รอจนกระทั่งเหมียวอี้วางระฆังดารา หยางเจาชิงถึงได้รายงานว่า “นายท่าน คนของพวกเราพบกับคนของตระกูลเซี่ยโห้วแล้ว ทั้งหมดเข้าประจำที่แล้ว”
เหมียวอี้พยักหน้า แล้วเดินไปเดินมาช้าๆ อยู่ในตึก จู่ๆ เรื่องของเกาเหยียนก็สร้างความเคลื่อนไหวใหญ่โตขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่ได้ยินข่าว ไม่ใช่แค่เซี่ยโห้วลิ่งที่ถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น อวิ๋นจือชิว เซี่ยโห้วเฉิงอวี่ ชิงหยวนจุนหรือแม้กระทั่งหวงฝู่จวินโหรวก็ถามถึงเรื่องนี้เช่นกัน
ที่จริงเขาเองก็เพิ่งรู้ตอนได้ข่าวว่าเกาเหยียนถูกทรมานจนตาย เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับหลงซิ่นก็ได้ เดิมทีหลงซิ่นก็ย้ายออกมาจากทัพตะวันออกของตระกูลก่วงอยู่แล้ว และหลังจากตระกูลเซี่ยโห้วจี้เอาตัวเกาเหยียนไปแล้ว เขาก็มีธุระอยู่ข้างนอกพอดี จ่ายงานให้หลงซิ่นจัดการเรื่องนี้ต่อ
หลังจากลองครุ่นคิด เหมียวอี้ก็บอกว่า “ติดต่อหลงซิ่นไป ถามดูหน่อยว่าเรื่องเป็นยังไง”
หยางเจาชิงเข้าใจว่าเขาหมายถึงเรื่องอะไร รีบจัดการตามคำสั่งทันที หยิบระฆังดาราออกมาติดต่อหลงซิ่นแล้ว
หลังจากผ่านไปพักใหญ่ หยางเจาชิงก็หยุดใช้ระฆังดาราแล้วรายงานว่า “นายท่าน หลงซิ่นบอกว่าเขาทำเรื่องนี้เองขอรับ”
เหมียวอี้หยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะ เอามือยันโต๊ะ จ้องเท้าพร้อมถามอย่างใจเย็นว่า “ข้าต้องการเหตุผล!”
หยางเจาชิงตอบว่า “ข้าน้อยถามแล้วขอรับ เขาบอกว่าในปีนั้นตอนที่สืบเรื่องที่ฮูหยินของตัวเองหายตัวไป มีข่าวบอกว่าคนแรกที่ชอบฮูหยินของเขาไม่ใช่โจวอ้าวหลินลูกชายของโจวจ้าว แต่เป็นเกาจื่อหู น้องชายของเกาจื่อเซวียนที่เป็นอนุภรรยาของก่วงลิ่งกง เป็นบิดาของเกาเหยียนเช่นกัน ตอนนั้นเขาก็สงสัยแล้ว ตอนที่ลูกน้องส่งสาวงามมาให้เขา โจวอ้าวหลินก็ไม่เคยเห็นมาก่อน อยู่ดีๆ จะมาขอคนได้ยังไง? แล้วคนที่มาขอผู้หญิงให้โจวอ้าวหลินก็คือเกาจื่อหู ในปีนั้นเกาจื่อหูเที่ยวเล่นตัวติดกับกับโจวอ้าวหลิน ตอนนั้นเขาก็เลยสงสัยว่ามีเกาจื่อหูคอยยุยงหรือเปล่า เพียงแต่เรื่องนี้ไม่มีหลักฐานอะไรเลย ครั้งนี้เกาเหยียนตกอยู่ในมือเขาแล้ว กระตุ้นความแค้นเก่าของเขา ถึงยังไงนายท่านก็บอกแล้วว่าให้ส่งคนตายไปให้ตระกูลก่วง เขาทนไม่ไหวจึงลงมือระบายความแค้นด้วยตัวเอง นึกไม่ถึงว่าจะทำให้เรื่องราวลุกลามใหญ่โตขนาดนี้ขอรับ”
เหมียวอี้ใช้นิ้วเคาะผิวโต๊ะเบาๆ หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง ก็ตอบว่า “บอกหลงซิ่น ว่าเรื่องครั้งนี้ข้าจะรับไว้เอง ถ้ามีครั้งต่อไป ข้าไม่ปล่อยไปแน่นอน!” พูดจบก็หยิบระฆังดาราออกมา เริ่มชี้แจงให้แต่ละฝ่ายรับรู้
เขาบอกชิงหยวนจุนก่อน บอกว่าเขาสืบเรื่องนี้มาแล้ว พบว่าหลงซิ่นทำไปเพราะความแค้นเก่าในปีนั้น เขาไม่ได้รู้เรื่องนี้มาก่อน
ต่อมาก็ติดต่อไปอธิบายกับเซี่ยโห้วลิ่งด้วยตัวเอง เซี่ยโห้วลิ่งตอบมาว่า : เจ้าอธิบายเรื่องนี้กับข้าก็ไม่มีประโยชน์หรอก เห็นได้ชัดว่าก่วงลิ่งกงลงมือแล้ว เจ้าแน่ใจได้มั้ยว่าเขาจะไม่มีแผนสำรองอะไรอีก? ในเวลาแบบนี้ ถ้าก่วงลิ่งกงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เรื่องราวก็จะยุ่งยากแล้ว
เหมียวอี้บอกว่า : ฝั่งก่วงลิ่งกงข้าจะทำให้เขาสงบเอง
เซี่ยโห้วลิ่ง : หวังว่าเจ้าจะพูดได้ทำได้ ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าข้าทิ้งเจ้าไว้กลางทางแล้วหนีเอาตัวรอดไป
เหมียวอี้ : ท่านปู่สวรรค์วางใจ ข้าควบคุมน้ำหนักความสำคัญได้อยู่แล้ว!
