หนิงเอ๋อร์!”
เพียงเมื่อขอทานน้อยกำลังจะพาจั๋วฝานไปเทือกเขาหมื่นอสูร เสียงตะโกนก็ดังขึ้น ขอทานน้อยตัวสั่น รีบหดหัวหนี
ไม่นาน คนที่ปรากฏต่อหน้าทั้งสองก็คือนายน้อยในชุดขาว เขาอยู่ด้านหน้ายอดฝีมือกลั่นลมปราณ 20 คนที่สวมชุดเดียวกับกลุ่มคนก่อนหน้า
นายน้อยเมินจั๋วฝาน จ้องขอทานด้วยความโกรธ”เจ้าทำให้เราลำบากมามากพอแล้ว กลับไปกับข้า”
ขอทานน้อยกัดปาก ดวงตาของมันดูไม่มั่นคง แต่ในไม่ช้าก็ตัดสินใจ จ้องกลับด้วยแววตามุ่งมั่น หลบหลังจั๋วฝาน”พี่จั๋ว ช่วยข้าด้วย”
ในที่สุดนายน้อยก็เหลือบมองจั๋วฝานด้วยแววตาประดุจหงษ์”นี่เป็นเรื่องของตระกูลเสวี่ยเรา ถ้าท่านไม่อยากมีปัญหา ข้อขอแนะนำให้หลีกทาง”
ตระกูลเสวี่ย?
จั๋วฝานหรี่ตาและจ้องขอทาน[ไม่คิดเลยว่าคู่หูใหม่ของข้าจะไปยั่วยุตระกูลเสวี่ย]
ตระกูลเสวี่ยคือตระกูลสามัญชนอันดับหนึ่งในเมืองชิงหมิง มันมียอดฝีมือระดับนภาคอยพิทักษ์และถือได้ว่าเป็นตระกูลชั้นสองบนทวีป
แต่ด้วยความที่เมืองชิงหมิงอยู่ภายใต้การปกครองของโหยวหมิงกู่ ตระกูลเสวี่ยจึงไม่นับเป็นอะไรนอกจากบริวาร
จั๋สฝานเห็นขอทานขยิบตาและยิ้มขณะที่เขาดึงขอทานเข้าใกล้ นายหน้อยหรี่ตาและหน้าซีด ขอทานเองก็แปลกใจจนสีแดงเริ่มแต่งแต้มบนแก้มเปื้อนดินของเขา
“เจ้าหนู เจ้าคิดว่าเจ้ากำลังทำอะไร?”นายน้อยตะโกน
จั๋วฝานหัวเราะ”จากนี้ไป เขาเป็นของข้า ถ้าอยากได้ตัวเขา พวกเจ้าจะต้องผ่านข้าไปก่อน!’
“สามหาว!เจ้ามาเมืองชิงหมิงโดยไม่รู้จักแม้กระทั่งตระกูลเสวี่ยของเรา?ตระกูลเราไม่ใช่อะไรที่เจ้าจะมายั่วโมโหได้!”
“ฮ่าๆๆ”จั๋วฝานหัวเราะและส่ายหัว”แน่นอนว่าข้ารู้ ตระกูลเสวี่ยคือสุนัขรับใช้อันดับหนึ่งของโหยวหมิงกู่ในเมืองชิงหมิง เจ้ากำลังบอกข้าให้เมินสัตว์อสูรหายากทั้งหมดบนเทือกเขาหมื่นอสูรเพราะสุนัข?”
นายน้อยกำลังระเบิดด้วยความโกรธ ขอทานเองก็โกรธและผลักจั๋วฝาน.”อย่าพูดถึงตระกูลเสวี่ยแบบนั้น!”
จั๋วฝานตกตะลึง[ข้ากำลังระบายความโกรธให้เจ้า แต่ก็ยังตำหนิข้า?]
“จับมัน!”
