ที่สำคัญคือต่อให้เข้าไปได้แต่ก็ไม่กล้าไปอยู่ดี การไปทรมานที่แดนอเวจีไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย คนมากมายที่ถูกปล่อยเข้าไปในนั้นตายแบบไม่เหลือซากด้วยซ้ำ
“จะซ่อนที่ไหนก็ไม่ซ่อน ไปซ่อนในที่ผีๆ แบบนั้น ประมุขไป๋ท่านนั้นเล่นบ้าอะไรกันแน่?” อวิ๋นจือชิวเองก็อดไม่ได้ที่จะบ่นอย่างคับแค้นใจ
เหมียวอี้ขมวดคิ้ว ส่ายหน้าอย่างพูดไม่ออก
ตรงนี้กำลังวุ่นวายใจ เพราะถึงอย่างไรการไปดาวดำเนินเซียนก็ทำให้ร่ำรวยกลับมามหาศาล พวกเขาจึงค่อนข้างเฝ้าคอยกับจุดซ่อนสมบัติที่ต่อไป ใครจะคิดว่าจะมาเจอตอปัญหาแบบนี้ แต่กลับโดนปี้เยว่ฮูหยินระฆังดาราส่งข้อความมา ให้เหมียวอี้รีบกลับตลาดสวรรค์ บอกว่ามีธุระจะคุยกับเขา
เดิมทีเหมียวอี้คิดจะ ‘หายตัว’ ไปสักระยะหนึ่ง ตอนนี้ไม่สามารถไปยังจุดซ่อนสมบัติที่ต่อไปได้แล้ว แต่ก็ยังมีความคิดที่จะพักผ่อนต่อไป จึงตอบว่า : ข้าน้อยเพิ่งกลับถึงตลาดสวรรค์พอดี
เหมียวอี้เก็บระฆังดารา แล้วลุกขึ้นบอกอวิ๋นจือชิวว่า “ปี้เยว่ฮูหยินเรียกหาข้า ข้าจะไปสักรอบ”
พอได้ยินว่าเป็นปี้เยว่ฮูหยิน อวิ๋นจือชิวที่ลุกตามก็ทำสีหน้าตื่นตัวทันที กล่าวเตือนอย่างเย็นชาว่า “รักษาระยะห่างกับผู้หญิงคนนั้นไว้หน่อย!”
เหมียวอี้เหลือบมองเชียนเอ๋อร์ เสวี่ยเอ๋อร์ที่ทำสีหน้า ‘เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง’ แล้วหัวเราะแห้งๆ “คิดไปถึงไหนแล้ว!”จากนั้นก็โบกมือแล้วเดินออกไป
เมื่อมาถึงตำหนักคุ้มเมือง ผู้บัญชาการใหญ่เหมียวที่ ‘ประจบประแจง’ พอเจอปี้เยว่ฮูหยินก็มอบของขวัญให้ทันที เรียกได้ว่าเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ
เห็นได้ชัดว่าปี้เยว่ฮูหยินมีอารมณ์ต่างออกไป นางขมวดคิ้วมุ่น รับแหวนเก็บสมบัติมาแล้วไม่มองดูของข้างในด้วยซ้ำ รับไว้แล้วเก็บเลย จากนั้นเดินลากกระโปรงออกไปข้างนอก “ไปเดินเล่นเป็นเพื่อนข้าหน่อย!”
เหมียวอี้ย่อมไม่มีทางปฏิเสธได้ จากที่เดินตามหลังก็ก้าวขึ้นมาอยู่ข้างกายนาง เมื่อเดินมาถึงสวนดอกไม้ ก็เห็นปี้เยว่ฮูหยินหยุดอยู่ตรงหน้าดอกไม้สีสันสดสวยในกระถางใหญ่ต้นหนึ่ง ปลายนิ้วที่สัมผัสกลีบดอกไม้ไม่ขยับไปไหนเสียที เหมียวอี้จึงอดไม่ได่ที่จะเข้ามาใกล้ๆ แล้วถามหยั่งเชิงว่า “ฮูหยินมีเรื่องอะไรในใจขอรับ?”
