จู้หมิงคนนี้ปากวอนมาก แม้ว่าเขาจะถูกควบคุมตัว และพร้อมที่จะยอมรับการลงโทษ แต่เขาก็ยังต้องการพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับจู้หลินหลินออกมา
ให้ทุกคนรับรู้สักหน่อย ตอนนี้จู้หลินหลินเฉิดฉายมาก ไม่ใช่ด้วยความพยายามของเธอเอง แต่ทำมันโดยผู้ชาย
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ จู้ซานเตาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“หลินหลิน เป็นแบบนั้นจริงเหรอ?”
ใบหน้าของจู้หลินหลินเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ไม่มีอะไร ลุงอย่าพูดเรื่องไร้สาระนะ!”
เธอไม่เคยเห็นแม้แต่หัวหน้าของซวนหยวนกรุป มันจะเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร
แต่ไม่มีใครเชื่อการปฏิเสธของเธอ
หลังจากช่วงเวลานี้ บริษัทยาเหวินเหอพัฒนาเร็วเกินไป มันคือการเพิ่มทุน การลงทุน และการเสนอราคา มีการป้อนเข้าบริษัทโดยตรงจำนวนหมื่นล้านหยวน และขยายขนาดขึ้นหลายครั้ง
โฆษณาผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียวสามารถเห็นได้ มันเสแสร้ง ทำเป็นราชินี การผลิตขนาดใหญ่ยังคงอยู่ในช่วงเวลาไพร์มไทม์ของ CCTV การลงทุนในโฆษณานี้เพียงอย่างเดียวจะเกินสินทรัพย์ทั้งหมดของจู้กรุป
แม้ว่าจู้หลินหลินมีความเฉียบแหลมทางธุรกิจ แต่ใบสั่งยาที่ฉินจุนมอบให้ก็มีประโยชน์มาก และมันจะไม่พัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาสั้น ๆ
จะต้องมีการสนับสนุนอันสูงส่ง
หวังหยุนดูดีใจมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เธอไม่นึกเลยว่าลูกสาวของเธอจะไต่เต้าขึ้นไปในครอบครัวที่ร่ำรวย!
“สาวน้อย คนในครอบครัวตัวเองมีอะไรที่คุยกันไม่ได้ล่ะ รีบพูดมาเลยนะ เธอกับประธานคนนั้นรู้จักกันได้ยังไง? พัฒนาไปถึงไหนกันแล้ว? คุยถึงเรื่องการเป็นฝั่งเป็นฝารึยัง?”
จู้หลินหลินขมวดคิ้ว “แม่คะแม่กำลังพูดถึงอะไร ไม่มีอะไรแบบนี้เลย!”
จู้ซานกูแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา “ทำไมถึงไม่เกิดขึ้นล่ะ? ซวนหยวนกรุปเพิ่งเปิดคณะกรรมการบริหารเมื่อเช้าวานนี้ เมิ่งเหวินกังกล่าวในที่สาธารณะ ว่าการสนับสนุนของบริษัทเหวินเหอ นั้นหมายถึงเขาที่เป็นประธานที่อยู่เบื้องหลังคือซวนหยวนกรุป ถ้าเธอทั้งสองไม่มีความสัมพันธ์อะไรกัน เขาจะสนับสนุนเราแบบนี้เหรอ?”
“จู้หลินหลินอ่า เธอไม่สามารถพัฒนาได้อีกต่อไป ก็ลืมการเลี้ยงดูจากตระกูลจู้ที่มีต่อเธอแล้วสินะ!”
เดิมทีข่าวของจู้หลินหลินและเมิ่งเหวินกังมีเรื่องอื้อฉาว มันเป็นข่าวลือ
ท้ายที่สุด เมิ่งเหวินกังก็แก่มากแล้ว ทั้งที่มีครอบครัวและคนในครอบครัว ถ้าเรื่องอื้อฉาวแพร่กระจายอีกครั้ง เขาจะกลายเป็นคู่รัก
แต่ตอนนี้ ไม่ทราบตัวตนของหัวหน้าซวนหยวนกรุป และนี่ไม่สามารถกล่าวได้ว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมระหว่างชายและหญิง
คราวนี้ครอบครัวจู้ของพวกเขาอาจปีนขึ้นไปบนกิ่งไม้
การแสดงออกของจู้ซานกูที่ไม่ได้ผ่อนคลายมาโดยตลอด เอ่ยถาม
“ประธานที่อยู่เบื้องหลังซวนหยวนกรุปคนนั้น อายุเท่าไหร่แล้ว? มีตัวตนเป็นแบบไหน?”
เขายังคงกังวลว่า หากเขาแก่เกินไป และแต่งงานไม่ถูกต้อง มันจะฟังดูไม่ดีเลย
จู้ซานกูกล่าวว่า “ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นชายหนุ่มอายุไม่มาก แต่ฉันไม่รู้แน่ชัดว่าเขาอายุเท่าไหร่ ประธานที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ลึกลับมาก สำหรับบริษัทเช่นซวนหยวนกรุป เขาเพิ่งปรากฏตัวเพียงครั้งเดียว”
การแสดงออกบนใบหน้าของจู้ซานกูก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“ฉันเกรงว่าจะเป็นนายน้อยของตระกูลใหญ่สักตระกูลนั่นแหละ ซวนหยวนกรุปไม่สนใจบริษัทนับหมื่นล้านบริษัท หมายความว่ายังมีอุตสาหกรรมอื่น ๆ ในครอบครัวตระกูลที่ร่ำรวยแบบนี้ พวกเราจะขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดแบบนั้นเหรอ?”
หวังหยุนรีบพูด “เธอจะปีนไปอยู่อะไร! ลูกสาวฉันสวยมาก และหน้าเธอคนเดียวไม่มีเงินหลายหมื่นล้าน หลินหลิน เธอต้องทำงานหนัก อย่าคิดมากกับงาน แต่งงานกับตระกูลที่รับรวยและเป็นคุณผู้หญิงคั่วแบบนี้ถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด”
“อย่าไปเสียเวลากับคนที่ไม่ได้เรื่องไปวัน ๆ เลย สุดท้ายแล้วมันจะไม่มีประโยชน์อะไร”
เมื่อหวังหยุนพูดจบ ดวงตาของเธอก็ลอยไปทางฉินจุน เห็นได้ชัดว่าชี้ไปที่เฮงซวย และพูดเป็นนัย
เดิมที หวังหยุนไม่ได้ดูถูกฉินจุน แต่ตอนนี้เธอรู้ว่าชายหนุ่มผู้มั่งคั่งกำลังคิดถึงลูกสาวของเธอ ฉินจุนก็ยิ่งถูกกีดกันออกไป
ไม่รู้จักเจียมตัวเองจริง ๆ แล้วก็ไม่ดูว่าตนเองอยู่ในสถานะไหน ถ้าเป็นนายน้อยฉินอย่างเมื่อก่อน พวกเธอจะต้องให้หลิน ๆ ติดต่อกับเขาอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้ เป็นแค่หนูข้ามถนน ต่อให้มีทักษะทางการแพทย์บ้าง ก็เป็นแค่หมอ
ไม่ได้ทำงานให้ใครมาทั้งชีวิต? เทียบกับคนรวยได้มั้ย?
ทุกคนต่างพูดสิ่งต่าง ๆ นานา ทำให้จู้หลินหลินไม่สบายใจอย่างมาก
“พวกคุณหยุดพูดเถอะ หนูไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับประธานผู้ที่อยู่เบื้องหลัง แล้วก็ไม่อยากเกี่ยวข้องด้วย”
หวังหยุนกลอกตา “สาวน้อย ฉันไม่รู้จะพูดอะไรเกี่ยวกับเธอ ฉันไม่รู้จะอวยพรยังไงดี!”
ต่อหน้าผู้คนมากมาย หวังหยุนพูดอย่างลึกซึ้งเกินไป พูดมากเกินไป ราวกับว่าสนับสนุนลูกสาวของเธอเพื่อเกลี้ยกล่อมผู้อื่น
แต่ตอนนี้ มีสัญญาณของสิ่งนี้แล้ว ก็ต้องพัฒนาให้ดี
หวังหยุนหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และเริ่มสอบถามกับผู้ติดต่อของเขา ใครเป็นหัวหน้าซวนหยวนกรุป?
