มู่นวลนวลโกรธโม่ถิงเซียวอยู่ในใจ มือของเธอจึงหนักขึ้น และเธอก็ไม่ได้อ่อนใจเลยสักนิด
แต่ดูเหมือนว่าโม่ถิงเซียวจะไม่เจ็บไม่ปวดและยอมจำนน ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังทุบตีฝ้ายนุ่มๆ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
ในที่สุดมู่นวลนวลก็หยุดแล้วหันไปด้านข้าง ไม่พูดกับโม่ถิงเซียวและไม่ลงมือแล้ว
โม่ถิงเซียวมองลงไปที่เธอด้วยสีหน้าสงบนิ่ง และมองเธออย่างสงบเยือกเย็น
ตั้งแต่เรื่องนั้นถูกเปิดเผยเมื่อวานจนถึงตอนนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มองมู่นวลนวลอย่างจริงจัง
ความสามารถในการทนรับความกดดันของเธอฟื้นตัวเร็วกว่าที่เขาคิดไว้ ทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้อย่างหนัก
มู่นวลนวลเข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวมาก
นั่นหมายความว่าการที่เธอจะพึ่งพาเขานั้นลดลงมาก
บางทีเขาอาจจะผิดตั้งแต่แรก
เขากับซือเฉิงยวี่โตมาด้วยกัน และความสัมพันธ์ของเขากับซือเฉิงยวี่ก็ลึกซึ้งมาก
ครั้งที่สองที่ซือเฉิงยวี่ตกเป็นหัวข้อประเด็นร้อน โม่ถิงเซียวก็สืบรู้แน่ชัดถึงสถานะของซือเฉิงยวี่
ถึงแม้ว่าในใจของเขาจะยังเชื่อในตัวซือเฉิงยวี่ แต่เขาก็รู้ชัดเจนดีว่าคนอย่างซือเฉิงยวี่ก็ทำเรื่องแบบนั้นได้ และไม่ใช่เพราะเขาเลอะเลือนชั่วขณะ
นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น
และสิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาก็เป็นไม่ตามที่เขาคาดไว้
เขาปล่อยซือเฉิงยวี่ไป และไม่ได้หงายไพ่ที่อยู่ในมือ เพราะอยากจะรู้ว่าซือเฉิงยวี่จะทำอะไรได้มากแค่ไหน
และเขาคาดไว้ว่าซือเฉิงยวี่จะลงมือกับมู่นวลนวลที่เป็นจุดอ่อน แต่ไม่คิดว่าเขาจะโหดร้ายได้ถึงขนาดนี้
เขาคิดว่าต่อให้ซือเฉิงยวี่ใช้มู่นวลนวลเพื่อจัดการกับเขา เขาก็จะสามารถรับมือได้อย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้เขาพบว่า
ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็สามารถรับมือได้ แต่มู่นวลนวลไม่สามารถรับได้
ดูเหมือนไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็รู้สึกว่ามันยังไม่ดีพอ
มู่นวลนวลรู้สึกว่าผู้ชายที่อยู่ข้างๆกำลังมองตัวเองอยู่
เธอเม้มริมฝีปาก และหันกลับมามองเขา:“คุณ……”
โม่ถิงเซียวจับมือของเธอไว้ ในขณะนี้คิ้วที่หล่อเหลานั้นเย็นชาอยู่ตลอด แต่กรามที่เกร็งไว้แน่นแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ของเขาในตอนนี้
ดูเหมือนว่ากำลังตึงเครียดและไม่สบยใจ แต่หลังจากดูดีๆแล้วก็พบว่าไม่มีอะไร
“คุณชาย คุณหญิง ถึงแล้วครับ”