ปี้เยว่ฮูหยินปล่อยดอกไม้ดอกนั้นแล้ว จากนั้นถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินไปข้างหน้าต่อ “หนิวโหย่วเต๋อ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
“ข้าน้อยจะล้างหูรอฟัง” เหมียวอี้กล่าว
“เรื่องที่ผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์สายมะเมียสามคนประสบภัย ตอนเจ้าอยู่ข้างนอกได้ยินข่าวนี้บ้างรึเปล่า?”
“ได้ยินแล้วขอรับ เป็นเพราะได้ยินเรื่องนี้ ข้าน้อยถึงได้รีบร้อนกลับมา ขอบังอาจถามฮูหยิน หรือว่าเรื่องนี้ยังมีภาคต่ออีก?”
“เป็นแค่ภาคต่อเสียที่ไหนล่ะ เรื่องนี้ลุกลามใหญ่โตแล้ว กลุ่มขุนนางที่ประชุมในราชสำนักของตำหนักสวรรค์พากันหวาดกลัว ราชันสวรรค์เดือดดาลสุดขีด ด่าหวงฮ่าวจอมพลสายมะเมียจนเสียหลักเลย ถ้าไม่ใช่เพราะกลุ่มขุนนางรวมตัวกันวิงวอนขอร้องให้ จอมพลหวงฮ่าวคงจะรักษาตำแหน่งไว้ไม่ได้แล้ว”
เหมียวอี้กล่าวดูถูกในใจว่า ไม่ใช่หวงฮ่าวคนเดียวเสียหน่อยที่ทำแบบนี้ คนอื่นๆ ย่อมช่วยพูดวิงวอนให้หวงฮ่าวอยู่แล้ว เขาถามอย่างสงสัยนิดหน่อยว่า “เรื่องของสายมะเมียเกี่ยวข้องอะไรกับสายฉลูของพวกเราขอรับ?”
“แน่นอนว่าต้องเกี่ยว!” ปี้เยว่ฮูหยินที่เดินเข้ามาในศาลานั่งลง ขณะเดียวกันก็ยื่นมือบอกใบ้ให้เหมียวอี้นั่งลงด้วยกัน เสร็จแล้วถึงได้บอกว่า “เรื่องเกิดขึ้นจากทางหวงฮ่าว แต่คนอื่นๆ ก็โดนราชันสวรรค์ตำหนิอย่างรุนแรงเช่นกัน สุดท้ายราชันสวรรค์ก็ประกาศตรงนั้นเลยว่าต้องการปรับปรุงตลาดสวรรค์”
เหมียวอี้ไม่ได้นั่งลง อีกฝ่ายเป็นเจ้านายที่มีน้ำใจ แต่เขาไม่ถึงขั้นนั่งเทียบเสมอกับเจ้านายต่อหน้าธารกำนัล ได้แต่ยืนเก็บมือพร้อมถามว่า “ปรับปรุงอย่างไรขอรับ?”
ปี้เยว่ฮูหยินถอนหายใจแล้วบอกว่า “ราชันสวรรค์ได้แยกตลาดสวรรค์ทุกแห่งในสังกัดตำหนักสวรรค์ออกจากการปกครองของขุนนางใหญ่ในราชสำนักแล้ว ส่งต่อให้ราชินีสวรรค์ดูแลแทน สั่งให้ราชินีสวรรค์ร่างแผนปรับปรุงออกมาให้เร็วที่สุด”
“เอ่อ…” เหมียวอี้ค่อนข้างตกใจ นี่เป็นเรื่องใหญ่จริงๆ เป็นการปฏิรูปครั้งใหญ่! จึงรีบถามว่า “ยึดอำนาจมาจากมือทุกคน กลุ่มขุนนางจะไม่ต่อต้านเชียวหรือขอรับ?”
