ไม่ใช่แค่ไห่ยวนเค่อ จินม่าน สืออวิ๋นเปียน อ๋าวเถี่ย กงซุนลี่เต้าปรากฏตัวพร้อมกัน ห้าผู้ยิ่งใหญ่ของลัทธิอู๋เลี่ยงโจมตีสังหารข้ามดาราจักรเข้ามาด้วยกันแล้ว
เกาก้วนที่ยืนอยู่บนหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่งที่ลอยอยู่ในดาราจักรหันขวับ มองออกไปด้วยสายตาเย็นเยียบ
ข้างๆ กัน เฉิงไท่เจ๋อ จอมพลสายฉลูที่เกล้าผมสีขาวเงินไว้บนยอดศีรษะ ใบหน้าสีชมพูระเรื่อ ใบหน้าเปล่งปลั่งดุจทารกก็มองมาด้วยสายตาเย็นเยียบเช่นกัน ลักษณะท่าทางแทบจะเปลี่ยนเป็นดุร้ายกระหายเลือดในชั่วพริบตาเดียว พอพลิกฝ่ามือ ทวนยาวด้ามหนึ่งก็อยู่ในมือแล้ว จู่ๆ ก็พลันหายไปจากที่เดิม ไม่รอให้กำลังพลกลุ่มใหญ่ตามมาถึง เขาพุ่งสังหารออกไปเพียงลำพังแล้ว รับศึกกับห้าคนนั้นด้วยตัวคนเดียว
จินม่านพลันหยุดนิ่งอยู่กลางท้องฟ้า หมุนตัวเหาะขึ้นเหาะลง กระโปรงยาวสีทองหมุนวน นางควงแขนช้อนธนูใหญ่ที่มีลำแสงหลากสีออกมา คันธนูสูงประมาณหนึ่งจั้ง เงาร่างที่มีท่วงท่าสง่างามประคองคันธนูให้นิ่งอยู่กลางท้องฟ้า ใช้มือข้างเดียวดึงสายธนูพร้อมเหาะถอยไปข้างหลัง ธนูใหญ่ที่มีลำแสงหลากสีสันถูกดึงจนกลายเป็นรูปพระจันทร์เต็มดวง ลูกธนูใหญ่สีดำมืดดอกหนึ่งตั้งอยู่บนสายธนูแล้ว
อ๋าวเถี่ยคุ้มกันอยู่ด้านข้าง ไห่ยวนเค่อ สืออวิ๋นเปียน กงซุนลี่เต้า ทั้งสามคนสังหารฝ่าไปข้างหน้าต่อไป
สามคนที่แฉลบผ่านอย่างรวดเร็วเหลือบมองปี้เยว่ฮูหยินที่อยู่ไม่ไกลแวบหนึ่ง
ปี้เยว่ฮูหยินที่ตะลึงค้างพลันเบิกตากว้าง ได้แต่มองดูสามคนนั้นแฉลบผ่านไป ไม่รู้ว่าคนพวกนั้นกำลังจะทำอะไร
“โจรกบฏใจกล้า!” เฉิงไท่เจ๋อตะโกนอย่างเดือดดาล โบกทวนชี้เข้าไปรับศึกกับทั้งสามคน
“รนหาที่ตาย!” กงซุนลี่เต้าแสยะยิ้ม โจมตีเข้ามาพร้อมสืออวิ๋นเปียนที่ถือทวนยาวอยู่ในมือเช่นเดียวกัน
ชั่วพริบตาที่ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน เฉิงไท่เจ๋อกางแขนสองข้าง เงาสีทองยาวหกสายพลันพุ่งจากข้างหลังของเขาขึ้นบนฟ้า เงานั้นปรากฏเป็นร่างกายขนาดยักษ์ มังกรยักษ์ทองหกตัวที่รูปร่างใหญ่มหึมาปรากฏตัวอย่างดุร้าย เกล็ดย้อนสีทองระยิบระยับ กรงเล็บสี่ข้างแหลมคม ฟันแหลมน่าเกลียดดุร้าย ดวงตาใหญ่สีแดงเข้มเปล่งแสง
“อ๋าว!” มังกรยักษ์ทองหกตัวคำรามก้องดาราจักรพร้อมกัน มังกรตัวหนึ่งเลี้ยวคดเคี้ยวลงมารองใต้เฉิงไท่เจ๋อและพุ่งมาข้างหน้า ส่วนอีกห้าตัวรุกโจมตีเป็นรูปวงแหวน ใช้วิธีการรวมกันเพื่อโจมตีสามคนนั้น
