ข่าวร้ายมาเยือนอย่างต่อเนื่อง กงเชียนชิวหัวเราะไม่ออกอีกแล้ว พอยกมือขึ้น กระบวนทัพก็หยุดลอยอยู่ในดาราจักร แต่ละคนมีสีหน้าเคร่งขรึม
อวี่เหวินชวนที่อยู่อีกแห่งของดาราจักรก็เป็นอย่างนี้เช่นกัน เผชิญสถานการณ์แบบเดียวกัน
ข่าวร้ายยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ ยังคงแพร่ต่อไป กำลังพลบางส่วนที่ก่อนหน้านี้หลบหายไปกะทันหันอย่างไร้ร่องรอย จู่ๆ ก็ปรากฏตัวแล้ว หัวหน้ากองฉวยโอกาสตอนที่กำลังพลใต้บังคับบัญชาถูกห้ามใช้ระฆังดารา พากำลังพลเข้าไปอยู่ในวงล้อมของทัพใหญ่หนิวโหย่วเต๋อเสียเลย จากนั้นก็ประกาศยอมแพ้ โดยให้เหตุผลว่าทำตามคำสั่งอ๋องสวรรค์ฮ่าว
กำลังพลที่ยอมแพ้พวกนี้ เมื่อเทียบอัตราส่วนกับกำลังพลของสองจอมพลแล้วก็ไม่เยอะ มีแค่หนึ่งส่วนเท่านั้น อย่างมากพวกเขาก็เสียกำลังพลไปคนละไม่กี่สิบล้าน แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นร้ายแรงมาก ทั้งสองฝ่ายยังไม่ทันรบกันอย่างเป็นทางการ กำลังพลของตัวเองก็เริ่มไปขอพึ่งพาฝ่ายศัตรูแล้ว นี่มันใช่เรื่องเสียที่ไหน? ข่าวพึ่งพาฝั่งศัตรูแพร่มาไม่ขาดสาย ทำเอาใจคนระส่ำระส่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข่าวนี้ส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจทหารในกองทัพ
“ท่านจอมพล เรื่องนี้อาจจะไม่ค่อยดีแล้ว”
ทหารคนหนึ่งถือระฆังดาราพลางขมวดคิ้วบอกอวี่เหวินชวน
อวี่เหวินชวนพี่ใบหน้าพยับเมฆมองเขา พลางกล่าวเสียงต่ำ “ว่ามา!”
แม่ทัพคนนั้นถอนหายใจแล้วบอกว่า “เจ้าสำนักของข้าส่งข่าวมา โน้มน้าวให้ข้าน้อยปฏิบัติตามคำสั่งของท่านอ๋องฮ่าว ให้นำผลไปพึ่งพาหนิวโหย่วเต๋อ อย่าสร้างเรื่องให้สำนักโดนกวาดล้าง!”
อวี่เหวินชวนใบหน้ากระตุกรุนแรง แม้แต่แม่ทัพใต้บังคับบัญชาของตัวเองยังถูกสำนักปลุกระดมให้ทรยศ ยังไม่รู้ว่าเบื้องล่างมีแม่ทัพอีกตั้งเท่าไหร่ที่กำลังถูกปลุกระดมให้ทรยศ เขากำหมัดกล่าวอย่างเคียดแค้น “ตระกูลเซี่ยโห้วเข้ามาแทรกแซงแล้ว!ตระกูลเซี่ยโห้วไม่ได้สนับสนุนผังก้วน แต่สนับสนุนหนิวโหย่วเต๋อต่างหาก!”
แม่ทัพคนนั้นยิ้มเจื่อน “นี่ล้วนเป็นเรื่องรองทั้งนั้น ถ้าโจมตีหนิวโหย่วเต๋อได้จริงๆ สำนักก็ย่อมไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับผลกระทบไปด้วย แต่ประเด็นก็คือท่าทีของบรรดาท่านอ๋องเหล่านั้น ทัพตะวันออก ทัพตะวันตก ทัพเหนือล้วนต้องการส่งกำลังพลไปสนับสนุนหนิวโหย่วเต๋อ นี่ต่างหากที่เป็นปัญหาจริงๆ!”
อวี่เหวินชวนเม้มริมฝีปากแน่น มีหรือที่เขาจะไม่รู้ว่านี่คือปัญหาใหญ่ ตอนนี้ทัพตะวันออก ทัพตะวันตก ทัพเหนือและแม้กระทั่งตระกูลเซี่ยโห้วก็ล้วนแสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะสนับสนุนหนิวโหย่วเต๋อ แบบนี้หมายความว่าอะไรล่ะ? หมายความว่านอกจากประมุขชิงแล้ว ตัวเองก็แทบจะต้องสู้กับทั้งใต้หล้า เขาจะต้านไหวได้อย่างไร? ต่อให้เขากับกงเชียนชิวร่วมมือกันก็ต้านไม่ไหว ต่อให้ประมุขชิงส่งกองทัพองครักษ์มาแทรกแซงก็ไม่ไหวอยู่ดี ประมุขชิงกล้าบีบให้ตระกูลเซี่ยโห้วกับกลุ่มอำนาจใหญ่เหล่านั้นรวมตัวกันหรือ?
ทัพตะวันออก ทัพตะวันตก ทัพเหนือล้วนบอกพวกเขายังชัดเจนแล้ว ว่าจะปิดช่องทางไปมาระหว่างทัพใต้และอีกสามทัพ เท่ากับว่าปิดทางออกทั้งหมดในอาณาเขตทัพใต้ไว้แล้ว ถ้าลงมือขึ้นมา พวกเขาก็จะถูกตัดทางถอย ไม่ให้โอกาสพวกเขาหนีออกจากอาณาเขตทัพใต้ ไม่ให้แม้แต่โอกาสสุดท้ายที่จะไปขอพึ่งพาประมุขชิง!
ต่อให้กองทัพองครักษ์อยากจะเข้ามาแทรกแซง แต่การจะเข้าอาณาเขตทัพใต้ก็ต้องผ่านกำลังพลสามทัพที่ปิดล้อมก่อน ถ้ากำลังพลสามทัพไม่ปล่อย ประมุขชิงจะกล้าดันทุรังโจมตีการปิดล้อมของกำลังพลสามทัพพร้อมกันเหรอ? กล้าใช้กำลังปะทะกับบรรดาอ๋องสวรรค์พร้อมกันเหรอ?
อาศัยแค่กำลังพลกองทัพองครักษ์ไม่กี่ร้อยล้านในอาณาเขตทัพใต้ จะต้านการโจมตีจากทัพใหญ่ที่ร่วมมือกันได้หรือ?
ด้านบนก็คือผลลัพธ์ที่เขากล้าลงมือกับหนิวโหย่วเต๋อ ถ้าลงมือเมื่อไหร่ ก็แทบจะทำให้ต้องสู้กับทั้งใต้หล้าแล้ว!
กลุ่มอำนาจใหญ่หลายฝ่ายบอกกับเขาอย่างชัดเจน พวกเราสนับสนุนให้หนิวโหย่วเต๋อคืนสู่ตำแหน่ง เจ้ากับกงเชียนชิวไม่มีส่วนในตำแหน่งประมุขทัพใต้ ถ้าเจ้ากล้าลงมือก็ลองดูสิ!
“ถ้าพลาดโอกาสกำจัดหนิวโหย่วเต๋อครั้งนี้ ปล่อยให้หนิวโหย่วเต๋อกับตาแก่พวกนั้นสร้างความสัมพันธ์แบบกึ่งร่วมงานกึ่งแข่งขัน ก็เป็นเรื่องยากที่จะแตะต้องเขาได้อีก!” อวี่เหวินชวนเงยหน้าถอนหายใจยาว ไม่รู้จะไประบายอารมณ์กลัดกลุ้มในใจตรงไหน เขาอยากจะถามมาว่า หนิวโหย่วเต๋อมีสิทธิ์อะไร? มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการสนับสนุนจากอำนาจมากมายขนาดนั้น? อำนาจของฝั่งพวกเราเทียบกับหนิวโหย่วเต๋อไม่ได้เชียวเหรอ? สนับสนุนหนิวโหย่วเต๋อแต่ไม่สนับสนุนข้า ตาบอดกันหมดแล้วใช่ไหม?
บรรดาแม่ทัพเงียบไป ย่อมเข้าใจเหตุผลที่เขาพูด เหตุใดยามปกติประมุขชิงจึงไม่กล้าแตะต้องหนึ่งในสี่อ๋องสวรรค์ล่ะ? ก็เพราะความสัมพันธ์กึ่งร่วมมือกึ่งแข่งขันระหว่างอ๋องสวรรค์ ปกติบรรดาอ๋องสวรรค์สู้กันก็ส่วนสู้กัน แต่เมื่อไรที่ต้องสู้กับประมุขชิง พวกเขาก็จะเกาะกลุ่มร่วมมือกันสู้ทันที ในจุดนี้ไม่ว่าใครก็เข้าใจชัดเจน ขณะเดียวกันก็ยังร่วมมือกันสู้กับกบฏที่อาจเกิดขึ้นกับกำลังพลเบื้องล่างด้วย เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดกบฏ อ๋องที่เหลือก็จะร่วมมือกันยับยั้ง!
แม่ทัพคนหนึ่งถอนหายใจแล้วบอกว่า “ท่านจอมพล การที่พวกอ๋องสวรรค์แสดงท่าทีสนับสนุน ที่จริงก็เท่ากับยอมรับความสัมพันธ์กึ่งร่วมมือกึ่งแข่งขันระหว่างพวกเขากับหนิวโหย่วเต๋อแล้ว” เขากำลังจะสื่อว่า สิ่งที่เจ้าบอกว่า ‘ถ้า’ มันกลายเป็นเรื่องจริงไปแล้ว
อวี่เหวินชวนส่ายหน้ายิ้มอย่าขื่นขม “ข้าไม่ยอม จอมพลผู้นี้ไม่ยอม!เพราะอะไร? หนิวโหย่วเต๋อมีสิทธิ์อะไร?”
จู่ๆ แม่ทัพอีกคนก็กล่าวอย่างลังเลว่า “ท่านจอมพล ใช่ว่าเรื่องนี้จะไม่มีโอกาสพลิกสถานการณ์ บางทีอาจลองเปลี่ยนวิธีการดูสักหน่อย!”
อวี่เหวินชวนตาเป็นประกาย “หมายความว่ายังไง? ยินดีฟังรายละเอียด!”
แม่ทัพคนอื่นมองไปที่แม่ทัพคนนั้นพร้อมกัน เจ้าตัวแนะนำว่า “ท่านจอมพล เรื่องแบบนี้จะมัวงอมืองอเท้าได้ยังไง? ท่านลองติดต่อพวกท่านอ๋องเดี๋ยวนี้เลย ลองเกลี้ยกล่อมให้พวกเขาสนับสนุนท่านจอมพล จะได้สืบความจริงเกี่ยวกับหนิวโหย่วเต๋อด้วย ดูว่าหนิวโหย่วเต๋อเสนออะไรให้กันแน่ ถึงแลกการสนับสนุนจากพวกเขาได้ ข้าน้อยไม่เชื่อหรอกว่าหนิวโหย่วเต๋อให้ได้แล้วพวกเราจะให้บ้างไม่ได้ สิ่งที่หนิวโหย่วเต๋อให้พวกเขา อย่างมากพวกเราก็แค่ให้พวกเขาด้วย ถึงขั้นให้มากกว่าแล้วจะเป็นไรไป?”
ทุกคนพยักหน้า อวี่เหวินชวนสีขาวแล้วกล่าวด้วยสีหน้าชื่นชม “เป็นค่าเองที่เลอะเลือน ดี ตกลงตามนี้!” พูดจบก็หยิบระฆังดารามาติดต่อก่วงลิ่งกงทันที
ก่วงลิ่งกงยอมรับการติดต่อจากเขา ถามว่า : จอมพลอวี่เหวินมีธุระอะไร?
อวี่เหวินชวนถาม : ได้ยินว่าท่านอ๋องส่งทัพใหญ่ห้าร้อยล้านเข้ามาปราบกบฏในอาณาเขตทัพใต้เหรอ?
ก่วงลิ่งกง : ก็ตามนั้น ทำไมล่ะ เจ้าไม่พอใจหรือ?
อวี่เหวินชวน : มิบังอาจ!ข้าน้อยแค่อยากจะถามสักหน่อย ไม่ทราบว่าใครกันที่เป็นทัพกบฏ?
ก่วงลิ่งกง : ข้ากับฮ่าวเต๋อฟางเป็นสหายเก่ากัน ใครไม่ฟังคำสั่งฮ่าวเต๋อฟาง คนนั้นก็คือทัพกบฏ!
อวี่เหวินชวน : ข้าจะล้างแค้นให้ท่านอ๋องฮ่าวก็ไม่ได้งั้นหรือ?
ก่วงลิ่งกง : อวี่เหวินชวน เราเองก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว เจ้าคิดว่าพูดอ้อมค้อมแบบนี้มีความหมายเหรอ? ควรจะทำอย่างไร ในใจเจ้าก็น่าจะเข้าใจแล้ว!เห็นแก่ไมตรีที่เป็นขุนนางในราชสำนักเดียวกันมาหลายปี อ๋องผู้นี้จะเตือนเจ้าไว้สักคำแล้วกัน จัดการตัวเองให้เหมาะสมเรียบร้อย!
อวี่เหวินชวน : ที่ท่านอ๋องชี้แนะก็ถูกแล้ว เพียงแต่ใจของข้าน้อยรู้สึกไม่ยอม ท่านอ๋องฮ่าวถูกหนิวโหย่วเต๋อบีบให้ตายแท้ๆ ยังจะให้ข้าน้อยทรยศเจ้านายเก่าไปพึ่งพาเขาอีกหรือ ได้ข้าน้อยทนความรู้สึกนี้ได้ยังไง บอกนะว่าในสายตาของท่านอ๋อง อวี่เหวินดูแย่ขนาดนั้นเลย? ถ้าจะพูดถึงคุณสมบัติและประสบการณ์ พูดถึงอำนาจในอาณาเขตทัพใต้ มีจุดไหนที่ข้าสู้หนิวโหย่วเต๋อไม่ได้บ้าง? หนิวโหย่วเต๋อเป็นแค่เด็กรุ่นหลังคนหนึ่ง ไม่ใช่คนในอาณาเขตสี่ทัพด้วย มีสิทธิ์อะไรปีนขึ้นมาบนโต๊ะของพวกเรา แล้วทำไมพวกท่านอ๋องถึงให้ความสำคัญกับเขาขนาดนี้ ทำไมไม่ยอมให้โอกาสอวี่เหวินสักครั้ง?
ก่วงลิ่งกง : มาพูดเรื่องนี้มีความหมายหรือ?
อวี่เหวินชวนเสนอเงื่อนไขเสียเลย : ท่านอ๋องได้โปรดไตร่ตรอง สิ่งที่หนิวโหย่วเต๋อให้ท่านอ๋องได้ ไทยวาข้าน้อยจะให้ไม่ได้!
ก่วงลิ่งกงได้ยินแล้วชะงักไป เอามือขยี้เคราโดยไม่รู้ตัว คำพูดของอวี่เหวินชวนกำลังเตือนเขา จะว่าไปแล้ว การตายของฮ่าวเต๋อฟางครั้งนี้ทำให้เขาไม่พอใจเหมียวอี้เป็นอย่างมาก กระต่ายตายจิ้งจอกร่ำไห้ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุนั้น อีกสาเหตุหนึ่งก็คือ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มก๊วนไหน ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าคนเก่าเหนือกว่าคนใหม่ มิหนำซ้ำการแสดงความสามารถของเหมียวอี้ในครั้งนี้ก็ทำให้เขาตื่นตัวมาก ดังนั้นไม่ว่าจะพูดในแง่ไหน อวี่เหวินชวนก็เหมาะสมจะคุ้มทัพใต้มากกว่าหนิวโหย่วเต๋อ
ถ้าพูดถึงความสามารถ ก่วงลิ่งกงก็ไม่คิดว่าอวี่เหวินชวนจะเทียบหนิวโหย่วเต๋อได้ ความสามารถเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับอายุหรือประสบการณ์ ถ้าให้อวี่เหวินชวนที่ความสามารถแย่กว่าหน่อยขึ้นสู่ตำแหน่ง กลับทำให้เขารู้สึกปลอดภัยกว่าด้วยซ้ำ
ก่วงลิ่งกง : ดี!ข้าจะช่วยเจ้า ส่วนคนอื่นเจ้าไม่ต้องกังวล ขอแค่เจ้าโน้มน้าวให้ตระกูลเซี่ยโห้วสนับสนุนเจ้าได้ ขอเพียงตระกูลเซี่ยโห้วไม่ก่อกวน ข้าจะช่วยพูดกับอ๋องท่านอื่นให้เอง รับรองว่าจะสนับสนุนให้เจ้าขึ้นสู่ตำแหน่ง!
เขาเองก็อึดอัดใจเช่นกันว่าทำไมตระกูลเซี่ยโห้วถึงสนับสนุนหนิวโหย่วเต๋อขนาดนี้ หนิวโหย่วเต๋อกับตระกูลเซี่ยโห้วปิดเป็นความลับสุดยอด
อวี่เหวินชวนดีใจทันที หลังจากขอบคุณแล้วก็จบการติดต่อ เล่าสถานการณ์ให้บรรดาแม่ทัพฟัง บรรดาแม่ทัพได้ยินแล้วดีใจมาก ขอให้เขารีบติดต่อไปหาตระกูลเซี่ยโห้ ต่างก็บอกว่าอย่างมากก็แค่นำสิ่งมีค่าทั้งหมดที่มีไปเติมเต็มคำขอของตระกูลเซี่ยโห้วสักครั้ง รอให้ในมือมีอำนาจก่อนแล้วค่อยชำระบัญชีย้อนหลังก็ยังไม่สาย
อวี่เหวินชวนย่อมรีบนำระฆังดาราออกมาติดต่อเซี่ยโห้วลิ่ง
ทว่าติดต่อเซี่ยโห้วลิ่งลำบากมาก โมโหจนแทบจะทุบระฆังดาราทิ้งแล้ว
“เซี่ยโห้วลิ่งวางท่าไม่เบา!” สุดท้ายอวี่เหวินชวนก็อดบ่นไม่ได้ บอกกับพวกแม่ทัพว่า “เซี่ยโห้วลิ่งไม่ตอบเลย!”
แม่ทัพอีกคนบอกว่า “ติดต่อเว่ยซูก็เหมือนกันขอรับ”
อวี่เหวินชวนพยักหน้า เปลี่ยนระฆังดาราติดต่อเว่ยซู
ตลาดผี ในตึกศาลาสัตยพรต เว่ยซูที่อยู่ในห้องมืดสลัวหยิบระฆังดาราออกมา แล้วรายงานต่อเฉาหม่านที่กำลังนั่งขัดสมาธิว่า “นายท่าน อวี่เหวินชวนส่งข่าวมาขอรับ!”
เฉาหม่านไม่แม้แต่จะลืมตา เดาจุดประสงค์ของอวี่เหวินชวนออกแล้ว แสยะยิ้มแล้วบอกว่า “เมื่อเทียบกับชะตากรรมของตระกูลเซี่ยโห้ว ความเป็นความตายของเขาแล้วล้วนไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย”
เว่ยซูได้ยินแล้วยิ้มเบาๆ ยิ่งคลุกคลีกับเฉาหม่านมานาน ก็ยิ่งพบว่าพลังอำนาจที่ซ่อนอยู่บนตัวเฉาหม่านไม่ใช่สิ่งที่เซี่ยโห้วลิ่งเทียบติด
เมื่อเข้าใจท่าทีของเฉาหม่านแล้ว เว่ยซูก็เขย่าระฆังดาราถามว่า : ท่านจอมพลอวี่เหวินมีอะไรจะกำชับ?
อวี่เหวินชวน : ไม่ทราบว่าท่านปู่สวรรค์อยู่ที่ไหน?
เว่ยซู : มีอะไรคุยกับข้าก็เหมือนกัน
อวี่เหวินชวนกล่าวอย่างตรงไปตรงมาเสียเลย : สิ่งที่หนิวโหย่วเต๋อให้พวกเจ้าได้ ข้าก็ให้ได้เหมือนกัน!
เว่ยซูแปลกใจ หรือว่าท่านนี้รู้อะไรมาบ้างแล้ว สามารถให้สิ่งที่พระปีศาจต้องการได้ด้วยเหรอ? จึงอดไม่ได้ที่จะถาม : ในมือท่านจอมพลมีอะไร?
อวี่เหวินชวน : เช่นนั้นก็ต้องถามก่อนว่าหนิวโหย่วเต๋อรับปากจะให้อะไรกับพวกเจ้า ราคาที่เขาเสนอได้ จอมพลผู้นี้จะจ่ายไม่ไหวเชียวหรือ?
เว่ยซูเข้าใจทันที ที่จริงแล้วท่านนี้ไม่รู้อะไรทั้งนั้น ในใจแอบรู้สึกขำ จึงตอบไปเสียเลยว่า : สิ่งที่หนิวโหย่วเต๋อให้ได้ ท่านจอมพลให้ไม่ได้หรอก!
อวี่เหวินชวน : เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าให้ไม่ได้ ลองเสนอราคามาก่อน จะได้ต่อรองกันได้สะดวก
เว่ยซู : ไม่ต้องแล้ว เจ้าให้ไม่ได้หรอก!
พูดจบก็ตัดขาดการติดต่อทันที
อวี่เหวินชวนโดนปฏิเสธจนทำตัวไม่ถูก พอจะติดต่ออีกครั้งก็ติดต่อไม่ได้แล้ว อีกฝ่ายไม่สนใจเขาเลย ทำสีหน้าพยับเมฆโดยไม่รู้ตัว รสชาติของการขอร้องคนอื่นช่างขื่นขมจริงๆ
สุดท้ายก็ไม่มีทางเลือก ติดต่อหาโค่วหลิงซวี เถิงเฟยและเฉิงไท่เจ๋ออีกครั้ง หวังว่าพวกเขาจะให้โอกาส การขอร้องไปขอร้องมาแบบนี้ สุดท้ายก็พบว่าปมปัญหาอยู่ที่ตระกูลเซี่ยโห้ว อ๋องท่านอื่นแสดงท่าทีไม่ต่างกับก่วงลิ่งกง ขอแค่เขาสามารถนมหนาวตระกูลเซี่ยโห้วได้ อีกฝ่ายก็จะสนับสนุนเขาแน่นอน!
เขาทำได้เพียงติดต่อเซี่ยโห้วลิ่งกับเว่ยซูซ้ำแล้วซ้ำอีก ทว่าความหวังสุดท้ายก็ได้ถูกทำลายไปแล้ว!
ฝั่งนี้ไม่มีโอกาสแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ตัดใจ สุดท้ายก็ติดต่อหาซ่างกวนชิงโดยตรง กล่าวขอร้องประมุขชิง!
ตำหนักสวรรค์ พระตำหนักอุทยาน หลังจากซ่างกวนชิงรายงานสถานการณ์แล้ว ในตำหนักใหญ่ที่ดูว่างเปล่าก็เงียบไป
ประมุขชิงสีหน้าสุขุมเยือกเย็น แต่ในใจกลับมีคลื่นคลั่งสูงเสียดฟ้า ที่เขาต้องการกำจัดผังก้วน ก็เพราะผังก้วนกับตระกูลเซี่ยโห้วไปสมคบกัน ผลปรากฏว่าพอลองมองย้อนกลับไป ก็พบว่าโดนปั่นหัว ผู้ที่ตระกูลเซี่ยโห้วต้องการจะสนับสนุนจริงๆ ก็คือหนิวโหย่วเต๋อต่างหาก ตอนนี้รอบตัวเขามีไอสังหารลอยขึ้นมาเป็นพักๆ แววตาเย็นเยียบดุร้ายน่าตกใจ เกิดความคิดที่จะสังหารจริงๆ แล้ว!
………………