รถหยุดอยู่ที่ตรงหน้าคลับลับระดับไฮเอนด์
มู่นวลนวลชะงักเมื่อกำลังจะปลดเข็มขัดนิรภัย หันหน้าไปมอง “โม่เจียเฉิน” อย่างสงสัย : “กินข้าวที่นี่หรอ?”
เขาแน่ใจไหมว่าไม่ได้มาที่นี่เพื่อเล่น?
โม่เจียเฉินมองเธอ และเปิดประตูลงจากรถ
มู่นวลนวลได้แต่ลงตามเขาไป
ทั้งสองคน คนหนึ่งนำหน้าคนหนึ่งตามหลัง เดินเข้าไป เมื่อโม่เจียเฉินที่อยู่ด้านหน้าเดินเข้าไป เด็กเสิร์ฟก็ให้ความเคารพเขาเป็นอย่างมากและคำนับลงพูดว่า : “ยินดีต้อนรับครับ” แต่เมื่อถึงตาของมู่นวลนวลเขาก็ชะงัก
เด็กเสิร์ฟยกคางขึ้นและมองไปที่เธอ ดวงตาของเขาฉายแววความดูถูก : “เธอมาทำอะไร?”
มู่นวลนวลก้มมองดูการแต่งตัวของตัวเอง มีความดูไม่ได้จริงๆ แต่เธอยังคงพูดอย่างเย็นชาว่า : “กินข้าว”
เธอพูดจบก็เดินไป แต่เด็กเสิร์ฟไม่ให้เธอเข้าไป : “ที่นี่ของเราคือสโมสรระดับสูง ไม่ใช่ใครก็ได้สามารถเข้าไปได้”
แต่เขาเคยเห็นมาเยอะผู้หญิงที่มาที่นี่คือต้องการอยากจะหาความร่ำรวยจากเสี่ยเลี้ยง แต่ส่วนใหญ่ผู้หญิงพวกนั้นสวยงาม และคนนี้ที่หน้าตาขี้เหร่แถมยังแต่งตัวซอมซ่อ ปล่อยให้เธอเข้าไปก็เหมือนการดึงคลับให้ต่ำลงมา
มู่นวลนวลแบะปาก เธอก็ไม่ได้อยากเข้าไป
หลังจากโม่เจียเฉินเข้าไป ก็พบว่ามู่นวลนวลไม่ได้ตามมา เมื่อหันกลับไปตามหาเธอ ก็ได้ยินคำพูดของเด็กเสิร์ฟพอดี
เขาเดินเข้าไป ก็ยื่นมือไปดึงมู่นวลนวลมาข้างหลังเขา ใบหน้านิ่งมองไปที่เด็กเสิร์ฟคนนั้น : “ชื่ออะไร?”
คนที่เข้าออกสโมสรนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนร่ำรวยผู้สูงศักดิ์ พวกเขาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่นี่ก็ต้องเป็นคนที่มีสายตาที่ดีมากๆ
โม่เจียเฉินที่มีร่างสูงใหญ่ ออร่าแข็งแกร่ง เด็กเสิร์ฟตกใจในทันทีและพูดอย่างติดอ่าง : “อา…..อาปิง”
โม่เจียเฉินได้ยิน เพียงแค่เหลือบมองเขาอย่างเย็นชาและดึงมู่นวลนวลเข้ามาและไม่มีใครขัดขวาง
เขาเดินอย่างเร็วด้วยขาที่สูงยาว มู่นวลนวลเตี้ยกว่าเขามาก ก็เลยอยู่หลังเขาครึ่งก้าว
ไม่เหมือนกับนิสัยดื้อด้านของเขา มือของเขาที่ใหญ่และอบอุ่นทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจ มู่นวลนวลเงยหน้าขึ้นมองไหล่กว้างด้วยความฉงน
นอกจากเซินเหลียง นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนปกป้องเธอแบบนี้
ติ้ง~~
เสียงเปิดประตูลิฟต์ดึงความคิดของเธอกลับมา
เธอเงยหน้าขึ้น ก็พบว่าไม่รู้ว่าโม่เจียเฉินหยุดเดินตอนไหน มองเธอด้วยสายตาที่คาดเดาไม่ได้
มู่นวลนวลรีบดึงมือที่เขาจับไว้กลับมาเหมือนไฟฟ้าช็อต แล้วก็ลุกลี้ลุกลนเดินเข้าไปในลิฟต์
เมื่อกี้เธอคาดไม่ถึงว่าถูก “โม่เจียเฉิน” จับมือมาตลอดทาง
หลังจากโม่เจียเฉินเข้าไปในลิฟต์ มู่นวลนวลก็ไปยืนในมุมที่ไกลจากเขานิดนึง
โม่เจียเฉินมองเธอด้วยสายตาเย็นชา น้ำเสียงเย็นชา : “หลบไปไกลๆทำไม กลัวฉันจะกินเธอหรอ?”
หมู่นวลนวลหันหน้าหนีไม่สนใจเขา
……
ไม่ง่ายเลยกว่าจะถึงห้องอาหารส่วนตัว แต่เมื่อถึงแล้วมู่นวลนวลคิดว่าในที่สุดก็สามารถโล่งอก แต่คิดไม่ถึงว่าในห้องอาหารยังมีคนอื่นด้วย
ชายชุดสูทลายทาง ใส่แว่นตากรอบสีทองที่สง่างามมาก เขามีหน้าตาที่หล่อเหลาคิ้วอ่อนโยนและมีอารมณ์ที่โดดเด่น มองแวบแรกก็รู้ว่าเขาร่ำรวยสูงศักดิ์มาก
ถ้าหากคนที่ก้าวเข้าไปในวงการบันเทิงนี้ ต้องรู้จักผู้ชายคนนี้เขาเป็น CEO ของ Shengding Media–กูจื่อหยาน!
กูจื่อหยานรู้สึกถึงการจ้องมองของเธอ เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ ยิ้มอย่างอ่อนโยน
โม่เจียเฉินเดินมาที่หน้าโต๊ะอาหาร ดึงเก้าอี้ออกมา ให้มู่นวลนวลนั่งบนเก้าอี้ เงยหน้าไปมองกูจื่อหยาน อย่างชัดเจน : “พี่สะใภ้ของฉัน”
กูจื่อหยานตกใจไปพักหนึ่ง ดูเหมือนว่าจะได้ยินอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ แต่รอยยิ้มใต้ตาลึกเล็กน้อย แต่น้ำเสียงไม่เบา : “คุณหญิงโม่”
มู่นวลนวลรู้สึกบรรยากาศแปลกๆ แต่ยังคงเรียกเขาอย่างมีมารยาท : “คุณชายกู”
ผู้หญิงขี้เหร่คนนี้รู้จักกูจื่อหยาน?
โม่เจียเฉินเลิกคิ้ว โยนเมนูลงไปตรงหน้าเธอ “ปั้ง” น้ำเสียงค่อนข้างเย็นชา : “สั่งอาหาร”
มู่นวลนวลก็ไม่รู้ว่าตัวเองไปยั่วยุเขาตรงไหน เพราะยังมีคนอื่นอยู่ ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ก้มหน้าตั้งใจมองเมนู
ติ้ง~~
เสียงข้อความโทรศัพท์
โม่เจียเฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พบว่ากูจื่อหยานส่งข้อความหาเขา : “แสดงละครกับภรรยาของคุณอยู่เหรอ?”
แตนแรกโม่เจียเฉินมีความไม่สบายใจเพราะว่ามู่นวลนวลรู้จักกูจื่อหยานเลย พอดูข้อความแล้ว เขายกขาขึ้นเตะที่ขาของกูจื่อหยาน
“อื้ม……” กูจื่อหยานคิดไม่ถึงว่าโม่ถิงเซียวจะลงมืออย่างโหดร้าย เขาคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด แต่เพราะมู่นวลนวลอยู่ที่นี่ เขาจึงทำได้เพียงแค่อดทน
เมื่อรู้สึกว่าโต๊ะอาหารสั่น มู่นวลนวลเงยหน้ามองโม่เจียเฉินอย่างเหม่อลอย
“สั่งอาหารเสร็จแล้วเหรอ?” โม่เจียเฉินเข้าไปใกล้เธอ แขนวางที่บนหลังเก้าอี้ของเธอ ท่าทางสนิทสนม
มู่นวลนวลไม่สบายใจ พูดว่า: “สั่งเสร็จแล้ว” ก็เอาเมนูไปวางไกลๆ
ตอนกินข้าว “โม่เจียเฉิน” ไม่ได้ทำเกินกว่ากฎเกณฑ์และยังคงพูดคุยกับกูจื่อหยานเกี่ยวกับงาน
ไม่ยากที่จะดูออก สองคนสนิทสนมกันพอสมควร
มู่นวลนวลก้มหน้าก้มตากิน กินเสร็จก็หาข้ออ้างออกไป
เมื่อเธอออกไป กูจื่อหยานถอนหายใจด้วยความโล่งอก ถอดแว่นเปลี่ยนภาพลักษณ์ที่อ่อนโยนก่อนหน้านี้และพูดอย่างบ้าคลั่ง : “นายกลับบ้านและเล่นบทบาทสมมติกับภรรยาของนายมันสบายมาก ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวในบริษัทยุ่งจนแทบจะไม่ได้พูดอะไร ใส่แว่นตาทุกวันเพื่อเสแสร้งทำเป็นผู้ใหญ่และมั่นคง ไม่สนใจแล้ว ! ฉันจะลาหยุด!”
โม่เจียเฉินไม่แยแส : “ท่านประธานของ Shengding Media จะลาหยุดอะไร ขนาดคนบ้านนอกคอกนาอย่างมู่นวลนวลยังรู้จักนาย นายควรขยันทำงานไม่ใช่หรอ?”
“ถุย! ฉันมีคนติดตามหลายสิบล้านคนใน Weibo คนรู้จักฉันเยอะแยะ นอกจากนี้ นายยังเป็นบอสใหญ่ของ Shengding Media ไม่ใช่หรอ? ฉันแค่ทำงานให้นาย! ”
กูจื่อหยานยิ่งพูดยิ่งโกรธ : “ถ้านายยังไม่กลับไปทำงานที่บริษัทอีก ฉันจะขึ้นไปบนดาดฟ้าของตึก Shengding Media โดดลงมา ทำข่าวใหญ่ให้นาย”
ข่มขู่นี้ กูจื่อหยานต้องพูดทุกวันวันละ 3 รอบ มู่เจียเฉินไม่ได้จริงจังกับมันเลย
เขาดื่มน้ำช้าๆแล้วถามว่า : “ฝ่ายบุคคลไม่ได้รับประวัติส่วนตัวสมัครงานของมู่นวลนวลจริงๆ?”
กูจื่อหยานพูดอย่างงุนงง : “ฉันให้เลขาไปถามทุกวัน ไม่มีจริงๆ”
พูดจบ เขาทำสีหน้าแปลกใจถามโม่เจียเฉิน : “คุณหญิงโม่หน้าตาแบบนี้ นายยังกินลงเหรอ?”
โม่เจียเฉินเหลือกตา มองเขาอย่างเย็นชา : “แบบไหน?”
กูจื่อหยานกลืนน้ำลายและพูดอย่างประจบประแจง : “สะอาดและสวยงาม สวยงามและมีน้ำใจ…..”
โม่เจียเฉิน : “สายตานายพิการ?”
กูจื่อหยาน : “……”
พูดไม่ได้ว่ามู่นวลนวลขี้เหร่ และก็พูดไม่ได้ว่าสวย แบบนี้คือแบบไหน?
เขารู้สึกว่า ตั้งแต่หลังจากโม่ถิงเซียวแต่งงาน ก็มีความแปลกๆ
ก่อนจะไป โม่ถิงเซียวเหมือนคิดอะไรได้ขึ้นมาทันที สั่งกูจื่อหยาน : “เด็กเสิร์ฟในสโมสรคนนั้นที่ชื่ออาปิง ไล่ออก”
……
ตอนกลับคฤหาสน์ คือตอนกลางวัน
มู่นวลนวลและมู่ถิงเซียวตามกันเข้าไป
เธอเข้ามาก็ถาม : “คุณชายของพวกนายอยู่ไหม?”
“ไม่อยู่ครับ” หลังจากฝึกอบรมมาแล้ว บอดี้การ์ดจะไม่มีความกดดันทางจิตใจเมื่อพวกเขาโกหก
กลับถึงห้อง มู่นวลนวลนอนคิดอยู่บนเตียงว่าสักพักโม่ถิงเซียวกลับมาจะถามเรื่องสัมภาษณ์ เธอจะรับมือยังไง
แต่ไม่รู้สึกตัว ก็คิดถึง “โม่เจียเฉิน”
วันนี้เขาผิดปกติมาก อยู่ๆก็ดีกับเธอมาก…..