เมื่อสิ้นเสียงคำถามลง เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าโม่ถิงเซียวหยุดชะงักไปเล็กน้อย
แต่เขาก็ถามเธอกลับในชั่วขณะถัดไปทันที “ทำไมเหรอ”
น้ำเสียงของเขาเป็นธรรมชาติไหลลื่น ฟังแล้วไม่มีความผิดแปลกแม้เพียงนิด
มู่นวลนวลคีบข้าวเข้าปากหนึ่งคำ จ้องโม่ถิงเซียวอย่างเงียบๆ
โม่ถิงเซียวมีท่าทางสงบนิ่งและปล่อยให้มู่นวลนวลจ้องเขาตาเขม็งไปอย่างตามใจชอบ ซ้ำยังคีบกับข้าวให้มู่นวลนวล
“เมื่อก่อนฉันได้ยินมาว่า คนที่อยู่ในวงการบันเทิงมานาน ส่วนใหญ่จะรู้สึกไวต่อพวกกล้องกับปาปารัสซี่กันทั้งนั้น ถ้าเกิดว่ามีคนแอบถ่าย ปกติแล้วก็จะต้องรู้ตัว ดังนั้นแล้วรูปที่พวกปาปารัสซี่แอบถ่ายแล้วส่วนใหญ่มักจะไม่ใช่รูปที่ชัด”
ในคำที่มู่นวลนวลพูดแฝงความหมายอื่นไว้ คนฉลาดแบบโม่ถิงเซียว จะต้องรู้ทันเรื่องนี้แน่นอน
เขาพยักหน้าแล้วเอ่ยว่า “คนเขาพูดกันแบบนี้เองเหรอ”
“อือ”
มู่นวลนวลหรี่ดวงตาลงเล็กน้อย แล้วกินข้าวอย่างเงียบๆ
แต่ใจของเธอได้ลอยไปไกลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
มู่นวลนวลตั้งใจที่จะนำหัวข้อสนทนาเข้าสู่เรื่องซือเฉิงยวี่ถูกแอบถ่ายจนขึ้นเป็นหัวข้อค้นหายอดนิยม ทว่าโม่ถิงเซียวกลับทำทีราวกับว่าดูไม่ออก และไม่ต่อประโยคสนทนาของเธอต่อ
มู่นวลนวลนึกถึงการคาดเดาครั้งที่แล้วของเธอ จิตใจก็สับสนขึ้นมาโดยพลัน
ครั้งก่อนที่กลายเป็นประเด็นร้อนเรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน และเธอก็เคยเอ่ยถามโม่ถิงเซียว โม่ถิงเซียวตอบว่าหาตัวไม่พบ
เธอจึงเดาว่าโม่ถิงเซียวอาจจะหาเจอแล้ว เพียงแต่ไม่พูดออกมา
เธอยังสงสัย นอกจากครั้งแรกที่เป็นเรื่องไม่คาดคิดและได้ขึ้นเป็นหัวข้อประเด็นร้อนไป สองครั้งหลังจากนั้นคนที่ทำก็อาจจะเป็น……..ซือเฉิงยวี่!
