ตอนที่ 250 ผู้ต้องสงสัย
อันหลิงเกอขมวดคิ้ว ด้วยสัญชาตญาณจึงทำให้นางรีบรั้งเอาไว้
“ช้าก่อน”
นางรับถ้วยซุปมาจากมือของเว่ยอี๋เหนียงและใช้ปลายจมูกดมใกล้ ๆ หลังจากนั้นใบหน้าอันงดงามก็เหมือนมีเมฆดำปกคลุมอยู่ชั้นหนึ่ง “มีบางอย่างผิดปกติในน้ำซุปถ้วยนี้”
เมื่ออันหลิงเกอกล่าวจบ คนทั้งเรือนก็พากันตกใจ ฮูหยินผู้เฒ่าเดิมทีก็สงสัยเว่ยซื่ออยู่แล้ว พอได้ยินอันหลิงเกอกล่าวเช่นนี้ก็เหมือนยิ่งยืนยันความคิดไปอีก ดังนั้นแววตาที่จ้องเว่ยซื่อจึงเปลี่ยนเป็นมืดมนยิ่งขึ้นและไร้ความเมตตาเหมือนยามปกติ
เว่ยซื่อหน้าซีด นางตกใจจนทำตัวมิถูก ท่าทางของนางกระวนกระวายยิ่งนัก สุดท้ายก็ได้แต่มองหน้าอันหลิงเกอ “เป็นไปมิได้ ซุปนี้ได้ต้มตามที่คุณหนูใหญ่เขียนให้แล้วจักมีปัญหาได้อย่างไร ? ”
อันหลิงเกอหยิบช้อนขึ้นมาตักน้ำซุปเล็กน้อย จากนั้นก็ยื่นให้สาวใช้ “ไปหาไก่มาจากฝ่ายห้องครัวตัวหนึ่งแล้วให้ไก่ดื่มน้ำซุปนี้ ดูว่ามันมีปฏิกิริยาอย่างไร”
สาวใช้นางนั้นมือเท้าว่องไวนัก ใช้เวลามิถึงครึ่งก้านธูปก็กลับมาแล้ว
“คุณหนูใหญ่ บ่าวให้ไก่ดื่มน้ำซุปไปแล้วมินานไก่ตัวนั้นก็ตายเจ้าค่ะ”
เว่ยซื่อผงะถอยหลังไปสองก้าว นางส่ายศีรษะเป็นพัลวัน“ท่านแม่ ข้ามิได้ทำเรื่องนี้จริง ๆ เจ้าค่ะ”
นางนำซุปบำรุงนี้ให้ฮูหยินผู้เฒ่ามิใช่เพียงครั้งสองครั้งเท่านั้น หากน้ำซุปนี้มีปัญหาจริง ฮูหยินผู้เฒ่าคงจับได้นานแล้ว !
อันหลิงเกอเห็นหน้าเว่ยอี๋เหนียงกระวนกระวายจึงเม้มปากแล้วเอ่ยว่า “ส่วนประกอบยาในซุปนี้มิถูกต้อง”
นางชี้มือไปทางถ้วยซุป “เมื่อครู่ข้าได้กลิ่นของขมิ้นที่แรงมาก ทว่าในสูตรยาของข้ามิมียาตัวนี้อยู่ นี่มันเรื่องอันใดกัน ? ”
ขมิ้นอย่างนั้นหรือ ?
เว่ยซื่อมิเคยได้ยินยาประเภทนี้มาก่อน ยิ่งมิต้องเอ่ยถึงว่าจักเอายาชนิดนี้มาทำร้ายผู้อื่นเลย
“ข้ามิรู้ว่าอันใดคือขมิ้น” เว่ยซื่อรู้ว่าสิ่งนี้สามารถใช้ยืนยันความบริสุทธิ์ของตนได้ นางจึงทำใจแข็งเพื่อมิให้อารมณ์แตกกระเจิง
“ตั้งแต่คุณหนูใหญ่นำใบสั่งยามาให้ ข้าก็ส่งคนไปรับยาที่คลังเก็บยาทุกวันและเอามาต้มในเรือนตนเอง จากนั้นก็ส่งให้ฮูหยินผู้เฒ่า ข้ามิกล้าให้ผู้อื่นมายุ่งเกี่ยวจริง ๆ แล้วเหตุใดในนี้ถึงมีขมิ้นกันเล่า ? ”
เพื่อเอาใจฮูหยินผู้เฒ่า นางลงทุนลงแรงมิน้อย มิเช่นนั้นฮูหยินผู้เฒ่าจักลำเอียงให้นางด้วยเหตุอันใด
ทว่าเมื่อน้ำซุปเกิดมีความผิดปกติขึ้นมา ในความคิดของฮูหยินผู้เฒ่านางก็กลายเป็นผู้ต้องสงสัยรายแรก ควรทำเช่นไรดี ?
นางเป็นอนุภรรยาที่ตำแหน่งมิสูง หากมิสามารถลบล้างข้อกล่าวหาที่ทำร้ายฮูหยินผู้เฒ่าได้ นางต้องถูกท่านโหวลงโทษจนตายแน่นอน แม้ในใจของเว่ยซื่อจักหวาดกลัวและลำบากใจมากเพียงใด แต่ยานี้ก็เป็นนางที่ยกมาให้ ดังนั้นฮูหยินผู้เฒ่าจึงต้องสงสัยนางเป็นธรรมดา
“เจ้าบอกว่ายานี้ต้มด้วยมือของเจ้าเอง ระหว่างนั้นก็มิได้มีผู้ใดมายุ่ง แต่ยานี้มีบางอย่างผิดปกติ หรือเจ้าจักบอกว่ามิได้เป็นคนลงมือ ? ”
อันหลิงเกอฟังคำของฮูหยินผู้เฒ่า ขณะเดียวกันสมองก็มีความคิดหนึ่งวาบผ่าน
นางมองเว่ยอี๋เหนียงด้วยดวงตาสีดำสนิทอย่างสงบนิ่ง “ท่านบอกว่ายาเหล่านี้สาวใช้ได้นำกลับมา เป็นไปได้หรือไม่ที่ขมิ้นจักถูกปะปนไปตอนนั้น ? ”
“จูเอ๋อจงรักภักดีต่อข้ามาก อีกทั้งเคารพและให้เกียรติท่านแม่ นางมิอาจทำเรื่องเช่นนั้นอย่างเด็ดขาด” เว่ยซื่อรีบอธิบายแทนสาวใช้อย่างร้อนรน ท่าทีนี้ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าอดขมวดคิ้วขึ้นมามิได้
แต่มีอันหลิงเกออยู่ที่นี่ด้วย ฮูหยินผู้เฒ่าจึงสบายใจที่จักมอบเรื่องนี้ให้นางจัดการแล้วเงียบปากมิเอ่ยอันใดอีก
อันหลิงเกอมีความประทับใจต่อสาวใช้ข้างกายของเว่ยอี๋เหนียง ท่าทีที่ปกป้องเจ้านายด้วยการอุทิศชีวิตของนางช่างเหมือนกับปี้จูเหลือเกิน สาวใช้เช่นนี้มองอย่างไรก็มิเหมือนผู้ที่สามารถวางยาพิษผู้อื่นได้เลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮูหยินผู้เฒ่าที่มิมีความแค้นใดต่อนาง แล้วเหตุใดนางต้องทำร้ายฮูหยินผู้เฒ่าด้วย ?
หากยานี้มิได้มีสิ่งผิดปกติในระหว่างการต้ม อาจยืนยันได้ว่าตัวยาที่ไปรับมาผิดปกติ !
ดวงตาของอันหลิงเกอสว่างวาบ นางเงยหน้ามองฮูหยินผู้เฒ่า “ท่านย่า หลานคิดว่าเรื่องนี้ยังมีความเป็นไปได้อีกทางเจ้าค่ะ”
“หากตัวยาที่เรารับมามีสิ่งผิดปกติ เว่ยอี๋เหนียงที่ได้ต้มยานี้ตามปกติจึงมิรู้ตัวและทำให้ท่านย่าถูกพิษ นี่ก็มิใช่ว่าเป็นไปมิได้เจ้าค่ะ”
ฮูหยินผู้เฒ่านึกตาม แม้ความเป็นไปได้ของวิธีนี้จักมีน้อยมาก แต่ก็มิได้หมายความว่าเป็นไปมิได้เลย
“ผิงเอ๋อ เจ้าไปตรวจดูที่คลังเก็บยา”
คลังเก็บยาถูกสร้างขึ้นหลังจากอันหลิงเกอได้เริ่มกักตุนยาเหล่านั้นเพื่อเป็นการเก็บยาทั่วไป
สาวใช้ที่ถูกเรียกว่าผิงเอ๋อตอบรับแล้วรีบเดินออกไป เว่ยซื่อยังอยากอธิบายให้ตนเองสักคำสองคำ ทว่าได้ยินเสียงสาวใช้ดังขึ้นจากด้านนอก “นายหญิงหลี่มาได้อย่างไรเจ้าคะ ? ”
สาวใช้ผู้นั้นเป็นคนสนิทของฮูหยินผู้เฒ่าจึงรู้ถึงความเกลียดชังระหว่างหลี่ซื่อและฮูหยินผู้เฒ่าดี พอเห็นหลี่ซื่อเดินมาในตอนนี้จึงเอ่ยเสียงสูงด้วยความประหลาดใจ
แต่ว่านางมิได้รับคำสั่งจากฮูหยินผู้เฒ่าจึงมิอาจรั้งหลี่ซื่อไว้ เมื่อได้ยินจากปากอีกฝ่ายว่ามาเยี่ยมฮูหยินผู้เฒ่าจึงได้แต่มองตามแล้วปล่อยให้หลี่ซื่อเปิดผ้าม่านเข้าเรือนไป
เมื่อเข้าเรือนไปแล้ว หลี่ซื่อก็เงยหน้าขึ้นและเห็นสีหน้าอันมืดครึ้มของฮูหยินผู้เฒ่า
สีหน้าดูมิดีนัก แต่มิได้เกิดจากการถูกพิษ
พวกสาวใช้บอกว่าฮูหยินผู้เฒ่าถูกพิษและต้องการหมอมิใช่หรือ นางจึงจัดการให้หมอออกจากจวนไปก่อน แต่เหตุใดฮูหยินผู้เฒ่ายังอยู่ดีและมิเป็นอันใดเลย !
“เจ้ามาทำอันใด ? ”
ฮูหยินผู้เฒ่าโดนพิษจึงอารมณ์มิดี ยิ่งตอนนี้มาเห็นหน้าคนที่มิอยากเจออีก น้ำเสียงจึงเย็นชามากขึ้น
หลี่ซื่อจึงยิ้มให้และสีหน้าก็ถูกปั้นแต่งไว้อย่างดี “ท่านแม่ ข้าได้ยินว่าสาวใช้ของท่านไปตามหมอ ข้าจึงมาเยี่ยมเพราะห่วงว่าจักเกิดอันใดขึ้นกับท่านเจ้าค่ะ”
“ในเมื่อเจ้าเป็นห่วงข้า เหตุใดตอนนั้นต้องตามหมอไปด้วย ? ” ฮูหยินผู้เฒ่ามิเกรงใจแล้วเปิดโปงความเสแสร้งของหลี่ซื่อออกมา
ปากก็พูดว่าเป็นห่วง แต่ทั้งที่รู้ก็ยังเรียกหมอในจวนไปอีก ตอนนี้ก็มิรู้จักพาหมอมาด้วย ความเป็นห่วงนี้จริงเท่าไรปลอมเท่าไหร่ ฮูหยินผู้เฒ่าย่อมรู้ดีแก่ใจ
หลี่ซื่อแม้ภายนอกยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน แต่ภายในใจรู้สึกเกลียดยิ่งนัก
นี่เป็นแผนที่นางวางไว้เพื่อทำร้ายฮูหยินผู้เฒ่าและโยนความผิดให้อันหลิงเกอ แล้วจักเป็นไปได้อย่างไรที่นางอยากให้ฮูหยินผู้เฒ่ามีโอกาสได้รับการรักษาจากหมอประจำจวน ?
เวลาผ่านไปนานถึงเพียงนี้ นางนึกว่าฮูหยินผู้เฒ่าคงตายไปแล้วเสียอีก มิคาดคิดเลยว่าอีกฝ่ายแค่มีสีหน้ามิค่อยดี ส่วนสิ่งอื่นก็ไร้ความผิดปกติ !
นางกวาดตามองโดยรอบก็เห็นอันหลิงเกอยืนอยู่ด้านข้างจึงได้เข้าใจขึ้นมาทันที
ที่แท้เป็นอันหลิงเกอช่วยฮูหยินผู้เฒ่าไว้ นางลืมไปเลยว่าต้องสั่งให้คนไปหลอกล่ออันหลิงเกอไว้ก่อน มิเคยคิดว่าอีกฝ่ายสามารถรักษาคนได้จริง
“คุณหนูใหญ่ก็อยู่ที่นี่ด้วย หมอในจวนคงสู้คุณหนูใหญ่มิได้หรอกเจ้าค่ะ” หลี่ซื่อหัวเราะเย้ยหยัน จากนั้นก็ปัดความผิดของตน “เพียงแต่ข้าได้ยินว่าฮูหยินผู้เฒ่าถูกพิษเพราะดื่มน้ำซุปบำรุงที่คุณหนูใหญ่เขียนให้หรือเจ้าคะ ? ”
คำกล่าวเพียงแค่ประโยคเดียวของหลี่ซื่อสามารถโยนความผิดไปให้อันหลิงเกอได้อีกแล้ว