จู้หมิงเริ่มออกอาการตื่นตระหนกขึ้นมาแล้วจริง ๆ พวกเขาเพิ่งจะคิดหาวิธีก้าวนำพวกมันได้ สุดท้ายไม่ทันไรจู้หลินหลินก็ตามมาโต้กลับ
ตอนแรกเขาคิดว่าหล่อนจะมาเอะอะโวยวายที่นี่ สุดท้ายจู้หลินหลินกลับนิ่งสงบดั่งภูเขาไท่ซาน แถมยังผลิตคิดค้นยาขึ้นมาใหม่ ถ้าหากว่าไอ้ยาตัวใหม่นี้สามารถเอาชนะพวกเขาได้ ความพยายามทั้งหมดที่พวกเขาทำมาทั้งหมดก่อนหน้านี้ก็สูญสิ้นทันที
จู้หมิงรีบนำยาไปที่บริษัทของพวกเขา เพื่อเข้าสู่กระบวนการทดสอบทางการแพทย์ทันที
ผลลัพธ์จากการทดสอบทำให้สีหน้าของจู้หมิงย่ำแย่มาก ๆ
เพราะยานี้มันมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมราวกับยาของเทพจริง ๆ !
ประสิทธิภาพของยาถังเสินหมายเลข 2 นี้ดียิ่งกว่ายาถังโย่วของพวกเขามาก ยัยเด็กนี่ไปเอาสูตรยานี้มาจากไหน?
ในเมืองตงไห่ตอนนี้จู้หมิงกำลังถูกตระกูลเมิ่งกรุ๊ปโจมตี สิ่งเดียวที่เขาพึ่งพาได้ในตอนนี้ก็คือยาถังโย่วตัวนี้ แต่ว่าจู้หลินหลินทำยาถังเสินหมายเลข 2 ออกมาแบบนี้ ต้องการกดดันให้พวกเขาถึงทางตันหรือไง!
“พี่ใหญ่ แล้วตอนนี้พวกเราจะทำยังไงกันดี?”
สีหน้าของจู้หมิงเคร่งเครียด ครุ่นคิดสักครู่จึงเอ่ย
“ตอนนี้สิ่งที่เราได้เปรียบเพียงอย่างเดียวก็คือ ชื่อเสียง ถังโย่วมีชื่อเสียงมากว่าสิบปี มันไม่ง่ายเลยที่จะทำให้ชื่อเสียงนี้สั่นคลอน ยัยจู้หลินหลินไม่มีทางเอาชนะพวกเราได้ในช่วงเวลาเพียงสั้น ๆ !”
จู้ซานกูเอ่ย “พี่ใหญ่ พี่อย่าดูถูกหล่อนเชียวนะ ฉันได้ยินมาว่า ยัยจู้หลินหลินเตรียมจะลงทุนสองพันล้านหยวนเพื่อทำการโปรโมต และจะออกโฆษณาผ่านช่องCCTV……”
“อะไรนะ!สองพันล้านหยวน?หล่อนไปเอาเงินมาจากไหนมากมายขนาดนั้น?!”
“เหอะ หรือว่าตระกูลเมิ่งกรุ๊ปจะให้มา?ตระกูลเมิ่งกรุ๊ปลงทุนให้พวกมันตั้งห้าพันล้านหยวน เพื่อเอามาผลิตและขายยาถังเสินหมายเลข 2 นี้”
จู้หมิงกำหมัดแน่น ไอ้เมิ่งเหวินกังนี่มันเฒ่าหัวงูจริง ๆ ทำไมถึงได้หลงยัยเด็กนั่นหัวปักหัวปรำ?ห้าพันล้านหยวนเชียวนะ จะให้ก็ให้แบบนี้เลยเรอะ?!
“ฉันได้ยินมาว่า พวกของยัยจู้หลินหลินจะให้ท่านอาจารย์โหวยวิ๋นมาเป็นพรีเซนเตอร์ ตอนนี้กำลังเตรียมที่จะเซ็นสัญญากันแล้ว”
“อะไรนะ!”
โหวยวิ๋น เป็นถึงดารานักแสดงระดับแถวหน้าของประเทศ แถมยังเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ไม่ค่อยมาเป็นพรีเซนเตอร์
ภายหลังเนื่องจากเธอเป็นโรคเบาหวาน ดังนั้นจึงออกจากวงการบันเทิง แต่ว่าเธอมีผลงานการแสดงมากมายที่ตราตรึงใจคนดู โดยเฉพาะพวกคนกลุ่มผู้สูงวัย เธอมีอิทธิพลอย่างมาก
ถ้าหากว่าท่านอาจารย์โหนยวิ๋นมาเป็นพรีเซนเตอร์ ความน่าเชื่อถือก็ต้องสูงขึ้นมาก ๆ อีกอย่างตัวเธอเองก็เป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานอยู่แล้ว ขนาดเธอยังสามารถรักษาได้หายขาด แล้วประชาชนธรรมดาจะไม่แห่ไปซื้อกันอย่างบ้าคลั่งหรือไง?
“ไม่ได้ จะให้ท่านอาจารย์โหวยวิ๋นเป็นพรีเซนเตอร์ไม่ได้เด็ดขาด พวกเราต้องไปนัดเธอมาคุย!”
จู้ซานกูเอ่ยอย่างจนปัญญา “พวกเราจะไปมีปัญญาทำอะไรได้ ยานี้ของจู้หลินหลินเขาว่ากันว่าสามารถรักษาโรคเบาหวานได้หายขาด ตอนนี้ผลการทดสอบทางการแพทย์ก็ออกมาว่ามีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม ถ้าหากท่านอาจารย์โหวยวิ๋นก็กินยานี่ พวกเราไม่มีทางเกลี้ยกล่อมได้แน่!”
จู้หมิงครุ่นคิด ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าจะพึ่งความสามารถของเขาอย่างเดียวก็เกรงว่าจะไม่ไหว คงต้องขอกำลังจากทางตระกูลซู
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนจะกดโทรออกหาซูจินเลี่ย ทายาทรุ่นที่สองของตระกูลซู
“คุณชายซูลำดับที่สองใช่ไหมครับ?ผมจู้หมิงเองนะครับ ผมมีเรื่องอยากจะให้ท่านช่วย!”
……
อีกด้านหนึ่ง ทางฝั่งบริษัทของจู้หลินหลิน ทุกคนต่างพากันพักผ่อน หลังจากที่ทุกคนต่างยุ่งกันมากตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา ในที่สุดถังเสินหมายเลข 2 ก็ผลิตเกือบเสร็จหมดแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงโฆษณาและทำการขายแล้ว
จู้หลินหลินนั่งอยู่ในห้องทำงานอย่างอารมณ์ดี ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ไม่ได้มีการหยุดทดลองยาถังเสินหมายเลข 2 เลย
ข้อเท็จจริงพิสูจน์แล้วว่ายาถังเสินหมายเลข 2 มีประสิทธิภาพจริง ๆ และสามารถรักษาโรคเบาหวานได้อย่างหายขาด เมื่อมันออกสู่ท้องตลาดแล้วจะต้องได้รับกระแสอย่างแน่นอน จู้หลินหลินมั่นใจในประสิทธิภาพของยามาก ดังนั้นตอนนี้ขั้นตอนที่เหลือคือการโปรโมต
จะไม่พูดก็ไม่ได้ว่า สูตรยาของพี่เสี่ยวจุนมากสุดยอดมาก ๆ เพราะความช่วยเหลือของเขาทำให้สามารถจัดการปัญหาด้านการผลิตยาไปได้เยอะเลย ส่วนเรื่องการโปรโมต ไม่เกี่ยวกับพี่เสี่ยวจุนแล้ว
ในตอนที่จู้หลินหลินกำลังมีความสุขอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“ฮัลโหล อาจารย์โหวเหรอคะ?”
“ประธานจู้คะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ ดิฉันคงช่วยโปรโมตยาถังเสินหมายเลข 2 ให้คุณไม่ได้แล้ว”
“หา?อาจารย์โหวยวิ๋นคะ พวกเรากำลังจะเซ็นสัญญากันอยู่แล้วนะคะ เกิดอะไรขึ้นกับอาจารย์หรือเปล่าคะ?ยาออกฤทธิ์ไม่ดีเหรอคะ?”
โหวยวิ๋นนิ่งไปครู่หนึ่ง “ประธานจู้คะ ประสิทธิภาพของยาถังเสินหมายเลข 2 มันดีมาก ๆ ค่ะ ตอนนี้ดิฉันหายขาดจากโรคเบาหวานแล้ว ดิฉันต้องขอบคุณ คุณมาก ๆเลยนะคะ แต่เนื่องจากเหตุผลส่วนตัวบางประการ ทำให้ดิฉันไม่สามารถเป็นพรีเซนเตอร์ให้ได้ ต้องขอโทษจริง ๆ นะคะ”
จู้หลินหลินมึนงงไปหมด “อาจารย์โหวยวิ๋นคะ มีเรื่องอะไรคุณบอกมาได้เลยนะคะ ไม่แน่ฉันอาจจะ……”
ไม่ทันที่จู้หลินหลินจะพูดจบ โหวยวิ๋นก็ตัดสายไปเสียแล้ว
พอได้ยินเสียงตัดสายโทรศัพท์จากอีกฝ่าย จู้หลินหลินก็ขมวดคิ้ว
อุตส่าห์ตกลงกันไว้ดิบดี ทำไมพอจะถึงเวลาจริงถึงได้มาเปลี่ยนใจแบบนี้?
ตอนนั้นเอง ฉินจุนก็เดินเข้ามา ได้ยินว่าถังเสินหมายเลข 2จะออกสู่ตลาดเร็ว ๆ นี้แล้ว ดังนั้นจึงว่าจะมาดูสักหน่อย
“หลินหลินเป็นอะไรไป?”
พอเห็นสีหน้าเป็นกังวลของจู้หลินหลิน ฉินจุนก็เอ่ยถาม
จู้หลินหลินยังคงไม่เข้าใจ “พี่เสี่ยวจุนมาแล้ว ตอนนี้เรากำลังมีปัญหาเรื่องการทำโฆษณา ตอนแรกเรากำหนดไว้แล้วว่าจะให้อาจารย์โหวยวิ๋นเป็นพรีเซนเตอร์ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมจู่ ๆ ถึงได้ปฏิเสธพวกเรา แถมยังตัดสายของฉันอีกด้วยค่ะ”
ซึ่งก็ไม่แปลกใจที่จู้หลินหลินจะไม่เข้าใจ
โหวยวิ๋นกินยาถังเสินหมายเลข 2 ตลอดหนึ่งสัปดาห์ ถึงจะตกลงยอมเป็นพรีเซนเตอร์ให้ ตอนนั้นตอบตกลงอย่างมีความสุข แถมท่าทางก็ยังดี ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเปลี่ยนใจกะทันหันแบบนี้
ฉินจุนขมวดคิ้ว เรื่องมันไม่ปกติแบบนี้ต้องมีอะไรชอบมาพากล จู่ ๆ โหวยวิ๋นมาเปลี่ยนใจแบบนี้ จะต้องมีคนคอยบงการอะไรแน่ ๆ
ตอนนั้นเอง เลขาที่อยู่หน้าประตูก็เดินเข้ามาเอ่ย
“ประธานจู้คะ คุณจู้หมิงมาค่ะ!”
จู้หลินหลินขมวดคิ้ว ลุงใหญ่จะมาทำอะไรกัน?
“ให้เขาเข้ามาเถอะ”
จู้หมิงและจู้สามกูเดินเข้ามาในห้องทำงานอันหรูหราพร้อมกัน พอเห็นว่าบริษัทยาเหวินเหอไม่เหมือนเดิม ภายในใจของทั้งสองคนก็เกิดอาการอิจฉาอย่างสุด ๆ
“หลินหลินไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว บริษัทนี่รีโนเวตใหม่หมดเลย คงเอาเงินมาจากเมิ่งเหวินกังไม่น้อยเลยสินะ?”
จู้หลินหลินเหนื่อยที่จะสนใจคำพูดพวกนี้ของพวกเขา จึงยกแขนกอดอกพิงบนโต๊ะ เอ่ยอย่างรำคาญใจ
“มีอะไรก็รีบพูดมาดีกว่าค่ะ ถ้าไม่มีอะไรหนูจะได้ส่งแขก”
สีหน้าของจู้หมิงแสดงถึงความเจ้าเล่ห์ “แน่นอนว่าต้องมีธุระอยู่แล้ว ฉันได้ยินมาว่า การโฆษณาของพวกเธอมีปัญหาอย่างนั้นเหรอ?”
จู้หลินหลินขมวดคิ้ว “เป็นฝีมือของลุงใช่ไหม?”
“ฮ่าฮ่า เธออย่ามาพูดมั่ว ๆ ที่อาจารย์โหวยวิ๋นไม่เป็นพรีเซนเตอร์ให้พวกเธอ นั่นมันก็เป็นการตัดสินใจของเขา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน”
จู้หลินหลินกำหมัดแน่น “พวกลุงนี่มันไร้ศีลธรรมขนาดนี้เลยเหรอ?วิธีต่ำ ๆ แบบนี้ก็ยังกล้าทำได้ลง?”
จู้หมิงเอ่ยอย่างเย็นชา “ในแง่ของวิธีการฉันอาจจะเอาชนะเธอไม่ได้จู้หลินหลิน แต่ฉันจู้หมิงจะบอกเธอให้ ว่าดาราดังทั้งตงไห่ จะไม่มีใครเป็นพรีเซนเตอร์ให้เธอได้ทั้งนั้น ไอ้ยาถังเสินหมายเลข 2 ของเธอต่อให้มันจะดีแค่ไหน แต่ก็คงจะโปรโมตไม่ได้ ฉันว่านะ มาร่วมมือกับฉันดีกว่า เอาส่วนประกอบยาของถังเสินหมายเลข 2 นั่น ขายให้ฉันซะ ว่าไงล่ะ?”
“ฝันไปเถอะ!”
จู้หมิงหัวเราะอย่างเย็นชา “ได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกเธอก็คอยดูเถอะ ฉันจะดูสิว่า สินค้าที่ไม่มีการโปรโมต พวกเธอจะขายมันออกได้ยังไง จะหวังพึ่งการบอกต่อปากต่อปากของคนธรรมดางั้นเรอะ!เหอะเหอะ!”
พูดจบทั้งสองคนก็หมุนตัวจะเดินออก
ก่อนจะออกไปพอเห็นว่าฉินจุนนั่งอยู่บนโซฟา ก็กลอกตาใส่พร้อมกับส่งเสียงไม่พอใจ
ฉินจุนเพียงยิ้มบาง ๆ
“พวกคนตระกูลจู้ ตอนนั้นผมเคยบอกแล้วว่า ถ้าอยากจะให้หลินหลินกลับไป พวกคุณต้องคุกเข่าต่อหน้าเธอ”
“แต่ตอนนี้ คำพูดนี้มันทวีคูณแล้ว พวกคุณต้องคุกเข่าต่อหน้าเธอ 3 วัน”