“ฉันต้องดีใจมากอยู่แล้ว แต่ว่ามีคำหนึ่งเธอพูดผิดไป ตำแหน่งคุณหญิงวารุณีของฉันนี้ มั่นคงมาตลอดอยู่แล้ว!”วารุณีมองเธอ“โอเค ฉันมาหาเธอไม่ได้จะมาคุยว่าตำแหน่งคุณหญิงวารุณีของฉันมั่นคงหรือไม่ ฉันจะมาถามเธอว่า ลูกในท้องเธอ จะจัดการอย่างไร?”
“คุณจะทำอะไร?”พิชญากุมท้องไว้แล้วหดตัวไปด้านหลัง
วารุณีมองบนใส่ในใจ“ฉันจะทำอะไรได้ ฉันแค่อยากถามเธอ ลูกในท้องของเธอ อยากจะเก็บไว้ หรือว่าจะเอาออก ถ้าเธออยากเก็บไว้ก็เก็บไว้ ถ้าอยากเอาออก ฉันจะให้คนมาผ่าตัดให้”
“เอาออก ฉันจะเอาออก!”พิชญาตื่นเต้นขึ้นมาทันที ในแววตามีความเกลียดชัง“ความฉิบหายนี้ฉันไม่อยากได้อยู่แล้ว”
วารุณีมองสภาพบ้าคลั่งนี้ของเธอ ก็พอจะเดาได้ว่าเด็กในท้องของเธอนี้มาได้อย่างไร
น่าจะถูกรังแกมาสินะ
แต่เป็นใครที่รังแกกันแน่ และถูกรังแกอย่างไร วารุณีไม่อยากรู้
“ฉันรู้แล้ว ฉันจะให้คนมาผ่าตัดออกให้เธออย่างเร็วที่สุด”วารุณีสะบัดนิ้ว พูดนิ่งๆ
พิชญาก้มหน้า ไม่พูดจา ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่
วารุณีเม้มริมฝีปาก“ใช่สิ ยังมีอีกเรื่อง ฉันว่าฉันควรบอกเธอ”
“อะไร?”พิชญาเงยหน้าขึ้น
วารุณียิ้มขึ้นมา“เจ็ดปีก่อน เรื่องที่สุภัทรไล่พวกเราออกไป เพื่อเธอกับขยานีนั้น เป็นหนามในใจฉันอยู่เสมอ ฉันคิดไม่ออกเลยว่า ทั้งๆที่ฉันกับศรัณย์ก็เป็นลูกของเขา ทำไมเขาไร้จิตใจได้ขนาดนั้นเชียว ดีแค่กับเธอ แต่ตอนนี้ฉันปล่อยวางแล้ว เธอรู้ไหมทำไม?”
“เพราะเธอคิดได้ เธอรู้ว่าไม่ว่าอย่างไร ก็สู้ฉันที่อยู่ในใจพ่อไม่ได้ ดังนั้นเธอเลยปล่อยวาง เธอมีแค่ปล่อยวางทางเดียว ไม่งั้นเธอคิดว่าเธอจะแย่งพ่อกลับมาได้เหรอ?”พิชญาพูดเยาะเย้ย
วารุณีเอาผมทัดหู“เธอพูดผิดแล้ว ฉันปล่อยวาง ไม่ใช่เพราะว่าฉันรู้ว่าฉันแย่งความรักจากพ่อมาไม่ได้ แต่ฉันรู้ว่า สุภัทรถูกกรรมตามสนองแล้ว ลูกสาวที่เขารักมากที่สุด ดันไม่ใช่ลูกแท้ๆของเขา เธอว่าผลสุดท้ายเป็นแบบนี้ ฉันยังไม่วางใจได้อีกเหรอ?”
ในหัวของพิชญาก็เหมือนกับระเบิดออก กลายเป็นว่างเปล่า สักพักถึงพูดตอบกลับ“เธอพูดอะไร?เธอจะบอกว่าฉันไม่ใช่ลูกของพ่อแท้ๆ?”
“ถูกต้อง!”วารุณีพยักหน้า
“เป็นไปไม่ได้!”พิชญาตะโกนด้วยอารมณ์พลุ่งพล่าน
เธอจะไม่ใช่ลูกแท้ๆของสุภัทรได้อย่างไรกัน
เธอไม่ค่อยชอบพ่ออย่างสุภัทรเท่าไหร่นักจริงๆ แต่ชอบไม่ชอบก็เป็นอีกเรื่อง ใช่ลูกแท้ๆของเขาหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง
ที่เธอได้รับคำซุบซิบและนินทามากมาย ก็เพราะว่าเรื่องที่เป็นลูกนอกสมรสของสุภัทรเนี่ยแหละ
สุดท้ายตอนนี้มาบอกเธอว่า เธอไม่ใช่ลูกสาวนอกสมรสของสุภัทร งั้นการกลั่นแกล้งทั้งหมดที่เคยรับมาคืออะไรกัน?
“ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบแน่ แต่นี่คือความจริง”วารุณีผายมือออก
พิชญาจ้องเธอเขม็ง“ในเมื่อเธอพูดแบบนี้ งั้นก็เอาหลักฐานมาสิ ถ้าไม่มีหลักฐาน เธอมีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าฉันไม่ใช่ลูกสาวของพ่อ!”
“เธอต้องการหลักฐาน?โอเค งั้นฉันก็จะเอาให้เธอ ฉันมานี่นอกจากแก้เรื่องตั้งท้องของเธอแล้ว ก็อยากจะบอกเธอ เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเธอ ดังนั้นหลักฐานที่เธอจะเอา ฉันเอามาด้วย”
พูดจบ วารุณีโบกมือ
บอดี้การ์ดด้านหลังเธอคนหนึ่ง เดินหน้าเข้ามา เอาซองเอกสารโยนไปที่เตียงของพิชญา
“เปิดดูสิ หลักฐานที่เธอจะเอาอยู่ด้านใน”วารุณีพูด
พิชญาคิดไม่ถึงว่าเธอจะเอาหลักฐานออกมาจริงๆ ก็สั่นไปทั้งตัวแป๊บหนึ่ง มองซองเอกสารสีน้ำตาลบนเตียง ในใจรู้สึกถดถอย
เธอไม่อยากไปเอาซองเอกสารนี้ และไม่อยากเปิดออก
เธอกลัว กลัวเห็นหลักฐานที่พูดถึงด้านใน
วารุณีเห็นพิชญาลังเลไม่ขยับ คิดไปแป๊บหนึ่ง ก็รู้ความคิดของพิชญา
วารุณีหัวเราะเยาะ“หนีก็หนีไม่พ้นหรอก ตอนนี้เธอหนี ต่อไปก็ต้องรู้ ดังนั้นจำเป็นด้วยเหรอ ในเมื่อเธอไม่กล้าเปิด ไม่เป็นไร บิ๊ก คุณเปิดให้เธอดู”
“ครับ”บิ๊ก ซึ่งก็คือบอดี้การ์ดเมื่อกี๊ตอบรับ ยื่นมือไปหยิบซองเอกสาร
รูม่านตาพิชญาหดลง รีบคว้าซองเอกสารไว้ ไม่ให้เขาเอาไป
จากนั้นบิ๊กก็ส่งเสียงไม่พอใจ ออกแรงที่มือ ดึงซองเอกสารจากมือของพิชญาออกมา
“เปิดให้เธอดูทีละหน้า”วารุณีพูดออกไปอีกครั้ง
บิ๊กทำตาม เอาซองผลตรวจดีเอ็นเอในซองเอกสารออกมา ชูตรงหน้าพิชญา
วารุณีปิดตาไว้ทันที ส่ายหน้าอย่างแรง“ฉันไม่ดู ฉันไม่ดู เธอเอาออกไป ฉันไม่ดู!”
วารุณียกมุมปากขึ้น“บอม เข้ามา!”
ไม่ดู?
อย่าได้แม้แต่จะคิดเลย!
บอมบอดี้การ์ดอีกคนเข้ามา
เขามาตรงด้านหลังพิชญา ยื่นมือสองข้างไป มือข้างหนึ่งออกแรงจับหัวของพิชญาไว้ มืออีกข้างวางไว้ที่ตาสองข้างของพิชญาแล้วออกแรงดึงลง
แบบนี้ พิชญาจึงขยับหัวไม่ได้ ตาก็ปิดไม่ลงได้แต่มองดูผลตรวจดีเอ็นเออย่างถูกบังคับ
มองไปถึงหน้าสุดท้าย บรรทัดความสัมพันธ์ทางครอบครัวของตัวเองกับปวิชอะไรนั่น พิชญาก็ทนไม่ได้ กรีดร้องเหมือนคนบ้า
ปวิช เป็นปวิชจริงๆ!
