ตอนที่ 186 เปิดเผยของขวัญ
แม้ราชวงศ์ต้าโจวมิได้มีข้อกำหนดที่แน่ชัด แต่ในกลุ่มขุนนางขั้นสูงเหล่านี้นิยมเปิดของขวัญต่อหน้ากัน
ทุกครั้งที่จวนใดจัดงานวันเกิดก็จักมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น
การเปิดเผยของขวัญแน่นอนว่ามิสามารถทำได้กับแขกที่เทียบเชิญมา แต่เป็นของขวัญที่บุตรหลานเตรียมไว้ ถือเป็นโอกาสในการแสดงความกตัญญูของคนรุ่นหลัง ทำให้ครอบครัวรักใคร่สามัคคี หากบ้านใดมีกำลังทรัพย์มาก ของขวัญที่เตรียมก็จักมีมูลค่าสูง พวกเขายังสามารถฉวยโอกาสนี้โอ้อวดความมั่งมีในทรัพย์สมบัติของตนอีกด้วย
แม้ฮูหยินผู้เฒ่ามิได้อยู่เมืองจิงมาหลายปี แต่กฎนี้นางยังมิลืม
ฟังอันหลิงอีกล่าวถึงเรื่องนี้จึงรู้ว่านางกำลังรีบเร่งทำการเปิดเผยของขวัญ
ดังนั้นฮูหยินผู้เฒ่าก็เหลือบมองท่าทีของผู้คนด้วยรอยยิ้ม พลันรับปากเป็นเชิงอนุญาต
“เอาล่ะ เกอเอ๋อนำของที่เตรียมไว้ออกมาให้ย่าได้เปิดหูเปิดตาหน่อยเถิด”
เมื่อได้ฟังอันหลิงเกอก็พยักหน้า ใบหน้างดงามดูอ่อนโยนอย่างยิ่ง มองมิเห็นสิ่งใดผิดปกติ
อันหลิงเกอโบกมือครั้งหนึ่ง ปี้จูที่อยู่ด้านหลังก็รีบเข้ามารับคำสั่งทันที
ส่วนหลี่ซื่อสองแม่ลูกก็สบตาอย่างรู้กัน แต่มิได้กล่าวอันใดออกมา ต่างคนต่างรอคอยอย่างมีความสุข
หลังจากนั้นปี้จูก็เดินออกไปจากโถงใหญ่ ผ่านไปสักครู่ก็ถือถาดไม้ขนาดเล็กประดับดอกไห่ถังสีแดงเลี่ยมทองเข้ามา หลี่ซื่อและอันหลิงอีได้เห็นใบหน้าก็เปลี่ยนทันที
หลันซินรายงานว่าอันหลิงเกอเตรียมรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมที่วางไว้ในกล่องหนึ่งใบ แต่สิ่งที่ปี้จูถือเข้ามาเป็นถาดไม้ขนาดเล็ก ของข้างในที่วางไว้มิใช่รูปปั้นพระโพธิสัตว์แต่อย่างใด !
เกิดอันใดขึ้น ?
เมื่อเห็นเยี่ยงนั้นหลี่ซื่อรู้สึกถึงลางมิดี ภายในใจตื่นตระหนก แต่ภายใต้สถานการณ์เยี่ยงนี้ก็มิง่ายที่จักลงมืออันใดอีกจึงได้แต่มองปี้จูเปิดผ้าสีแดงที่คลุมออก
“เอ๋ ? นี่คือสิ่งใดหรือ ? ”
ฮูหยินผู้หนึ่งถามขึ้น อันหลิงเกอยิ้มอย่างเขินอายแล้วกล่าวว่า “นี่คือภาพวาดที่เขียนคำว่าอายุยืนยาวร้อยปีที่หลานวาดขึ้นมาเองเจ้าค่ะ ขอให้ท่านย่าอายุยืนยาว ใช้ชีวิตอย่างสุขสงบเจ้าค่ะ”
ปี้จูนำของออกมา ผู้คนจึงเห็นชัดว่าคือภาพวาด รอให้นางดึงม้วนภาพออกเผยภาพวาดหมึกสีดำค่อย ๆ ปรากฏสู่สายตาผู้คน
เพียงเห็นคำว่าอายุยืนยาวที่มีลายอักษรขนาดต่างกันมากมายปรากฏอยู่บนกระดาษสีขาวราวหิมะ อันหลิงเกอใช้คำว่าอายุยืนยาวตัวอักษรขนาดเล็ก รวมกันเป็นคำว่าอายุยืนยาวขนาดใหญ่ ภายในตัวอักษรอายุยืนยาวขนาดใหญ่นี้ถูกวาดภาพทิวทัศน์ด้วยตัวอักษรอายุยืนยาวขนาดเล็กอีกที ราวกับว่าเป็นภาพวาดภูเขาแม่น้ำที่เกิดมาจากการใช้อักษรเรียงกัน ในภาพวาดนี้ยังมีแม้กระทั่งดอกไม้และนก มองแล้วทำให้ผู้คนรู้สึกอัศจรรย์ยิ่งนัก
“ภาพวาดนี้ยอดเยี่ยมเหลือเกิน ! ”
มิรู้ว่าผู้ใดอุทานขึ้นมา หลังจากนั้นบรรดาฮูหยินก็พากันชื่นชมอันหลิงเกอคนแล้วคนเล่า
ตอนนี้ใบหน้าฮูหยินผู้เฒ่าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ปากเอ่ยคำกล่าวถ่อมตนออกมา “หากพวกเจ้ายังชมนางต่อ เด็กคนนี้ต้องโอ้อวดต่อหน้าข้าว่าพวกเจ้าชื่นชมนางมากเหลือเกิน ”
แม้กล่าวเยี่ยงนี้แต่ฮูหยินผู้เฒ่ามิได้หมายความดังที่กล่าวแน่นอน วาจาของนางแท้จริงแล้วแสดงให้เห็นว่านางมีความผูกพันต่ออันหลิงเกอมิน้อยจึงสามารถล้อเล่นได้เยี่ยงนี้
ดูเหมือนว่าคุณหนูใหญ่ได้เอาชนะใจฮูหยินผู้เฒ่าสำเร็จแล้ว
ฮูหยินทั้งหลายมีความคิดนี้ปรากฏขึ้นมา แต่ใบหน้ามิได้แสดงออกชัดเจน
อย่างไรก็ตามการเปิดเผยของขวัญได้เริ่มขึ้นแล้วจึงต้องทำต่อโดยเรียงตามลำดับ
ซึ่งอันหลิงเกออายุมากสุดในจวนโหว ต่อจากนางก็คืออันหลิงห่าว
ทว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ที่เรือนฝั่งตะวันออก ฮูหยินผู้เฒ่าจึงสั่งให้คนนำของขวัญของเขาออกมา
ในที่สุดก็มาถึงอันหลิงอีที่เชิดหน้าขึ้นและยิ้มอย่างเหยียดหยาม
แม้ว่าอันหลิงเกอมิได้มอบรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมหยกให้ฮูหยินผู้เฒ่า แต่ของขวัญก็ยังด้อยกว่าของอันหลิงอีอย่างแน่นอน
อันหลิงอีมั่นใจมาก จากนั้นก็สั่งให้สาวใช้นำของขวัญที่เตรียมไว้ออกมา
สาวใช้ทำงานอย่างรวดเร็ว มินานก็กลับมาพร้อมกล่องใบหนึ่งในอ้อมแขน
ทว่าของขวัญที่นางเตรียมมิได้อยู่ในนี้เสียหน่อย!
อันหลิงอีเห็นกล่องที่มิคุ้นเคย หนังตาเริ่มกระตุกอย่างแรง ความรู้สึกมิดีบางอย่างผุดขึ้นมาในใจและเริ่มคาดเดาเหตุการณ์แย่ ๆ ที่จักเกิดขึ้น นางรีบร้อนส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปทางหลี่ซื่อ
หลี่ซื่อเพียงส่งกู่โมโม่ไปช่วยอันหลิงอีวางแผนเล่นงานอันหลิงเกอ ส่วนของขวัญที่บุตรสาวเตรียมไว้ให้ฮูหยินผู้เฒ่าคือสิ่งใดนางก็มิทราบ ตอนนี้ได้รับสายตาเยี่ยงนั้นของอันหลิงอีจึงมิรู้ว่าหมายถึงอันใด อีกอย่างต่อหน้าคนมากมาย นางก็มิกล้าแสดงท่าทางมีพิรุธออกมา
“เปิดกล่องออกมาดูสิ” ฮูหยินผู้เฒ่ากล่าวอย่างมีความสุข เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ดีมาก
มิรอให้สองคนนั้นคิดแผนรับมือ ฮูหยินผู้เฒ่าก็เอ่ยขึ้นแล้วสาวใช้ก็รีบยื่นมือไปเปิดกล่องของขวัญเผยให้เห็นรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม
ว่าแล้วเชียว!
เมื่อเห็นรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมตรงหน้า ใบหน้าของอันหลิงอีก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือดทันที ตั้งแต่อันหลิงเกอเปิดของขวัญออกมาแล้วมิใช่รูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม นางก็รู้สึกว่ามิถูกต้องแล้ว คาดมิถึงเลยว่าของขวัญที่นางได้เตรียมไว้จักโดนสับเปลี่ยนเสียแล้ว
ต้องเป็นฝีมือของอันหลิงเกอแน่นอน!
เมื่อคิดได้เยี่ยงนั้นแววตาดุร้ายของอันหลิงอีจ้องไปทางอันหลิงเกอ หากสามารถเปลี่ยนเป็นมีดได้ก็คาดว่าอันหลิงเกอคงตายเป็นพันครั้งได้แล้ว
แม้โกรธอันหลิงเกอมากเพียงใด นางก็ได้แต่ปล่อยให้อันหลิงเกอเล่นงานโดยทำอันใดมิได้เลย
ในตอนนี้นางพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษารอยยิ้มงดงามและความไร้เดียงสาไว้ “ท่านย่าเจ้าคะ สาวใช้นำกล่องใบนี้ออกมาได้เยี่ยงไร เพราะของขวัญที่หลานเตรียมไว้มิได้อยู่ในกล่องนี้เจ้าค่ะ”
ทันใดนั้นรอยยิ้มของฮูหยินผู้เฒ่าก็แข็งค้าง ครู่หนึ่งจึงกลับสู่สภาพเดิม เพียงแต่ระหว่างคิ้วแฝงความเย็นชาเอาไว้ “เยี่ยงนั้นเองหรือ สาวใช้ข้างกายของเจ้าหยิบของขวัญมาผิด ถ้ากลับไปเจ้าต้องลงโทษนางให้หลาบจำ”
แม้กล่าวว่าควรลงโทษสาวใช้ แต่ในใจฮูหยินผู้เฒ่ามีความมิพอใจต่ออันหลิงอีต่างหาก
เดิมทีมิใช่ว่าเตรียมของขวัญไว้พร้อมแล้วหรือ พอนำออกมาแสดงต่อหน้าผู้คนกลับบอกว่าหยิบผิด หรือว่านางมิได้ใส่ใจของขวัญชิ้นนี้กันแน่ ?
แม้รู้ว่าอันหลิงอีมิได้ใส่ใจตน ทว่าเกิดความผิดพลาดเยี่ยงนี้ขึ้นก็ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าเสียหน้ามากอยู่ดี
โชคดีที่หลี่ซื่อรู้สึกได้ถึงความผิดปกติจึงรีบยิ้มเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ “อีเอ๋อช่างซุกซนยิ่งนัก เตรียมของขวัญให้ท่านแม่ยังอ้อมไปมาเยี่ยงนี้ จงใจล้อเล่นใช่หรือไม่ กลับไปข้าต้องสั่งสอนนางหน่อยแล้ว”
หลี่ซื่อพยายามช่วยบุตรสาว กลายเป็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพียงนิสัยของเด็กสาวที่ชอบเล่นซุกซนเท่านั้น
มิว่าคนเชื่อหรือไม่ แต่คำกล่าวของนางก็ทำให้ใบหน้าฮูหยินผู้เฒ่ามิแย่ไปกว่าเดิม
อันหลิงอีถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก กำลังจักให้สาวใช้ถอยออกไปก็มิรู้ว่าในมือสาวใช้ผู้นั้นได้ถือรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมไว้ตั้งแต่เมื่อไร
ในขณะที่พวกนางกำลังสนทนากันก็เห็นโลหิตสองสายค่อย ๆ ไหลออกมาจากดวงตาที่เปี่ยมด้วยเมตตาของรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม
“สวรรค์ นี่มันเรื่องบ้าอันใดกัน!”
หวังซื่อตกใจจนร้องอุทานออกมา หลังจากนั้นตัวนางก็ถอยโซเซล้มไปด้านหลัง โชคดีที่มีสาวใช้ข้างกายประคองไว้ มิเช่นนั้นถ้านางล้มลงตอนนี้ก็มิรู้ว่าบุตรในครรภ์ยังสามารถรักษาไว้ได้หรือไม่