บึ้ม! เงาดาบที่สะเทือนฟ้าโผล่ออกมาอีก กะพริบแสงสีขาวดุจหิมะส่องสว่างดาราจักร ดาบของไห่ยวนเค่อฟันไปบนหัวมังกรอย่างดุดือด
“อ้าว!” มังกรยักษ์ที่ชนเข้ามาถูกฟันท่อนบนจนจมลง ขณะที่ใช้หัวกะโหลกอันแข็งแรงต้านทานการโจมตีครั้งนี้ มันก็ฟาดหางโจมตีไห่ยวนเค่อที่พุ่งออกมาจากวงล้อมโจมตี
ไห่ยวนเค่อยังไม่หยุดนิ่ง ฟันดาบในแนวขวางกวาดหางมังกรยักษ์ออกไป เขาเงาร่างขยับด้วยความรวดเร็ว หลบกรงเล็บแหลมของมังกรยักษ์ที่โบกเข้ามา แล้วถลันตัวพุ่งออกไปเพียงลำพัง ทำให้มังกรยักษ์ตัวนั้นพลิกตัวไล่ตามไปทันที ทั้งไล่ตามทั้งต่อสู้
ส่วนกงซุนลี่เต้ากับสืออวิ๋นเปียนก็ใช้ทวนโจมตีไปสี่ด้านแปดทิศอย่างรวดเร็วดุเดือด มังกรยักษ์ห้าตัวล้อมทั้งสองเอาไว้พร้อมเหาะวนอย่างรวดเร็ว กรงเล็บใหญ่ยี่สิบข้างโจมตีอย่างบ้าคลั่ง เฉิงไท่เจ๋อที่ปะปนอยู่ในนั้นฉวยโอกาสหาช่องว่างแทงทวนออกไปอย่างเกรี้ยวกราด
“เตรียมตัว!”
พอแม่ทัพใหญ่เกราะแดงคนหนึ่งโบกมือพร้อมตะโกนเสียงดัง แม่ทัพเกราะม่วงสามพันคนก็จัดกระบวนทัพอยู่ข้างหลังเขา ลูกธนูดาวตกขั้นสูงสามพันดอกง้างอยู่บนสายธนูของธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์แล้ว คมธนูเล็งไปยังไห่ยวนเค่อที่พุ่งเข้ามาพร้อมกัน
ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ชนิดนี้ไม่ใช่สิ่งที่ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ในมือเหมียวอี้จะเทียบติด เดิมทีธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ก็เป็นอาวุธขั้นสูงตามระบบของตำหนักสวรรค์อยู่แล้ว ใช้รับมือกับนักพรตระดับสูงโดยเฉพาะ เคล็ดลับการหลอมสร้างไม่เผยแพร่ต่อภายนอก ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ของต่งอิ้งเกาเป็นเพียงสินค้าขั้นต่ำที่ทำเลียนแบบเท่านั้น ตัวคนก็ตายไปแล้ว เหมียวอี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาไปหามาจากไหน
ด้านหลังเป็นกำลังพลสองแสนคน ตอนนี้กำลังง้างสายธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ระดับต่ำพร้อมกัน เล็งไปยังไห่ยวนเค่อที่พุ่งเข้ามา
