เหมียวอี้ที่ตกลงกระแทกพื้นเดิมทีคิดจะลุกขึ้น สุดท้ายเมื่อเห็นวงล้อมโจมตีไม่ได้จำเป็นต้องมีเขา จึงนอนอยู่อย่างนั้นเสียเลย ไม่ยอมลุกขึ้นมา ทำตัวเหมือนบาดเจ็บสาหัส
ก่อนหน้านี้พวกเขาอยากจะให้เหมียวอี้เป็นแพะรับบาปเพื่อให้ตัวเองหนีได้สะดวก ตอนนี้ถึงคราวที่เหมียวอี้จะแสร้งบาดเจ็บสาหัสและมองดูพวกเขาสู้ตายบ้าง วันๆ เอาแต่กินแต่ดื่ม ไม่มีใครดีสักคน เหมียวอี้ในตอนนี้เหมือนเป็นคนละคนกับเหมียวอี้ในปีนั้น ที่เอะอะอะไรก็จะออกไปสู้ตายลูกเดียว หรืออาจจะพูดได้ว่า คนในยุทธภพยิ่งแก่ยิ่งเจ้าเล่ห์ ไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนในปีนั้นแล้ว
ส่วนบนฟ้าก็สู้กันอย่างมืดฟ้ามัวดิน นักพรตบงกชทองหลายคนสู้กันอย่างอุตลุตแบบนี้ อานุภาพที่หลงเหลือจากการต่อสู้ทำให้ภูเขาถล่มแผ่นดินทลาย ตรงกลางภูเขาไฟมีควันดำลอยตลบอบอวล ตรงก้นภูเขาไฟที่ระเบิดเป็นโพรง หินหลอมเหลวไหลทะลักออกมา ให้ความรู้สึกเหมือนฟ้าถล่มดินสลายจริงๆ
เหมียวอี้ที่แกล้งสลบอยู่บนพื้นโดนหินที่ไหลกลิ้งและชั้นดินที่พังทลายฝังกลบนับครั้งไม่ถ้วน เพียงแต่เขาปีนขึ้นมาทุกครั้งที่โดนฝัง โผล่หน้าสังเกตการต่อสู้ข้างนอกตลอดเวลา
เฮยหวังที่โดนเซี่ยโห้วหลงเฉิงกับโค่วเหวินหลานโจมตีติดต่อกันจนสาหัส ตอนนี้กำลังอ่อนแอลงเยอะมากจริงๆ พลังสูงกว่าทหารเลวทั้งหกที่กำลังสู้ศึกเดือดไม่เท่าไร ถ้าไม่ใช่เพราะในมือมีทวนวิเศษผลึกแดงที่ร้ายกาจ ทั้งยังมีธงดำที่ห่อหุ้มตัวจนกลายเป็นเหมือนหลุมดำ ทำให้หลังจากโดนโจมตีแล้วไม่บาดเจ็บถึงกายเนื้อ เขาอาจจะแพ้ให้กับการล้อมโจมตีของคนพวกนี้ไปแล้ว
และคนพวกนี้ก็มีประสบการณ์ในการรับมือกับเขามาแล้ว ไม่ใช้ท่าเก่าๆ ร่ายอิทธิฤทธิ์ม้วนโคลนขึ้นมาติดตามตัว พออีกฝ่ายปล่อยแสงสีดำมาโจมตี พวกเขาก็สร้างชั้นดินขึ้นมากั้นขวางทันที
พอเหตุการณ์เป็นแบบนี้ เห็นเฮยหวังไม่ได้ร้ายกาจขนาดนั้น พวกสวีถังหรานก็ฮึกเหิมมั่นใจมาก ย่อมไม่กลัวเฮยหวังอีก ในสายตาของพวกเขา เฮยหวังได้กลายเป็นทางลัดที่จะทำให้พวกเขาได้เลื่อนยศและร่ำรวย ทหารเลวทั้งหกตัดสินใจเด็ดเดี่ยว แต่ละคนหมายจะเล่นงานเฮยหวังให้ตาย
“สกัดเขาไว้! ใครถอย ประหาร!” หลัวว่านกวงตะโกนอย่างใจร้อนๆ
เฮยหวังที่กำลังเจ็บจนพูดไม่ออกคิดจะหลบหนี แต่กลับโดนทหารสวรรค์เกราะทองสามสิบกว่าคนพัวพันไม่ปล่อย เรียกได้ว่าล้อมโจมตีจากทุกทิศอย่างบ้าคลั่ง สู้ตายไม่ยอมถอย ถ้าราชันสวรรค์ได้มาเห็นภาพนี้ ดีไม่ดีอาจจะรู้สึกตื้นตันใจก็ได้
เฮยหวังในตอนนี้เรียกได้ว่าเคียดแค้นเหมียวอี้มาก เดิมทีคนพวกนี้หมดหวังเตรียมจะหนีไปแล้ว แต่กลับโดนเหมียวอี้ปั่นให้มาสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับเขา
เมื่อเห็นว่าตอนนี้ไม่มีทางหนีพ้น เฮยหวังก็ตัดสินใจแน่วแน่เสียเลย ตัดสินใจว่าจะยอมแลกทุกอย่างและสู้ตายกับพวกเขาสักยก
ขณะที่กำลังกวาดทวนโจมตีมั่วๆ บนธงดำที่ห่อหุ้มตัวก็ระเบิดแสงสีดำออกมานับไม่ถ้วน คอยให้ความร่วมมือกับการรุกโจมตีของเขา
พอกลุ่มทหารสวรรค์ใช้ชั้นดินป้องกัน แต่ใครจะคิดว่าเฮยหวังกลับฉวยโอกาสแทงทวนเข้ามา แทงทะลุเกราะตรงหน้าอกของส้าวเติงก่วง หัวทวนที่แหลมคมจมเข้าไปในหัวใจของเขาแล้ว
ชั้นดินที่ขวางกั้นสลายตกลงพื้น เผยดวงตาสองข้างที่กำลังฉายแววเหลือเชื่อของส้าวเติงก่วง
ตอนนี้ไม่มีใครสนใจความเป็นความตายของส้าวเติงก่วง อาวุธสี่ห้าชิ้นโจมตีเข้าไปที่ตัวของเฮยหวังพร้อมกัน แต่มีธงดำผืนนั้นป้องกันตัว ถ้าเป็นการป้องกันตัวของคนอื่นอาจจะทำให้ฟันแทงไม่เข้า แต่การป้องกันตัวของเฮยหวังกลับทำให้อาวุธจมมิดเข้าไปหมด ราวกับใช้หลุมดำมาทำเป็นของวิเศษป้องกันตัว
“อั้ก!” ส้าวเติงก่วงเงยหน้ากระอักเลือดสดพุ่งขึ้นฟ้า สะเทือนจนร่างกระเด็นออกไป
“ผู้บัญชาการ!” ลูกน้องทั้งสี่ของเขาร้องอุทาน
พวกสวีถังหรานไม่กล้าใช้ท่าเดิม เมื่อเห็นว่าโจมตีไม่ได้ผลก็รีบหยุดมือ ปู้เหลียนจงรีบตะโกนบอกว่า “โจมตีที่ดวงตาและมือเท้าของเขา!”
อวัยเหล่านั้นคือจุดที่ธงดำไม่ได้ห่อหุ้มไว้ ทุกคนที่ล้อมโจมตีเปลี่ยนตำแหน่งลงมือทันที
พอเฮยหวังกวาดทวนวนรอบๆ แสงสีดำบนตัวก็ระเบิดออกมาอีกครั้ง ขณะที่ทุกคนใช้ชั้นดินเป็นแนวกั้นอีกครั้ง สวี่เต๋อก็ตะโกนเสียงดังว่า “เชือกมัดเซียน!”
ไม่รอให้เฮยหวังโจมตีเข้ามาอีกครั้ง เชือกมัดเซียนยี่สิบสามสิบเส้นถูกยิงเข้ามา สีทองอร่ามราวกับงูศักดิ์สิทธิ์ นี่คือสิ่งที่ตำหนักสวรรค์แบ่งสรรให้ ตราบใดที่ได้ยศทหารก็จะได้คนละหนึ่งเส้น จะได้สะดวกในการจับคน
เฮยหวังรีบออกทวนปาดติดต่อกันอย่างรวดเร็ว หัวทวนแหลมคมปาดเชือกขาดไปหลายเส้น แต่จนใจที่มีจำนวนเยอะเกินไป ชั่วพริบตาเดียวก็โดนมัดจนแน่นหนา
“โจมตี!” พวกสวีถังหรานตะโกนเสียงดัง ทหารเลวทั้งห้าร่วมมือกัน ฉวยโอกาสออกอาวุธพร้อมกัน บางคนก็หั่นมือ บางคนก็หั่นเท้าบางคนก็จิ้มลูกตา
ใครจะไปคาดคิด ขณะที่กำลังวิตกกังวล เชือกมัดเซียนที่มัดอยู่บนตัวเฮยหวังก็ราวกับดินโคลนที่ไหลลงทะเล ไม่น่าเชื่อว่าจะจมลงในธงดำคุ้มกาย ชั่วพริบตาเดียวก็คลายมัดเฮยหวังแล้ว
อย่าว่าแต่คนล้อมโจมตีที่เห็นแล้วขวัญผวา ขนาดเหมียวอี้ที่ดูอยู่ข้างล่างยังสูดหายใจลึก แบบนี้ก็ได้เหรอ? ธงดำนี่มันเป็นของวิเศษอะไรกันแน่ ไม่น่าเชื่อว่าจะร้ายกาจขนาดนี้?
การพลาดครั้งนี้ทำให้เกิดปัญหาทันที พอเฮยหวังเบี่ยงตัว ทหารทั้งห้าที่โจมตีพร้อมกันก็คว้าน้ำเหลว แต่เฮยหวังกลับถือโอกาสกวาดทวนรอบวง หัวทวนที่แหลมคมฝ่าทะลุเกราะรอบวง ทำให้เลือดสดสาดพุ่งออกมาเป็นสาย
ทั้งห้าคนส่งเสียงคราง เกราะรบตรงส่วนท้องฉีกพัง โดนฟันจนเอวแทบขาดท่อน ตรงท้องน้อยก็โดนฟันจนเป็นแผล ถ้าไม่ใช่เพราะร่ายอิทธิฤทธิ์ป้องกันอยู่ เกรงว่าทุกคนคงจะพุงแตกไส้ทะลักแล้ว
“ลุย!” ห้าคนที่รีบถลันตัวถอยร้องบอก
พอห้าคนที่เป็นฝ่ายรุกโจมตีถอยไป กลุ่มกำลังเสริมที่อยู่ข้างหลังก็ล้อมเข้าไปโจมตีอย่างบ้าคลั่งทันที
แต่พวกเขาใช่คู่ต่อสู้ของเฮยหวังเสียที่ไหนกัน วรยุทธ์ยังไม่สูงพอ พอทหารเลวห้าคนถอยออก ก็ไม่มีใครคุมเหตุการณ์ได้แล้ว กอปรกับแสงสีดำที่ยิงออกจากตัวเฮยหวังเป็นระยะ ผ่านไปประเดี๋ยวเดียวก็โดนเฮยหวังปาดทวนสังหารล้มไปสิบกว่าคนแล้ว แต่ละคนตกลงพื้นพร้อมกับเสียงกรีดร้อง
พวกสวีถังหรานทั้งตกใจทั้งโมโห ถึงแม้ร่างกายจะบาดเจ็บสาหัส แต่ยังกัดฟันโจมตีเข้ามา ตอนนี้ถ้าไม่สู้ตายก็ไม่มีทางอื่นแล้ว พอโดนเหมียวอี้ป่วนแบบนี้ อยากจะกลับตัวก็ทำไม่ได้แล้ว ทำได้พียงแข็งใจสู้สุดกำลัง
ตรงนี้เพิ่งจะยืนอย่างมั่นคงได้ เสียงโครมครามก็ดังขึ้นอีก เหมียวอี้พุ่งออกจากกองดิน โจมตีเข้ามาแล้ว
เขาไม่มีทางเลือกแล้วเหมือนกัน ถ้าตอนนี้ยังไม่ออกแรงช่วยอีก อีกสักพักไม่ว่าใครก็อย่าคิดที่จะหนีเลย บวกกับเห็นสภาพของพวกสวีถังหราน เดาว่าเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะทิ้งตนไว้แล้วหนีไป ก็เลยโจมตีเข้ามา
จากล่างขึ้นบน เหมียวอี้ปาดทวนต่อเนื่องกันขระที่พุ่งขึ้นฟ้า เขาดูการต่อสู้อยู่ข้างล่างนานขนาดนั้น จึงหาเจอแล้วว่าจุดอ่อนของเฮยหวังอยู่ตรงไหน ก็คือจุดที่ไม่ได้โดนธงดำครอบนั่นเอง
ชั่วพริบตาเดียวก็ออกทวนราวกับมังกร แสงสะท้อนคมทนยิงออกมาดอกแล้วดอกเล่า โจมตีไปที่เท้าสองข้างของเฮยหวัง
เฮยหวังที่โดนทหารห้าคนล้อมขยับเท้าเร็วมาก แต่กลับเร็วไม่เท่าการออกทวนของเหมียวอี้ ชั่วพริบตาเดียวก็โดนไปหลายทวนติดต่อกัน
ทีแรกเฮยหวังก็ไม่สนใจอะไร เพราะเท้าทั้งสองข้างไม่ใช่จุดสำคัญของเขา เพราะก่อนหน้านี้โดนโจมตีที่เท้าไปหลายทีแล้ว แต่ใครจะคิดว่าความรู้สึกเวลาโดนเหมียวอี้โจมตีนั้นต่างออกไป ทุกจุดบนเท้าเขาที่โดนทวนจะมีเสียง ‘ฉ่า’ และมีควันดำลอยขึ้นมา ขณะเดียวกันบางสิ่งที่ทำให้เขาวิญญาณสั่นสะท้านก็กรอกเข้ามาในร่างกาย หลังจากมีเวียง “ฉ่าๆ” ดังไม่กี่รั้ง เฮยหวังก็ตกใจแทบขวัญหนีดีฝ่อ
“อา…” เฮยหวังส่งเสียงคำรามอย่างโกรธแค้น แทบจะพุ่งขึ้นฟ้าโดยไม่สนใจอะไรแล้ว
“มัดเขาไว้!” เหมียวอี้ตะโกนสั่งอย่างเกรี้ยวกราด พลางไล่ตามโจมตีใต้เท้าของเฮยหวังขึ้นไปตลอดทาง
พวกสวีถังหรานย่อมรู้ว่าเหมียวอี้พบจุดอ่อนของเฮยหวังแล้ว พวกเขาดีใจมาก ขณะที่บาดเจ็บหนักก็ยังถืออาวุธโจมตี ตามเฮยหวังขึ้นไปบนฟ้าตลอดทาง รุกโจมตีอย่างบ้าคลั่ง
“ไปดักข้างบน!” สวีถังหรานตวาดสั่ง ไม่ใช่แค่เขา อีกสี่คนที่เหลือก็จะตะโกนสั่งเช่นกัน “ดักเขาไว้!”
ทหารสิบกว่าคนที่เหลือรวบรวมกำลังทั้งหมดพุ่งขึ้นฟ้า พุ่งไปล้อมดักทั้งข้างบนข้างล่าง
เฮยหวังรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่ากลัวในร่างกายตัวเอง ในดวงตาฉายแววหวาดกลัวถึงขีดสุด เรียกได้ว่าตกใจจนมือไม้อ่อน แต่จนใจที่จะหนีก็หนีไม่พ้น
“อา!” เฮยหวังพลันส่งเสียงคำรามดุดัน ธงดำบนตัวพลันระเบิดเป็นแสงสีดำนับไม่ถ้วน กดดันให้ทุกคนต้องปกป้องตัวเอง ส่วนเขาก็โจมตีไปข้างล่างอย่างบ้าคลั่ง ให้ความรู้สึกเหมือนจะสู้ตายกับเหมียวอี้
เหมียวอี้จะไปสู้ตายกับเขาทำบ้าอะไรล่ะ รีบขยับตัวหนีจากตรงนั้น หนีเอาชีวิตรอดอย่างว่องไว
เฮยหวังยังไม่ทันตามมาถึง พวกสวีถังหรานก็เข้ามาล้อมเขาไว้อีก และสีหน้าของแต่ละคนก็ดูจะดีใจมาก เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้ ว่าพลังของเฮยหวังกำลังลดลงเร็วมาก การโจมตีที่ใช้รับมือกับพวกเขายิ่งดูดันทุรังขึ้นเรื่อยๆ ไม่ต่างอะไรกับการเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้ทหาร การโจมตีของพวกเขายิ่งดุดันขึ้นเรื่อยๆ
สุดท้าย ภายใต้การกระทุ้งทวนอย่างดุเดือดของสวี่เต๋อ แกร๊ง! เฮยหวังก็กุมทวนยาวไว้ไม่อยู่แล้ว ทวนหลุดมือกระเด็นไป ขณะเดียวกันก็กระอักเลือดสดอย่างบ้าคลั่ง ร่างตกลงกระแทกพื้น
พรึ่บๆ! กลุ่มทหารพุ่งตามลงมา ออกดาบออกทวนพร้อมกัน ตัดมือและเท้าทั้งคู่ของเขาอย่างรวดเร็ว
สวีถังหรานลงมือเร็วมาก ใช้มือข้างหนึ่งดึงธงดำลงจากตัวเฮยหวัง ดึงมาไว้ในมือตัวเองแล้วพิจารณาดู
เชือกมัดเซียนเส้นหนึ่งถูกโยนออกมา แล้วมัดเฮยหวังไว้อย่างแน่นหนา อาวุธนับไม่ทวนจ่อไปบนตัวของเฮยหวัง และเฮยหวังเองก็สูญเสียความสามารถที่จะขัดขืนขืนโดยสิ้นเชิง นอนขดตัวสั่นเทิ้มอยู่บนพื้นไม่หยุด บนตัวมีควันสีเทาลอยขึ้นมา ทำสีหน้าเจ็บปวดทรมานเกินทน
ส่วนสวี่เต๋อก็หยิบทวนวิเศษผลึกแดงของเฮยหวังมาไว้ในมือแล้ว เขาเดินไปข้างกายเหมียวอี้ พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ครั้งนี้น้องชายสร้างผลงานใหญ่เชียวนะ ถ้าไม่ใช่เพราะน้องชายลงมือ เจ้าเฮยหวังนี่ก็ยากที่จะโดนลงโทษได้ ไม่ทราบว่าน้องชายใช้วิธีการอันยอดเยี่ยมอะไรรับมือกับเขา?”
คำพูดนี้ทำให้พวกสวีถังหรานสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย ถ้าจะพูดกันตามจริง การที่จับตัวเฮยหวังได้แบบนี้ เหมียวอี้มีส่วนสร้างผลงานชั้นยอดไว้จริงๆ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่รู้ว่าใครจะเป็นหรือใครจะตายกันแน่
เหมียวอี้ยิ้มจืดๆ พร้อมตอบว่า “ไม่มีอะไรหรอก แค่อาบยาพิษไว้บนทวนนิดหน่อยเท่านั้นเอง!” จากนั้นก็หันไปบอกสวีถังหราน “พี่สวี รีบดูผู้บัญชาการโค่วที่อยู่ในธงดำว่ายังสบายดีอยู่ไหม อย่า…” เสียงพูดพลันหยุดชะงัก เพราะจู่ๆ มีการเคลื่อนไหวผิดปกติอยู่ข้างหลัง เขาพลันโบกมือแต่ก็สายไปเสียแล้ว
คมทวนด้ามหนึ่งเสียบเข้ามาที่เอวด้านหลังของเขา เป็นทวนวิเศษผลึกแดงในมือสวี่เต๋อ เป็นด้ามที่เก็บได้จากมือเฮยหวัง อีกฝ่ายฉวยโอกาสตอนที่เหมียวอี้ไม่ป้องกันตัว โจมตีทะลุเกราะทองของเหมียวอี้ เสียบเข้ามาถึงเอวของเหมียวอี้แล้ว
ยังโชคดีที่เหมียวอี้ไหวตัวเร็ว ใช้มือคว้าไว้ได้ทันเวลา หัวทวนจึงแทงเข้ามาได้แค่ครึ่งเดียว แต่ก็เห็นเลือดสดไหลออกมาแล้ว
เหมียวอี้หันกลับไปถลึงตาใส่ พลางตวาดอย่างโมโหว่า “สวี่เต๋อ ทำไมเจ้ากล้าลอบทำร้ายข้า!”
กะทันหันเกินไปจริงๆ ทำไมเขาถึงนึกไม่ถึงว่าสวี่เต๋อจะลงมือ ลอบจู่โจมในระยะที่ใกล้กันขนาดนี้ ทั้งยังไม่ได้ป้องกัน ไม่ต้องบอกก็รู้ถึงผลที่ตามมา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไหวตัวเร็ว ก็คงจะโดนสวี่เต๋อสังหารตายภายในทวนเดียวแล้ว
สวี่เต๋อออกแรงทิ้มทวนในมือ แต่กลับโดนเหมียวอี้จับไว้ ถึงได้ทำให้เหมียวอี้ไถลไปทั้งตัว ฉากนี้ทำให้พวกสวีถังหรานแอบส่งสายตาให้กันอย่างรู้อยู่แก่ใจ
สวี่เต๋อที่ดันเหมียวอี้ไปข้างหน้ากล่าวด้วยสีหน้าดุร้ายว่า “หนิวโหย่วเต๋อ คนต่ำทรามอย่างเจ้า เพราะความโลภอยากได้ผลงาน ไม่น่าเชื่อว่าจะแกล้งนอนตาย ไม่สนใจความเป็นความตายของพี่น้องคนอื่น ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ส้าวเติงก่วงจะต่อสู้จนตัวตายเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะคนทรามอย่างเจ้า จะต้องเสียสละชีวิตพี่น้องไปเยอะขนาดนี้เหรอ คนต่ำทรามขนาดนี้ ทุกคนคิดว่าควรจะฆ่าทิ้งมั้ยล่ะ?”
สวีถังหรานแสยะยิ้ม “สมควรตายจริงๆ!” เขามองธงดำในมือแวบหนึ่ง กำลังสื่อว่าอย่าเพิ่งปล่อยโค่วเหวินหลานออกมา
“ถ้าไม่ฆ่าก็ไม่พอที่จะทำให้ทุกคนหายโกรธ!” ปู้เหลียนจงกล่าว
“พี่สวี่ลงมือได้เลย มีพยานเห็นเยอะขนาดนี้ ฆ่าคนจัญไรไปสักคนก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอก” ข่งเฟยฝานสนับสนุน
“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!” ลูกน้องที่เหลือขานรับเสียงดังทันที
…………………………