ขณะที่จั่วฝานพูดไม่ออก นายน้อยก็คำราม
คนด้านหลังเขากรูหาทั้งสอง ขอทานได้สติว่าศัตรูเป็นใครและหลบหลังจั๋วฝาน
จั๋วฝานแค่นเสียงกับความจริงที่ว่าคนเหล่านี้ก็แค่ผู้บ่มเพาะกลั่นลมปราณขั้นห้า โดยมีขั้นหกแค่สองคน
“พวกขยะที่กำลังรนหาที่ตาย!”
จั๋วฝานโจมตีด้วยความดูถูก มือของเขาเปล่งแสงสีแดงและกระแทกฝ่ามือโลหิตออกไป!
มันโดนหน้าอกผู้คุ้มกัน และเหยื่อก็รู้สึกว่าเส้นเลือดกับอวัยวะทั้งตัวได้พองจนระเบิด เขากระอักเลือดก่อนล้มลง
ฝ่ามือถูกส่งออกไปอีกครั้งและผู้คุ้มกันก็ล้มลง
เรื่องทำนองนี้ดำเนินต่อไป…
กลุ่มผู้คุ้มกัน 20 คนล้มลงทีละคน
นายน้อยยืนนิ่งอยู่นานด้วยความตกใจ แม้กระทั่งเขาผู้บ่มเพาะกลั่นลมปราณขั้นแปดก็ไม่สามารถฆ่าคน 20 คนได้แบบที่จั๋วฝานทำ
มันเห็นได้ชัดว่าจั๋วฝานเป็นแค่กลั่นลมปราณขั้นห้า แต่ฝ่ามือธรรมดาของเขากลับทำให้ผู้คุ้มกันบาดเจ็บสาหัสได้
สิ่งที่เข้าสู่สายตาเขาคือฝ่ามือโลหิตของจั๋วฝานได้พุ่งผ่านผิวหนัง กระแทกกับเส้นเลือดโดยตรง มันเหมือนกับไม่สนใจการป้องกันของร่างกายและโจมตีอวัยวะภายในโดยตรง
ไม่กี่ลมหายใจ ผู้คุ้มกันทั้งหมดก็ล้มลงกับพื้น
นายน้อยเห็นฉากทั้งหมดกับตา ดวงตาของขอทานยังเบิกกว้างด้วยความแปลกใจ
“หึ เจ้าเองก็มีดีเหมือนกันไม่เบา ไม่แปลกใจที่เจ้าจะกล้าหาญ”นายน้อยกัดฟัน กระโดดทุบก้อนหินใต้เท้า”งั้นให้ข้า เสวี่ยกังเป็นคนสั่งสอนเจ้าเอง!”
“เสวี่ยกัง?”
จั๋วฝานขมวดคิ้ว”เจ้าคือนายน้อยของตระกูลเสวี่ย?ข้าได้ยินว่าพ่อเจ้าประคบประหงมเจ้ามากและเจ้าก็คือผู้สืบทอดตระกูล!”
“หึ เกิดกลัวขึ้นมาแล้วหรือไง?”เสวี่ยกังตะโกน
จั๋วฝานส่ายหัว”ไม่ ข้าแค่ไม่ชอบเรื่องน่ารำคาญ ถ้าข้าเล่นงานเจ้าที่นี่ วันแสนสุขของข้าในเมืองชิงหมิงคงลำบาก มันดีสุดที่จะ…ปิดปากพวกเจ้าทั้งหมดและทำให้หูของข้าสงบ!”
ดวงตาของจั๋วฝานระเบิดจิตสังหารออกมา แรงกดดันเช่นนี้ได้บีบรัดหัวใจของเสวี่ยกัง
เขาไม่เคยคิดฝันว่าจั๋วฝานจะกล้าฆ่าเขา จิตสังหารนี้ทำให้ปราณของเขาไหลเวียนช้าลง ต่อให้เขาจะมีระดับสูงกว่าจั๋วฝานก็ตาม
เขา ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะด้านการบ่มเพาะกลับไม่คาดคิดว่าจะได้พบคนหนุ่มอำมหิต ผู้บ่มเพาะกลั่นลมปราณขั้นห้าที่สามารถกดดันผู้บ่มเพาะที่มีระดับสูงกว่าสามขั้นได้
เขาจ้องฝ่ามือที่เข้าใกล้หน้าอกเขาด้วยความกลัวและอยู่ห่างหัวใจเขาแค่หนึ่งฝ่ามือ แต่วินาทีนั้นเอง เขาก็กัดลิ้นเพื่อปลุกสติ ความเจ็บปวดได้ปลดปล่อยเขาจากการจับกุมของจิตสังหารอันน่าสะพรึง
เขารีบปล่อยหมัดออกไป แสงสีฟ้าพุ่งออกไปเหมือนพายุใส่จั๋วฝาน
“วิชายุทธ์มนุษย์ขั้นสูง หมัดโหยหวน!”
จั๋วฝานแค่นเสียงอย่างดูถูก และประสานมือเพื่อให้แสงสีแดงบินเข้าตัวเสวี่ยกัง
ก่อนหมัดโหยหวยจะสัมผัสกับจั๋วฝาน มันก็สลายและร่างของเสวี่ยกังก็แข็งทื่อด้วยความตื่นตระหนก
ตอนนี้ จั๋วฝานยืนก้มมองเขา เมื่อเห็นรอยยิ้มชั่วร้าย เสวี่ยกังก็รู้สึกเหมือนเขากำลังมองปีศาจและหัวใจของเขาก็หยุดเต้นไปชั่วขณะ
ปัง!
ฝ่ามือของจั๋วฝานกระแทกบนหน้าอกเขาและเสวี่ยกังก็กระอักเลือดขณะบินขึ้นฟ้า อวัยวะเขารู้สึกเหมือนกำลังแผดเผาและเส้นเลือดก็แรกปริแตก
แต่ความเจ็บปวดยังไม่ทันหายเมื่อปีศาจขยับเข้ามา เสวี่ยกังกลัวจนแทบขาดสติ
นี่คือจั๋วฝาน!
เขาไม่โจมตีด้วยอีกฝ่ามือ แต่กลับคว้าคอของเสวี่ยกัง”นายน้อยเสวี่ย ไม่ต้องห่วง หลังเจ้าตาย ข้ารับใช้เจ้าจะตามไป นี่ควรทำให้ตระกูลเสวี่ยไม่สามารถไล่ล่าข้าได้อย่างน้อยสามเดือน..”
จั๋วฝานออกแรงและเสวี่ยกังก็รู้สึกว่าลำคอของเขาแทบแตก เขาสามารถได้ยินเสียงกระดูก
เขากำลังจะตาย นอกเหนือจากความทุกข์ทรมาน เขาไม่รู้สึกอะไรอีก
เขาไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรผิดในชีวิต เขาแค่กำลังจะพาหนิงเอ๋อร์กลับ?ทำไมเขาถึงพบยมฑูตแทน?นักฆ่าสุดอำมหิต!
[ข้าลืมอ่านอนาคตข้าก่อนออกมา!}
ถ้าคอของเขาไม่โดนจั๋วฝานบดขยี้ เขาคงร้องไห้ไปแล้ว[บัดซบ ข้าโชคร้ายมาก!]
“หยุด!”
เพียงเมื่อจั๋วฝานอยากใช้พลังเฮือกสุดท้าย ส่งนายน้อยไปสวรรค์ ขอทานกลับตะโกน
จั๋วฝานหันไปมอง”เจ้าทำอะไร?พวกมันเป็นศัตรูเจ้าไม่ใช่หรือ?”
ขอทานเต็มไปด้วยความกังวลถึงชีวิตของเสวี่ยกังจนน้ำตาไหลออกมา ในความเป็นจริง เขาอยากหยุดจั๋วฝานนานแล้ว แต่จั๋วฝานเร็วไป เขาจัดการกับผู้คุ้มกันในหนึ่งลมหายใจ และต่อมาก็คว้าคอเสวี่ยกัง
“ต่อให้เป็นแบบนั้น ข้าก็ไม่อยากฆ่าพวกเขา!”ขอทานร้องไห้
จั๋สวฝานขมวดคิ้ว”ทำไมเจ้าถึงพูดแบบนั้น?แต่มันสายไปแล้ว พวกมันไม่ใช่ศัตรูเจ้าอีก พวกมันเป็นศัตรูข้าแล้ว จุดจบของศัตรูข้าคือความตาย!”
