ฉินจุนพูดจบ จู้หลินหลินก็อึ้งไปทันที
“รักษาโรคเบาหวานได้ ? พี่เสี่ยวจุนแน่ใจนะ ? ”
ถ้าจะบอกว่าฉินจุนสามารถรักษาโรคเบาหวานได้ จู้หลินหลินก็เชื่อมั่นอยู่บ้าง ถึงอย่างไรก่อนหน้านั้นที่โรงพยาบาลเขาก็เคยดึงชีวิตคุณปู่กลับขึ้นมาจากประตูนรก เทคนิคทางการแพทย์ไม่ธรรมดา
แต่ว่าในสายตาของจู้หลินหลิน แม้ว่าจะสามารถรักษาโรคเบาหวานได้ วิธีก็คงจะซับซ้อนมาก อย่างน้อยก็ต้องฝังเข็มหรือเทคนิคขั้นสูงอื่นๆ
พึ่งแค่ยาที่ผลิตออกมาจำนวนมากแล้วสามารถรักษาโรคเบาหวานได้ น่าจะเป็นไปไม่ได้มั้ง ?
ฉินจุนกล่าว “แน่ใจอยู่แล้วสิ ฉันเขียนสูตรให้ เธอก็เอาไปผลิตตามสูตรนะ เรื่องเงินทุนคาดว่าหนึ่งขวดประมาณ 800 หยวน ”
“800 ? แพงขนาดนี้เลย ! ”
ถังโย่วของตระกูลเมิ่งกรุ๊ปแค่ขวดละ50กว่าหยวน ถ้าพวกเขาขายขวดละ800 ใครจะมาซื้อ ?
ฉินจุนยิ้มตอบ “800ยังแพงอีกหรอ ? ขาหนึ่งขวดของฉันสามารถรักษาโรคเบาหวานให้หายได้เลยนะ ยังรู้สึกว่า800มันแพงอยู่ไหม ? ต่อให้เป็นผู้ป่วยอาการหนักก็ตาม แค่สองขวดก็รักษาให้หายได้แล้ว ”
จู้หลินหลินชะงักไป เธออ้าปากค้างด้วยความตกใจ
800 ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ ?
ถ้าบอกว่าสามารถรักษาให้หายขาดได้จริงๆ แน่นอนว่า800ไม่แพง จะบอกว่าถูกเลยก็ยังได้
ยาถังโย่วหนึ่งขวด กินได้ครึ่งเดือน ด้วยวิธีนี้ในหนึ่งปีก็จะเสียค่าใช้จ่ายพันกว่าหยวน สิ่งสำคัญเลยคือการกินถังโย่วทำได้เพียงแค่ประคองอาการไว้เท่านั้น ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
ประสิทธิภาพต่างกันราวฟ้ากับเหว
ไม่นึกเลยว่าพี่เสี่ยวจุนจะมีสูตรยาแบบนี้ด้วย ?
เมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของจู้หลินหลิน ฉินจุนก็หัวเราะออกมา
“แบบนี้นะ เธอเอาสูตรยานี้ไปใช้ ผลิตชุดทดลองออกมา ไปทดลองกับการรักษาของแพทย์ก่อน จากนั้นก็เอาไปให้ร้านยารายใหญ่แจกจ่ายให้ฟรี หลังจากที่เห็นว่ามีประสิทธิภาพแล้วค่อยนำไปขายในตลาด ”
“ได้ งั้นฉันจะลองดู ! ”
ฉินจุนพูดขนาดนั้นแล้ว จู้หลินหลินก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่เชื่อ
ไม่นานฉินจุนก็เขียนสูตรยาให้กับแผนกผลิต
จู้หลินหลินรู้เรื่องยาบ้างนิดหน่อย แต่ก็รู้แค่เพียงผิวเผินเท่านั้น
เธอเอาสูตรยาไปที่แผนกผลิต ส่งให้กับผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการจ้างจากบริษัทยาเหวินเหอที่มาจากเมืองหลวง
“อาจารย์เถียน ฉันเอาสูตรยาใหม่มาให้หนึ่งสูตร คุณดูสิ ”
เถียนเสวสีผลักเลนส์แว่นตาหนาเตอะ รับสูตรยามา และศึกษามันด้วยสีหน้าจริงจัง