บทสรุปนี้ที่เธอคิดยังมีจุดที่ดูจะเกินจริงอยู่ไปบ้าง แต่คนที่สามารถจะทำให้คนแบบโม่ถิงเซียวรู้สึกลังเลและพะว้าพะวังได้ คนที่เหลือที่เธอนึกออกก็มีแค่ซือเฉิงยวี่คนเดียวเท่านั้น
อีกทั้งครั้งที่สองที่เกิดหัวข้อค้นหายอดฮิต ไม่มีใครติดต่อซือเฉิงยวี่ได้เลย
มิหนำซ้ำในบทความยาวที่โม่ถิงเซียวลงในเวยป๋อ ส่วนใหญ่จะพูดถึงเรื่องของซือเฉิงยวี่กับ Shengding Media ในช่วงหลายปีมานี้ทั้งสิ้น
พอตอนนี้ได้มาย้อนกลับไปดูบทความยาวที่โม่ถิงเซียวลงในครั้งนั้น เขาอาจจะไม่ได้ต้องการที่จะประชาสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว แต่ดูราวกับว่าเขียนเพื่อให้ซือเฉิงยวี่อ่านแทนอีกด้วย
ราวกับกำลังให้โอกาสซือเฉิงยวี่อยู่
เคลื่อนไหวจัดการด้วยตัวคนเดียว และก็สร้างโอกาสคืนดีปรับความเข้าใจให้คนสองคน
แน่นอนว่าการคาดเดานี้ จะต้องตั้งอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าทั้งหมดนี้คือซือเฉิงยวี่เป็นผู้ลงมือก่อเหตุเองถึงจะฟังขึ้น
อาจจะเป็นเพราะไม่ได้ยินเสียงมู่นวลนวลพูดมาเป็นเวลานาน โม่ถิงเซียวจึงเงยหน้าขึ้นมามองเธอ แล้วพูดออกไปว่า “ไม่ต้องไปคิดมากหรอก ไม่ว่าเรื่องอะไรฉันก็จัดการได้”
มู่นวลนวลทำปากยื่นพลางพูดว่า “ไม่ต้องคิดมากหรอก เรื่องอะไรฉันก็จัดการเองได้ทั้งนั้น มีเรื่องอะไรก็มาพูดมากล่าวให้ฉันฟังบ้างก็ได้ ไม่แน่ฉันอาจจะช่วยคุณออกความความเห็นด้วยได้ก็ได้”
ดวงตาของทั้งคู่สบเข้าหากัน
ดวงตาของมู่นวลนวลส่องประกายใสกระจ่าง หลังจากที่โม่ถิงเซียวสบตากับเธอเป็นเวลาหลายวินาที ก็พลันรู้สึกว่าถูกเธอบุกรุกเข้ามานั่งอยู่ภายในใจเขา จึงรีบหลบสายตาออกมาก่อน
มู่นวลนวลถอนหายใจออกมา โม่ถิงเซียวยังคงตัดสินใจที่จะไม่คุยกับเธอเรื่องซือเฉิงยวี่
เขากำลังหลบเลี่ยง
ดูท่าแล้วการคาดเดาของเธอน่าจะถูกต้องไปประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์
อันที่จริงแล้วซือเฉิงยวี่เป็นพี่ใหญ่ของโม่ถิงเซียว ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกันมายี่สิบกว่าปีได้แล้ว แล้วตัวเธออยู่กับโม่ถิงเซียวนานขนาดไหนกันเชียว
เมื่อคิดเช่นนี้ แม้ว่าจะทำให้มีความอ้างว้างอย่างอธิบายไม่ถูก แต่ก็เป็นความจริง
……..
แม้ว่าโม่ถิงเซียวจะไม่บอกอะไรเธอเลย แต่มู่นวลนวลก็รับรู้ได้ว่าโม่ถิงเซียวจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว
แม้แต่ “คนนอก” เช่นเธอ ยังรู้สึกไม่เข้าใจถึงสิ่งที่ซือเฉิงยวี่ทำ ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโม่ถิงเซียวเลย
วันนี้แม้ทั้งสองคนจะได้ลางานพักผ่อนอยู่บ้าน แต่กลับไม่มีเรื่องอะไรให้พูดคุยกันเท่าไหร่นัก
หัวข้อประเด็นร้อนของมู่นวลนวลและซือเฉิงยวี่เลวร้ายลงเร็วมาก
ผู้คนบนโลกออนไลน์ต่างก็คาดเดาต่างๆ นานา ว่ามู่นวลนวลเป็นใคร และก็ไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องที่ “XN” ผู้ก่อตั้ง Shengding Media พูดขึ้นมาอีกเลย แต่สำหรับมู่นวลนวลแล้วกลับไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร
กลับกลายเป็นว่ามีคนพูดลือกันแทนว่า หนังเรื่องใหม่ของซือเฉิงยวี่กำลังจะออกฉายแล้ว เพราะฉะนั้นจึงใช้โอกาสนี้สร้างกระแส
แน่นอนว่าพอมีคนพูดแนวนี้ปรากฏขึ้นมา ก็จะถูกบรรดาแฟนคลับของซือเฉิงยวี่รุมด่าประชาทัณฑ์ไป
“ซุปเปอร์สตาร์ซือของพวกเราจำเป็นต้องสร้างกระแสด้วยเหรอ”
“ไม่ใช่ว่าหนังเรื่องนั้นของซุปตาร์ซือของพวกเราพอออกฉายวันแรก ยอดซื้อตั๋วก็เกินร้อยล้านเลยไม่ใช่เหรอ”
“เกินขอบเขตจินตนาการของคุณไปไกลเลยล่ะ”
มู่นวลนวลก็ไม่ได้กังวลใจกับเรื่องพวกนี้หรอก ทั้งนี้เพราะว่าโม่ถิงเซียวเคยพูดไปแล้วว่า เขาจัดการได้
ทว่า เหตุการณ์ไม่คาดคิดและเรื่องพลิกผันมากมายมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่คลื่นลมสงบที่สุด
……….
มู่นวลนวลไปถึงบริษัทตั้งแต่เช้าตรู่ ก็ได้ยินบรรดาเพื่อนร่วมงานกระซิบกระซาบถกกันเรื่องซือเฉิงยวี่
“ช่วงนี้ซุปตาร์ซือขึ้นเป็นหัวข้อค้นหายอดฮิตถี่มากว่าไหม”
“ใช่ ก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ตำแหน่งกาแฟของเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างกระแสแล้ว แล้วก็ยิ่งไม่ต้องพยายามเรียกร้องให้คนสนใจด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าถูกใครเขาแทงข้างหลังเข้าเสียแรงขนาดนี้”
“เมื่อวานมีคนโพสต์ในเวยป๋อ บอกว่ารู้แล้วว่าผู้หญิงคนที่ไปกินข้าวกับซุปตาร์ซือคือใคร”
“จริงหรือมั่วกันล่ะ ซุปตาร์ซือน่าจะโสดนี่ ตารางงานโปรโมตงานแสดงเขาแน่นเอี๊ยดตลอดเลย…….”
“ตารางงานปีนี้ของเขาก็ไม่ได้แน่นขนาดนั้นนะ…….”
มู่นวลนวลฟังถึงตรงนี้ก็กดเข้าเวยป๋อขึ้นมา หาอยู่ไม่นานก็เจอข้อความในเวยป๋ออันนั้นที่พวกเธอกำลังพูดถึงกัน
ข้อความนั้นติดหัวข้อแฮชแท็กว่า #แฟนสาวลึกลับของซือเฉิงยวี่ ซึ่งแฮชแท็กดังกล่าวก็ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่หนึ่งของเรื่องที่เป็นที่นิยมในเวยป๋อ
“ทุกคนไม่ต้องเดากันมั่วๆ แล้ว ผมรู้ว่าผู้หญิงคนที่ไปกินข้าวกับซูปเปอร์สตาร์ซือคือใคร แล้วเจอกันวันศุกร์ตอนสองทุ่ม”
ชื่อผู้ใช้ล้วนแต่เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษทั้งหมด แต่กลับมีคนติดตามที่เป็นพวกชอบเปิดเผยความลับดาราเป็นหมื่นๆ คน
เมื่อนำมาเปรียบเทียบดูแล้วระดับความน่าเชื่อถือจึงค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
ข้อความที่เขาลงในเวยป๋อนั้นเป็นแค่ประโยคสองประโยคง่ายๆ แต่กลับเป็นการทิ้งระเบิดลูกใหญ่เอาไว้ราวกับถึงฉากสำคัญในละคร
พรุ่งนี้ก็คือวันศุกร์แล้ว คนตอบกลับข้อความส่วนใหญ่ล้วนแต่บอกว่าเฝ้ารอคอยวันศุกร์
แต่มู่นวลนวลก็ไม่ได้เอาเรื่องของคนคนนี้เก็บมาใส่ใจ ทั้งนี้เพราะเธอมีโม่ถิงเซียวหนุนหลังอยู่ จึงสามารถหายใจได้อย่างทั่วท้อง
เธอเลื่อนหน้าจอเพื่อดูข้อความใหม่ๆ ของเขา ก็เจอข้อความหนึ่งที่ผู้ใช้คนนี้เป็นคนเขียนลงเวยป๋อ “ในเมื่อทุกคนสงสัยกันขนาดนี้ งั้นผมก็จะใบ้ให้นิดหนึ่งละกัน และคำใบ้ก็คือจบจากคณะนิเทศชั้นนำในประเทศ เป็นคนในวงการ แต่ไม่ใช่ดารา ปัจจุบันทำงานอยู่บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่”
