าภาพยืนต้อนรับแขกผู้มาเยือน
……
หลังจากผู้เฒ่าชาร์ลีลงจากเครื่องบิน เขาก็นั่งรถตู้เมอร์ซิเดสเบนซ์มุ่งหน้ามาที่บ้านตระกูลหลิ่ว
ผู้เฒ่าชาร์ลีมองนาฬิกาด้วยใบหน้าเป็นกังวล เขานับกับฉินจุนไว้ตอนสิบโมงเช้า ตอนนี้มันเก้าโมงสี่สิบเข้าไปแล้ว
แล้วตอนนี้ข้างหน้ายังมารถติดอีก
ตามหลักการแล้วต่อให้รถติด แต่ยังไงก็ไปถึงจุดหมายเวลาประมาณสิบโมงได้แน่นอน แต่สำหรับผู้เฒ่าชาร์ลีแล้ว ไปถึงตอนประมาณสิบโมงไม่ได้
นัดไว้ตอนสิบโมง เขาต้องไปถึงก่อนเวลานัดหมาย ถ้าไปสายมันจะไม่ดูเป็นการไม่ให้เกียรติคุณฉินหรือไง?
“เร็วเข้า!ฉันรีบมาก!”
คนขับรถเผยสีหน้าลำบากใจ เขาไม่มีทางเลือก
“คุณชาร์ลีครับตอนนี้ด้านหน้ารถติดมาก ผมขับได้เร็วแค่เท่านี้ครับ ท่านวางใจเถอะครับ เราไปถึงประมาณสิบโมงแน่นอนครับ”
“ไม่ได้!”
ชาร์ลีร้อนใจอย่างมาก ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง มันต้องดูไม่ให้ความเคารพคุณฉินอย่างมาก
“ฉันจะลงรถ!”
จู่ ๆ ชาร์ลีก็เปิดประตูลงจากรถไป เหล่าผู้ช่วยก็รีบตามลงไป
“คุณชาร์ลีครับ!ตอนนี้พวกเราไม่มีหนทางอื่นแล้ว……”
ชาร์ลีมองไปที่ข้างถนน ทันใดนั้นเขาก็เห็นคนขับรถอาหารคนหนึ่งกำลังยืนเล่นโทรศัพท์อยู่ น่าจะกำลังแย่งออเดอร์ลูกค้า
ชาร์ลีจึงรีบเดินเข้าไปหา ใช้ภาษาจีนที่ถือว่าคล่องอยู่พอประมาณเอ่ยถามไป
“เฮ้เพื่อน ช้านอยากจาซื้อรถมอเทอร์ซายของนาย!”
หนุ่มส่งอาหารชะงัก ก่อนจะเตรียมปฏิเสธ
ทันใดนั้นชาร์ลีก็ควักปึกเงินจากกระเป๋ากางเกงออกมาหมื่นหนึ่ง แถมยังเป็นแบงก์ดอลลาร์อีกด้วย
หนุ่มส่งอาหารตะลึงไปเลย มองดูชาร์ลีที่แต่งตัวด้วยชุดสูทก็น่าจะเป็นของแบรนด์เนมมีราคา อีกอย่างเมื่อกี้ก็เดินลงมาจากรถหรู ไม่น่าจะใช่คนธรรมดาแน่ ๆ ?
“ก็ได้!ให้คุณเลย!”
ผู้เฒ่าชาร์ลีส่งเงินให้ จากนั้นก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ของหนุ่มส่งอาหารออกไปทันที
เลขาและผู้ช่วยที่อยู่ด้านหลังวิตามอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ว่าวิ่งยังไงก็ตามไม่ทัน จึงทำได้แค่ยอมแพ้
ภายในการบิดความเร็วของชาร์ลี ทำให้เขามาถึงบ้านตระกูลหลิ่วภายในเวลาแค่สิบนาที
พอมาถึงหน้าประตูบ้าน ชิวหยวนฮวาและคนอื่น ๆ ที่รอต้อนรับอยู่หน้าประตูบ้านพอเห็นผู้เฒ่าชาร์ลีก็ขมวดคิ้วมุ่น
“คนส่งอาหารนี่?ใครสั่งอาหารกัน?นี่มันกี่โมงแล้วยังมาสั่งอาหารอีก?”
ชิวหยวนฮวาโมโหมาก ๆ อีกเดี๋ยวก็จะต้อนรับคุณชาร์ลีรุ่นที่สองอยู่แล้ว เวลานี้ยังจะห่วงกินอยู่อีก?
เธอรีบเอ่ยกับผู้เฒ่าชาร์ลี
“นี่คนส่งอาหาร นายรีบไปเลยนะ อีกเดี๋ยวที่นี่พวกเราจะมีงานสำคัญ!”
ทุกคนเองก็สงสัย ทำไมเดี๋ยวนี้ฝรั่งก็มาขับส่งอาหารในประเทศจีนแล้ว คิดว่าขับรถส่งอาหารมันรายได้สูงใช่ไหม?
ผู้เฒ่าชาร์ลีชะงักก่อนจะเอ่ย “ที่นี่คือบ้านตระกูลหลิ่วใช่ไหม?ผมมาหาคุณฉิน”
ชิวหยวนฮวาหมดคำจะพูด ตอนแรกก็คิดว่าใครสั่งอาหาร ที่แท้ก็คือฉินจุนนี่เอง
เดี๋ยวนี้พวกคนขับส่งอาหารก็ไล่ไปง่าย ๆ ไม่ได้ ถ้าไม่ได้เข้าไปส่งถึงที่ พวกเขาก็ไม่ยอมไป
ชิวหยวนฮวาโมโหจนคันหยุบหยิบไปหมด เธอเอ่ย “นายตามฉันมา เร็วเข้า ส่งเสร็จแล้วก็รีบ ๆ ไปซะ!”
พูดจบชิวหยวนฮวาก็พาผู้เฒ่าชาร์ลีเข้าไปในสวน พอมาถึงหลังบ้านก็มาที่หน้าประตูห้องของฉินจุน เธอตะโกนเรียก
“ไอ้คนแซ่ฉิน!อาหารที่นายสั่งมาส่งแล้ว!นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังมาสั่งอาหารอยู่อีก ไม่รู้หรือไงว่าจะมีแขกสำคัญมาที่บ้าน!”
ฉินจุนที่อยู่ในห้องก็เกิดความสงสัย คนส่งอาหาร?เขาไม่ได้สั่งอาหารเสียหน่อย?
พอเปิดประตูมาดู ฉินจุนก็ยิ้มออกมาทันที
นี่มันผู้เฒ่าชาร์ลีไม่ใช่เหรอ?
ผู้เฒ่าชาร์ลีในขณะนี้ ถอดทั้งเสื้อคลุม เนกไทก็ถอดออก สวมเพียงเสื้อเชิ้ต ขี่มอเตอร์ไซค์ส่งอาหาร ร่างกายเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ดูแล้วไม่เหมือนคนใหญ่คนโตเลย
ฉินจุนมองหน้าชิวหยวนฮวาอย่างติดตลก “นี่เพื่อนผมเอง คุณไม่รู้จักเหรอ?”
ชิวหยวนฮวาขมวดคิ้ว “ก็แค่เพื่อนส่งอาหารของนายทำไมฉันจะต้องรู้จัก?นี่ไม่ใช่บ้านของนาย อย่ามาเรียกเพื่อนกระจอกของนายมาที่นี่ซี้ซั้ว ถ้าจะคุยกันก็ออกไปคุยกันที่อื่น!”
พูดจบ ชิวหยวนฮวาก็หมุนตัวเดินออกไปอย่างโมโห
ภายในใจของฉินจุนนั้นอยากจะหัวเราะออกมาจริง ๆ พวกคนตระกูลหลิ่วจัดงานกันเสียโอ่อ่า แต่กลับไม่รู้ว่าคนที่จะต้อนรับคือใคร
พอผู้เฒ่าชาร์ลีเห็นฉินจุนเข้า ก็ดีใจอย่างสุด ๆ เขาก้าวไปข้างหน้าแล้วคุกเข่า นำมือข้างขวาแตะไหล่ข้างซ้ายอย่างแสดงความเคารพ
“ท่านฉิน!”
นี่เป็นการแสดงความเคารพอันสูงสุดของตระกูลของพวกเขา ฉินจุนเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ ถ้าหากไม่ให้พวกเขาแสดงความขอบคุณ ผู้เฒ่าชาร์ลีคงจะเสียใจอย่างมาก
“ทำไมคุณมาสภาพแบบนี้ล่ะครับ?”
ผู้เฒ่าชาร์ลีเป็นถึงบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก กลับขี่มอเตอร์ไซค์มาหาเขาแบบนี้ ทำให้ฉินจุนออกอาการตกใจ
ผู้เฒ่าชาร์ลีจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ฉินจุนก็หัวเราะอย่างเหนื่อยใจ จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ถือตัววางมาดอะไรขนาดนั้น เพียงแต่ว่าผู้เฒ่าชาร์ลีคิดว่าเขามีความสามารถมากมาย
คนที่มีความสามารถมาก ๆ จำเป็นจะต้องถือเนื้อถือตัวนิดหน่อย
ผู้เฒ่าชาร์ลีเอ่ยถาม “คุณฉินครับ คนที่อยู่ข้างนอกพวกนั้นเป็นญาติของคุณหรือครับ?”
ฉินจุนเอ่ย “ยังไม่นับว่าเป็นชั่วคราวครับ ตอนนี้พวกเขาอยากจะถอนหมั้นผม”
ผู้เฒ่าชาร์ลีออกอาการมึนงง “ถอนหมั้นกับคุณ?พวกเขาเป็นคนโง่กันหรือครับ?”