ผ่านไปไม่นานเถียนเสวสีก็ขมวดคิ้ว
จู้หลินหลินถอนหายใจอยู่ในใจ “มีอะไรหรือเปล่าอาจารย์เถียน สูตรยานี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า ? ”
เถียนเสวสีเอ่ย “สูตรยาน่าจะไม่มีปัญหาอะไร พูดตามตรง สูตรยานี้จะให้ประสิทธิภาพยังไงผมก็คงบอกแน่ชัดไม่ได้ แต่ก็มีอยู่จุดนึง วัสดุตามสูตรยานี้ราคาแพงมาก ถ้าทำตามแบบนี้ออกมา ต้นทุนคงไม่ต่ำแน่ ”
เถียนเสวสีเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำยา และเขายังต้องพิจารณาจากมุมมองของบริษัทด้วย ถ้าหากว่าราคาแพงขนาดนี้ ต่อให้ผลิตออกมาก็คงไม่มีคนซื้อหรอก
จู้หลินหลินเอ่ย “เรื่องเงินยังไม่ต้องพิจารณาตอนนี้ ผลิตชุดทดลองออกมาก่อนค่อยว่ากัน ”
เถียนเสวสีพูดอย่างกังวลใจ “ประธานจู้ อย่าหาว่าผมพูดมากเลย สูตรยานี้ถ้าให้ดีก็ควรมาจากผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียง ชาวบ้านตามชนบทจะไม่เชื่อกัน และผลการรักษาจะเป็นยังไงก็ไม่อาจคาดเดาได้ ”
จู้หลินหลินขมวดคิ้ว ที่เถียนเสวสีพูดก็มีเหตุผล แต่เขาก็ยังเชื่อใจฉินจุน
“ผมทราบแล้ว คุณลงทุนผลิตก่อนแล้วกัน ”
ประธานพูดขนาดนี้แล้ว เถียนเสวสีก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงแค่เห็นสูตรยาตัวนี้ ในใจก็เกิดความสงสัยอย่างมาก สูตรนี้ดูไปแล้วธรรมดามาก จะรักษาได้มากกว้าถังโย่วหรอ ?
……
ครอบครัวจู้ในขณะนี้ จู้หมิงกับจู้ซานกูรวมถึงคนอื่นๆกำลังนั่งทานหม้อไฟกันอยู่ในร้านอาหารครอบครัวสุข
สันต์
“พี่ใหญ่ พี่นี่ฉลาดปราดเปรื่องจริงๆ ครั้งนี้ได้จดสิทธิบัตรมา บริษัทยาเหวินเหอก็จบเห่แล้ว ”
เดิมที ภายใต้การร่วมกันปราบปรามของตระกูลเมิ่งกรุ๊ปและซวนหยวนกรุ๊ป บริษัทยาตระกูลจู้แทบจะล้มละลาย ผลสุดท้าย ได้คำแนะนำจากคุณชายตระกูลซู ทำให้พวกเขาเหมือนกลับมามีชีวิตอีกครั้งทันที !
จู้หลินหลินไม่ใช่เก่งนักหรอ ชอบเลียแข้งเลียขาไม่ใช่หรือไง ?
คราวนี้ไม่มีถังโย่วแล้ว ดูสิว่าจะเก่งไปได้อีกแค่ไหน !
เมื่อจดสิทธิบัตรแล้ว ถังโย่วก็กลายเป็นสิทธิผูกขาดสำหรับการผลิตของพวกเขา ตัวแทนจำหน่ายทั้งจังหวัด หรือแม้แต่จากทั้งประเทศก็ต้องมาขอร้องเขา
ในฐานะผู้ผลิตที่มีสิทธิบัตร ตระกูลจู้กรุ๊ปก็มีสิทธิที่จะพูดและเสนอเงื่อนไขต่างๆได้
เงื่อนไขข้อแรกก็คือ ผู้แทนจำหน่ายเหล่านั้นต้องยกเลิกความร่วมมือกับจู้หลินหลิน
เหล่าบริษัทที่อยู่ในจังหวัดอื่นไม่เข้าใจว่า ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกันหรอ ทำไมจึงเสนอเงื่อนไขแบบนี้ออกมา ?
ทุกคนต่างก็ยินยอมรับข้อเสนอโดยไม่มีข้อกังขาใด
ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเหตุการณ์ที่จู้หลินหลินโกรธจนเขวี้ยงโทรศัพท์เมื่อครู่นี้
จู้หมิงหัวเราะอย่างเย็นชา “ยัยเด็กบ้าจู้หลินหลิน กล้าคิดที่จะเป็นศัตรูกับฉัน เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร ? ไม่ใช่ว่าเลียแข้งเลียขาเมิ่งเหวินกังมาหรือไง ? เมิ่งเหวินกังจะยังคุ้มหัวได้อยู่หรือเปล่า ? ”
แน่นอนว่าในตงไห่ตระกูลเมิ่งนั้นสุดยอดมาก แต่ท้ายที่สุดแล้วตระกูลที่พึ่งสร้างขึ้นมาได้ไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทียบกันก็ยังมีความห่างชั้นกับสามตระกูลใหญ่ที่อยู่มานาน
ได้รับการสนับสนุนของตระกูลซูและตระกูลหัว จู้หมิงมีความมั่นใจในตัวเองมาก
จู้ซานกูเองก็เปลี่ยนท่าทีจากเมื่อก่อน และพูดด้วยรวมยิ้ม
“พี่ใหญ่ต่างหากที่มีวิธี ยัยจู้หลินหลินก็พึ่งความสวยสาวของตัวเอง ปีนขึ้นไปบนเตียงของเมิ่งเหวินกัง หน้าไม่อาย ขายหน้าตระกูลจู้ของพวกเราจริงๆ ! ”
สำหรับพวกเขาแล้ว ที่ตระกูลเมิ่งกรุ๊ปสนับสนุนจู้หลินหลินมาตลอดเหตุผลก็เพราะว่าเขาสองคนมี
ความสัมพันธ์ชายหญิงกัน
ผู้หญิงคนนี้สบายจริงๆ แค่อ้าขาก็ได้รับตำแหน่งแล้ว
จู้หมิงกล่าว “เธอกระโดดโลดเต้นได้ไม่กี่วันหรอก ต่อไปไม่มีถังโย่วแล้ว ทั้งบริษัทก็จะไปต่อไม่รอด ถึงตอนนั้นก็มาดูกันว่าใครจะเป็นคนคุกเข่าขอร้องเถอะ ! ”
ในขณะนี้ครอบครัวของจู้หมิงเต็มไปด้วยความสุข
……
เวลาผ่านไปสองวัน ยาล้อตแรกถูกผลิตออกมา จู้หลินหลินเรียกมันว่า ‘ถังเสินหมายเลข1’
ถังเสวสีถือยาขวดที่พึ่งออกจากโรงงานนี้ มีความกังวลใจนิดหน่อย
“ประธานจู้ ขวดเล็กๆแค่นี้ก็800หยวนแล้ว คุณว่าใครจะมาซื้อ ? ”
จู้หลินหลินตอบ “ถ้าหากว่ายานี้สามารถรักษาโรคเบาหวานหายได้ คุณว่าจะมีคนซื้อไหม ? ”
เถียนเสวสีชะงักไป “รักษาหาย ? ประธานจู้นี่คุณเล่นตลกอะไรอยู่ ยาเพียงแค่ไม่กี่ชนิด แม้ว่าจะมีราคาแพง แต่ก็ไม่มีผลวิเศษเช่นนี้แน่นอน แถมยังบอกว่ารักษาหายได้ ? คุณไม่ได้โดนหมอต้มตุ๋นหลอกมาใช่ไหม ? ”
จู้หลินหลินขมวดคิ้ว “รักษาได้หรือไม่ได้ ลองเอาไปใช้รักษาทางการแพทย์ดูก็รู้แล้ว เตรียมคนไข้พร้อมหรือยัง ? ”
“พร้อมแล้วครับ ”
จู้หลินหลินพาผู้บริหารระดับสูงสองสามคนไปที่ห้องทดลองด้วยกัน หญิงวัยกลางคนอายุราวสี่สิบรออยู่ที่นี่นานแล้ว
การทดลองง่ายมาก ก่อนทานยา ตรวจน้ำตาลในเลือดหนึ่งครั้ง หลังทานยาให้ตรวจอีกครั้ง และหลังจากนั้นสองสามชั่วโมงตรวจอีกครั้งหนึ่ง
จากนั้นมาสังเกตอาการทุกวัน วันละครั้ง และภายในเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์จะสามารถทราบผลการ
ทดลองได้
หลังจากที่ผู้ป่วยได้ทดสอบน้ำตาลในเลือดแล้ว เขาได้รับยา ‘ถังเสินหมายเลข1’
แม้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกสองสามชั่วโมงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ แต่จู้หลินหลินก็ประหม่าขึ้นมาเสียแล้ว
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้ง
สูตรยาของพี่เสี่ยวจุน จะไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม ?