ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – ตอนที่ 103 อย่าเที่ยวกัดใครไปทั่ว

พอมู่นวลนวลถึงบริษัท สิ่งเเรกที่เธอทำก็คือไปหามู่หวันฉี

เเต่พอเธอไปถึง ในห้องทำงานของมู่หวันฉีกลับไม่มีคนอยู่

มู่นวลนวลจึงถามผู้ช่วยของมู่หวันฉีเเทน: ” ผู้จัดการมู่ยังไม่มาหรอ? ”

ผู้ช่วยของมู่หวันฉีส่ายหน้า

เห็นดังนั้น มู่นวลนวลก็ยิ่งรู้สึกสับสนมากกว่าเดิม

จะพูดยังไงดีล่ะ ก็ถ้าโม่เจียเฉินมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับมู่หวันฉีจริงๆ เธอก็คงจะมีความรู้สึกว่าพวกเขาไม่เหมาะสมกันเป็นอย่างมาก

โม่เจียเฉินดูเหมือนจะหยิ่งผยอง เเต่จากสองเดือนที่ได้คบค้าสมาคมกับเขาเเล้ว มู่นวลนวลรู้สึกว่าชีวิตส่วนตัวของเขาค่อนข้างเรียบง่าย ไม่วุ่นวายเหมือนมู่หวันฉี

……

เพราะเรื่องที่โรงงานของมู่กรุ๊ปถูกเปิดโปง ชื่อเสียงด้านการตลาดจึงตกลงมามาก การวิพากษ์วิจารณ์บนโลกอินเตอร์เน็ตก็ดุเดือดไม่เเพ้กัน พอมีคนพูดถึงมู่กรุ๊ปก็จะได้ยินเเต่เสียงก่นด่า

ตั้งเเต่ถูกเปิดโปงจนถึงตอนนี้ ก็ผ่านมาสี่สิบแปดชั่วโมงเเล้ว ถ้ายังไม่คิดหาทางแก้ไข เรื่องมันก็มีเเต่จะยิ่งรุนเเรงขึ้นเรื่อยๆ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ออกหน้ามา ก็ไม่ได้ทำให้เรื่องนี้ยับยั้งลง อาจเป็นเพราะการเคลื่อนไหวค่อนข้างรุนเเรงเกินไป บริษัทจึงออกหน้ามาเจรจากับแพลตฟอร์มด้วยตัวเอง เเต่ฝ่ายแพลตฟอร์มเองก็ไม่ได้ยินยอมรับเงิน เพื่อยับยั้งประเด็นร้อนให้กับมู่กรุ๊ป

ตอนนี้มู่กรุ๊ปตกอยู่ในสถานะของฝ่ายตั้งรับเต็มๆ

ตอนบ่าย มู่นวลนวลได้ยินข่าวว่ามู่กรุ๊ปประกาศว่าจะมีงานเเถลงข่าวในช่วงบ่าย

เเต่มู่หวันฉียังไม่เข้ามาบริษัท มู่ลี่หยานจึงโทรเรียกให้เธอไปหาที่ห้องทำงาน

สองสามวันนี้มู่ลี่หยานรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก เขาดูเหมือนแก่ขึ้นสิบปี เเถมผมขาวก็ยังขึ้นมาเยอะกว่าเดิมอีกด้วย

พอเขาเห็นมู่นวลนวล เขาก็รีบเดินเข้ามาหาเธอทันที: ” นวลนวล ฉันให้คนไปช่วยเธอหาบัตรแพลทินัมเเล้วนะ ทางบริษัทได้จัดงานเเถลงข่าวขึ้นช่วงบ่าย หลังจากนั้นเธอให้โม่ถิงเซียวออกหน้ามาช่วยพวกเราหน่อยสิ รอให้ช่วงเวลานี้ผ่านไป เรื่องนี้ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างราบรื่นยังไงล่ะ ”

มู่นวลนวลไม่สนใจคำพูดประโยคหลังของเขา: ” เเล้วเจอไหมคะ? ”

บัตรแพลทินัมอยู่ในมือของมู่ลี่หยานอย่างเห็นได้ชัด เเต่จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่ยอมมอบมันออกมา ยังมีหน้ามาโกหกเธอว่าให้คนไปช่วยเธอหาเเล้วอีก เห็นได้ชัดว่าเป็นคนหลอกลวงที่ไม่ยอมลงทุนอะไร มีดีเเค่หลอกคนอื่นไปวันก็เท่านั้นเอง

เเละแน่นอนว่ามู่นวลนวลไม่หลงกลเขาหรอก

” ก็กำลังหาอยู่นี่ไง? น่าจะหาเจอแหละ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการช่วยมู่กรุ๊ปก่อนนะ ” มู่ลี่หยานหน้าบึ้ง เขาไม่ค่อยพอใจกับปฏิกิริยาของมู่นวลนวลสักเท่าไหร่

มู่นวลนวลไม่มีความอดทนมาเสียเวลากับมู่ลี่หยานอีกต่อไปเเล้ว เธอยกยิ้มนิดหน่อย: ” บัตรแพลทินัมใบนั้นเป็นบัตรเครดิตของโม่ถิงเซียว เขารู้รายจ่ายทุกบาททุกสตางค์ที่ออกจากบัตร เมื่อวานเขายังถามฉันอยู่เลยว่าช่วงนี้ซื้อของอะไร ทำไมถึงใช้เงินเยอะเเบบนั้น เเถมยังจะให้ฉันคืนบัตรให้กับเขาอีกต่างหาก ไม่อย่างนั้น เขาจะอายัดบัญชีธนาคาร ”

ตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับคนที่นามสกุลมู่ มู่นวลนวลจึงจำเป็นต้องพูดโกหก

มู่ลี่หยานหน้าซีดขึ้นทันที ช่วงนี้พวกเขากำลังใช้เงินบนบัตรนั้นอยู่จริงๆ ถ้าโม่ถิงเซียวตั้งใจตรวจสอบบัญชี เเละถ้าเขาเค้นความจริงขึ้นมา ก็อาจตรวจพบตัวเขาได้อย่างง่ายดาย

ถึงเเม้ว่ามู่นวลนวลยังคงไม่รู้อะไร เเต่โม่ถิงเซียวคงหลอกไม่ได้ง่ายๆเเน่

เเต่เรื่องที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้เป็นปัญหาเเค่เรื่องเงินทุนเเล้ว เเละเเน่นอนว่าเเก้ไขปัญหาเรื่องโรงงานของมู่กรุ๊ปนั้นสำคัญที่สุด

ก่อนหน้านั้นเขารีบร้อนเกินไป จึงถูกมู่หวันฉีพูดกล่อมจนต้องเปลี่ยนความคิด สุดท้ายก็หน้ามืดตามัว เเละลืมโม่ถิงเซียวไปโดยสิ้นเชิง

ในที่สุดตอนนี้เขาก็เริ่มรู้สึกกลัวเเล้ว

” ฉันจะส่งคนไปช่วยเธอหาบัตรเเพลทินัมโดยเร็วที่สุดอย่างแน่นอน ”

” ขอบคุณค่ะพ่อ ”

หลังจากที่เเยกย้ายกับมู่นวลนวล ไม่นาน มู่ลี่หยานก็โทรหาเธอ เเละบอกว่าหาบัตรเเพลทินัมเจอเเล้ว

เล่นละครก็ต้องเล่นให้จบ มู่นวลนวลมีสีหน้าซาบซึ้ง หลังจากนั้นเธอก็พูดถามขึ้น: ” หาเจอได้ยังไงคะ เเล้วโจรคนนั้นล่ะ? ”

มู่ลี่หยานพูดคลุมเครือ: ” ถูกตำรวจจับไปแล้วน่ะ ”

