พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ – ตอนที่ 234 คำอ้อนวอนของปาจรีย์

ฉากนี้ทำเอาวารุณีตกใจโดยสิ้นเชิง
เธอร้องออกมาแล้วเอามือปิดปาก จากนั้นเห็นพงศกรปาดนัทธีจนเป็นแผล นัทธีก็ต่อยพงศกรล้มลงกับพื้น
ที่แท้แขนของเขา ก็ได้รับบาดเจ็บแบบนี้เอง!
วารุณีเอามือวางลง มองไปที่แขนของนัทธี
นัทธีปิดจอภาพอินเตอร์คอม“ตอนนี้คุณรู้ตัวตนที่แท้จริงของพงศกรแล้วใช่ไหม?”
ลูกกระเดือกของวารุณีขยับเล็กน้อย ยังคงพูดไม่ออก
เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในคืนนี้ เกินกว่าขอบเขตที่จิตใจเธอจะรับได้เลย เธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ใบหน้าน่ากลัวในวิดีโอเมื่อกี๊ คนที่เอามีดออกมาจะฆ่าคนเหมือนคนโรคจิตนั้น จะเป็นพงศกรที่สุภาพ อ่อนโยนมากกับทุกคน
เธอไม่เคยรู้จักเขาเลยจริงๆ!
วารุณีนั่งยองตัวลงไป เอาหน้าซุกไปที่เข่า อารมณ์ทั้งตัวรู้สึกเสียใจ
นัทธีเห็นเธอแบบนี้ ริมฝีปากบางๆก็เม้ม“หนึ่งเดือนกว่าที่ผ่านมาผมก็บอกคุณแล้ว ให้คุณอยู่ห่างพงศกรหน่อย เขาไม่ธรรมดาอย่างที่คุณคิด แต่คุณไม่สนใจคำพูดของผมเลย ดังนั้นเขาจึงมีโอกาสลงมือกับคุณครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าไม่ใช่ว่าคืนนี้ผมบังเอิญกลับมา ตอนนี้คุณคง……”
วารุณีตัวสั่น
ใช่ ถ้าไม่ใช่เขากลับมาทันเวลา ตอนนี้เธอกับพงศกรคงมีอะไรกันแล้ว!
คิดถึงตรงนี้ วารุณีรู้สึกว่าท้องไส้ปั่นป่วน คลื่นไส้เล็กน้อยอยากจะอาเจียนออกมา เอามือปิดปากกล้ำกลืนลงไป
นัทธีเห็นเธอลำบากแบบนี้ จึงเดินไปที่ห้องรับแขกด้วยสีหน้าตึงเครียด เทน้ำแก้วหนึ่งเดินเข้ามา ยื่นให้เธอ“ดื่มนี่ซะ”
วารุณีคลื่นไส้จนตาแดงก่ำ น้ำตาใกล้จะไหลออกมา
เธอยกแขนขึ้นรับแก้วน้ำไว้ มองชิ้นมะนาวที่ลอยอยู่ในแก้วน้ำ ข้างในใจก็รู้สึกอบอุ่น จากนั้นเงยหน้าขึ้นดื่มน้ำไปครึ่งแก้ว
ถึงแม้มะนาวจะมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย แต่รสเปรี้ยวนี้กลับสามารถยับยั้งความรู้สึกคลื่นไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แน่นอนว่า วารุณีดื่มน้ำมะนาวเสร็จ ในท้องก็รู้สึกสบายขึ้นเยอะ ความรู้สึกคลื่นไส้ที่หน้าอกก็ค่อยๆหายไป สีหน้าดูดีขึ้นเยอะ
“ขอบคุณค่ะประธานนัทธี”วารุณีพูดขอบคุณด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
นัทธีรับแก้วน้ำมาวางบนชั้นรองเท้า“คุณคิดจะจัดการพงศกรอย่างไร?”
วารุณียืนขึ้นมา ไม่ตอบแต่ถามย้อนว่า“งั้นเขาตอนนี้ล่ะคะ?”
“โรงพยาบาล เขามีอาการป่วยทางจิตรุนแรง ผมให้พิชิตกักตัวไว้แล้ว”นัทธีเอนตัวไปที่ชั้นรองเท้าแล้วตอบ
“ป่วยทางจิต?”วารุณีตะลึง ดวงตาเบิกโตขึ้นมา
“ถูกต้อง”นัทธีเอาคำพูดตอนที่คุณหมอพงษ์เวชวินิจฉัยพงศกร พูดออกมาอีกรอบ
วารุณีฟังจบ ก็อ้าปากขึ้นมา ตกใจอยู่นานถึงจะนิ่งลงได้“พงศกร……ป่วยทางจิตนี่เอง……”
เขาทำเป็นคนดีมานาน หลายปีนี้ เธอมองไม่ออกเลยว่าเขาป่วยทางจิต
ปาจรีย์รู้หรือเปล่านะ?
“กำลังคิดอะไรอยู่?”เห็นเธอนิ่งไป นัทธีจึงถามขึ้นมา
วารุณีส่ายหน้า และก็ไม่ปิดบังเขา“ฉันกำลังคิดว่า เรื่องที่พงศกรป่วยนี้ ปาจรีย์รู้หรือเปล่า”
“นี่ก็เป็นเรื่องของเธอแล้ว คุณคิดยังว่าจะจัดการพงศกรอย่างไร?”นัทธีมองเธอ แล้วถามอีกครั้ง
วารุณีกัดปาก ท่าทางดูงงงวยเล็กน้อย“ฉันไม่รู้ค่ะ ฉันไม่รู้จริงๆ ประธานนัทธี ไว้พรุ่งนี้ค่อยว่าอีกทีได้ไหม ฉันเหนื่อยแล้ว”
นัทธีมองออกว่าเธอกำลังหลบหนี ถึงจะไม่พอใจหน่อย แต่ก็เข้าใจเธอ
ยังไงพงศกรก็เป็นเพื่อนกับเธอมาหลายปี จากนิสัยของเธอที่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพแล้ว ไม่สามารถตัดสินใจได้ทันทีแน่นอน
“ก็ได้ คุณพักผ่อนเถอะ”นัทธีพยักหน้าเล็กน้อย เปิดประตูออกไป
เป็นครั้งแรกที่วารุณีไม่ได้ตามออกไปส่งเขา ตอนที่เขาจากไป และตอนที่เขาไป ก็ปิดประตูลงทันที
เธอเอนตัวไปที่แผ่นประตู หลับตาลง หลังจากจัดการอารมณ์แล้ว จึงเดินไปในห้อง
เดินไปที่นอกประตูห้องนอนเด็ก เธอเปิดประตูห้องเบาๆ มองลูกสองคนที่หลับอยู่บนเตียงสนิท ในที่สุดก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย
จากนั้น เธอปิดประตูห้องอีกครั้ง กลับไปที่ห้องของตัวเอง ล้มตัวลงไปที่เตียงแล้วจ้องมองไปที่เพดาน ทบทวนทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนนี้
คิดทบทวนจนฟ้าสว่าง เธอนอนหลับไปแป๊บเดียว จากนั้นประมาณแปดโมงก็ถูกปลุกเพราะเสียงโทรศัพท์ของปาจรีย์ที่โทรเข้ามา
“วารุณี เธอรู้ไหมพงศกรไปไหน?ฉันไปหาเขาที่ที่พักเขา เอายาให้เขา สุดท้ายเห็นว่าเขาไม่อยู่บ้าน ฉันเลยโทรหาโรงพยาบาล โรงพยาบาลบอกว่าเขาไม่ได้ไปทำงาน!”ในสาย น้ำเสียงของปาจรีย์รีบร้อนอย่างมาก
วารุณีกอดผ้าห่มนั่งพิงไปที่หัวเตียง สายตาดูเข้าใจยากเล็กน้อย“ปาจรีย์ เมื่อคืนเธอกลับไปอย่างไร?”
เธอไม่ตอบแต่ถามกลับ
ปาจรีย์เอียงหัวอย่างสงสัย“ฉันถูกคนในผับส่งกลับไปน่ะ ทำไมเหรอ?”
วารุณีละสายตาลง ปกปิดความหดหู่ภายในใจ“งั้นเธอรู้ไหมว่าฉันกลับมาอย่างไร?”
“นี่ฉันจะไปรู้ได้ไงล่ะ ตอนนั้นฉันเมา ยังไงเมื่อคืนฉันก็เป็นคนที่ดื่มมากสุดนี่”ปาจรีย์พูดพลางหัวเราะออกไป
วารุณีหัวเราะไม่ออก สูดหายใจลึกๆ หลับตาลงพูดว่า:“ปาจรีย์ เธอรู้ไหม เมื่อคืนฉันโดนพงศกรสะกดจิต เขาแฝงตัวเป็นนัทธีส่งฉันกลับมา อยากจะทำมิดีมิร้ายกับฉัน”
“อะไรนะ?”ปาจรีย์ตกใจจนยืนขึ้นมาบนพื้นรองเท้าจากนอกประตูห้องพงศกร“เป็นไปไม่ได้ เขาจะทำกับเธอได้ไง……”
วารุณียกมุมปากขึ้นมาและตำหนิตัวเอง“ฉันก็อยากจะคิดมากเหลือเกินว่าเขาไม่มีทางทำแบบนี้กับฉันได้ แต่นี่เป็นเรื่องจริง กล้องวงจรปิดตรงจอภาพอินเตอร์คอมที่หน้าประตูของฉันบันทึกไว้ พงศกรทำแบบนี้จริงๆ!”
มือสองข้างของปาจรีย์กำโทรศัพท์ไว้แน่น เสียงกำลังสั่น“งั้นเธอกับพงศกรก็……”
รู้ว่าเธอจะพูดอะไร วารุณีก็ส่ายหน้า“เธอวางใจเถอะ เขาทำไม่สำเร็จ ประธานนัทธีกลับมาช่วยฉันทันเวลา”
“เหรอ?งั้นก็ดี งั้นก็ดี”ปาจรีย์ได้ยิน จึงตบหน้าอกอย่างปีติทันที ในใจรู้สึกยินดีที่วารุณีถูกช่วยมาได้ ขณะเดียวกันก็โล่งอกกับตัวเองไปด้วย
ถึงแม้เธอรู้มาตลอดว่าคนที่พงศกรชอบคือวารุณี
แต่เธอกลับไม่คาดหวังเลยจริงๆว่า พงศกรกับวารุณีมีอะไรเกิดขึ้น จะเป็นเพราะว่าเธอรักพงศกร!
“ปาจรีย์”วารุณีหรี่นัยน์ตาดอกท้อลง เรียกปาจรีย์ออกไป
ปาจรีย์รีบตอบไปว่า:“ทำไมเหรอวารุณี”
“ปาจรีย์ ฉันเห็นว่าเหมือนเธอจะไม่ตกใจสักนิดเลยนะ กับที่ฉันพูดไปเมื่อกี๊ เรื่องที่พงศกรสะกดจิตฉัน ตั้งแต่ต้นจนจบที่เธอตกใจก็มีแค่พงศกรจะทำมิดีมิร้ายกับฉัน เธอรู้ตั้งแต่ต้นแล้วใช่ไหมว่าพงศกรสะกดจิตเป็น?”วารุณีบีบฝ่ามือแล้วถาม
“ฉัน……ฉัน……”รูม่านตาปาจรีย์หดลง ริมฝีปากขยับ พูดไม่ออกอย่างร้อนตัว
ฟังน้ำเสียงที่อ้ำๆอึ้งๆของเธอ วารุณีจะไม่รู้ได้อย่างไร ความรู้สึกขำขันตัวเองที่ใบหน้าก็ยิ่งชัดขึ้น“อย่างที่คิดไว้เลย เธอรู้ตั้งแต่แรกแล้ว”
“ขอโทษนะวารุณี ฉันรู้นานแล้วจริงๆว่าพงศกรสะกดจิตเป็น แต่ฉันไม่ได้จงใจปิดบังเธอ เพราะฉันไม่เคยคิดว่า เขาจะเอาวิธีสะกดจิตพวกนี้มาทำกับเธอ”ปาจรีย์ก้มหน้าลง ขอโทษอย่างรู้สึกผิด
“พอแล้ว”วารุณีสูดลมหายใจ ระงับอารมณ์ไว้ในใจ“ฉันจะถามเธออีกครั้ง เรื่องพงศกรมีอาการป่วยทางจิตนี้ เธอก็รู้ใช่ไหม?”
ปาจรีย์เงียบไปเล็กน้อย จึงตอบอือ“รู้ ตอนที่เขาสิบกว่าขวบ จิตใจก็เกิดปัญหา แต่ไม่รุนแรง……”
“เธอพูดผิดแล้ว เขารุนแรงมาก เมื่อคืนเขาเกือบจะเอามีดมาฆ่าประธานนัทธี!”วารุณีจับผ้าห่มบนตัวแน่น ตัดบทเธอด้วยใบหน้าเรียบเฉย
สีหน้าปาจรีย์เปลี่ยนไปอย่างมาก เสียงก็ขึ้นสูง“จะเป็นไปได้ไง!”
“จริงๆ ดีที่ประธานนัทธีฝีมือดี ไม่อย่างนั้นจะเป็นอย่างไรไม่อยากจะคิดเลย แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ ประธานนัทธีก็ยังบาดเจ็บ จากนั้นประธานนัทธีก็หาจิตแพทย์มาวินิจฉัยพงศกร หมอบอกว่า……”
“บอกอะไร?”ปาจรีย์ตัวสั่น เร่งอย่างรีบร้อน

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

5ปีก่อน พ่อแม่หย่าร้าง พ่อสุดเหี้ยมไล่พวกเขาออกจากบ้าน เพื่อรักษาโรคหัวใจของน้องชาย วารุณีแอบแฝงเข้าไปในห้องนัทธีขึ้นแสดง 'ใช้กายแลกเงิน' 5ปีต่อมา เธอพาเด็กน้อยน่ารักสองคนกลับประเทศ เพื่อที่จะเอาทุกอย่างที่เป็นของเธอคืนมา กลับบังเอิญเจอชายผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในจังหวัดจันทร์อีกครั้ง เขาคือ นัทธี นั่นเอง "ลูกชายคุณทำไมหน้าเหมือนฉันจัง?" นัทธีถามเสียงต่ำ วารุณี:"…" เด็กน้อยน่ารัก: "แด๊ดดี้ รีบมีลูกกับหม่ามี๊อีกคนสิครับ!"

Options

not work with dark mode
Reset