บนตึกกำแพงของจวนหัวหน้าภาคแดนรัตติกาล หลังจากได้รับข่าวจากหยางเจาชิง หลงซิ่นก็ถอนหายใจเบาๆ เขารู้สึกผิดในใจ และค่อนข้างซาบซึ้งด้วย ตัวเองก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของผู้ตรวจการใหญ่แน่นอน โดยเฉพาะเมื่อถูกคนเอาไปโยงกับเรื่องของฉู่จื่อซาน เท่ากับพิสูจน์ชื่อเสียงด้านความทารุณของผู้ตรวจการใหญ่แล้ว ทว่าผู้ตรวจการใหญ่กลับไม่ผลักเขาออกมารับผิดเพื่อให้ตัวเองบริสุทธิ์ กลับแบกรับผลที่ตามมาจากสิ่งที่เขาก่อไว้…
จวนอ๋องสวรรค์ก่วง ในเรือนหลักด้านใน ก่วงเม่ยเอ๋อร์ที่ถือระฆังดาราไว้ในมือมาหามารดาที่นี่ด้วยความกังวล นางชักช้าไม่เข้าประตูมาเสียที
เม่ยเหนียงที่กำลังปักผ้าชำเลืองมองแวบหนึ่ง แล้วถามว่า “เป็นอะไรไป?”
ก่วงเม่ยเอ๋อร์เดินเข้ามาทำความเคารพ แล้วถ่ายทอดเสียงบอกว่า “ท่านแม่ หนิวโหย่วเต๋อส่งข่าวมาแล้ว เขาต้องการให้ลูกไปหาท่านพ่อ ต้องการให้ลูกเป็นสื่อกลางเจรจากับท่านพ่อค่ะ”
เม่ยเหนียงมองระฆังดาราในมือลูกสาว รู้สึกหวาดระแวงกลัวนิดหน่อย จิตใต้สำนึกของนางอยากจะห้ามไว้ นางถามว่า “เขาบอกหรือเปล่าว่าจะคุยเรื่องอะไร?” นางสงสัยว่าอาจจะเกี่ยวกับเรื่องที่เกาเหยียนโดนแล่หนังทั้งเป็นที่กำลังเป็นข่าวดังอยู่ตอนนี้
“เขาไม่ได้บอกค่ะ” ก่วงเม่ยเอ๋อร์ส่ายหน้า
เม่ยเหนียงลังเลอยู่นานมาก ทว่าหลังจากได้บทเรียนครั้งก่อน นางก็ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแล้ว กลัวว่าถ้าห้ามไว้แล้วจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก ถ้าจะให้ควบคุมเรื่องในจวนท่านอ๋อง นางก็พอจะมีความมั่นใจอยู่บ้าง แต่ถ้าเป็นเรื่องกองทัพที่อยู่ด้านนอก นางก็ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย กอปรกับครั้งก่อนขาดทุนไปแล้วครั้งหนึ่ง ในใจรู้สึกไม่มั่นใจจริงๆ สุดท้ายจึงวางของในมือ แล้วกัดฟันบอกว่า “แม่จะไปหาท่านพ่อด้วยกันกับเจ้า”
ตอนที่สองแม่ลูกไปหาก่วงลิ่งกง ก่วงลิ่งกงก็กำลังจัดการกิจธุระอยู่ในห้องหนังสือ
