ตอนที่ 183 ล่อเสือออกจากถ้ำ
ปี้จูรับคำสั่งจากอันหลิงเกอคือไปที่ห้องเก็บของขวัญกับหลันซิน
นางเป็นคนฉลาดจึงรู้ว่าอันหลิงเกอต้องการล่อเสือออกจากถ้ำ นางจึงแกล้งทำเป็นเปิดกล่องสีเขียวหยกออกโดยมิได้ตั้งใจจนเผยให้เห็นรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมจากด้านในที่เปล่งประกายออกมา
รูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมมีขนาดเท่าฝ่ามือ ทำมาจากหยกชั้นดีเยี่ยง*หยกเหอเถียน มองแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่น
เมื่อได้เห็นหลันซินก็มีใบหน้าตกตะลึง กำลังมองต่ออีกสักนิดปี้จูก็ปิดฝาลงเสียแล้ว
“ของขวัญมิได้มีปัญหาอันใด ข้าว่าแล้วเชียวเจ้าคิดระแวงเกินไป”
หลันซินได้แต่ยิ้มลอกเลียนแบบท่าทางของหมิงซิน “ที่ข้าต้องระวังเพราะมิอยากให้เกิดเรื่องมิใช่หรือ งานวันเกิดครั้งแรกของท่านฮูหยินผู้เฒ่าหลังกลับมาอยู่ในจวนจักเกิดข้อผิดพลาดมิได้เด็ดขาด”
ปากพูดเยี่ยงนี้ ทว่าผู้ที่หวังให้คุณหนูผิดพลาดที่สุดก็คือพวกเจ้ามิใช่หรือ ?
ปี้จูนึกดูถูกในใจแต่มิได้แสดงออกทางใบหน้า นางพาหลันซินเดินออกมา ปากก็พูดมิหยุด “พรุ่งนี้ก็วันเกิดของท่านฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว ทว่าเสื้อผ้าของคุณหนูยังเตรียมมิเสร็จเลย”
ใบหน้าของนางฉายแววกังวลราวกับเพิ่งนึกอันใดขึ้นมาได้ นางจึงเด็ดดอกไม้ด้านข้างด้วยความโมโหและบีบจนแหลกคามือ ใบหน้ายังมีความโกรธ “ต้องโทษหลันซินคนสารเลวที่แอบนำเอาเสื้อผ้าของคุณหนูไปขายแลกเงินจนทำให้คุณหนูต้องตัดชุดใหม่ แม้ร้านเฉิงอีฝางจักเร่งมือแล้วก็ต้องรอถึงเย็นวันนี้จึงได้รับของ”
เดิมทีหลันซินมีรอยยิ้มที่คล้ายหมิงซิน แต่พอได้ยินปี้จูกล่าวเช่นนี้แล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าก็ชะงักค้างทันที
เสียดายก็แต่ตอนนี้นางปลอมตัวเป็นหมิงซินอยู่ แม้ได้ยินปี้จูด่า แต่นางก็มิสามารถด่ากลับ เพื่อป้องกันมิให้ปี้จูเกิดความสงสัยจึงต้องแกล้งพูดเออออ “เจ้ากล่าวถูกต้องแล้ว หลันซินทำเกินไปจริง ๆ โชคดีที่คุณหนูมีจิตใจดีงามจึงปล่อยนางไปโดยง่าย”
“หึ ! แม้คุณหนูมิจัดการนาง อย่างไรก็ต้องมีคนจัดการอยู่แล้ว ใครใช้ให้นางมือเท้ามิสะอาด อีกทั้งยังกล้าไปที่เรือนคุณหนูสามอีก สมควรแล้วที่โดนคุณหนูสามตีจนตาย ! ”
ปี้จูสบถออกมาอย่างแรง แววตามาดร้ายทำให้หลันซินต้องหลบไปอยู่ด้านข้างอย่างเสียมิได้
ข้ายังมิตายเสียหน่อย!
นางกล่าวเยี่ยงนี้อยู่ภายในใจ รอยยิ้มบนหน้ายิ่งดูยิ่งแข็งค้างขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบปั้นหน้าไว้มิอยู่
แต่พอนึกถึงคำสัญญาที่หลี่ซื่อให้ไว้ หลันซินจึงต้องแข็งใจอดทนต่อความโกรธที่มี
ขอเพียงนางทำเรื่องนี้สำเร็จ นางจักย้ายไปรับใช้ที่เรือนคุณหนูสามแล้วกลายเป็นสาวใช้ขั้นหนึ่งข้างกายคุณหนูสาม เมื่อถึงเวลานั้นนางก็จักแต่งกับพ่อบ้านในจวนแล้วใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย
เรื่องดีเยี่ยงนี้มิใช่ว่าจักเกิดขึ้นกับทุกคนได้หรอก
เมื่อคิดได้เยี่ยงนั้น มุมปากของหลันซินก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้น จากนั้นนางก็แกล้งตอบรับไปแบบมิใส่ใจ
เห็นหลันซินถูกบีบให้ยอมรับได้แล้ว ปี้จูจึงรู้สึกคลายความโกรธลงบ้างแล้วเลิกพูดเรื่องนี้
พวกนางเพิ่งเดินมาถึงหน้าเรือนก็พบคนของร้านเฉิงอีฝางนำชุดมาส่งให้อันหลิงเกอ
“แม่นางปี้จู นี่คือชุดของจวิ้นจู่ที่เพิ่งเย็บเสร็จเลยทีเดียว”
เรื่องที่อันหลิงเกอถูกฮ่องเต้แต่งตั้งเป็นจวิ้นจู่ได้กระจายออกไปนานแล้ว แม้ว่าคนจักกล่าวถึงเรื่องนี้มิมาก แต่คนของร้านเฉิงอีฝางที่ทำเสื้อผ้าให้เหล่าขุนนางชั้นสูงและพวกคนร่ำรวยย่อมได้ยินข่าวนี้เป็นธรรมดา
ใบหน้าของช่างตัดเย็บปรากฏรอยยิ้มประจบเอาใจ นางมิได้เรียกอันหลิงเกอว่าคุณหนูใหญ่แต่เรียกจวิ้นจู่ นี่ถือเป็นการชมเชยอย่างหนึ่ง
เมื่อได้ฟังเยี่ยงนั้นก็ทำให้ใบหน้าบึ้งตึงของปี้จูจางหายไป กลับมีรอยยิ้มที่มิว่าผู้ใดเห็นก็ต้องชอบปรากฏขึ้นบนใบหน้ากลม ๆ ของนาง “เป็นฮูหยินซุนนั่นเอง ข้ายังคิดว่าชุดของคุณหนูจักทำเสร็จมิทันตอนเย็นเสียแล้ว คาดมิถึงว่าเสร็จรวดเร็วกว่าที่คิดไว้ตั้งหลายชั่วยามเจ้าค่ะ”
“จวนพวกท่านจัดงานวันเกิดให้ท่านฮูหยินผู้เฒ่า แน่นอนว่าเสื้อผ้าของจวิ้นจู่ต้องรีบทำให้เสร็จ หากมีตรงจุดใดมิพอดีตัวยังสามารถแก้ไขได้ เมื่อถึงเวลาจักได้มิต้องวุ่นวาย” ฮูหยินซุนกล่าวไปพลางเดินมายืนอยู่ข้างกายปี้จูแล้วนำเสื้อผ้าในมือส่งให้ “รบกวนแม่นางปี้จูนำไปให้จวิ้นจู่ลองสวมใส่ด้วยเถิด”
“ฝีมือฮูหยินซุนย่อมเชื่อถือได้อยู่แล้วเจ้าค่ะ ” แม้ปี้จูกล่าวเช่นนั้นนางก็นำเสื้อผ้าเดินกลับเข้าเรือน
หลันซินรออยู่ด้านนอกและสั่งให้คนเชิญฮูหยินซุนไปดื่มชาที่ห้องโถง
เสื้อผ้าครั้งนี้มิมีปัญหาอันใด อันหลิงเกอลองชุดเสร็จจึงให้ปี้จูส่งฮูหยินซุนออกจากจวน
หลันซินฉวยโอกาสนี้แอบไปที่เรือนอันหลิงอีและแจ้งข่าวที่นางรู้
เมื่อได้ฟังแววตาของอันหลิงอีก็ไหววูบ ใบหน้าที่สวยงามเต็มไปด้วยความคิดชั่วร้าย “ที่แท้นางก็เตรียมรูปปั้นพระโพธิสัตว์อีกแล้วหรือ ? ”
เมื่อตอนที่ฮูหยินผู้เฒ่ากลับจวน อันหลิงเกอก็ทำตามความชอบของฮูหยินผู้เฒ่าคือมอบรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกขาวให้ วันนี้ฮูหยินผู้เฒ่าจัดงานวันเกิด อันหลิงเกอก็ยังเตรียมรูปปั้นหยกกวนอิมให้อีก ช่างมิมีความจริงใจเอาเสียเลย !
“เจ้าเห็นผิดหรือไม่ อันหลิงเกอคงมิโง่ถึงเพียงนั้นหรอก”
เมื่อนึกย้อนกลับไป นางและมารดาได้วางแผนเล่นงานอันหลิงเกอหลายครั้งก็ยังมิสำเร็จ คนที่เจ้าเล่ห์จึงมิสมควรโง่เขลาถึงเพียงนี้
หลันซินเพิ่งถูกย้ายไปเรือนอันหลิงเกอได้มินาน ทั้งยังอยู่ที่นั่นมิถึงหนึ่งเดือนจึงมิรู้เรื่องที่อันหลิงเกอเคยมอบพระโพธิสัตว์หยกกวนอิมให้ฮูหยินผู้เฒ่า เมื่อได้ฟังคำกล่าวของอันหลิงอีแล้ว นางจึงเอ่ยออกมาอย่างลังเล “ครั้งที่แล้วคุณหนูใหญ่มอบรูปปั้นหยกกวนอิมให้ฮูหยินผู้เฒ่า ครั้งนี้เตรียมหยกเหอเถียนคงเป็นเพราะคุณหนูใหญ่นึกได้ว่าฮูหยินผู้เฒ่าชอบรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม ดังนั้นจึงเตรียมหยกอีกแบบหนึ่งมาเอาใจฮูหยินผู้เฒ่าเจ้าค่ะ”
เมื่อได้ตริตรองตามคำกล่าวของหลันซินก็มีเหตุผล อันหลิงอีจึงมิสงสัยอีกแล้วโบกมือไล่ให้นางกลับเรือนฉีอู๋ได้
เมื่อความมืดมิดปกคลุมในยามราตรีก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งกำลังเคลื่อนไหวอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์สลัว แต่มิทำให้คนในเรือนฉีอู๋ตกใจตื่นเลยสักคน
…..
พริบตาเดียวก็เข้าสู่เช้าวันใหม่ซึ่งวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของฮูหยินผู้เฒ่า อันหลิงเกอตื่นนอนตั้งแต่เช้าตรู่ ส่วนปี้จูในตอนนี้ยุ่งอยู่กับการทำผมแต่งตัวให้นาง
ปี้จูมีฝีมือละเอียดอ่อนและคล่องแคล่ว นางยืนอยู่ด้านหลังอันหลิงเกอ ทั้งสิบนิ้วกำลังเลื่อนผ่านเส้นผมดกดำของอันหลิงเกอ ส่วนหลันซินก็มองการทำผมไปด้วย หลังจากนั้นมินานทรงผมมวยสวยก็เสร็จสมบูรณ์
“วันนี้จักมีเหล่าฮูหยินและบรรดาคุณหนูมาที่จวนมากมาย คุณหนูต้องทำให้พวกนางตกตะลึงได้อย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”
ปี้จูกล่าวออกมาแล้วนำปิ่นปักผมสีทองที่ฝังด้วยหยกออกจากกล่องไม้ใบหนึ่ง จากนั้นปักลงไปที่ผมด้านข้างอันหลิงเกอ แล้วหยิบสีผึ้งทาบนริมฝีปากอันหลิงเกอเบา ๆ เพื่อเติมความอวบอิ่มให้ปากที่งดงามอยู่แล้ว
อันหลิงเกองดงามอยู่แล้วจึงมิได้แต่งจนมากเกินไป นอกจากปักปิ่นไว้บนมวยผม ทั้งตัวก็มิมีเครื่องประดับอย่างอื่นอีก
แม้เป็นเยี่ยงนี้ ใบหน้าที่งดงามก็ยังดึงดูดผู้คนจนมิอาจละสายตาไปจากนางได้
ตอนนี้ภาพในกระจกได้สะท้อนเงาแม่นางน้อยที่สง่างาม ใบหน้าขาวเนียน ริมฝีปากอมชมพู คิ้วโค้งสวยราวกับวาดด้วยหมึก ดวงตาสดใสราวกับหยดน้ำ คล้ายกับเทพเซียนที่เดินออกจากภาพวาดอย่างน่าอัศจรรย์ ดวงตาสีดำสนิทสะกดสายตาผู้คนคู่นั้นทำให้รู้สึกว่านี่คือความงามชนิดหาได้ยากในแผ่นดินนี้
หลังจากนั้นอันหลิงเกอก็ยกยิ้ม คนในกระจกก็พลันยิ้มตาม “ไปกันเถิด อย่าปล่อยให้ท่านย่าต้องรอ”
…
*หยกเหอเถียน ส่วนมากกระจายอยู่ตามที่ราบสูง แต่ละที่มีแร่ธาตุต่างกันทำให้รูปแบบสีสันแตกต่างกันไป เช่น สีขาว สีเขียวเข้ม สีดำ สีเหลือง เป็นต้น