สำหรับคนอื่นแล้ว ข้อความนี้เป็นการพูดคลอบคลุมไปอย่างกว้างขวาง
ทว่าหลังจากที่มู่นวลนวลลองเอาตัวเองไปวางเทียบดู ใจก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา
เธอจบจากคณะนิเทศศาสตร์ในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าเป็นคณะนิเทศศาสตร์ชั้นนำในประเทศ ตอนนี้เข้าทำงานอยู่ที่ Shengding Media เป็นผู้เขียนบทซึ่งก็ถูกนับรวมว่าเป็นอาชีพในวงการบันเทิง และเธอก็ไม่ใช่ดารา
ทั้งหมดนี้ล้วนสอดคล้องเข้ากับตัวเธอ
เธอลุกขึ้นยืนเดินไปห้องพักสำหรับดื่มน้ำชาแล้วโทรหาโม่ถิงเซียว
เธอโทรไปหาโม่ถิงเซียวและรอจนกระทั่งสายถูกตัดไปเองเนื่องจากไม่มีคนกดรับ
มู่นวลนวลสูดหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งที และเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานด้วยใจที่ไม่สงบนิ่ง
โม่ถิงเซียวไม่ได้โทรกลับหาเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ตอนเลิกงานมู่นวลนวลบังเอิญไปเจอเข้ากับซือเฉิงยวี่
ถ้าสมมุติว่าเรื่องที่ขึ้นเป็นหัวข้อประเด็นร้อนสองครั้งสุดท้ายมานี้ เป็นซือเฉิงยวี่ที่ก่อเรื่องเล่นละครเองขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็…….
เมื่อมู่นวลนวลคิดได้ถึงตรงนี้ ความไม่พอใจที่ค่อยๆ สะสมมาก็ก่อตัวเป็นความโกรธที่สุมอยู่ในอกแล้ว
เธอถูกลากให้ลงมาจมน้ำด้วยอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ตกเป็นหัวข้อประเด็นร้อนให้คนเขาวิพากษ์วิจารณ์อยู่ทุกวัน สุดท้ายก็ต้องให้โม่ถิงเซียวมาคอยตามจัดการ
ถ้าเป็นเช่นนี้ก็รู้ชัดถึงเป้าหมายของซือเฉิงยวี่แล้วว่า
เขาต้องการที่จะจัดการโม่ถิงเซียว
โดยใช้เธอเป็นเครื่องมือในการจัดการโม่ถิงเซียว
ซือเฉิงยวี่เดินมาจากทางด้านหน้าเธอ ข้างกายเขาไร้ซึ่งเงาของผู้ช่วยหรือแม้แต่เอเจ็นซี่
มู่นวลนวลเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ขวางทางไม่ให้เขาเดินไปต่อได้ “พี่ใหญ่ ช่วงนี้ยุ่งมากหรือเปล่าคะ”
ซือเฉิงยวี่เห็นว่านัยน์ตามู่นวลนวลเด็ดเดี่ยว จึงชะงักงันไปเล็กน้อยก่อนยิ้มแล้วพูดว่า “ก็ดีอยู่”