ปี้เยว่ฮูหยินส่ายหน้า “พอเกิดเรื่องขึ้นที่สายมะเมีย คนที่โดนด่ายับเยินที่สุดก็คือหวงฮ่าว แต่ทุกคนก็ไม่ได้ก้นสะอาด พวกเขาจะต่อต้านสิ่งนี้ได้อย่างไร? กลุ่มขุนนางนิ่งเงียบไป…ตั้งแต่นี้ไป พวกเราก็ไม่ได้อยู่ในการดูแลของหัวหน้าภาคเฉาว่านเสียงแล้ว ท่านโหวสามีของข้าก็ดูแลข้าไม่ได้แล้วเช่นกัน พวกเราอยู่ในการดูแลของราชินีสวรรค์โดยตรง”
“แล้วราชินีสวรรค์เตรียมจะปรับปรุงอย่างไรขอรับ?” เหมียวอี้
“นี่ก็เป็นสาเหตุที่ข้าเรียกเจ้ามา เรื่องแผนการปรับปรุงโดยละเอียด ราชินีสวรรค์ยังไม่ได้นำออกมา สิ่งแรกที่ราชินีสวรรค์จะทำก็คือรับช่วงต่อดูแลตลาดสวรรค์แต่ละแห่ง กำลังถ่ายเทงานกับกลุ่มขุนนาง ทางข้าได้รับแจ้งมาแล้ว เร็วๆ นี้จะต้องไปวังสวรรค์เพื่อพบกับราชินีสวรรค์ แม่ทัพภาคทุกคนของตลาดสวรรค์ก็จะต้องไปเหมือนกัน เดี๋ยวเจ้ากลับไปแล้วก็รีบเรียกลูกน้องมาถามสักหน่อย ดูว่าเบื้องล่างมีเรื่องอะไรที่ต้องเตรียมตัวรายงานหรือเปล่า ถ้ามีก็แจ้งข้าทันที ข้าจะได้มีข้อมูลไว้ในใจ เมื่อถึงเวลานั้นจะได้ตอบคำถามได้ ส่วนสถานการณ์โดยละเอียด รอข้าไปพบราชินีสวรรค์กลับมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
“ขอรับ!” เหมียวอี้เอ่ยรับ
เมื่อออกจากตำหนักคุ้มเมืองมาแล้ว เขาก็กลับมาที่จวนผู้บัญชาการเขตเมืองตะวันออกพร้อมความกลุ้มใจ ไม่ให้กลุ้มใจคงไม่ได้ เพราะเขามีความขัดแย้งกับเซี่ยโห้วหลงเฉิง แล้วราชินีสวรรค์ก็เป็นคนของตระกูลเซี่ยโห้ว ทั้งยังเป็นอาหญิงแท้ๆ ของเซี่ยโห้วหลงเฉิงด้วย ถึงแม้เขาจะไม่คิดว่าราชินีสวรรค์ผู้สง่าผ่าเผยจะใช้อำนาจส่วนรวมล้างแค้นส่วนตัวกับตัวละครเล็กๆ อย่างเขา แต่ในใจก็ยังกังวลอยู่ดี คนตำแหน่งสูงจัดการง่าย คนตำแหน่งต่ำรับมือยาก!