เสียงของซือเย่ดังมาจากด้านหน้า
มู่นวลนวลได้สติกลับมา และเอามือของตัวเองออกจากมือของโม่ถิงเซียว
“ถึงแล้ว” เธอเหลือบไปมองโม่ถิงเซียว ลงจากรถและเดินนำไปที่คฤหาสน์ก่อน
ซือเย่สังเกตเห็นท่าทางและความสัมพันธ์ของโม่ถิงเซียวกับมู่นวลนวลที่ดูแข็งทื่อ
เขางจากรถและพบว่าโม่ถิงเซียวยังคงนั่งอยู่ในรถ เขาจึงเรียกอย่างระมัดระวัง:คุณชาย……”
โม่ถึงเซียวยกมือขึ้นบอกใบ้ไม่ให้เขาพูด
ซือเย่จึงหันหลังจากไป
หลังจากที่ไม่ได้กลับมาคืนหนึ่ง เมื่อมู่นวลนวลก้าวเข้ามาในคฤหาสน์ ก็รู้สึกเหมือนกับว่าอยู่คนละโลก
เมื่อกลับมาถึงที่ห้อง เธอก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา
เรื่องนี้ร้อนแรงมาก โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับโม่ถิงเซียวและซือเฉิงยวี่ หัวข้อนั้นก็จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่จู่ๆข่าวและหัวข้อประเด็นร้อนก็ถูกระงับ และเนื้อหาก็กลับตาลปัตร
แต่เมื่อเธอเห็นหัวข้อประเด็นร้อนล่าสุด เธอก็รู้สึกสับสน
#กูจื่อหยานประกาศเปิดตัวเป็นเกย์#
กูจื่อหยาน……เปิดตัวเป็นเกย์???
มู่ถิงนวลตะลึงอยู่นานก่อนที่จะตอบสนองและเดินลงไป
มู่นวลนวลตะลึงอยู่นานก่อนที่จะตอบสนองและถือโทรศัพท์ลงไปหาโม่ถิงเซียวที่ชั้นล่าง
บอดี้การ์ดบอกมู่นวลนวลว่าโม่ถิงเซียวอยู่ที่ห้องหนังสือ
เมื่อเธอผลักประตูเข้าไปก็ได้กลิ่นควันบุหรี่ในห้องหนังสือ
“เปิดตัวเป็นเกย์……”
มู่นวลนวลสำลักควันและไอ
เธอเห็นโม่ถิงเซียวยืนหันหลังสูบบุหรี่อยู่ที่หน้าต่าง หลังจากได้ยินเสียงเขาก็หันหน้ามาและตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบดับบุหรี่ในมือทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นโม่ถิงเซียวสูบบุหรี่
โมถิงเซียวพูดอย่างอึมครึม:“เป็นอะไร?”
“กูจื่อหยานเผยตัวตนแล้ว?” มู่นวลนวลพูดจบก็คิดได้ว่าโม่ถิงเซียวเป็นคนตรงไปตรงมา อาจจะไม่รู้ว่า “เปิดตัวเป็นเกย์” คืออะไร เธอจึงอธิบายว่า:“เปิดตัวเป็นเกย์ก็คือ……”
“ฉันรู้” โม่ถิงเซียวพูดขัดจังหวะเธอเบาๆ:“ฉันให้พวกเขาซื้อหัวข้อประเด็นร้อน”
“กูจื่อหยานเป็นเกย์คือหัวข้อประเด็นร้อน?”
“อืม”
มู่นวลนวล:“……”
โม่ถิงเซียวหันกลับมาและเดินไปที่หลังโต๊ะทำงาน และอธิบายกับมู่นวลนวลต่อว่า:“เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของชาวเน็ตพวกนั้น จากนั้นอีกสองวันค่อยแถลงข่าว”
น้ำเสียงของเขาสงบนิ่งและราบเรียบ
มู่นวลนวลเงียบไปชั่วขณะและถามเขาว่า:“กูจื่อหยานไม่ขัดข้อง?”
โม่ถิงเซียวได้ยินอย่างนั้นก็ตะลึง จากนั้นเขาก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า:“ไม่เห็นด้วยแล้วยังไง?”
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าที่โมถิงเซียวทำอย่างนี้เพื่อปกปิดกระแสของเธอ แต่เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะเห็นใจกูจื่อหยาน
ที่เป็นเพื่อนกับโม่ถิงเซียวคนที่โหดร้ายกินคนแล้วไม่คายกระดูก ตลอดทั้งชีวิตของกูจื่อหยานคงไม่เคยสั่งสมบุญกุศลแน่ๆ
และในขณะนี้โทรศัพท์ของมู่นวลนวลก็ดังขึ้น
มู่นวลนวลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู แล้วทำปากบอกใบ้ว่า:“กูจื่อหยาน”
“อ่อ” โม่ถิงเซียวตอบและยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์ของเธอเพื่อวางสาย
เรียบง่ายและป่าเถื่อน โดยไม่ลังเลและรู้สึกผิดแม้แต่น้อย
“……”
ทันใดนั้นมู่นวลนวลก็รู้สึกอึดอัดใจ
เธอสูดหายใจเข้าลึก:“โม่ถิงเซียว ขอแค่มันมีประโยชน์กับคุณ และเป็นคนที่สามารถใช้งานได้ ไม่สนว่าจะเป็นเพื่อนหรือญาติ คุณก็ไม่ใจอ่อนเลยใช่ไหม?”
เมื่อคำพูดนั้นออกมา บรรยากาศในห้องก็เย็นลงทันที
สีหน้าของโม่ถิงเซียวเปลี่ยนเป็นเศร้าหมอง และภายในห้องเต็มไปด้วยความกดอากาศต่ำที่ทำให้หายใจไม่สะดวก
หลังจากนั้นไม่นานโม่ถิงเซียวก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ:“ในใจเธอ คิดว่าฉันเป็นแบบนั้นหรอ?”
“ไม่อย่างงั้นล่ะ?” มู่นวลนวลเม้มริมฝีปากเป็นการแหนบแนม
เธอไม่ได้เสียจ แต่มีอุปสรรคในใจที่ข้ามไปไม่ได้
โม่ถิงเซียวเม้มริมฝีปากแน่น สีหน้าของเขาเหมือนเห็นพายุที่กำลังจะมาถึง
มู่นวลนวลคิดว่าเขาจะโกรธ จึงยื่นมือออกไปโบกสะบัด
แต่สุดท้ายโม่ถิงเซียวก็ลดสายตาลงและพูดว่า:“ต่อไปเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”
น้ำเสียงของเขาสงบนิ่งเป็นปกติ แต่คำพูของเขาดูหนักแน่น
เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก?
จะไม่หลอกใช่เธออีก แล้วก็จะไม่ทำให้เธอเป็นหัวข้อประเด็นร้อนอีกใช่ไหม?
ดวงตาของเธอมีความสงสัยอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้โม่ถิงเซียวอึดอัดใจ เขาเดินไปตรงหน้าเธอ เขาจับเธอเข้าไปในอ้อมแขนของเขา และก้มลงจูบเธอ
เมื่อคืนเขาไม่ได้หลับตาเลยแม้แต่น้อย ไม่ใช่เพราะไม่มีเวลานอน แต่ในห้องไม่มีมู่นวลนวลอยู่ เขาจึงหลับไม่ลง
เขาประเมินตำแหน่งของมู่นวลนวลในใจของเขาต่ำเกินไป
……
เมื่อข่าวที่กูจื่อหยานเปิดตัวเป็นเกย์ออกมา สื่อมวลชนก็แย่งกันเสนอข่าว และกระแสก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อมู่นวลนวลกำลังปัดโมเมนต์ ก็เจอโมเมนต์ของเซินเหลียง:โอ้ ผู้ชาย!
มู่นวลนวลส่งข้อความหาเซินเหลียง:“หัวข้อประเด็นร้อนกับข่าวเป็นเรื่องไม่จริง อีกไม่นานกูจื่อหยานก็จะแถลงข่าว”
เซินเหลียงตอบกลับมู่นวลนวล:“เพศเดียวกันถึงจะเป็นรักแท้ เธอลองพิจารณาฉันหน่อยไหม?”
มู่นวลนวล:“……เธอถูกกระทบกระเทือนจิตใจจนปัญญาอ่อนแล้วหรอ?”