แม่ทัพใหญ่เกราะแดงที่อยู่แถวหน้าสุดมีสิบกว่าคน พวกเขาก็กำลังง้างสายธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์สิบกว่าคันเช่นกัน ดูแสงหลากสีจบนคันธนูและลูกธนู ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นของวิเศษขั้นเจ็ด
ปี้เยว่ฮูหยินที่รีบเหาะหลบไปด้านข้างหันกลับมามองแวบหนึ่ง เมื่อเห็นไห่ยวนเค่อพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่เกรงกลัวอุปสรรคใดๆ นางก็ตกใจจนเอามือปิดปาก ลักษณะการจัดทัพโจมตีแบบนี้ เกรงว่าคงจะใช้รับมือกับยอดฝีมือในนรกโดยเฉพาะ ยามยอดฝีมือระดับสำแดงฤทธิ์เผชิญหน้ากับรูปทัพการโจมตีแบบนี้ ก็เกรงว่าจะไม่มีทางโชคดีรอดไปได้
วึง! เสียงที่สั่นสะท้านจิตวิญญาณคนดังก้องทั่วดาราจักร
จินม่านปรับทิศทางเรียบร้อยแล้ว ธนูใหญ่ที่กำลังง้างสายพลันปล่อยเงามายาที่ขยายใหญ่หนึ่งหนึ่งพันเท่า ลักษณะท่าทางน่าทึ่งมาก
บึ้ม! เสียงระเบิดดังขึ้น ธนูเทพสังหารโจมตีนำออกไปก่อน เงาสีดำสายหนึ่งพลันหลุดออกจากสายธนู พุ่งยิงออกไปด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ พลังอิทธิฤทธิ์อันแข็งแกร่งพัดสะบัดออกมาตลอดทาง แตกระแหงตลอดทางราวกับใยแมงมุม แวบผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เสียงดัง ‘ตุ้งๆ’ ก้องดาราจักรราวกับเสียงกลอง
“อ๋าวอู…” เสียงกรีดร้องอันเศร้าโศกดังก้องท้องฟ้าจนคนแสบแก้วหู
ร่างของมังกรยักษ์ห้าตัวที่ล้อมโจมตีกงซุนลี่เต้ากับสืออวิ๋นเปียนมีขนาดใหญ่เกินไป โดนธนูเทพสังหารทะลุผ่านไปแล้ว ทะลุผ่านมังกรยักษ์สองตัวต่อเนื่องกัน เลือดสดกองใหญ่ระเบิดกระจายเต็มท้องฟ้า แต่ธนูเทพสังหารไม่มีท่าทีว่าจะหยุดพัก
ฉวยโอกาสตอนที่กระบวนทัพวุ่นวาย กงซุนลี่เต้ากับสืออวิ๋นเปียนรีบโจมตีไปที่เฉิงไท่เจ๋อทันที
เฉิงไท่เจ๋อตกใจมาก รีบถลันตัวถอยหลบ มังกรยักษ์สองตัวที่อยู่ข้างหลังเลื้อยพันเข้ามากำบังให้
ธนูเทพสังหารรวดเร็วเกินไปจริงๆ ขนาดไห่ยวนเค่อที่นำไปก่อนยังถูกมันแซงไปได้ เขาไล่ตามหลังธนูเทพสังหารทันที อาศัยโอกาสหลบหลีก ส่วนมังกรยักษ์ของไห่ยวนเค่อที่กำลังไล่ตามก็ถูกอนุภาพของธนูเทพสังหารทำให้ตกใจสั่นหัวส่ายห่างหลบอย่างลนลาน
ทัพใหญ่ที่จัดกระบวนทัพอยู่ทางนี้เพิ่งจะง้างสายธนู แต่ธนูเทพสังหารมีอานุภาพขนาดนี้ กำลังพลที่จัดกระบวนทัพอยู่ข้างหน้ามีหรือที่จะกล้าลังเล พวกเขาสับสนวุ่นวายในทันที โดยเฉพาะแม่ทัพแกราะแดงสิบกว่าคนที่โดนธนูเทพสังหารเล็งใส่ เหมือนทุกคนจะรู้ถึงอานุภาพของธนูเทพสังหาร รีบหลบไปด้านข้างทั้งสองฝั่ง ไห่ยวนเค่อก็องอาจห้าวหาญไร้ที่เปรียบ ฉวยโอกาสฟันจนเกิดแสงสะท้อนคมดาบหลายสายออกมาติดต่อกันเพื่อสร้างความวุ่นวาย ตามหลังธนูเทพสังหารที่ทะลุฝ่ากระบวนทัพพุ่งออกไป
เห็นได้ชัดว่านี่คือจังหวะการโจมตีที่ผ่านการปรึกษาและวางแผนกันมาอย่างดีตั้งแต่แรกแล้ว
“ยิง!” แม่ทัพใหญ่ที่บัญชาการการรบรีบหลบพร้อมตะโกนสั่ง
จุดที่ไห่ยวนเค่อพุ่งผ่านวุ่นวายไร้ระเบียบ ต่อให้คนอื่นอยากจะยิงธนูใส่เขา แต่ก็ไม่กล้ายิงซี้ซั้วอยู่ดี เพราะตรงจุดนั้นมีคนฝ่ายตัวเองเหาะหลบมั่วไปหมด ไม่มีทางเล็งให้แม่นยำได้
บึ้ม! ธนูเทพสังหารที่แตกระแหงไปทั่วท้องฟ้าราวกับใยแมงมุม ในตอนนี้ได้ชนเข้าตรงกลางระหว่างลำแสงหมุนวนของดาวเคราะห์หกดวงที่ถูกวางค่ายกลปิดผนึกไว้ ค่ายกลผนึกขนาดใหญ่มีลำแสงพุ่งขยายอย่างรวดเร็ว
ลูกธนูจมลงกลางค่ายกลแต่โจมตีไม่ทะลุ ค่ายกลใหญ่กำลังเร่งความเร็วในการหมุน เหมือนกำลังทำให้ธนูเทพสังหารสูญเสียพลังงาน
ซวบๆ! จากนั้นลูกธนูนับหมื่นก็ยิงออกมาพร้อมกัน กำลังพลที่จัดระเบียบได้แล้วรีบยิงธนูไปที่ไห่ยวนเค่อ ลำแสงนับไม่ถ้วนยิงพุ่งเข้ามาแล้ว
“เฮ่อ!” ไห่ยวนเค่อตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด แขนสองข้างโบกดาบฟันกลางอากาศอย่างดุเดือด
แสงสะท้อนคมดาบสายหนึ่งราวกับน้ำตกสีเงิน ฟันไปบนดาวเคราะห์ดวงหนึ่งท่ามกลางดาวเคราะห์หกดวงที่วางค่ายกลไว้
บึ้ม! ดาราจักรสั่นสะเทือน ดาวเคราะห์ทั้งดวงถูกไห่ยวนเค่อฟันทีเดียวจนระเบิดแยกเป็นสองส่วน
ชั่วพริบตานั้น ลำแสงที่หมุนวนหายไปแล้ว ประตูดวงดาวสีดำมืดที่หมุนวนอยู่ข้างหลังปรากฏขึ้น ธนูเทพสังหารที่จมอยู่กลางลำแสงแวบผ่านไปอย่างรวดเร็ว หายเข้าไปในประตูดวงดาวแล้ว
ภายใต้แรงดึงมหาศาลของประตูดวงดาว บวกกับไห่ยวนเค่อที่หมุนตัวด้วยความเร็วพร้อมตีคมดาบเสริมอานุภาพ ภายใต้บทบาทของพลังสองกลุ่มนี้ ลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนที่ยิงเข้ามาจึงเบี่ยงข้างพร้อมกัน ราวกับดาวตกนับไม่ถ้วนเจาะเข้าไปในประตูดวงดาว
ส่วนดาวเคราะห์ห้าดวงที่เหลืออยู่ตอนนี้ก็ย้ายที่ด้วยความเร็วราวกับผีพุ่งใต้ ตั้งอยู่ในตำแหน่งใหม่ แล้วลำแสงที่หมุนวนก็ปิดผนึกประตูดวงดาวอีกครั้ง แต่เห็นได้ชัดว่าอานุภาพการผนึกเทียบค่ายกลใหญ่ของดาวหกดวงก่อนหน้านี้ไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าใครจะบุกฝ่าออกไปได้เช่นกัน
ก่อนหน้านี้ถ้าไม่ใช่เพราะอานุภาพของธนูเทพสังหารทำให้ค่ายกลใหญ่สูญเสียอานุภาพส่วนใหญ่ไป ไห่ยวนเค่อก็ไม่มีทางโจมตีฝ่าค่ายกลใหญ่ได้เช่นกัน
กำลังพลกลุ่มใหญ่ดึงคันธนูเล็งเป้าหมายอีกครั้ง แต่ไห่ยวนเค่อก็ไม่ได้พัวพันกับพวกเขา เงาร่างจมดิ่งลงอย่างรวดเร็ว อ้อมลงเป็นแนวเส้นโค้งรูปวงกลม ไปหลบอยู่ด้านหลังค่ายกลผนึกใหญ่
ไม่มีเหตุผลที่กลุ่มทหารสวรรค์จะโจมตีค่ายกลผนึกใหญ่ของฝ่ายตัวเอง แม่ทัพใหญ่เกราะแดงที่ถือคันธนูสิบกว่าด้ามรีบไล่ตามไป อ้อมไปดูหลังค่ายกลผนึกใหญ่ แต่ยังจะเห็นเงาร่างของไห่ยวนเค่อเสียที่ไหนกัน ใช้ดวงตาอิทธิฤทธิ์กวาดมอบโดยรอบจนทั่ว เห็นเพียงเงาคนหนีอยู่ในจุดลึกของดาราจักรอันไกลโพ้น ต่อให้ยิงธนูอีกก็สายไปแล้ว
พวกจินม่านที่อยู่อีกฝั่งเห็นธนูเทพสังหารจมหายเข้าไปในประตูดวงดาว ก็ไม่ไปติดพันอยู่กับมันอีก ไม่อย่างนั้นก็จะอันตรายมาก จินม่านเก็บธนูเทพสังหาร แล้วถอนทัพออกไปพร้อมกับพวกสืออวิ๋นเปียนอย่างรวดเร็ว
มังกรยักษ์หลายตัวอาศัยความได้เปรียบด้านความเร็วไล่ตามไป
“อย่าไล่ตามศัตรูที่ไร้ทางหนี!” จู่ๆ เสียงของเกาก้วนก็ดังก้อง
“หยุด!” เฉิงไท่เจ๋อพลันโบกมือตะโกนสั่ง เขาเองก็ไม่อยากไล่ตามเช่นกัน ถ้าไปตกอยู่ในกับดักของทัพใหญ่โจรกบฏขึ้นมา นั่นก็จะไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแล้ว ไม่ใช่ว่าวรยุทธ์สูงแล้วจะสังหารฝ่าออกมาได้ง่ายๆ ทางฝั่งโจรกบฏก็ไม่ได้มีฝีมืออ่อนด้อยเหมือนกัน
มังกรยักษ์สี่ตัวที่ตำหนักสวรรค์ส่งมาช่วยเหลือบินกลับมา จากนั้นเฉิงไท่เจ๋อก็โบกมือเก็บเอาไว้
เกาก้วนถลันตัวมาอยู่ข้างกายเขา ศพมังกรยักษ์สองตัวที่โดนยิงตายกำลังลอยอยู่กลางอากาศและยังมีเลือดสดไหลออกมา ขณะมองดูพวกมัน เขาก็กล่าวว่า “ธนูเทพสังหารของจินม่าน!”
“อืม!” เฉิงไท่เจ๋อพยักหน้า แล้วก็หันกลับไปมองดาวเคราะห์ห้าดวงที่เหลือที่ถูกวางค่ายกลผนึกเอาไว้ พอนึกถึงภาพที่ไห่ยวนเค่อบุกฝ่าค่ายกลธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์เพียงลำพัง สีหน้าเขาก็ค่อนข้างแย่ เขากัดฟันพร้อมบอกว่า “ช่างใจกล้าจริงๆ! โดนขังอยู่ในสภาพที่ขาดแคลนทรัพยากรฝึกตนมานานขนาดนี้ ไห่ยวนเค่อยังคงห้าวหาญเหมือนในปีนั้นไม่มีผิด!”
“จินม่าน ไห่ยวนเค่อ กงซุนลี่เต้า อ๋าวเถี่ย สืออวิ๋นเปียน ห้าคนนี้โผล่มาเสี่ยงอันตรายพร้อมกัน หมายความว่าอย่างไรกันแน่?” เกาก้วนพึมพำถามเสียงต่ำ
“ไม่ทราบสิ!” เฉิงไท่เจ๋อหยิบระฆังดาราออกมาตั้งใจฟังพักหนึ่ง จากนั้นก็สีหน้าเปลี่ยนทันที “ท่าไม่ดีแล้ว! คนที่อยู่ด้านนอกต้านทานธนูเทพสังหารไม่ได้ กลับโดนลูกธนูดาวตกของพวกเราเองที่ยิงออกไปดักคนของพวกเราไว้ไม่น้อยเลย ธนูเทพสังหารหนีไปยังจุดลึกในดาราจักรแล้ว คนของพวกเราไล่ตามความเร็วของธนูเทพสังหารไม่ทันเลย โจรกบฏกลุ่มนี้โจมตีแล้วถอย ไม่ได้มาต่อสู้พัวพันอะไรอีก พวกเขาจะอาศัยธนูเทพสังหารเพื่อส่งของอะไรออกมารึเปล่า?”
เกาก้วนกล่าวว่า “ส่งคนออกไปนิดหน่อยเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้หรอก ไม่มีทางที่พวกเขาจะส่งยอดฝีมือออกไป ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาในตอนนี้ คงไม่มีทางทำให้กำลังฝ่ายตัวเองอ่อนแอลง ตอนนี้ยังต้องคอยระวังว่าพวกเขาจะเคลื่อนไหวอะไรต่อเนื่องหรือไม่ หกลัทธิมีเพียงลัทธิอู๋เลี่ยงที่ปรากฏตัวออกมา เรื่องนี้มีเงื่อนงำ จะไม่ระวังคนอื่นไม่ได้ จอมพลเฉิงรายงานสถานการณ์ทางนี้ให้ฝ่าบาทรู้ทันที ส่งกำลังมาเฝ้าเพิ่มถึงจะเป็นหลักการที่ถูกต้อง!”
เฉิงไท่เจ๋อพยักหน้า แล้วหยิบระฆังดาราออกมาติดต่อภายนอก
การจู่โจมของพวกจินม่านไม่ได้ทำให้ฝ่ายนี้เสียหายเท่าไรนัก เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อฆ่าคน แต่การเข่นฆ่าที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทั้งยังเกิดในจุดสิ้นสุดการทดสอบก็ยังทำให้ผู้เข้าร่วมทดสอบไม่น้อยขวัญผวา
ปี้เยว่ฮูหยินที่หยุดอยู่ตรงจุดไกลๆ มองดูค่ายกลผนึกที่หมุนวนด้วยความตกตะลึง ในหัวยังคงมีภาพที่ไห่ยวนเค่อโจมตีฝ่าค่ายกลธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์เข้ามาโดยไม่สนใจอะไร ทั้งยังมีธนูเทพสังหารที่หายเข้าไปในประตูดวงดาวด้วย ทำให้หัวใจนางสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้
คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่นางกลับเคยได้ยินไห่ยวนเค่อบอก ว่าต้องการบุกโจมตีสักครั้งเพื่อส่งลูกสาวออกมา…
ที่ด้านนอก ธนูเทพสังหารดอกหนึ่งยิงออกมากลางอากาศ กำลังพลตำหนักสวรรค์ที่ปิดล้อมอยู่ด้านนอกถูกตีฝ่า พวกเขาหลีกทางให้อย่างลุกลี้ลุกลน คนที่หลบไม่ทันถูกธนูเทพสังหารที่กระจายเป็นใยแมงมุมกลางอากาศจนบาดเจ็บสาหัส ได้แต่มองดูธนูเทพสังหารแวบผ่านไปโดยทำอะไรไม่ได้
หลังจากนั้น ลูกธนูดาวตกที่หนาแน่นราวกับเม็ดฝนถึงได้สังหารพวกเขาจนลนลานบาดเจ็บล้มตาย
…………………………