หยุดไม่ทัน
By: ไต้ฝุ่น
ผมไม่เคยเชื่อเลยว่าโลกใบนี้จะกลมถึงขนาดพัดคนที่อยู่คนละซีกโลกให้วนกลับมาเจอกันได้ซ้ำ ๆ
เมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมมีงานเลี้ยงฉลองที่บริษัทของพ่อ กลับมาก็เมาแอ๋จนต้องโทรตามน้องต้าคู่นอนขาประจำให้มาหา
น่าแปลกใจที่ผมโทรเข้าไปไม่ถึง 5 นาทีน้องต้าก็เปิดประตูเข้ามา ทั้งที่เมื่อกี้ยังบอกว่าติดงานเลี้ยงวันเกิดเพื่อนให้รอ 20 นาที
ผมไม่ได้เอะใจอะไรเพราะตอนนี้ความอยากมันครอบงำสมองไปจนหมดสิ้น
ไม่รู้เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือเพราะอะไรทำให้ผมรู้สึกว่าวันนี้น้องต้าทำผมคลั่งจนแทบบ้า
ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นน้ำหอมเอย กลิ่นเหล้าอ่อน ๆ เอย เอวที่ดูเล็กเรียว ก้นที่งอนจนวางมือไม่ลง เสียงครางอันหวานหูทำผมแทบจะเสร็จภายในห้านาทีแรกด้วยซ้ำ ไหนจะช่องทางด้านหลังที่รัดแน่นจนทำเอาผมครางจนเสียงหลง
ผมเสพสุขกับคนตัวเล็กจนหนำใจก่อนจะพบว่าไอ้เด็กที่เข้ามาในห้องผมไม่ใช่น้องต้าอย่างที่ผมเข้าใจ
ทันทีที่แสงไฟสว่างวาบดวงตากลมโตก็โตเข้าไปอีก ไอ้เด็กนี่เริ่มโวยวายก่อนจะปาข้าวห้องใส่ผมแถมยังปล่อยหมัดเล็ก ๆ ใส่หน้าผมจนหน้าหันไปตามแรง ตัวแค่นี้หมัดหนักชะมัด!
หลังจากที่ไอ้เด็กนั่นสติแตกวิ่งหนีไปผมก็ได้แต่จ้องมองดูสภาพที่นอนที่เปรอะคราบเลือดน้อย ๆ บ่งบอกได้ว่านี่คงจะเป็นครั้งแรกของเขา ทำเอาผมรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่ใส่ไม่ยั้ง เขาคงเจ็บไม่น้อย
ผมรื้อผ้าปูที่นอนออกเพื่อนำไปให้แม่บ้านซัก ก็เห็นกำไลข้อเท้าของใครบางคนตกอยู่
เด็กผมไม่เคยมีใครใส่กำไลข้อเท้าแน่นอน สร้อยข้อเท้ารูปผีเสื้อทำจากวัสดุอย่างดี มองตาเดียวก็รู้ว่าเป็นของมีราคาคงจะเป็นของไอ้เด็กนั่น เพียงแค่คิดเห็นผมก็แอบใจสั่นไหว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร พักหลัง ๆ ผมเอาแต่เหม่อลอยคิดถึงใบหน้าเล็กเรียวที่หัวคิ้วย่นเข้าหากันด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว มันทำให้ผมกระตุกยิ้มขึ้นได้ทุกเมื่อ ท่าทางดื้อดึงเอาแต่ใจแบบนี้ ผมไม่เคยเจอมาก่อน
ผ่านเหตุการณ์วันนั้นมาประมาณ4-5วัน ผมได้มีโอกาสเจอเด็กนั่นอีกครั้ง และที่ผมช็อกไปมากกว่านั้นคือเด็กนั่นดันเป็นน้องไอ้สายฟ้าเพื่อนสนิทสมัยมัธยมของผม
บอกตามตรงว่าผมทั้งดีใจทั้งใจหายในคราเดียวกัน ผมรู้ดีกว่าใคร ๆ ว่าไอ้สายฟ้ามันหวงน้องยิ่งกว่าอะไรดี ถ้ามันรู้ว่าผมกับน้องมันมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมันเอาผมตายแน่ ยังไม่เริ่มผมก็ต้องหักห้ามใจแล้วหรอ ผมควรทำไงดีครับ ผมไม่อยากหยุดความสัมพันธ์นี้เลย ผมอยากจะลุกจีบหนัก ๆ ให้รู้แล้วรู้รอด แต่คำว่าพี่ชายมันค้ำคอไว้ ทั้งพ่อทั้งแม่พายุจะเสียใจแค่ไหนถ้ารู้ว่าผมคือคนที่เข้าไปล่วงเกินลูกของท่าน พวกท่านรักและเอ็นดูผมมากขนาดไหนผมรู้ดีอยู่แก่ใจ
วันนี้ผมจึงตัดสินใจที่จะเอากำไลข้อเท้าไปคืนให้เขาและขอโทษสำหรับเรื่องคืนนั้น และผมจะไปขอยื่นลาออกจากการเป็นอาจารย์มหาลัย ผมต้องรีบตัดทุกอย่างให้เร็วที่สุด แม้จะฝืนใจมากก็ตาม
“จะไปไหนกันหรอ”
ผมเอ่ยถามเฟียสกับโอเล่เด็กปี1 ที่ได้ยินว่าเป็นเพื่อนสนิทของพายุกับภีม
“เอ้า พี่ไต้ฝุ่น พวกผมว่าจะไปหาไอ้พายุน่ะครับ เห็นมันส่งข้อความมาบอกว่ามีธุระสำคัญจะต้องคุยวันนี้เลย ลำบากผมกับไอ้โอเล่ต้องถ่อสังขารไปหามันนี่แหละครับ”
“พอดีพี่เพิ่งไปซ่อมไฟห้องพายุเสร็จน่ะ เขาเลยฝากมาบอกว่าถ้าเจอเฟียสกับโอเล่ให้บอกกลับห้องได้เลย สงสัยจะเรียกมาดูไฟให้น่ะ”
“เอ้า ไอ้นี่ มันประสาทแดกเปล่าวะ”
คนชื่อโอเล่หันไปคุยกับเด็กเฟียสที่ทำหน้ามึนงงอยู่
“มึงไม่ชินหรอวะ”
เด็กเฟียสส่ายหน้าพัลวันด้วยความเอือมระอา ก่อนทั้งสองจะขอตัวแยกออกไป
ผมลอบมองทั้งสองเดินไปสุดสุดสายตาก่อนจะรีบปรี่มาที่ห้องเป้าหมายทันที
ผมชั่งใจอยู่หน้าห้องนานพอสมควร รู้สึกเสียดายที่ต้องตัดความสัมพันธ์ที่ยังไม่ทันเริ่มนี้
ครืดดดด!!
ฝ่ามือหนาเคลื่อนประตูออกเบา ๆ เผยให้เห็นคนร่างบางที่กำลังนอนคว่ำหน้ากดโทรศัพท์ในมือ เท้าสองข้างยกลอยขึ้นมาตีอากาศเล่นด้วยท่าทางสบาย ๆ
ผมยอมรับเลยว่าไม่สามารถละสายตาออกไปจากหุ่นเซ็กซี่ที่กำลังสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวบาง ๆ กับกางเกงขาสั้นสีดำที่มันมีความยาวเพียงแค่คืนเดียวเท่านั้น ก้นงอนเด่นขึ้นชัดจนเห็นร่องก้น เห็นแล้วก็อดนึกถึงวันนั้นไม่ได้จริง ๆ
“มาแล้วหรอพวกมึงมาช่วยเลือกให้กูหน่อย” เขาเอ่ยขึ้นขณะที่ยังไม่หันมามองด้วยซ้ำ
แค่ผมเห็นเขาผมก็แทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว ผมรับรู้ได้ทันทีว่าวันนี้ผมไม่ควรเจอเขา เมื่อตัดสินใจได้ผมก็รีบหันหลังเตรียมออกจากห้องทันที
“กูเลือกมาแล้ว เหลือแค่สองมหาลัย อันนึงอยู่อเมริกา อีกที่ก็ฮอลแลนด์ กูกะว่าจะขอพ่อย้ายไปอาทิตย์หน้าเลย” คำพูดของเขาเหมือนรั้งขาผมให้หยุดชะงักในทันที เมื่อกี้เขาว่าไงนะ ย้ายมหาลัยงั้นหรอ!?
“แต่ที่เยอรมันก็น่าสนนะเว่ย มึงดูดิ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นก่อนจะหันขวับกลับมามองผม
“เชี่ยยย!!! มะ มึงเข้ามาได้ไงวะ ออกไปนะไอ้โรคจิต” ไม่ด่าเปล่า เขาเริ่มจับหมอนมาขว้างปาใส่ผมอย่างเดือดดาล แต่ผมก็เบี่ยงหลบได้ทัน
“หึ รังเกียจอะไรขนาดนั้น”
ผมว่าพร้อมกับเดินเข้าไปชิดตัว รู้สึกมันเขี้ยวดวงตาที่เอาแต่ใจนั่น
คนตรงหน้าเริ่มเดือดพล่านยกเท้าขึ้นมาหวังจะถีบกลางอกผมให้เต็มแรง แต่ก็ถูกผมจับขาแล้วถ่างออกก่อนจะแทรกตัวไปอยู่ตรงกลางทันที
“มึงจะทำอะไรวะ ปล่อยกูนะ”
มือเล็กชกเข้ามาตรงหน้าแต่ก็ถูกผมรวบไปกดไว้ได้ด้วยมือเพียงข้างเดียวเท่านั้น
“จะหนีไปไหน”
ผมเอ่ยถามไม่สบอารมณ์ที่เขาคิดจะหนีผมด้วยการเอาอนาคตตัวเองมาล้อเล่นแบบนี้
“หนีไปจากมึงไงไอ้สัส!!”
“พูดไม่เพราะ ระวังจะโดนลงโทษนะ”
“มึงคิดว่ามึงเป็นใครวะ ปล่อยกูนะเว่ย ปล่อยยยย!!!” ร่างเล็กดิ้นขลุกขลักไปมาพยายามเอาตัวรอดแต่มีหรือผมจะยอมง่าย ๆ
“อย่าคิดว่าหนีไปต่างประเทศแล้วจะหนีฉันพ้นนะ”
ผมพูดขู่ไปอย่างงั้น กลัวเขาจะทำแบบที่พูดจริง ๆ
“มึงต้องการอะไรวะ”
คนตรงหน้าเริ่มหยุดดิ้นเอาตัวรอดแล้วเปลี่ยนมาเป็นหายใจเหนื่อยหอบแรง ๆ แทน
“มาทำให้ติดใจแล้วก็หนีแบบนี้ มันใช้ได้ที่ไหนกันล่ะ” ผมว่าอย่างหยอกล้อจนเขาชักสีหน้าหงุดหงิดใส่ ยิ่งเห็นแบบนี้ผมก็ยิ่งชอบใจเข้าไปใหญ่
“อย่าพูดเรื่องคืนนั้น ถ้ามึงบอกพี่กู กูเอามึงตายแน่!!”
เขาพูดขู่ฟ่อ ๆ ราวกับแมวน้อย
“หึ ฉันต้องกลัวงั้นสิ!?”
ผมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงยียวน ส่งให้คนได้ฟังเลือดขึ้นหน้าอย่างคนไม่เคยโดนขัดใจ
“มึงมันโรคจิต ไอ้หื่นกาม ไอ้ลามก ไอ้อุ๊บ!!!”
ไม่ทันที่เขาจะได้ด่าจบ เสียงในลำคอก็ถูกกลืนหายไปจนหมดสิ้นเมื่อผมโน้มหน้าเข้าไปประกบจูบอย่างรวดเร็ว
ผมกดริมฝีปากไว้เนิ่นนานก่อนจะแทรกลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากเล็กอย่างลืมตัว เริ่มแรกเขาก็เม้มปากไว้แน่น ก่อนจะค่อย ๆนิ่งสงบลงและยอมเผยอปากให้ผมสอดลิ้นเข้าไปหยอกล้อในโพรงปากได้อย่างว่าง่าย ความเงียบที่เข้ามาปกคลุมทำให้ผมได้ยินเสียงหัวใจของเขาที่กำลังเต้นโครมครามอย่างถนัดหู
ผมหลับตาพริ้มพร้อมกับดูดดุ้นลิ้นเล็กเรียวจนเจ้าตัวครางอื้ออึงในลำคอทำเอาผมสติหลุดหายไปจนหมดสิ้น ผมผละริมฝีปากออกเปิดโอกาสให้เขาได้หอบหายใจเข้าเต็มปอดขณะที่ผมเลื่อนริมฝีปากลงมาไล่เลียและดูดเม้มตามซอกคอขาว ได้กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ผมก็แทบจะคลั่งตาย
ผมคลายมือออกจากการรัดกุมข้อมือของเขามาขยำหน้าอก เขาเองก็แอ่นอกสู้มือยิ่งทำให้ผมชอบใจ
“ฮึก อ้าา~”
คนตัวเล็กเม้มปากแน่น เชิดคางขึ้นเล็กน้อย ท่าทางของเขาทำให้ผมคุมสติไม่อยู่ ไม่อยู่อีกต่อไป…
ผมโน้มเข้าไปบดจูบเขาอีกครั้งแต่ครั้งนี้ได้รับการตอบสนองกลับมา
เขายื่นหน้าขึ้นบดจูบผมตอบปลายลิ้นเราตวัดพันเกี่ยวกันจนเกิดเสียงบดเบียดในโพรงปาก ฝ่ามาเล็กก็เลื่อนมาคล้องคอผมไว้แน่น
“อื้อออ~” เสียงครางอื้ออึงประประสานกันปล่อยให้อารมณ์ผมหลุดลอยไปแสนไกลแสนไกล แต่แล้วก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิดไปมากกว่านี้ ผมก็ดึงสติตัวเองกลับมาได้
ผละ!!
ผมผละตัวออกพร้อมกับลูบหน้าลูบตาลวก ๆ ปลายตาเหลือบมองคนบนเตียงอย่างไม่เต็มตา ไม่อยากเห็นว่าเขาจะอยู่ในท่าทางยั่วยวนขนาดไหน
“ทีหลังก็หัดล็อกประตูด้วย”
ผมว่าก่อนจะเดินฉับ ๆ ออกมาแล้วดันประตูให้ปิดสนิท ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงฝีเท้ารีบวิ่งเข้ามาล็อกประตูไว้อย่างรวดเร็ว
ฟูวววว!!
ผมถอนหายใจหนัก ๆ พิงหลังไปที่ประตูห้องพร้อมกับหัวใจที่เต้นระรัว
ผมทำไม่ได้ ผมหยุดตัวเองไม่ได้แล้ว….