ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – ตอนที่ 62 ผมยังไม่ได้ทำอะไรคุณซะหน่อย

สายตาของโม่ถิงเซียว จับจ้องไปที่ร่างของเธอ แม้แต่รายละเอียดต่างๆบนในหน้า ก็ยังมองอย่างตั้งใจ

เวลาที่เขามองมู่นวลนวล มู่นวลนวลก็จะมองกลับไปเช่นกัน ทั้งสองคนมองหน้ากันอย่างเงียบๆ ราวกับว่าเป็นการประลองจ้องตากัน

ในที่สุด มู่นวลนวลก็เป็นคนที่หลบสายตาไปก่อน

“โม่เจียเฉิน ” ก็คือโม่ถิงเซียวเหรอ?

ไม่คิดเลยว่า เรื่องมันจะแบบนี้

โม่ถิงเซียวมองไปที่ใบหน้าที่เปลี่ยนไปตามอารมณ์ของเธอ ในใจก็รู้ว่าที่เขาพูดออกมาแบบนี้มันดูตรงไปหรือป่าว

เขาถอนสายตากลับไป ค่อยๆจิบน้ำอย่างช้าๆ แล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “ ถ้าฉันพูดว่าไม่ใช่ แล้วเธอจะเชื่อฉันหรอ? “

มู่นวลนวลรู้ได้ถึงอารมณ์ขันของเขาก็โล่งใจ “ ไม่อย่างแน่นอน นายคิดหรอว่าฉันจะโดนหลอกได้ง่ายๆ? “

โม่ ถิงเซียวตอบอย่างเฉยๆไปว่า ” ไม่ใช่ ”

ที่จริงแล้วเขาไม่คิดเลยจะหลอกเธอเลย แต่เธอกลับเป็นคนที่หลอกง่ายขนาดนี้

หลังจากที่กินข้าวเสร็จก็กลับไปอยู่ที่ห้อง มู่นวลนวลคิดถึงสิ่งที่โม่เจียเฉินพูด

เธอและโม่เจียเฉินที่พึ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าเขาเป็นคนที่ดื้อรั้นและเย่อหยิ่งคงไม่มีใครสามารถบังคับให้เขาไปแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาไม่ได้ชอบได้หรอก

ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนนี้ ตัวเธอหรือมู่หวันฉีจะต้องถูกเขาเลือกให้มาแต่งงานกับเขามาก็ตาม พวกเขาต้องตรวจสอบประวัติข้อมูลของพวกเธอทั้งสองคนก่อนแน่

และในตอนนั้นเธอช่างน่าเกลียดและดูไม่ฉลาดเอาซะเลย ส่วนมู่หวันฉีก็ใช้ชีวิตเสเพล มั่วสุมไปทั่ว ชอบหนีเที่ยวไม่เรียน พวกเธอจึงไม่เหมาะสมที่จะเป็นคู่ครองของเขา

แต่ถ้าหากว่า โม่เจียเฉิน คือโม่ถิงเซียวจริงๆแล้วละก็ เขาแทบจะไม่ต้องกังวลเลยว่าจะต้องถูกบังคับให้แต่งงานกับเธอหรือมู่หวันฉี

โม่ถิงเซียวก็คือคนที่มีข้อเสียอยู่ไม่น้อย และเขาก็ทำตัวเฉยชาใส่มู่นวลนวลอีก แต่ในทางกลับกัน เรื่องนี้เป็นความจริงที่น่าเชื่อถือมากกว่า

หลังจากที่มู่นวลนวลได้วิเคราะห์เรื่องราวทั้งหมดก็รู้สึกโล่งใจ แล้วก็ถือเสื้อเข้าไปอาบน้ำ

หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ก็ออกมาได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

เธอไม่ได้สังเกตว่าเป็นใครที่โทรมาหาแต่เธอก็รับโทรศัพท์ไปแล้ว

” วันนี้แกโดดงานงั้นหรอ ”

เมื่อได้ยินเสียงอันดุดันของมู่ลี่หยาน มู่นวลนวลก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย แล้วจึงเปิดแฮนด์ฟรี วางโทรศัพท์ไว้บนเตียง จากนั้นเธอก็เช็ดผมไปพร้อมกับพูดว่า ” ข่าวของพ่อนี้ช่างดีจริงๆ เช้าวันนี้หนูออกไปแค่เดี๋ยวเดียวแล้วก็กลับมาบ้าน และนี้ก็เย็นแล้ว ทำไมพ่อถึงพึ่งจะว่ารู้ว่าหนูโดนงานล่ะ “

ในช่วงเช้า เธอออกไปกับผู้ชายคนหนึ่งเพื่อไปตรวจเช็คความต้องการสินค้าในท้องตลอด ผู้ชายคนนั้นอต้องเป็นคนที่ซุนเจิ้งหัวมาจัดการเธอเป็นแน่

ถ้าอย่างนั้นมู่หวันฉีที่มีนิสัยชอบหาเรื่องเธอ จะเป็นไปได้อย่างไรที่พึ่งจะมาบอกมู่ลี่หยานในตอนนี้?

