เมื่อมาถึงคฤหาสน์ มู่นวลนวลก็รีบเข้าไปดูอินเตอร์ก่อนว่ามีข่าวอะไรที่เกี่ยวข้องกับเธอหลุดออกมาบ้าง
เธอเลื่อนไปมาดูอยู่สักพักก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไร แล้วเธอก็ออกไปทำอาหารที่ห้องครัว
เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น โม่ถิงเชียวก็ยังคงไม่มาปรากฏตัวให้เห็นอีกตามเคย ส่วน “โม่เจียเฉิน”ก็ไม่รู้ว่าหายหัวไปไหน
ในตอนนั้นเองเธอก็รู้สึกว่าทุกครั้งที่ “โม่เจียเฉิน”อยู่ที่บ้าน โม่ถิงเซียวก็จะยุ่งมาก และมักจะไม่กลับมากินข้าวที่บ้าน
มู่นวลนวลส่ายหัว แล้วคิดว่าตัวเองน่าจะคงถูก “โม่เจียเฉิน”เอาเปรียบจนดูเหมือนคนโง่ แต่เมื่อเขาไม่อยู่ที่บ้าน เธอกลับรู้สึกแปลกๆ
วันต่อมา
ซือเย่ขับรถมารับเธอที่หน้าประตูตรงตามเวลา เพื่อพาเธอไปส่งที่ทำงาน บริษัทมู่กรุ๊ป
ในขณะที่ซือเย่ขับรถกลับจวนจะถึงบ้าน เขามองเห็นไกลๆว่ามีรถคันหนึ่งจอดอยู่ที่คฤหาสน์
เมื่อเขาจอดรถ และกำลังจะเข้าประตู บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็พูดกับเขาว่า “ มีคนมาขอพบคุณชายครับ? ”
บอดี้การ์ดพยักหน้าพร้อมกับพูดต่อไปว่า “คุณผู้หญิงท่านนั้นบอกว่าเธอเป็นแม่ของนายหญิงครับ “
เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่ค่อยปกติของโม่ถิงเซียว ทำให้บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยบอดี้การ์ดมาหลายปีแล้ว และหลายปีมานี้ เขาไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชน จึงทำให้เขาไม่ค่อยมีคนรู้จัก ถึงแม้คนที่จะมาเยี่ยมหาเขานั้นก็มีน้อยนัก
ถึงแม้ว่าจะมีคนมาหาเขา แต่ก็ใช่ว่าจะพบเขาได้ง่ายๆ
เมื่อซือเย่ฟังจบ เขาก็เดินเข้าไป และเห็นเสี่ยวชูเหอนั่งอยู่บนโซฟา
เขาเคยช่วยโม่ถิงเชี่ยวเช็คประวัติของมู่นวลนวล ดังนั้นเขาจึงรู้จักเสี่ยวชูเหอเป็นอย่างดี
แต่ทว่าคุณนายมู่คนนี้เมื่อเปรียบเทียบกับรูปถ่ายแล้ว เธอคนนี้มีช่างมีเสน่ห์มาก แค่ดูก็รู้ว่าตอนที่เธอยังเป็นสาวๆต้องสวยมากทีเดียว
ซือเย่เรียกบอดี้การ์ดคนหนึ่งมาแล้วพูดว่า “ ไปเสิร์ฟน้ำชาให้คุณนายมู่ก่อน “
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็ไปหาโม่ถิงเซียวที่ห้องหนังสือ
ในช่วงสองวันนี้ โม่ถิงเซียวให้ซือเย่เป็นคนไปส่งมู่นวลนวลที่บริษัท หลังจากนั้นเขาค่อยไปที่ Shengding แต่ตอนนี้เขายังอยู่ที่ห้องหนังสือ
ซือเย่ผลักประตูเข้าไป และรายงานอย่างนอบน้อมไปว่า “ คุณชายครับ คุณนายมู่มาขอพบครับ “
“ คุณนายมู่ไหนกัน? “ โม่ถิงเซียวถามขึ้นมาโดยไม่เงยหน้า เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้สนใจว่าคุณนายมู่คนนั้นเป็นใคร
“ เขาคือแม่ของนายหญิงครับ “
โม่ถิงเซียวเงยหน้าขึ้นมาทันที เขาครุ่นคิดอยู่สักครู่ ก็พอจะเดาออกถึงจุดประสงค์การมาเยือนของเสี่ยวชูเหอ
ดวงตาของเขาเป็นประกายพร้อมกับพูดออกไปว่า “ ให้เธอขึ้นมาได้ “
……
เมื่อเสี่ยวชูเหอไปถึงห้องหนังสือของมู่ถิงเซียวแล้ว เธอคิดว่าเขาคงจะได้เห็นหน้าตาของโม่ถิงเซียว แต่กลับเห็นเขานั่งหันหลังให้เธอ
ซือเย่ที่ยืนอยู่ข้างๆจึงพูดว่า “ คุณนายมู่มีธุระอะไรก็พูดมาได้เลย “
เสี่ยวชูเหอจับที่ปลายเสื้อผ้าของเธอและพูดออกมาอย่างละอายใจว่า “ คุณชายโม่ วันนี้ที่ฉันมา ก็เพื่อมาขอโทษคุณชายแทนลูกสาวของฉันค่ะ “
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็อยากรู้ว่าโม่ถิงเซียวจะมีปฏิกิริยาอย่างไร แต่โม่ถิงเซียวกลับไม่พูดอะไรเลย เธอจึงพูดต่อไปว่า “ เป็นเพราะฉันที่ไม่ได้อมรมสั่งสอนนวลนวลให้ดีเธอถึงได้ทำเรื่องที่ผิดต่อคุณชาย ทั้งๆที่พวกคุณชายช่างมีน้ำใจให้เธอแต่งเข้าตระกูลมู่แทนพี่สาวของเธอได้ แต่ไม่คิดเลยว่านอกจากเธอจะไม่สำนึกแล้ว ในช่วงที่คุณชายไม่อยู่ที่บ้าน เธอก็ยังหลอกน้องชาย(ลูกพี่ลูกน้อง)ของคุณชายให้ทำเรื่องแบบนั้นอีก
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าโม่ถิงเชียวนั้นจะคิดยังไง เพราะแม้แต่ซือเย่ก็ยังรู้สึกมึนงงเช่นกัน
นายหญิงกับนายน้อย ช่วงนี้ก็ดีๆกันอยู่นิ? มีเรื่องอะไรหรอ?
มีแม่ที่ไหน ที่พูดใส่ร้ายลูกสาวต่อหน้าลูกเขยแบบนี้?
โม่ถิงเซียวรู้มาก่อนแล้วว่าความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวตระกูลมู่นั้นช่างซับซ้อน เสี่ยวชูเหอไม่เคยเป็นห่วงเป็นใยมู่นวลนวล ได้แต่สนใจมู่หวันฉีและพี่ชายของหมูหวันฉี วันนี้ทำให้เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วจริงๆ
เขากำลังจะพูดออกมา แต่จู่ๆประตูห้องก็ถูกผลักให้เปิดออกอย่างแรงจากคนที่อยู่ด้านนอก มีเสียงล้มลงกระแทรกกับพื้นดัง “โครม”
เมื่อโม่ถิงเชียวได้ยินเสียงนี้ ก็เดาได้ทันทีว่าเป็นใคร
เสี่ยวชูเหอและซือเย่ เมื่อได้ยินเสียงก็หันไปมอง เห็นมู่นวลนวลที่ตอนนี้ควรจะอยู่ที่บริษัท แต่กลับมายืนอยู่ที่ประตูด้วยสีหน้าเย็นชาดวงตานิ่งดุร้ายราวกับภูตผีปีศาจ
มู่นวลนวลจ้องมองไปที่เสี่ยวชูเหอพร้อมกับพูดว่า “ แม่ ลับหลังหนูแอบเอาเรื่องมาฟ้องสามีของหนู ทำไมไม่เรียกหนูมายืนยันด้วยละ ”
“ แก…….อยู่ที่บริษัทไม่ใช่หรอ? “ สีหน้าของเสี่ยวชูเหอก็ซีดไปทันที
เสี่ยวชุเหอรู้สึกว่าช่วงนี้มู่นวลนวลไม่เชื่อฟังเขาเหมือนแต่ก่อน สายตาของมู่นวลนวลที่จองมองมาในบางครั้งก็ทำให้เธอรู้สึกกลัว
“ ถ้าหนูไม่กลับมา หนูคงจะไม่ได้ยินว่าคุณลำบากทำเพื่อหนูมากแค่ไหน? “ มู่นวลนวลพูดออกมาพร้อมกับค่อยๆเดินเข้าไปที่เสี่ยวชูเหอ
เธอไปที่บริษัทแล้ว แต่ภารกิจของเธอวันนี้คือการออกมาสำรวจตลาดข้างนอก ตอนที่เธอกำลังออกมานั้นเธอก็พึ่งรู้ว่าตัวเองได้ลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน เธอจึงกลับมาเอาโทรศัพท์
เมื่อเธอเดินผ่านห้องหนังสือของโม่ถิงเซียว เธอก็ได้ยินเสียงของเซียวชูเหอ
“ คุณมาขอโทษสามีของหนูแทนหนู ? “ แล้วมู่นวลนวลก็หัวเราะออกมา สายตาที่ยิ้มแต่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น เธอพูดต่อไปว่า “ คุณเป็นแม่ที่ดีของหนูจริงๆ “
เสี่ยวชูเหอถอยหลังไปสองก้าวทั้งที่ไม่ทันตั้งตัว แล้วเธอหยิบของสิ่งหนึ่งออกมาพร้อมกับพูดว่า “ ฉัน……ฉันมีหลักฐาน! “
มู่นวลนวลพอมองไปก็พบว่า เธอกำลังถือเครื่องบันทึกเสียงเครื่องหนึ่ง
ที่แท้ ที่เสี่ยวชูเหอมาหาเธอเมื่อวานนี้ ก็เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง
มันคงจะยากจริงๆสำหรับคนขี้ขลาดอย่างเสี่ยวชูเหอที่กล้ามาหาโม่ถิงเซียว นี้ต้องเป็นมู่หวันฉีสั่งให้เสี่ยวชูเหอทำเป็นแน่ และสั่งเขาโดยที่ไม่ให้มู่ลี่หยานรู้
มู่ลี่หยานยังไว้ใจให้มู่นวลนวลช่วยเขาหาเงินร่วมลงทุนจากโม่ถิงเซียว ถ้ามู่ลี่หยานรู้เรื่องนี้เข้า คงจะไม่ปล่อยให้มู่หวันฉีทำเรื่องแบบนี้
เสี่ยวชูเหอกดปุ่มเริ่มเล่น เป็นเสียงบันทึกสั้นๆ แต่ในบันทึกนั้นมีประโยคที่สำคัญอยู่สองประโยค
“ เธอบอกแม่มาตรงๆ ว่าเธอกับน้องชาย(ลูกพี่ลูกน้อง)ของโม่ถิงเชียวอยู่ด้วยกันแล้วใช่ไหม ครั้งนั้นฉันเห็นพวกเธออยู่ด้วยกันบนรถ……”
“ มันเกี่ยวอะไรกับคุณ ถ้าหนูอยู่กับน้องชาย(ลูกพี่ลูกน้อง)ของเขาแล้วละก็ แม่จะทำไม? “
มู่นวลนวลจำสิ่งที่เธอพูดในตอนนั้นได้เป็นอย่างดี และประโยคหลังที่เขาพูดควรจะเป็น “ ทำไมครั้งนี้คุณถึงมาสนใจกับเรื่องของหนูด้วย? คุณมีจุดประสงค์อะไรกันแน่? ”
นี้เป็นการตัดแต่งเสียงบันทึกที่แย่มาก และเขายังเอามาใช้เพื่อใส่ร้ายเธออีก!
ก่อนหน้านี้มู่หวันฉีก็เคยแอบถ่ายเธอกับโม่เจียเฉินเพื่อเอาไปออกสื่อ แต่สุดท้ายข่าวนั้นก็ทำอะไรหมู่นวลนวลไม่ได้ จนพวกเขารู้สึกร้อนรน เลยต้องเอาเรื่องนี้มาบอกต่อหน้าโม่ถิงเซียว
“ คุณชายโม่ คุณฟังซิ นี้นวลนวลยอมรับมาแล้ว! ที่เธอกล้าทำเรื่องแบบนี้ ทั้งหมดก็เป็นเพราะว่าฉันที่แม่อบรมสั่งสอนลูกไม่ดี และฉันยินดีที่จะพาเธอกลับไปอบรมสั่งสอนให้ดีเสียใหม่ คุณชายโม่ คุณคิดว่าไง……”
มู่นวลนวลโกรธจนอยากจะหัวเราะ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่เงยหน้ามองไปที่โม่ถิงเซียว
ห้องหนังสือที่เต็มไปด้วยความเงียบ อยู่ๆดีก็มีเสียงแหบของชายคนนั้นดังขึ้นมา “เธอแต่งเข้ามาอยู่ในตระกูลโม่แล้ว เธอก็คือผู้หญิงของผมโม่ถิงเซียว และเรื่องของผู้หญิงของผม คนอื่นมีสิทธิ์มายุ่งตั้งแต่เมื่อไหร่มิทราบ ”
“ แต่ว่าเธอ…… ” เสี่ยวชูเหอคิดไม่ถึงว่าโม่ถิงเซียวจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้
เมื่อตอนที่เสี่ยวชูเหอออกมา หวันฉีบอกกับเธอว่า แค่เธอสามารถอัดเสียงมาได้ ก็จะทำให้โม่ถิงเซียวโกรธอย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้นแล้วโม่ถิงเซียวก็จะไล่มู่นวลนวลออกไปเป็นแน่……
แม้ว่ามู่นวลนวลจะรู้ดีว่าโม่ถิงเซียวคงไม่เชื่อว่าเสียงบันทึกนั้นเป็นของปลอม แต่คำพูดของเขาก็ยังทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นแล้วเธอก็พูดออกมาอย่างนุ่มนวลว่า “ ฉันขอโทษ เป็นเพราะเรื่องของฉันทำให้คนอื่นเข้ามารบกวนคุณ “