เมื่อได้ยินว่าหนิวโหย่วเต๋อต้องการจะติดต่อตน ก่วงลิ่งกงก็ขานรับ “อ้อ” แล้วก็แสยะยิ้มถามว่า “ถามเขาไหมว่าเรื่องอะไร”
ก่วงเม่ยเอ๋อร์ทำตามที่บอก ตอบว่า “หนิวโหย่วเต๋อบอกว่าต้องยืนยันก่อนว่าท่านพ่องอยู่ที่นี่หรือไม่ เขาบอกว่าท่านพ่อย่อมมีวิธีการ”
ก่วงลิ่งกงเอียงหน้าบอกใบ้โกวเยว่ที่อยู่ข้างกัน โกวเยว่รีบให้ลูกน้องที่มีช่องทางติดต่อกับเหมียวอี้บอกเหมียวอี้ให้รู้
ระฆังดาราในมือก่วงเม่ยเอ๋อร์มีการตอบสนองเร็วมาก แต่กลับอึกอักไม่กล้าเอ่ยออกมา ทั้งยังแอบมองมารดาที่อยู่ข้างๆ เป็นระยะด้วย
เม่ยเหนียงหัวใจกระตุกวูบ ตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่างแล้ว เมื่อกลัวสิ่งใด สิ่งนั้นก็มักจะมาเยือน ตอนนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของสองแม่ลูก โกวเยว่ก็สังเกตได้ถึงอะไรบางอย่าง เขาแอบมองท่านอ๋องเงียบๆ แวบหนึ่ง ก่วงลิ่งกงก็ย่อมสังเกตเห็นแล้วเช่นกัน จึงกล่าวช้าๆ ว่า “เม่ยเอ๋อร์ พ่อรับประกันต่อเจ้าได้ เรื่องในอดีตก็คือเรื่องในอดีต พ่อไม่สืบสาวเอาเรื่องอะไรอีกแล้ว”
เม่ยเหนียงหัวใจเต้นแรงด้วยความประหม่า ฟังออกถึงความหมายแฝงในคำพูดของท่านอ๋องแล้ว จึงรีบส่งสายตาให้เม่ยเอ๋อร์
ตอนนี้ก่วงเม่ยเอ๋อร์ถึงได้แข็งใจบอกว่า “หนิวโหย่วเต๋อยอกว่า เขาไปล่วงเกินท่านพ่อโดยไม่ได้ตั้งใจค่ะ เรื่องที่สำนักลมปราณ ก่อนหน้านี้เขาเคยติดต่อมาทางนี้แล้ว เป่าเหลียนเคยทำงานอยู่ข้างกายเขามาหลายปี จึงอยากจะขอร้องให้เป่าเหลียนสักครั้ง ส่วนเรื่องที่สำนักลมปราณจะไปขอพึ่งพาฝ่ายไหน เดิมทีเขาไม่อยากยุ่ง ทว่าเกาเหยียนรังแกกันเกินไป นึกไม่ถึงว่าจะด่าหยามเกียรติเขา เขาถึงได้เข้ามาแทรกเรื่องนี้ ขอให้ท่านอ๋องโปรดอภัยให้ด้วย” มีอยู่จุดหนึ่งที่นางจงใจพูดข้ามไป นางแค่บอกว่าเหมียวอี้เคยติดต่อมาทางนี้ แต่ไม่ได้บอกว่าเหมียวอี้เคยติดต่อมาหานาง
ก่วงลิ่งกงเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะสืบสาวว่าเหมียวอี้เคยติดต่อใครที่อยู่ฝั่งนี้กันแน่ เขาแสยะยิ้มอีกที “เรื่องร้านค้าที่ตลาดผี เขาไม่คิดจะชี้แจงอะไรกับอ๋องผู้นี้เชียวหรือ?”
ก่วงเม่ยเอ๋อร์บอกเขา จากนั้นก็ถ่ายทอดคำพูดของเหมียวอี้ทันที เห็นได้ชัดว่าเหมียวอี้เบี่ยงประเด็นนี้ไปแล้ว “เรื่องที่เกาเหยียนถูกทรมาน เขาเองก็ไม่รู้เรื่องมาก่อน เป็นหลงซิ่นที่ทำไปเพราะความรู้สึกส่วนตัว หลังจากสืบแล้วถึงได้รู้ว่าเป็นแค้นเก่าของหลงซิ่นกับเกาจื่อหู เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่โจวอ้าวหลินแย่งภรรยาหลงซิ่น ถ้าท่านพ่ออยากรู้ความจริง แค่ไปเกาจื่อหูก็จะรูแล้ว เขาไม่คิดจะเอ่ยเรื่องนี้กับภายนอก เรื่องที่ท่านพ่อส่งคนไปทำลายชื่อเสียงเขา เขาจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หวังว่าท่านพ่อจะใจกว้างปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป”
มาจนป่านนี้แล้ว เรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ไม่มีพยานหลักฐาน ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ได้ทั้งนั้น
เม่ยเหนียงแววตาวูบไหว พึมพำในใจว่า เกาจื่อหูไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่โจวอ้าวหลินแย่งชิงภรรยาของหลงซิ่นจริงๆ ด้วย ไม่รู้ว่าอยู่ในบทบาทไหนของเรื่องนี้?
ก่วงลิ่งกงกับโกวเยว่สบตากันแวบหนึ่ง เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นอย่างที่คาดไว้ เห็นได้ชัดว่าหนิวโหย่วเต๋อกำลังบอกฝั่งนี้ว่า ถ้าฝั่งนี้กล้าทำอะไรซี้ซั้ว เขาก็จะเปิดโปงเรื่องที่ตระกูลก่วงให้ท้ายคนในครอบครัวแย่งเมียลูกน้อง
ก่วงลิ่งกงพนักหน้าให้ลูกสาว บอกให้ถามกลับไปว่า “นี่กำลังขู่อ๋องผู้นี้อยู่เหรอ?”
ก่วงเม่ยเอ๋อร์บอกเหมียวอี้ เมื่อได้คำตอบจากเหมียวอี้แล้วก็อึกอักไม่ยอมตอบ
“บอกมา!” ก่วงลิ่งกงตกคอกเสียงต่ำ
ก่วงเม่ยเอ๋อร์ตกใจ รีบถ่ายทอดคำพูดของเหมียวอี้อย่างซื่อสัตย์ “ไม่ได้ขู่ แต่กำลังเตือน ถึงยังไงเมื่อเผชิญหน้ากับตระกูลอิ๋งกก็ไม่ได้อยู่อย่างเป็นสุขอยู่แล้ว ชีวิตของเขาต่ำต้อย ถ้าท่านพ่อต้องการจะมีเรื่องกับเขาให้ได้ อย่างมากเขาก็จะสู้จนมัจฉาตายตาข่ายขาด ไม่ว่าใครก็อย่าได้คิดเลยว่าจะได้อยู่อย่างเป็นสุข…ท่านพ่อ ไม่มีแล้วค่ะ เขาไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว เขาบอกว่าถ้าท่านพ่อดึงดันจะอาศัยอำนาจรังแกกันโดยไร้เหตุผล ก็ให้ท่านพ่อตัดสินใจเอาเอง เขาพร้อมจะเล่นเป็นเพื่อนได้ทุกเมื่อ!”
เมื่อพูดจบ ขนาดนางเองก็ยังแอบอึ้ง เม่ยเหนียงที่อยู่ข้างๆ ก็แอบแลบลิ้นเช่นกัน พบว่าหนิวโหย่วเต๋อช่างใจกล้าจริงๆ
ปั้ง! ก่วงลิ่งกงตบโต๊ะยืนขึ้น แล้วตะคอกว่า “เหิมเกริม! คิดจริงเหรอว่าข้าจะทำอะไรเขาไม่ได้?”
ไฟโกรธสุมเต็มอก ยังนึกว่าเหมียวอี้จะขอร้องเขาอย่างไร สงสัยอ้อมค้อมอยู่ตั้งนานก็เพื่อจะขู่เขานี่เอง อดทนไม่ไหวแล้วจริงๆ!
ส่วนโหวเยว่ที่หยิบระฆังดาราออกมาติดต่อภายนอกก็สีหน้าเปลี่ยนไปมาก บอกว่า “ท่านอ๋อง เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”
ชั่วขณะนั้นไม่ได้สนใจว่าภรรยาและลูกสาว โกวเยว่พลันหันมาถามด้วยใบหน้าบึ่งตัง “เกิดอะไรขึ้น?”
โกวเยว่ตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “จู่ๆ แต่ละแห่งในใต้หล้าก็ปรากฏแผ่นหยกที่ปลุกปั่นข่าวลือจำนวนมาก ทั้งหมดพุ่งเป้าไปที่อิ๋งจิ่วกวง หนึ่งในนั้นพูดถึงศึกสระน้ำมังกรดำ ตระกูลอิ๋งส่งทัพใหญ่ห้าล้านให้ปลอมตัวเป็นโจรไปโจมตีหนิวโหย่วเต๋อ ทัพตะวันออกสูญเสียกำลังพลไปแค่สองล้าน แต่กลับพูดเกินจริงว่าสามล้าน ทั้งยังบอกด้วยว่า เพื่อที่จะชนะในศึกนี้ ตระกูลอิ๋งไม่เสียดายที่จะออกคำสั่งยิงเชลยศึกหลายแสนที่หนิวโหย่วเต๋อผลักมาอยู่หน้ากระบวนทัพ แม่ทัพหลักที่นำทัพตะวันออกห้าล้านปลอมตัวเป็นโจรก็คือท่านโหวอิ๋งอู๋หม่าน โดนหนิวโหย่วเต๋อจับตัวไปทั้งเป็น ตอนนี้ยังอยู่ในมือหนิวโหย่วเต๋อ!”
ก่วงลิ่งกงพลันหรี่ตา
โกวเยว่พูดต่อว่า “เรื่องที่สอง บอกว่าอิ๋งจิ่วกวงต้องการจะปิดบังความฉาวโฉ่ จึงยอมทุ่มทุกอย่างเพื่อแลกกับตัวประกันหลายแสนและศพนับล้านที่หนิวโหย่วเต๋อจับได้ที่ศึกสระน้ำมังกรดำ ปล่อยสมาชิกโถงชุมนุมอัจฉริยะที่จับตัวไว้ ตอบตกลงว่าจะช่วยให้หนิวโหย่วเต๋อเลื่อนตำแหน่ง วางแผนช่วงชิงตำแหน่งผู้ตรวจการใหญ่และทูตลาดตระเวนตลาดสวรรค์ให้ให้หนิวโหย่วเต๋อ ทั้งยังกว้านซื้อยาแก่นซียนหนึ่งหมื่นล้านล้านเม็ดไปทั่วทุกที่เพื่อชดเชยให้หนิวโหย่วเต๋อ หมายจะแลกตัวอิ๋งอู๋หม่านกลับคืนไป!”
ก่วงลิ่งกงสูดหายใจลึกด้วยความตกใจ เรื่องนี้เกรงว่าอิ๋งจิ่วกวงจะแก้ตัวไม่ได้แล้ว กางเกงเปื้อนสีเหลืองแล้ว ต่อให้ไม่ได้อุจจาระแต่คนก็คิดว่าอุจจาระ คนของโถงชุมนุมอัจฉริยะถูกปล่อยและกลับคำพิพากษาแล้วจริงๆ หนิวโหย่วเต๋อเองก็ได้เลื่อนตำแหน่งโดยสร้างผลงานปราบโจร ตอนนี้ยาแก่นเซียนในตลาดที่ราคาเพิ่มขึ้นก็ยังไม่ลดลงเลย
โกวเยว่บอกอีกว่า “เรื่องที่สาม สนมฉินเป็นพยานว่าถูกอิ๋งจิ่วกวงบงการ เพื่อที่จะช่วยให้สนมสวรรค์จ้านหรูอี้ขึ้นตำแหน่งราชินีสวรรค์ นางยอมเสียสละรูปลักษณ์เพื่อใส่ร้ายโอรสสวรรค์ เพื่อให้โอรสสวรรค์ถูกลดตำแหน่ง ตอนหลังครอบครัวสนมฉินพบว่าอิ๋งจิ่วกวงมีเจตนาจะวางแผนก่อกบฏ อิ๋งจิ่วกวงกดดันให้นางคิดวางแผนทำร้ายประมุขชิง ทั้งครอบครัวนางหวาดกลัวมาก ถึงได้หนีไปทั้งครอบครัว ครอบครัวสนมฉินต้องการจะหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนข้อหากบฎไปด้วย จึงตั้งใจเขียนหนังสือเปิดเผย บนแผ่นหยกมีตราอิทธิฤทธิ์ของทุกคนในครอบครัวสนมฉิน ตอนนี้ยังไม่รู้จริงเท็จ แต่ถ้าจะตรวจสอบก็ไม่ยากขอรับ”
ใส่ข้อหามาเป็นชุด เม่ยเหนียงกับลูกสาวอกสั่นขวัญแขวนแล้วจริงๆ รู้สึกได้ว่าคลื่นยักษ์โหมซัดสาดเข้ามาใส่หน้า แม้พวกนางจะไม่มีประสบการณ์ต่อสู้ข้างนอก แต่ก็รู้สึกได้ว่าที่เรื่องพวกนี้เปิดโปงออกมาพร้อมกัน ก็เพราะมีคนต้องการจะวางแผนทำร้ายตระกูลอิ๋ง
………………
Related