เธอเป็นลูกสาวของปวิช!
ปวิชคนนี้พิชญารู้จัก รู้จักแต่เด็ก ขยานีบอกว่าเป็นลุงฝ่ายแม่ที่อยู่ไกลของเธอ
คนๆนั้นดีต่อเธอมาก บางครั้งก็มองเธอด้วยความรักและเอ็นดู
เธอไม่เข้าใจมาตลอดว่าทำไมเขาเป็นแบบนี้
ที่แท้ เขาก็รู้อยู่แล้วว่าเธอคือลูกสาวของเขา!
น้ำตาน้ำมูกไหลอาบหน้าพิชญา ใบหน้ามีความตะลึงงัน แววตาว่างเปล่า
วารุณีรู้ว่าผลลัพธ์นี้เธอไม่อาจยอมรับได้ ถูกโจมตีอย่างหนัก ดังนั้นจึงโบกมือ ให้บอดี้การ์ดทั้งสองกลับมา
หลังจากบอดี้การ์ดทั้งสองไป พิชญาก็นอนแน่นิ่งไปทั้งตัว นอนนิ่งอยู่บนเตียง ตาคู่นั้นมองเพดานอย่างเลื่อนลอย
วารุณีเดินเข้าไป“ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วใช่ไหม?เธอไม่ใช่ลูกสาวของสุภัทร เป็นลูกสาวของปวิช ตอนนี้สุภัทรยังไม่รู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆของเขา”
“เธอรู้ได้ไง?”ริมฝีปากของพิชญาสั่น ชัดเจนว่ารับความจริงที่ตัวเองไม่ใช่ลูกสาวของสุภัทรได้แล้ว
ช่างน่าเสียดสีจริงๆ เมื่อก่อนเธอยังเกลียดตัวตนลูกนอกสมรสของตัวเอง
คิดไม่ถึงว่าตอนนี้ เธอจะไม่ใช่แม้แต่ลูกนอกสมรสของสุภัทร
“ก็ครั้งที่แล้วฉันเห็นรายงานตรวจร่างกายของเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ เลือดของเธอกับขยานีและสุภัทรไม่ตรงกัน และก่อนหน้านี้ฉันก็จับเรื่องของขยานีกับปวิชได้ และยังรู้ว่าขยานีมีลูกชายคือถวิตให้ปวิชคนหนึ่ง ดังนั้นฉันเลยสงสัย……”
“เธอพูดอะไร?ถวิตเป็นลูกชายที่ขยานีคลอดมา?”พิชญานั่งขึ้นมาทันที สีหน้าเหยเก
วารุณีเลิกคิ้วขึ้นมองเธอ“ที่แท้เธอไม่รู้นี่เอง”
พิชญาไม่พูด มือสองข้างกำไว้แน่น
ไม่น่าล่ะเธอรู้สึกมาตลอดว่าขยานีดีต่อถวิตอย่างมาก
ที่แท้ถวิตก็เป็นลูกที่ขยานีคลอดมา ไม่น่าล่ะขยานีเอาแต่บอกว่า ให้เธอดีต่อลูกพี่ลูกน้องอย่างถวิตหน่อย
และยังบอกอะไรอีกว่า ถ้าดีก็นึกถึงน้องชายฝ่ายแม่ด้วย
ตลกจัง ตลกมากจริงๆ!
ตอนเด็กๆ เธอถูกกลั่นแกล้งอย่างมาก ขยานีก็ไม่สน ในใจมีแต่ปวิชกับสุภัทร พอเธอโต หลังจากถูกสุภัทรรับเข้าตระกูลศรีสุขคําแล้ว ขยานีถึงมาแสดงความรักของแม่อันจอมปลอมนั้นต่อเธอ
เรื่องอะไรล่ะ ก็เป็นลูกที่ขยานีคลอดมาทั้งหมด แล้วเรื่องอะไรที่ขยานีจะรักเอาใจไอ้ชาติหมาอย่างถวิต รักและประคบประหงมแบบนี้ ส่วนเธอที่เป็นลูกสาวก็ไม่สนใจตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้ยังให้เธอดีกับถวิตอีก
มองความเกลียดชังในแววตาของพิชญา วารุณีก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ“เธอเกลียดน้องชายเธอ?”