มู่หวันฉีอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย แต่เมื่อรู้ว่าชายคนนั้นทำงานไม่สำเร็จ ก็เลยรีบวิ่งหาเรื่องไปฟ้องกับมู่ลี่หยาน

มู่หวันฉียังไม่ลดความพยายามที่จะจัดการกับเธอ

เรื่องครั้งที่แล้วที่คลับจื่อจิน เธอยังไม่ได้คิดบัญชีกับมู่หวันฉีเลย!

ในวันนั้นที่ห้องทำงานของมู่ลี่หยาน เธอจงใจพูดออกมาว่ามู่หวั่นฉีไปที่คลับจื่อจินมาใช่ไหม เขาเพียงต้องการลองดูปฏิกริยาของมู่หวั่นฉีว่าในวันนั้นขาได้ไปที่คลับจื่อจินจริงหรือไม่

แม้ว่าผู้บงการเรื่องนั้น นอกจากมู่หวันฉีแล้วคงจะเป็นใครไปไม่ได้ แต่เธอต้องการความแน่ใจ

มู่ลี่หยานที่ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่มู่นวลนวลทำในวันนี้ เมื่อได้ยินเสียงที่อวดดีของมู่นวลนวล ก็ทำให้ความโกรธในใจของเขารุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เขาตะโกนเสียงดังใส่โทรศัพท์ไปว่า “ มู่นวลนวล เธอกำลังคิดว่า เธอเป็นภรรยาคนเล็กของตระกลูโม่ไปแล้วหรือยังไง คิดว่าฉันจะสั่งสอนเธอไม่ได้งั้นรึ

มู่นวลนวลกล่าวออกมาอย่างเย็นชาว่า “ ไม่ใช่ค่ะ ถ้าพ่อต้องการจะมาสั่งสอนหนู จะตอนไหนพ่อก็สอนได้ทุกเมื่อ”

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เด็กจนโตมู่ลี่หยานก็ไม่สนใจเธอเลย นอกจากต้องการจะหลอกใช้เธอเท่านั้นถึงจะมานึกถึงเธอ

คำพูดของมู่นวลนวลทำให้มู่ลี่หยานพูดอะไรไม่ออก มีแต่คำว่า “ดี” ที่พูดออกมาอยู่หลายครั้ง ” ดี ดี! วันจันทร์คอยมาคุยกันที่บริษัท!”

หลังจากพูดจบเขาก็วางสายทันที

มู่หวันฉีถือแก้วน้ำมาวางไว้ตรงหน้ามู่ลี่หยาน ” พ่อคะ นวลนวลพูดว่าอะไรถึงได้ทำให้พ่อโกรธได้มากขนาดนี้ ”

“ พ่อคิดว่า มันคงนึกว่าไม่มีใครสามารถสั่งสอนมันได้แล้วล่ะมั้ง ถึงกับไม่เห็นใครอยู่ในสายตาแบบนี้”มู่ลี่หยานโกรธมากจนตบโต๊ะไปอย่างแรง

มู่หวั่นฉียื่นมือออกมาลูบหน้าอกของพ่อ เพื่อลดอารมณ์ความโกรธและพูดปลอบไปว่า “ พ่อ หนูคิดว่าครั้งนี้นวลนวลทำเกินไปแล้ว พ่อทำดีกับเธอขนาดไหน แต่เธอกลับไม่เห็นพ่ออยู่ในสายตา หนูว่าเราควรให้บทเรียนกับเธอบ้างนะคะ “

เมื่อมู่ลี่หยานได้ยินเช่นนั้น ก็ครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วค่อยๆพยักหน้า

เกี่ยวกับเรื่องที่มู่ลี่หยานนัดให้เธอไปพบที่บริษัทในวันจันทร์นั้น มู่นวลนวล คาดการไว้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ต้องไม่จบง่ายๆ

ถ้าเธอกล้าไปที่มู่กรุ๊ปแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกลัวอีก

เซินเหลียง ที่ถ่ายหนังอยู่ข้างนอก ส่วนมู่นวลนวลก็ไม่มีเพื่อนที่อยู่ในเมืองเซี้ยงไฮ้ วันหยุดสุดสัปดาห์เธอก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ได้แต่อยู่ในบ้านเขียนบทละคร

แน่นอนว่าเธอคงอยู่ในกรุ๊ปได้ไม่นาน อาชีพนี้จึงสำคัญกับเธอมาก และจะให้หลุดลอยไปไม่ได้

ช่วงสองวันนี้ โม่เจียเฉิน ไม่รู้ว่ากำลังยุ่งเรื่องอะไรอยู่ น้อยครั้งมากที่จะเห็นเขาอยู่ที่บ้าน ตลอดวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ไม่เคยเจอเขา แต่นี้ก็ทำให้ช่วยลดปัญหาให้กับเธอได้มาก

เช้าวันจันทร์.