มือของจั๋วฝานกระชับแน่นขึ้นและดวงตาของเสวี่ยกังก็ปูด เขาอยู่ไม่ไกลจากความตาย
“ถ้าเจ้าไม่ปล่อยตัวข้า ข้าจะไม่นำทางเจ้า”ขอทานตะโกนทั้งน้ำตา
จั๋วฝานขมวดคิ้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนร้องไห้ให้ศัตรู
เขาปล่อยเสวี่ยกัง จั๋วฝานประสานมือและทารกโลหิตก็กลับมาขระที่เขายักไหล่”เนื่องจากเจ้าไม่กลัว ทำไมข้าถึงต้องทำให้อนาคตของไม่สะดวกด้วยเล่า?’
เขาปาดน้ำตาบนใบหน้าเล็กๆของขอทานและเดินไปขณะอุ้มขอทานไว้ใกล้”นำทาง จากนั้นข้าจะพาเจ้าออกนอกเมือง ไปให้ไกลจากตระกูลเสวี่ย”
“จะ-เจ้าคนเลว!”ขอทานน้อยพูดตะกุกตะกัก
จั๋วฝานเยาะเย้ย”ใช่ ข้าเป็นคนเลว!แต่ในโลกนี้ นี่คือคนจำพวกเดียวที่จะรอดชีวิต คนดีไม่มีที่ให้อยู่หรอก”
ขอทานปาดน้ำตา จ้องจั๋วฝานโดยไม่เกรงกลัว
เขาเคยเห็นคนเลวมามาก แต่ไม่มีใครเทียบเท่ากับจั๋วฝาน แต่เขาไม่เกิดความรู้สึกเกลียดจั๋วฝานเลย เขากลับรู้สึกสบายใจ
ความรู้สึกนี้เขาไม่แสดงออก
…
ชั่วโมงต่อมา รา่งสีดำยืนอยู่ตำแหน่งเดิมของจั๋วฝาน หนวดเคราของชายชราสั่นด้วยความโกรธ
เขาสังเกตเห็นเสวี่ยกังนอนกระตุกอยู่บนพื้น ช่วยพยุงเขาขึ้นและถาม”กังเอ๋อร์ เกิดอะไรขึ้น?ใครมันที่ทำกับเจ้า?”
เสวี่ยกังอ้าปากค้างด้วยใบหน้าซีดเซียว แต่ไม่มีคำพูดออกมาเลย ชายชรามองเขาและพบว่าอวัยวะภายในของเสวี่ยกังบาดเจ็บ ขณะที่ด้านล่างเขาเป็นแอ่งน้ำ
เขาหยิบเม็ดยาป้อนเสวี่ยกังจากนั้นก็ถอนหายใจ
แต่บาดแผลของเสวี่ยกังทำให้เขาประหลาดใจ
บาดแผลเขาไม่หนัก ต้องพักรักษาตัวแค่เดือนเดียว แต่จิตใจของเขากลับเสียหายหนัก เขากลัวจนฉี่ราด!
[กังเอ๋อร์เป็นคนหนุ่มเลือดร้อน มีแค่ยอดฝีมือที่น่ากลัวถึงทำให้เขากลัวจนอยู่ในสภาพนี้ได้]
ชายชรารู้สึกงุนงงขณะครุ่นคิดอยู่นาน สุดท้าย เขาก็ส่ายหัวและจากไปพร้อมเสวี่ยกัง
ไม่ว่ามันจะเป็นใคร แต่ใครก็ตามที่กล้ายั่วยุตระกูลเสวี่ยในเมืองชิงหมิงจะต้องชดใช้…