” ฉันจะขอร้องโม่ถิงเซียวให้นะคะ เรื่องของมู่กรุ๊ปก็เป็นเรื่องของฉันเหมือนกัน ” ใช่ที่ไหนล่ะ

มู่ลี่หยานคิดว่ามู่นวลนวลพูดจริง เขาจึงพูดด้วยสีหน้าปลื้มอกปลื้มใจ: ” งั้นก็ฝากเธอด้วยนะ ”

……

ตอนบ่าย ณ งานเเถลงข่าวของมู่กรุ๊ป

มู่นวลนวลหลบซ่อนตัวอยู่ในห้องชา เพื่อดูการถ่ายทอดสดงานเเถลงข่าว

” มู่กรุ๊ปเป็นธุรกิจดั้งเดิมในเซี่ยงไฮ้ ก่อตั้งมาตั้งหลายปี เเละได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก เรื่องที่ถูกตรวจสอบเจอนั้น ในฐานะที่ท่านเป็นประธานของมู่กรุ๊ป ท่านมีอะไรจะพูดไหมครับ? ”

มู่ลี่หยานหน้าซีด บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความละอายใจ: ” ผมปฏิบัติหน้าที่บกพร่องเองครับ จึงทำผิดต่อความไว้วางใจของทุกคน…… ”

คงเป็นเพราะมู่ลี่หยานมาก่อนเวลา งานเเถลงข่าวช่วงเเรกจึงค่อนข้างปกติดี

งานแถลงข่าวครึ่งหลัง อยู่ๆก็มีนักข่าวถามขึ้น: ” ในอินเตอร์เน็ตมีคนบอกว่ามู่กรุ๊ปเป็นหลุมโคลนที่ผลิตสินค้าปลอม ความสามารถของประธานคนปัจจุบันสู้คุณพ่อของท่านไม่ได้ เเละลูกสาวทั้งสองคนของท่าน คนนึงทำตัววุ่นวาย เเละสำส่อนไปทุกที่ อีกคนก็กระตือรือร้นที่จะโฆษณา ส่วนลูกชายที่เรียนอยู่ที่ต่างประเทศของท่านก็บ้าเเข่งรถ……สำหรับเรื่องพวกนี้ ท่านมีอะไรอยากจะพูดไหมครับ? ”

” พู่…… ”

น้ำที่มู่นวลนวลเพิ่งดื่มเข้าไปได้ถูกพ่นออกมาจนหมด

กระตือรือร้นที่จะโฆษณา หมายถึงเธอหรอ?

เธอนึกออกเเล้ว ครั้งก่อน เรื่องที่เธอปล่อยให้ปาปารัสซี่แอบถ่าย มู่ลี่หยานจึงให้เธอยอมรับต่อหน้าสื่อมวลชนว่าเธอโฆษณาตัวเอง……

นักข่าวพวกนี้ฉวยทุกโอกาสจริงๆ

ในการถ่ายทอดสด สีหน้าของมู่ลี่หยานไม่ค่อยสู้ดีนัก ถึงเเม้ว่าจะมีหน้าจอกั้นไว้อยู่ เเต่ก็ยังสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเขาได้อยู่ดี

กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตามสนอง คงหมายถึงมู่ลี่หยานนั่นเเหละ

ส่วนเรื่องโฆษณา เเค่ตัวเธอไม่รู้สึกละอายใจก็พอเเล้วล่ะ

……

ตอนเลิกงาน ในที่สุดมู่นวลนวลก็เห็นมู่หวันฉี

สีหน้าของมู่หวันฉีเเย่จนชวนตกใจ ตอนเธอเห็นมู่นวลนวล เธอก็ได้จ้องมู่นวลนวลอย่างโหดเหี้ยมทันที: ” หญิงสารเลว! ”

” ตอนนี้ทุกคนรู้เเล้วว่ามู่กรุ๊ปมีคุณหนูสองที่ชอบทำตัววุ่นวาย เเละสำส่อนไปทุกที่ ตกลงว่าใครเลวกันแน่ล่ะ? ” มู่นวลนวลพูดขึ้นยิ้มๆ

มู่หวันฉีถูกกักตัวไว้ที่สถานีตำรวจเป็นเวลาหนึ่งคืนภายใต้ชื่อ ” คุกคามทางเพศ ” เมื่อสักครู่เธอเพิ่งจะได้รับการปล่อยตัวออกมา เเละเธอก็ได้นำความเเค้นทั้งหมดไปสะสมไว้ที่มู่นวลนวล

” เธอตั้งใจใช่ไหม? เธอต้องบอกโม่เจียเฉินล่วงหน้าว่าฉันจะไปทำอะไรเเน่ๆ เขาถึงได้ดูถูกเหยียดหยามฉันแบบนั้น! ” ในตาของมู่หวันฉีเต็มไปด้วยความเเค้น ราวกับอยากจะฆ่ามู่นวลนวลให้รู้เเล้วรู้รอด

ถึงเเม้ว่ามู่นวลนวลจะไม่รู้ว่ามู่หวันฉีกำลังพูดอะไรอยู่ เเต่เธอก็รู้ได้จากคำพูดของมู่หวันฉีเเล้วว่าโม่เจียเฉินไม่ได้ถูกมู่หวันฉีล่อลวงได้สำเร็จ เเต่เขากลับเป็นฝ่ายดูถูกเหยียดหยามมู่หวันฉีเสียเอง

เเม้เเต่เรื่องแบบนี้ มู่หวันฉีก็ยังจะมาเอาเรื่องกับเธออีก?

มู่นวลนวลเข้าไปใกล้มู่หวันฉี หลังจากนั้นก็ขยับเข้าไปพูดข้างหูเธอเสียงเบา: ” เป็นบ้าไปแล้วหรอ? ถ้าเป็นบ้าก็รีบไปกินยาสะ เเละอย่าเที่ยวกัดใครไปทั่วอีกล่ะ ”

ภาพเหตุการณ์นี้ตกอยู่ในสายตาของคนอื่น ก็เหมือนกับมู่นวลนวลกำลังพูดคุยกับมู่หวันฉีด้วยใบหน้าที่อ่อนโยน

” มู่นวลนวล อีผู้หญิงสารเลว! ” มู่หวันฉีโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เธอยกมือเตรียมจะตบมู่นวลนวล

มู่นวลนวลถอยไปด้านหลังอย่างคนรู้ทัน ทำให้มู่หวันฉีคว้าได้เเต่เพียงความว่างเปล่า

ตอนเลิกงาน พนักงานเดินไปมา พนักงานที่เดินผ่านเห็นภาพเหตุการณ์นี้เข้า เเละกลายเป็นว่ามู่หวันฉีเป็นฝ่ายรังแกมู่นวลนวลเสียเอง

คนในบริษัทไม่ชอบมู่หวันฉีมาตั้งเเต่ไหนเเต่ไรเเล้ว

มีคนพูดขึ้นมาเสียงเบา: ” ขนาดนี้เเล้วยังจะกล้ามาบริษัทอยู่อีก…… ”

” ใช่! ถ้าเธอยังเป็นผู้จัดการแผนกในบริษัทอีก ฉันจะลาออก เห็นเเล้วก็หงุดหงิด ”

” สัญญาของฉันก็ครบเวลากำหนดเเล้วพอดี ”

มู่หวันฉีก็ได้ยินสิ่งที่พวกเธอพูดเหมือนกัน เธอจึงเดินเข้าไปขวางพวกเธอด้วยท่าทางที่น่ากลัว: ” พวกเธอหมายความว่ายังไง นี่คือบริษัทของตระกูลฉัน ทำไมฉันจะไม่กล้ามา! ”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: "มันน่าเกลียดเกินไป" เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: "ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย" เธอจ้องเขา : "คุณ…คุณทำไม่ได้ … " ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: "ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset