ฉินจุนอยู่บนภูเขามาสิบปี ดังนั้นเขาจึงขับรถไม่เป็น และก็ยังไม่ได้ทำใบขับขี่
แต่บางเรื่องก็ไม่จำเป็นต้องขับรถเป็นถึงจะสามารถแก้ปัญหาได้
หลังจากที่ซูเหวินฉีเร่งความเร็ว รถด้านหลังก็ค่อยๆ ตามมา
คันนั้นเป็นรถออฟโรดของวอลโว่ ทั้งในด้านสมรรถนะและการต้านทานการชน ย่อมดีกว่ารถของซูเหวินฉีอยู่แล้ว
เดิมทีถนนบนภูเขาแบบนี้ต้องใช้สมาธิในการขับ ซูเหวินฉีไม่กล้ามองกระจกมองหลังเลย เธอพยายามรวบรวมสมาธิมองไปข้างหน้าเท่านั้น
ฉินจุนพิงเบาะข้างคนขับโดยไม่มีความกลัวใดๆ เลย แต่กลับมีท่าทีที่ค่อนข้างสงบ มองดูทิวทัศน์นอกหน้าต่าง
ซูเหวินฉีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ผู้ชายคนนี้ไม่กังวลเลยเหรอกับการมีรถขับตามพวกเขามาแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ และอาจถึงขั้นฆ่าพวกเขาได้
ใบหน้าของซูเหวินฉีเคร่งขรึม เธอเป็นนักร้องมาตั้งหลายปีแล้ว แน่นอนว่าศัตรูของเธอก็มีไม่น้อยเลย คนอิจฉาก็เยอะ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติมากที่มีคนต้องการชีวิตเธอ
ปกติเวลาเธอออกไปข้างนอกเธอมักจะไปกับบอดี้การ์ดของเธอ มีเพียงตอนที่มาหาฉินจุนสองครั้งนี้ที่ไม่มี คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะโดนเล่นงานเข้าแล้ว โชคร้ายจริง ๆ
ในรถข้างหลัง ชายผมหยิกสีบลอนด์กำลังขับรถอยู่ รถคันนี้ดูเหมือนออฟโรดธรรมดา ๆ แต่ภายในค่อนข้างลึกลับ นี่คือรถที่ถูกดัดแปลงมาแล้ว และฝรั่งที่ขับรถอยู่ก็เป็นนักแข่งมืออาชีพ
คนขับชื่อโอเว่น เขาถูกแบนจากการแข่งรถส่วนตัวในช่วงหลายปีก่อน จากนั้นเขาก็เริ่มทำธุรกิจมืดต่าง ๆ
ครั้งนี้เขาได้รับคำสั่งจากหวังจื่อ ให้กำจัดคนที่นามสกุลฉินคนนี้
ตอนแรกเขายังไม่เจอโอกาสที่เหมาะสม เพราะการขับรถชนคนตายในเมืองมันเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก แต่เขาไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะวิ่งมาหาที่ตายถึงบนเขาชิงเหมย?
ถนนบนภูเขานี้มักมีอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ถ้าตกจากหน้าผาก็ต้องตายทุกราย แล้วก็ไม่มีใครรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งเวลาและสถานที่ช่างเป็นใจเหลือเกิน
แต่อย่างไรก็ตามบนรถมีคนอื่นอีก นี่ทำให้เขาลำบากใจเล็กน้อย
หวังจื่อให้เงินเขาสามล้านเพื่อฆ่าคนคนนี้…..
เมื่อคิดไปคิดมาแล้วโอเว่นก็ไม่อยากจะใส่ใจอะไรมากแล้ว จะตายคนเดียวหรือสองคนมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลย แค่เขาทำภารกิจสำเร็จก็พอแล้ว ถ้าพลาดครั้งนี้ต่อไปอาจจะหาโอกาสยากแล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ โอเว่นก็เหยียบคันเร่งและตัดสินใจจะชนให้ทั้งสองคนตกลงไปพร้อมกันเลย
เขาเป็นนักแข่งรถมืออาชีพ และรถก็ได้รับการดัดแปลงมาแล้ว บนถนนที่คดเคี้ยวแบบนี้มันเข้าทางเขาเลย
ความแตกต่างระหว่างเขากับคนธรรมดาก็เหมือนความแตกต่างระหว่างผู้เล่นที่เติมเงินในเกมกับผู้เล่นธรรมดาไม่ได้เติมเงิน ต่างกันราวฟ้ากับเหว
ซูเหวินฉีขับรถชิดตัวภูเขาซึ่งดูจะปลอดภัยกว่า แต่สำหรับโอเว่นแล้วมันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น
เขาเหยียบคันเร่ง รถของโอเว่นก็ตามขึ้นมาเพื่อให้ทันรถของซูเหวินฉี
บนถนนแคบ ๆ บนภูเขานี้ มันอันตรายมากที่รถสองคันจะขับตีคู่กัน
แต่สำหรับโอเว่นเขาคุ้นเคยกับอะไรแบบนี้แล้ว
ตอนนี้มีสองสถานการณ์
สถานการณ์แรก ซูเหวินฉีขับเรียบภูเขาไปเรื่อย ๆ โอเว่นก็จะต้องหักพวงมาลัยชนเธอหลายครั้ง รถของซูเหวินฉีจะชนจนกระเด็นออกไป ถ้าไม่ระวังก็อาจตกหน้าผาได้
และอีกสถานการณ์ ซูเหวินฉีเริ่มโจมตีเขาก่อน เป็นฝ่ายพุ่งชนเขาก่อนเลย
รถของโอเว่นได้รับการดัดแปลงมาแล้ว มีน้ำหนักเยอะมาก และเขามีฝีมือมาก ถ้าซูเหวินฉีกล้าชนเขา เขาก็พร้อมปะทะทันที แค่สะบัดท้ายรถทีเดียวก็ชนเข้าที่รถของเธอแล้ว
นี่คือความมั่นใจของนักขับมืออาชีพ!
รถสองขับเคียงข้างกัน ทันใดนั้นซูเหวินฉีก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที
“ทำไงดี ทำไงดี!”
บนถนนแคบ ๆ แบบนี้ ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นเพียงเล็กน้อย ทั้งรถทั้งคนก็พังยับได้เลย เธอไม่ได้มีฝีมืออะไรขนาดนั้น!
ฉินจุนพูดเบา ๆ “ไม่จำเป็นต้องกังวล”
ขณะที่พูดฉินจุนก็ลดกระจกรถลง ทันใดนั้นลมก็พัดเข้ามาในรถ
เมื่อเห็นฉินจุนที่อยู่ใกล้ ๆ โอเว่นก็ผงะไปชั่วขณะ หมายความว่าไง? ลดกระจกลงมาต้องการเจรจากับฉันงั้นเหรอ?
โอเว่นหัวเราะอย่างเย็นชา เขาเป็นมืออาชีพพอ รับเงินสามล้านหยวนจากหวังจื่อมาแล้วจะมาเจรจาอะไรอีกล่ะ? ขับแค่โฟล์กสวาเกนจะให้ราคาสูงกว่าได้เหรอ?
โอเว่นไม่สนใจเขาสักนิด เตรียมจะลงมือ
แต่ทว่าฉากสยองขวัญก็เกิดขึ้น
จู่ ๆ ฉินจุนก็ยื่นร่างของเขาครึ่งหนึ่งออกไปจากรถ และระยะของรถที่เข้ามาใกล้มากอยู่แล้วก็ยิ่งใกล้เข้าไปอีก
ทันใดนั้นฉินจุนก็ชกเขาทันที
ปัง!
ทันใดนั้นเสียงก็ดังขึ้น กระจกรถของโอเว่นก็ถูกทุบจนแตกละเอียด!
นี่มันกระจกกันกระสุนนะ!
รถของโอเว่นถูกดัดแปลงให้เป็นกระจกกันกระสุน แม้แต่กระสุนไม่สามารถเจาะผ่านกระจกเข้าไปได้ แต่กลับถูกฉินจุนต่อยจนแตกเนี่ยนะ?
โอเว่นตกตะลึงทันที สมองของเขาว่างเปล่า เขาทำได้เพียงควบคุมพวงมาลัยต่อไป
แต่ทว่าการกระทำต่อไปของฉินจุนก็ยิ่งทำให้เขาช็อก
ฉินจุนยื่นมือออกมาผ่านกระจกที่แตกและคว้าคอของโอเว่นแล้วดึงเขาอย่างแรง!
เสียงแควกดังขึ้น เข็มขัดนิรภัยก็ขาดทันที!
โอเว่นรู้สึกว่าไหล่และต้นขาของเขากำลังถูกเข็มขัดนิรภัยรัดจนขาด เขาเจ็บปวดไปทั้งร่าง
มือของฉินจุนราวกับแขนกล ดึงเขาออกจากมารถด้วยแรงมหาศาล
สามารถดึงเข็มขัดนิรภัยจนขาด…นี่ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?
ขณะนี้โอเว่นถูกฉินจุนจับคอยกขึ้นห้อยอยู่ในอากาศ ไม่มีใครควบคุมรถ รถจึงตกเลนและตกหน้าผาไป
ฉินจุนกำลังจับคอเสื้อของโอเว่นไว้ ตัวเขาห้อยอยู่ข้างนอก ใต้เท้าของเขาคือหน้าผา
เมื่อใดที่ฉินจุนปล่อยมือเขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
“โน! โน!”
โอเว่นดิ้นขาทั้งสองข้างไปมาด้วยความตกใจ กำมือของฉินจุนแน่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
แต่ฉินจุนกลับมีใบหน้าเรียบเฉย ครึ่งร่างของเขาอยู่ข้างนอกหิ้วคนที่หนักกว่าแปดสิบหรือเก้าสิบกิโลกรัมไว้อย่างไม่รู้สึกหนักเลย
“บอกมา ใครส่งแกมา?”
โอเว่นรู้สึกตัวทันที และไม่ลังเลเลยสักนิด
“คุณชายหวัง คุณชายหวังเขาส่งผมมา ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ!”
ฉินจุนหัวเราะอย่างเย็นชา “งั้นแกก็ไปตายซะ”
หลังจากพูดจบ ฉินจุนก็โยนโอเว่นลงไปที่หน้าผาทันที
หลังจากนั้นฉินจุนก็กลับเข้ามาในรถและปิดหน้าต่าง
ซูเหวินฉียังคงตกใจเล็กน้อย เมื่อกี้เธอกำลังขับรถอยู่ เธอไม่กล้าว่อกแว่กบนถนนที่คดเคี้ยวแบบนี้ ดังนั้นเธอจึงเห็นไม่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น
รู้แค่ว่าฉินจุนยืดตัวออกไป จากนั้นก็ได้ยินเสียงกระจกแตก และเสียงรถของโอเว่นตกลงหน้าผาก็ดังขึ้น
“เฮ้! เกิดอะไรขึ้น แล้วเขาล่ะ?!”
ฉินจุนถูมือไปมา และพูดนิ่ง ๆ
“ตายละ”
ซูเหวินฉีถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก แต่ใบหน้าของเธอยังคงซีดเผือด
หลังจากนั้นไม่นานก็ถึงยอดเขาแล้ว ซูเหวินฉีจอดรถ ตอนนี้ทั้งตัวเธอมีแต่เหงื่อ
“เอ่อ คุณผลักเขาตกหน้าผาเหรอ?”
หลังจากถามขึ้นมา ซูเหวินฉีก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
จะผลักตกหน้าผาได้ยังไง นั่นรถทั้งคันเลยนะ
ต้องเป็นเพราะฉินจุนทุบกระจกเขาแตกแน่ ๆ แล้วก็ถูกกระจกบาดจนโอเว่นนั่นขับรถตกลงไปเอง
ผู้ชายคนนี้จะกล้าหาญเกินไปไหม?