เมื่อคืนช่วงใกล้จะเที่ยงคืนเธอได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถยนต์ เธอจึงเดาว่า “โม่เจียเฉิน” น่าจะอยู่ที่บ้านด้วย

ดังนั้น เมื่อตอนที่เธอทำอาหารเช้า เธอจึงทำสองชุด

เมื่อเธอยกอาหารเช้ามาถึงทางเข้าห้องอาหาร เธอก็เห็น “โม่เจียเฉิน” ที่อยู่ในชุดสูทนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว

นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเธอได้พบกันอย่างเป็นทางการ หลังจากอาหารค่ำเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

มู่นวลนวลยังรู้สึกไม่พอใจกับสิ่งที่เขาพูดในวันนั้น เธอจึงยกอาหารเช้าของตัวเองเพียงชุดเดียวมานั่งที่โต๊ะอาหาร แล้วมองไปที่เขาพูดว่า “ อาหารเช้าของนายอยู่ในห้องครัว นายก็ไปยกมาเองซิ “

โม่ถิงเซียวไม่ได้พูดอะไร สายตาของเขาจ้องมองไปที่อาหารเช้าของเธอ

อาหารเช้าที่เธอทำนั้นช่างเรียบง่าย มีเพียงโจ๊กและแพนเค้กไข่

มู่นวลนวลรู้สึกถึงสายตาของเขาที่จ้องมองมา เหมือนกับมีภาพลวงตาว่าเขาจะมาคว้าอาหารของเธอไป

ดังนั้นเธอจึงก้มศีรษะลงไปกัดแพนเค้กไข่ เพื่อเป็นการจับจองว่าจะได้ไม่ถูกแย้งไปกิน

หลังจากที่เธอได้ทำสิ่งนั้น เธอก็รู้ว่าตัวเองช่างปัญญาอ่อนซะจริง

แต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่า โม่เจียเฉินนั้น จะปัญญาอ่อนยิ่งกว่าเธอ

เขาลุกขึ้นยืนและใช้มือที่ยาวของเขา เอื้อมไปหยิบอาหารที่อยู่ตรงหน้าเธอ มาวางไว้ที่ด้านหน้าเขา

ไม่เพียงแค่นั้น เขาก็กัดไปที่แพนเค้กไข่ชิ้นนั้นที่เธอได้กัดไว้ก่อนหน้าแล้ว

มู่นวลนวลที่ไม่เคยได้สัมผัสไกล้ชิดกับเพศตรงข้ามเลยสักครั้งก็ถึงกลับหน้าแดง “ นาย นายนี่มันหน้าด้าน! “

โม่ถิงเซียววางตะเกียบลง แสดงสีหน้าที่นิ่งและจริงจัง “ ผมยังไม่ได้ทำอะไรคุณซะหน่อย ทำไมคุณถึงมาด่าผม? “

มู่นวลนวล “… ”

เธอพูดอะไรไม่ออก ได้แต่เดินหันกลับไปที่ห้องครัวเพื่อกินอาหารเช้าที่เหลืออีกชุด และกินอาหารอยู่ภายในห้องครัวจนเสร็จ แล้วจึงค่อยออกมา

เมื่อเธอออกมา โม่ถิงเซียว มองเธอด้วยความประหลาดใจ

มู่นวลนวลที่รีบเดินออกมาอย่างรวดเร็วเหมือนกับลมพัด โม่ถิงเซียว ได้แต่มองตามไปจนสุดสายตา แล้วก็อดที่ยิ้มออกมาไม่ได้

แม้ว่าสองวันนี้เขาจะยุ่งมาก แต่เขาก็ยังคิดถึงเรื่องการมาของมู่นวลนวลในวันศุกร์ที่ผ่านมา

มู่หวันฉีช่างมีจิตใจที่โหดเหี้ยม เธอจะต้องพยายามหาวิธีมาจัดการกับมู่นวลนวลอย่างแน่นอน ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง เขาจะไม่ลงมือ เพราะมู่นวลนวลคงจะที่ชอบใช้ปัญญาในการต่อสู้มากกว่า และมันก็น่าสนใจมากทีเดียว

นี่คือสิ่งที่เขาคิดอยู่ในใจ แต่การตอบสนองของร่างกายนั้นตรงกันข้าม เขาลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: "มันน่าเกลียดเกินไป" เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: "ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย" เธอจ้องเขา : "คุณ…คุณทำไม่ได้ … " ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: "ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset