“ความหมายก็คือ ก่อนที่คุณสุภัทรจะรู้เรื่องระหว่างเธอกับปวิช เขาได้ร่างพินัยกรรมเอาไว้แล้ว พินัยกรรมระบุไว้อย่างชัดเจนว่า เธอได้รับมรดกของเขาเจ็ดส่วน ฉันกับศรัณย์ได้รับสามส่วน เวลาที่เขียนคือวันที่เขาเข้าโรงพยาบาลวันที่สอง” วารุณีตอบด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง
ขยานีเบิกตากว้าง “เป็นไปไม่ได้!”
สุภัทรได้ร่างพินัยกรรมเอาไว้แต่แรกแล้ว แถมยังยกให้เธอตั้งเจ็ดส่วน?
จะเป็นไปได้ยังไง
ไอ้แก่สุภัทรนั่นเห็นสมบัติของตัวเองสำคัญที่สุดตลอดมา ไม่เคยบอกเธอเลยว่าอยู่ที่ไหนและมีเท่าไหร่ แถมตอนที่เธอขอเงินจากเขา เขายังเจียดให้เธอนิดๆ หน่อยๆ
แล้วเขาจะเขียนพินัยกรรมเอาไว้แล้วได้ยังไง แถมยังให้เธอเยอะขนาดนั้น
อย่าว่าแต่ขยานีเลย แม้แต่ปาจรีย์เองก็ประหลาดใจมากเช่นกัน “เรื่องจริงเหรอ”
“จริงสิ” วารุณีหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าแล้วเปิดอัลบั้มรูป เธอค้นหารูปภาพ จากนั้นจึงยื่นมือถือเข้าไปชิดกระจก “รูปนี้คือพินัยกรรมฉบับนั้น มีวันที่ระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นวันหลังจากที่คุณสุภัทรล้ม ตรงกับวันที่สองที่เขาอยู่โรงพยาบาลพอดี ตอนนั้นเขาเองคงรู้ตัวว่าตัวเองคงอยู่ต่อได้อีกไม่นานนัก ดังนั้นจึงร่างพินัยกรรมขึ้นมา”
ตอนนั้นที่เธอขอพินัยกรรมฉบับนั้นจากทนายพิศาลเอาไว้ ก็เพื่อช่วงเวลานี้
เธอรู้ว่าขยานีจะต้องขอพบเธอ เธอเลยตั้งใจถ่ายรูปเก็บเอาไว้ ตอนนี้ถึงเวลาได้ใช้งานแล้ว
ขยานีจ้องมองโทรศัพท์ของวารุณี เธอเห็นวันที่ รวมทั้งการแบ่งสมบัติที่ระบุอยู่ในพินัยกรรมนั้น ร่างกายของเธอจึงด้านชาไร้ความรู้สึก
นี่คือเรื่องจริง!
บนนั้นยังมีลายเซ็นที่สุภัทรเซ็นเอาไว้เองอีกด้วย ลายมือของสุภัทรเธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี ของจริงหรือปลอมเธอมองเพียงแว็บเดียวก็มองออก
ดังนั้นตอนนั้นสุภัทรตั้งใจยกสมบัติให้เธอมากขนาดนี้จริงๆ
เมื่อเห็นท่าทางเหลือเชื่อของขยานี วารุณีก็ดึงมือถือกลับอย่างเรียบเฉย “ตอนนั้นคุณสุภัทรยังไม่รู้เรื่องราวระหว่างเธอก็ปวิช และไม่รู้ด้วยว่าเธอวางยาเขาทำให้เขามีอายุสั้น ดังนั้นตอนที่เขายังไม่เป็นอัมพาต เขาได้เซ็นลายเซ็นบนพินัยกรรมฉบับนี้ด้วยตัวเอง ทนายพิศาลได้อัดวิดีโอเอาไว้เป็นหลักฐานด้วย ตอนนั้นขอแค่เธออดทนอีกหน่อยไม่โทรหาปวิชต่อหน้าเขา ตอนนี้เธอคงเป็นผู้รับมรดกต่อจากเขาไปแล้ว”
ริมฝีปากของขยานีสั่นระริก เธอพูดไม่ออก เธอเสียใจจนลำไส้ปั่นป่วน
ใช่แล้ว ตอนนั้นถ้าเธออดทนอีกหน่อย ไม่ยอมรับโทรศัพท์ ตอนนี้เธอคงไม่ต้องติดคุกและไม่ต้องโดนโทษประหาร
และเธอคงเอาสมบัติไปใช้ชีวิตอยู่กับปวิชและทวิตอย่างมีความสุขไปแล้ว
วารุณีไม่รู้ความคิดของขยานี หากเธอรู้คงจะบอกว่าขยานีกำลังฝันหวานอยู่ เพราะต่อให้คุณสุภัทรไม่รู้เรื่องที่ขยานีทำ แต่เธอรู้
เธอไม่มีทางปล่อยขยานีไปอย่างแน่นอน ดังนั้นถ้าจะพูดให้ถูก จุดจบของขยานีอย่างไรก็เหมือนเดิม
“นอกจากมรดกแล้ว คุณสุภัทรยังเป็นห่วงที่วันข้างหน้าเธอไม่มีลูกคอยดูแล เลยจัดการจองบ้านพักผู้สูงอายุให้เธอเพื่อให้เธอได้ใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบ ที่จริงแล้วคุณสุภัทรเป็นห่วงเธอมากนะ” วารุณีทิ้งระเบิดลูกใหญ่อีกครั้ง
ปาจรีย์พูดไม่ออกเช่นกัน “พ่อไม่เอาไหนของเธอคิดรอบคอบเหมือนกันนะ”
“ใช่แล้ว” วารุณีพยักหน้าอย่างไร้อารมณ์
น้ำตาของขยานีไหลพราก
สุภัทรจัดการเรื่องราวพวกนี้เพื่อเธอ?
เรื่องสมบัติเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอเสียใจต่อสุภัทร แต่เมื่อรวมเรื่องนี้เข้าไปแล้ว เธอรู้สึกเสียใจมาก
ใช่แล้ว สุภัทรคือคนที่เอาผู้ชายเป็นใหญ่ อารมณ์ร้อน ขี้งก แต่ไม่ว่าเธออยากได้อะไรแค่เข้าไปบีบนวดสักหน่อย เธอก็มักจะได้ทุกอย่าง
จุดนี้เป็นจุดที่ปวิชทำให้เธอไม่ได้ แม้ว่าปวิชจะเป็นคนอ่อนโยน ปลอบโยนเธอได้ แต่สิ่งที่เธออยากได้ ปวิชไม่เคยหามาให้เธอได้ มีแต่เธอที่หามาให้เขา
เมื่อก่อนเธอไม่เคยเอาสุภัทรกับปวิชมาเปรียบเทียบกัน เธอคิดว่าปวิชเป็นผู้ชายที่เข้าอกเข้าใจเธอ อ่อนโยนกับเธอ เขาคือคนที่เธอต้องการ ส่วนสุภัทรไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของเธอ เทียบอะไรกับปวิชไม่ได้เลย
แต่ตอนนี้เธอเริ่มสงสัยแล้วว่า อันที่จริงปวิชรักเธอจริงๆ หรือ
ถ้าเธอไม่มีเงินให้ปวิช เขาจะยังอ่อนโยนกับเธอและปลอบโยนเธออยู่เหมือนเดิมไหม
เธอเกรงว่าคงจะไม่เป็นอย่างนั้น
บางทีปวิชอาจจะไม่ได้รักเธอ เพราะถ้าเขารักเธอ เมื่อยี่สิบปีก่อน ทำไมเขาถึงยอมให้เธอไปหลอกผู้ชายมีเงินล่ะ จากนั้นยังปล่อยให้เธอเป็นฝ่ายเลี้ยงดูมาตลอด ไม่เคยพยายามทำตัวให้ดีขึ้น
ในตอนนั้น เรื่องราวในอดีตที่เธอไม่เคยมองเห็นก็ปรากฏชัดอยู่ตรงหน้า
เธอเสียใจ
เธอเสียใจมากจริงๆ เธอไม่ควรวางยาสุภัทร ไม่ควรทำร้ายเขา และยิ่งไม่ควรคบหากับปวิชต่อหลังจากที่อยู่กินกับเขาแล้ว
“ฉัน……ฉัน……” ขยานีมองที่มือของตัวเองแล้วร้องไห้ฟูมฟาย
ปาจรีย์เข้ามาใกล้วารุณี “หล่อนเป็นอะไรไปแล้ว”
วารุณีหัวเราะ “เสียใจล่ะมั้ง”
“เชอะ ถ้าเสียใจ แล้วทำไมตอนนั้นถึงทำล่ะ” ปาจรีย์เบะปาก
วารุณียิ้มแล้วไม่ได้กล่าวอะไรต่อ
ขยานีร้องไห้ไปได้พักใหญ่ จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมามองไปทางวารุณีอย่างเกลียดชัง “แกตั้งใจใช่ไหม”
แววตาของวารุณีเกิดประกาย “หมายความว่ายังไง”
“แกตั้งใจเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฉันฟัง ฉันจะได้เสียใจใช่ไหม” ขยานีแผดเสียง
วารุณียิ้ม “ใช่แล้ว ฉันตั้งใจ ทำให้หัวใจแตกสลายยังไงล่ะ ปล่อยให้เธอตายไปง่ายๆ ได้ยังไง ฉันต้องทำให้หัวใจของเธอแตกสลายด้วย ฉันอยากให้ก่อนที่เธอจะตายต้องอยู่กับความเสียใจ ละอายใจและอยู่อย่างไม่สงบ”
“แก……” ขยานีโกรธจนพูดไม่ออก
ผ่านไปพักหนึ่ง ราวกับร่างกายของเธอหมดเรี่ยวแรง เธอนั่งตัวอ่อนตัวพับ
นอกจากนั้นแล้ว ความเกลียดชังบนใบหน้าของเธอหายไป สิ่งที่เขามาที่คือความรู้สึกเจ็บปวดและขมขื่น
“วารุณี เธอชนะแล้ว เธอทำให้หัวใจฉันแตกสลาย ฉันยอมแล้ว ฉันยอมแพ้เธอ” เสียงของขยานีแหบแห้งไร้กำลังจะพูดออกมา
วารุณีเม้มปาก และไม่ได้กล่าวตอบอะไร
ขยานีหลับตาเพื่อปิดบังความเจ็บปวด จากนั้นจึงมองไปที่เธอ “ยังมีอีกเรื่องที่อยากถาม เรื่องที่ฉันอยากรู้เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ฉันตามเธอมาวันนี้”
“อะไรล่ะ”
ขยานีกำโทรศัพท์แน่น “ถวิต……ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง เธอเอาเขาไปไว้ที่ไหน”
“สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า” วารุณีตอบ
ขยานีกัดฟัน “ทำไมเอาเขาไปไว้ที่สถานเด็กกำพร้าล่ะ สถานที่แบบนั้นกินไม่อิ่มนอนไม่หลับ ถวิตร่างกายไม่แข็งแรง ไม่เคยลำบากมาก่อน ทำไมเธอถึง…”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ เธอกำลังจะตายแล้ว ปวิชก็อยู่ในคุก ถ้าไม่เอาเขาไปไว้ในสถานเด็กกำพร้าแล้วจะไว้ที่ไหน หรือเธอคิดว่าฉันจะเลี้ยงดูเขางั้นเหรอ เขาไม่ใช่แม้แต่เด็กของตระกูลศรีสุขคำด้วยซ้ำ”
วารุณีย้อนถาม ทำให้ขยานีไร้คำพูด
ใช่แล้ว ถวิตไม่ใช่คนของตระกูลศรีสุขคำ ทำไมวารุณีต้องเลี้ยงดูเขาด้วย
“อย่างนั้นเธอก็เอาถวิตไปหาพิชญาสิ เธอเป็นพี่สาวแท้ๆ ของเขา” ขยานีกล่าวขึ้นอีก
วารุณีอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “ก็ใช่ พิชญาเป็นพี่สาวแท้ๆ ของเขา แต่ตอนนี้เธออยู่โรงพยาบาลจิตเวช เธอจะดูแลเขาได้ยังไง อีกอย่างฉันขอพูดตรงๆ ว่าต่อให้พิชญาไม่อยู่ที่โรงพยาบาลจิตเวช เธอก็คงไม่รับดูแลอยู่ดี เธอรู้แล้วว่าถวิตคือน้องชายแท้ๆ ของเธอ เธอเกลียดถวิตและก็เกลียดคุณด้วย”
“อะไรนะ” ขยานีช็อก “พิชญาเกลียดฉันเหรอ”
“ใช่สิ พิชญาเคยเล่าว่า ตอนเด็กๆ หล่อนมักจะถูกรังแกเพราะเป็นลูกเมียน้อย และเธอไม่เคยปกป้องหล่อนเลย เอาแต่สนใจแต่ปวิชกับสุภัทร ดังนั้นเธอเลยเกลียดคุณ ถวิตเองก็เป็นลูกเมียน้อยเหมือนกัน แต่เธอกลับเอาใจใส่ถวิตอย่างดี เรื่องนี้จะทำให้พิชญานึกถึงวัยเด็กของตัวเอง แล้วเธอคิดว่าพิชญาจะไม่เกลียดเธอกับถวิตได้ยังไง อย่างนี้แล้วเธอยังหวังให้พิชญาเลี้ยงดูถวิตอีกงั้นเหรอ” วารุณีย้อนถามอีกครั้ง
ขยานีอ้าปากค้าง เธอพูดไม่ออก
เพราะเธอรู้ว่าเธอไม่สามารถคาดหวังได้
พิชญาเกลียดถวิต คงเป็นไปไม่ได้ที่จะเลี้ยงดูถวิต และอาจเอาถวิตไปทิ้งด้วยซ้ำ
และต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดนี้ ก็คือตัวเธอเอง
ขยานีทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ไปพร้อมๆ กัน
วารุณีมองเธอเงียบๆ อยู่พักใหญ่ พอเห็นเธอยังคงมีอารมณ์ขมขื่น สุดท้ายจึงวางโทรศัพท์ลงและออกไปพร้อมกับปาจรีย์
เมื่อออกจากเรือนจำมาแล้ว ปาจรีย์ก็ชี้ไปด้านหน้า “วารุณี ผู้ชายของเธอมาแล้ว”
วารุณีเงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่เดินเข้ามาแล้วยิ้ม
พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ – ตอนที่ 535 ขยานีรู้สึกผิด
Posted by ? Views, Released on January 4, 2022
, พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
5ปีก่อน พ่อแม่หย่าร้าง พ่อสุดเหี้ยมไล่พวกเขาออกจากบ้าน เพื่อรักษาโรคหัวใจของน้องชาย วารุณีแอบแฝงเข้าไปในห้องนัทธีขึ้นแสดง 'ใช้กายแลกเงิน' 5ปีต่อมา เธอพาเด็กน้อยน่ารักสองคนกลับประเทศ เพื่อที่จะเอาทุกอย่างที่เป็นของเธอคืนมา กลับบังเอิญเจอชายผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในจังหวัดจันทร์อีกครั้ง เขาคือ นัทธี นั่นเอง "ลูกชายคุณทำไมหน้าเหมือนฉันจัง?" นัทธีถามเสียงต่ำ วารุณี:"…" เด็กน้อยน่ารัก: "แด๊ดดี้ รีบมีลูกกับหม่ามี๊อีกคนสิครับ!"