หลังจากกลับมาแล้ว เรื่องแรกที่ทำก็คือเรียกรวมผู้บัญชาการสี่เขตเมือง เรื่องนี้ต้องถามมู่หรงซิงหัว ถึงแม้นางจะเป็นฮูหยินของเฉาว่านเสียง แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะยังไม่รู้สถานการณ์ จึงรีบติดต่อเฉาว่านเสียงแล้วเอ่ยถามตรงนั้นเลย ผลก็คือเฉาว่านเสียงก็ไม่รู้สถานการณ์เหมือนกัน จะเห็นได้ว่าปี้เยว่ฮูหยินมีสามีรับตำแหน่งเทพเซียนอยู่ในราชสำนักของตำหนักสวรรค์ จึงได้รู้ข่าวสารรวดเร็ว ไม่ว่ามีเรื่องอะไรก็สามารถรู้ในทันที
เรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่มีใครกล้ามองข้าม เมื่อกลับถึงเขตของตัวเอง ผู้บัญชาการสี่เขตเมืองต่างก็เรียกรวมลูกน้องเพื่อถามสถานการณ์ของตลาดสวรรค์ทันที สุดท้ายก็รายงานสถานการณ์ทั้งหมดมาถึงมือเหมียวอี้แล้ว
หลังจากส่งรายงานให้ปี้เยว่ฮูหยินแล้ว เหมียวอี้ก็บอกเรื่องนี้ให้อวิ๋นจือชิวรู้อีก บอกเพียงว่ามีงานราชการจึงยังกลับไปไม่ได้ แต่ตอนกลางคืนกลับแอบไปหาหวงฝู่จวินโหรว
เป็นครั้งแรกที่ท่านขุนนางเหมียวมาหาถึงที่ก่อน หวงฝู่จวินโหรวระริกระรี้มาก พอเห็นหน้าก็โน้มคอกอดอย่างอ่อนโยนทันที
เหมียวอี้กลับผลักนางออก แล้วบอกเรื่องปรับปรุงตลาดสวรรค์ให้รู้ ให้นางไปสืบข่าวให้สักหน่อย ถ้ามีอะไรที่ไม่คาดคิดจะได้เตรียมตัวล่วงหน้าได้สะดวก
หวงฝู่จวินโหรวก็ไม่รู้เรื่องนี้เหมือนกัน แต่กลับรู้สึกทั้งโมโหทั้งอยากขำ “ข้าก็คิดอยู่ว่าทำไมใจดีมามอบความอบอุ่นให้ข้าถึงที่แบบนี้ ที่แท้ก็มีเรื่อง! ข้าไม่สะดวกจะไปถามเรื่องนี้ แต่จะคอยสังเกตให้แล้วกัน”
พอตกกลางคืน เหมียวอี้ก็อยู่ค้างที่นี่ ไม่ง่ายเลยกว่าจะมาได้สักครั้ง จะไม่ให้ค้างสักคืนก็คงยาก สองคนที่อยู่บนเตียงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีความสัมพันธ์กัน
หลังเที่ยงคืนเหมียวอี้ก็ลุกขึ้นจากการพัวพันของหวงฝู่จวินโหรว เขาต้องการจะกลับไป กลัวว่าฟ้าสว่างแล้วจะสะดุดตาคน
หวงฝู่จวินโหรวค่อนข้างคับแค้นใจ ตอนที่อาบน้ำใส่เสื้อผ้าให้เขานางก็บ่นว่า “เจ้าปีนกำแพงเข้าออกแบบนี้ สักวันหนึ่งคงมีคนจับได้ ข้าว่าขุดทางใต้ดินเถอะ ข้าไปหาเจ้าที่นั่น หรือเจ้าจะมาหาข้าที่นี่ก็สะดวกทั้งนั้น”
ยังจะขุดอีกเหรอ? ถึงตอนนั้นพื้นดินของตลาดสวรรค์คงจะพังหมดแล้วล่ะ! เหมียวอี้ไอแห้งๆ แล้วบอกว่า “แบบนี้ไม่ดีมั้ง? ตลาดสวรรค์ห้ามอย่างเข้มงวดว่าไม่ให้ขูดทางใต้ดิน ไม่สู้ทำแบบนี้ดีมั้ย ต่อไปเวลาเจอกันพวกเราก็ปลอมตัวไปโรงเตี๊ยม หรือจะให้ข้าสร้างบ้านพักไว้นอกเมืองสักหลัง”
หวงฝู่จวินโหรวส่ายหน้า “ข้าเป็นสาวเป็นนาง ถ้าออกไปค้างข้างนอกบ่อยๆ คงยากที่จะไม่ให้คนอื่นๆ ของสมาคมวีรชนสงสัย ขุดทางใต้ดินแล้วกัน”
เหมียวอี้พูดจาคลุมเครือ ไม่ยอมตอบ…
หลังจากนั้นหลายเดือน ปี้เยว่ฮูหยินที่กลับมาจากวังสวรรค์ก็แวะพักที่จวนท่านโหวเทียนหยวนก่อนสองสามวัน จากนั้นถึงได้กลับมาที่ตลาดสวรรค์ เรื่องแรกที่ทำเมื่อกลับมาก็คือเรียกพบเหมียวอี้
พอพบหน้ากัน เหมียวอี้ก็ถามอย่างร้อนใจว่า “ฮูหยิน ไม่ทราบว่าราชินีสวรรค์เตรียมจะปรับปรุงตลาดสวรรค์อย่างไรขอรับ?”
ปี้เยว่ฮูหยินที่นั่งอยู่เบื้องบนกำลังอุ้มปีศาจจิ้งจอกสีชมพู นางกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า “การปรับปรุงตลาดสวรรค์ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องดีสำหรับข้า ราชินีสวรรค์ต้องการจะยกเลิกแม่ทัพภาคของตลาดสวรรค์แต่ละแห่ง ตั้งแต่นี้ไปตลาดสวรรค์ทุกสิบแห่งจะมีแม่ทัพภาคเพียงคนเดียว ถึงอย่างไรสามีข้าก็เป็นหนึ่งในเจ็ดสิบสองโหวของตำหนักสวรรค์ แม่ทัพภาคตลาดสวรรค์แปดร้อยกว่าตำแหน่ง ถ้าจะช่วงชิงมาให้ข้าสักตำแหน่งก็ไม่ยาก ทางราชินีสวรรค์อนุญาตแล้ว เพียงแต่ในภายหลังข้าอาจจะต้องเปลี่ยนสถานที่ปักหลักแล้ว พอมีการแต่งตั้งตำแหน่งลงมา ตำหนักคุ้มเมืองนี้ก็จะถูกส่งต่อให้เจ้าคุมทันที เจ้าจะได้ไม่ต้องกลัวตกเป็นที่ต้องสงสัยแล้วไปเบียดอยู่ที่จวนผู้บัญชาการเขตเมืองตะวันออกตลอด”
เหมียวอี้กุมหมัดคารวะด้วยรอยยิ้มทันที “ยินดีด้วยฮูหยิน ยินดีด้วยฮูหยิน ต่อไปนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวกับฮูหยินจะด้วย” เขาได้ยินข่าวนี้แล้วดีใจจริงๆ ข้างกายมีผู้บังคับบัญชาจับตามองอยู่ตลอดไม่ดีเลย การได้เข้าไปอยู่ที่ตำหนักคุ้มเมืองคือประเด็นรอง ประเด็นหลักคือเขาจะมีอำนาจตัดสินใจที่ตลาดสวรรค์ดาวเทียนหยวนแล้วจริงๆ
อาศัยความสัมพันธ์ระหว่างเขากับปี้เยว่ฮูหยิน เขาคาดว่านางคงไม่ถึงขั้นถอดเขาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์ดาวเทียนหยวน
ปี้เยว่ฮูหยินมองเขาด้วยแววตาหลากอารมณ์ แล้วพูดต่อว่า “จำนวนผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์ยังคงไว้ไม่เปลียนแปลง ตลาดสวรรค์สิบแห่งจะมีแม่ทัพภาคควบคุมหนึ่งคน แม่ทัพภาคสิบคนจะมีหัวหน้าภาคควบคุมหนึ่งคน ส่วนผู้ที่อยู่เหนือหัวหน้าภาคก็คือหัวหน้าภาคใหญ่หนึ่งคน จากนั้นหัวหน้าภาคใหญ่ก็จะมีราชินีสวรรค์ควบคุมโดยตรง นอกจากตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์ ก็ไม่มีใครถามเรื่องอื่นแล้ว ตำแหน่งอื่นล้วนกลายเป็นเป้าหมายในการช่วงชิงของขุนนางใหญ่ในราชสำนัก ช่วงชิงมาสักตำแหน่งเพื่อยัดคนของตัวเองเข้าไปก็ไม่ขาดทุนแน่ พอเป็นแบบนี้ แผนปรับปรุงของราชินีสวรรค์จึงได้รับการสนับสนุนจากขุนนางในราชสำนักอย่างดี คนส่วนน้อยที่คัดค้านไม่มีทางขัดขวางการปรับปรุงในครั้งนี้ได้ มีเพียงตระกูลเซี่ยโห้วที่เสียเปรียบมากกับการปรับปรุงครั้งนี้ เพื่อที่จะสนับสนุนการปรับปรุงของราชินีสวรรค์ และเพื่อไม่ให้ตกเป็นที่ต้องสงสัย จึงไม่ได้เข้าร่วมการช่วงชิงตำแหน่งของระบบตลาดสวรรค์นี้”
เหมียวอี้ได้ยินแล้วโล่งใจ ตระกูลเซี่ยโห้วไม่เข้ามาเกี่ยวข้องก็ดีแล้ว การที่เซี่ยโห้วหลงเฉิงไม่มีโอกาสแอบอ้างเบื้องบนเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ก็ถือเป็นเรื่องดีสำหรับเขา แต่ภายนอกเขากลับถอนหายใจแล้วบอกว่า “เพื่อที่จะสนับสนุนราชินีสวรรค์ ตระกูลเซี่ยโห้วเสียเปรียบมากจริงๆ”
ปี้เยว่ฮูหยินส่ายหน้าบอกว่า “คนในราชสำนักไม่มีทางสามัคคีกันเพราะตระกูลเซี่ยโห้วยอมถอยหรอก ครั้งนี้ราชินีสวรรค์กุมอำนาจ จะมีคนรวมตัวกันเสนอแนะต่อราชันสวรรค์ทันที แนะนำให้ราชันสวรรค์กับราชินีสวรรค์ให้กำเนิดทายาทเร็วๆ แบบนี้จะได้วางใจได้ กลัวว่าราชินีสวรรค์จะโดนโต้กลับอย่างไม่พอใจเพราะการปรับปรุงครั้งนี้ อย่างไรเสียเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของคนจำนวนไม่น้อยเลย!”
เหมียวอี้แอบรู้สึกปลงในใจ เรื่องนี้ห่างไกลกับเขาเกินไป ไม่ใช่เรื่องที่เขาควรจะกังวล ได้แต่ถามอย่างสงสัยว่า “ทำไมครั้งนี้ถึงไม่มีใครถามถึงตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์ขอรับ?”
ปี้เยว่ฮูหยินลังเลอยู่หลายครั้ง ทำใจไม่ได้นิดหน่อยที่จะบอกเขา แต่ก็ไม่มีทางปิดบังเรื่องนี้ได้อยู่ดี นางถอนหายใจแล้วบอกว่า “หนิวโหย่วเต๋อ เจ้าต้องเตรียมใจไว้ให้พร้อมนะ เพราะการตายของผู้บัญชาการใหญ่ตลาดสวรรค์สามคนของสายมะเมีย จุดที่เน้นปรับปรุงจึงอยู่ที่ตลาดสวรรค์ ราชินีสวรรค์ตัดสินใจแล้ว ว่านักพรตทุกคนของตำหนักสวรรค์ที่วรยุทธ์ได้ตามเกณฑ์ สามารถเข้าร่วมช่วงชิงตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์ทั้งแปดพันตำแหน่งได้”
“ช่วงชิง?” เหมียวอี้งุนงง “ช่วงชิงอย่างไรขอรับ?”
“ทดสอบ!” ปี้เยว่ฮูหยินกล่าวช้าๆ ว่า “ผู้บัญชาการใหญ่ของตลาดสวรรค์ทุกคนล้วนอยู่ในรายชื่อการทดสอบครั้งนี้ แต่ก็ไม่ได้บังคับหรอก สามารถตัดสินใจถอนตัวหรือเข้าร่วมได้อย่างอิสระ แต่ราคาที่ต้องจ่ายสำหรับการถอนตัวก็คือ จะกลายเป็นคนไร้ความสามารถที่ถูกลดขั้นเป็นพวกเทพแห่งผืนดิน ผีหลักเมือง แล้วก็จะไม่ถูกเลื่อนขั้นภายในเวลาหนึ่งหมื่นปีด้วย”
…………………………