แม้ว่าคุณจะไม่พบตัวตน คุณสามารถขอข้อมูลติดต่อได้ จู้หลินหลินอายที่จะบอกว่า ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่หวังหยุนจะออกมาจับคู่เอง
เราเป็นนักปีนเขาสูง และเราต้องวางท่าทางให้ถูกต้อง
ฉินจุนมองไปที่ครอบครัวของพวกเขาที่พูดคุยกันที่นี่ ไม่เพียงแต่พูดไม่ออกเท่านั้น
คนพวกนี้ไม่รู้ พวกเขานั่งต่อหน้าท่านประธานที่อยากแต่งงาน และอยากประจบประแจง
หลังจากรับประทานอาหาร จู้หมิงไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษเพื่อคุกเข่า
จู้ซานเตายังคงเป็นคนใจอ่อน และไม่สามารถดูลูกชายของเขาเข้าคุกได้จริง ๆ
จู้หลินหลินเข้ายึดครองหนี้ห้าร้อยล้านของจู้กรุป
แน่นอนว่า นี่ไม่ได้หมายความว่าจู้หลินหลินจะจ่ายเงินชดเชยจำนวนห้าพันล้าน
เป็นเพียงหุ้นของบริษัทที่ควรจำนำกับธนาคาร และคำสั่งซื้อจำนวนมาก ถูกส่งไปยังจู้หลินหลินเท่านั้น
เมื่อก่อนที่ลูกค้าสั่งซื้อถังโย่วไว้ ดังนั้นจึงต้องเลื่อนการสั่งซื้อออกไป ถ้าวันนี้ถังโย่วกลายเป็นยาถังเสินหมายเลข 2 เพื่อนที่ร่วมลงทุนก็เต็มใจที่จะร่วมมือใหม่อีกครั้งโดยธรรมชาติ ดังนั้นปัญหาก็จะหมดไป
จู้หลินหลินไม่เพียงแต่ไม่เสียเงิน แต่ยังสั่งเพิ่มอีกห้าร้อยล้านหยวนอีกด้วย
หลังจากที่จู้หมิงได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว แม้ว่าเขาจะอิจฉามาก แต่ก็ช่วยไม่ได้ ถ้าไม่มีถังเสินหมายเลข 2 เขาก็ทำอะไรไม่ได้
จากนี้ไป เขาทำได้แค่ดูถูกคนอื่น และทำงานให้จู้หลินหลิน
เมื่อหวังหยุนกลับบ้าน แม้ว่าหวังหยุนไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ เธอก็นึกถึงมันอยู่ในใจเสมอ
จู้หลินหลินไม่สนใจเรื่องนี้ เธอระวังได้เล็กน้อย ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น อย่างน้อยก็เพื่อมอบของขวัญให้เจ้านาย
หลังจากคิดถึงเรื่องนี้แล้ว หวังหยุนก็เรียกจู้หลินหลินข้ามาในห้อง
“หลินหลิน ฉินจุนคนนั้น รู้จักหมอบ้างมั้ย?”
จู้หลินหลินตกตะลึงครู่หนึ่ง “น่าจะรู้จักนะคะ แม่ถามเรื่องนี้ทำไม?”
“เธอลองเล่าให้แม่ฟังหน่อย ว่าสามารถซื้อโสมที่ล้ำค่าได้บ้างมั้ย ฉันจะให้ของขวัญ”
จู้หลินหลินอยากรู้อยากเห็นเล็กน้อย “แม่ต้องการให้ของขวัญใคร?”
หวังหยุนหลบเลี่ยงกล่าวว่า “อันนี้แกไม่ต้องยุ่ง แกให้เขาติดต่อมาก็พอ”
หวังหยุนคิดว่า เธอไม่เคยพบประธานของซวนหยวนกรุป และเธอไม่รู้ว่าจะให้อะไร ตัวตนของเธอคือแม่ของจู้หลินหลิน และเธอยังคงต้องการมอบบางสิ่งที่มั่นคงกว่านี้
ทางที่ดีควรส่งโสมอันล้ำค่า
จู้หลินหลินเจอฉินจุน และถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
ฉินจุนไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยคิดว่าจู้หลินหลินอาจมีการติดต่อทางธุรกิจ และต้องการมอบของขวัญ
“ผมจะหาคนมาซื้อให้คุณสักหน่อยก็แล้วกัน”
