ซวบ!
เสียงสายฟ้ากับโลหะหยุดลงกะทันหัน การแสดงออกของจั๋วฝานดูจดจ่อขณะที่เขาหยุดขยับปีกเพราะโหยวกุ่ยฉีไม่อยู่ในสายตา
เสียงหนึ่งทำลายความเงียบ และหัวใจของจั๋วฝานก็บีบรัด เขางอปีกตามสัญชาตญาณ
ตึง!
ปีกของเขาขวางการลอบโจมตีของโซ่จากด้านหลัง แต่เข็มเย็นก็ยังพุ่งใส่หลังเขา
มันคือสมบัติมารระดับสามของโหยวกุ่ยฉี เข็มบิดเบือน!
“ฮี่ๆๆ เจ้าหนู ตอนนี้เจ้าจะทำยังไง?”โหยวกุ่ยฉีหัวเราะเยาะ
ปีกของจั๋วฝานโดนโซ่หยินหยางจับไว้ การโจมตีของสมบัติมารระดับสามมาในเวลาอันเหมาะเจาะ พอดีกับตอนที่การเคลื่อนไหวของจั๋วฝานโดนผนึก
แม้กระทั่งตัวโหยวกุ่ยฉีเองก็ไม่สามารถหลุดพ้นสถานการณ์แบบนี้ได้ถ้าเขาเป็นจั๋วฝาน
แต่จั๋วฝานกลับพึมพำแค่ว่า”ท่าเท้าวิญญาณลี้ลับ!”
พรึ่บ!
เขาหายตัวไปจากจุดที่ยืนและโซ่กับเข็มก็เสียเป้าหมายพวกมัน ทำให้โหยวกุ่ยฉีเสียสมดุล
จากนั้นจั๋วฝานก็โผล่จากด้านหลัง ใช้ปีกของเขาเป็นขวานเล็งที่คอของโหยวกุ่ยฉี
ตึง!
เกิดเสียงแหลมบาดหู ปีกกับโซ่หยินหยางปะทะกันอีกครั้ง แต่คราวนี้ บทบาทพวกเขาสลับกัน
สถานการณ์พลิกกลับในชั่วพริบตา ด้วยจั๋วฝานที่เป็นฝ่ายได้เปรียบ!
แม้แต่เจี้ยนซุยเฟิงก็ยังได้รับผลกระทบจากการพลิกกลับแบบกะทันหันนี้ จอมปราชญ์อันดับหนึ่งของโหยวหมิงกู่ โหยวกุ่ยฉีกลับโดนผู้เยาว์ต้อนจนมุม
“ผู้อาวุโสเจ็ด รู้สึกอย่างไรบ้างที่โดนลอบโจมตี?”ปีกของจั๋สวฝานผลักดันโซ่หยินหยางจนกระทั่งโหยวกุ่ยฉีต้องเอนหลัง”ถ้าข้ามีสมบัติมารระดับสามด้วย เจ้าคงรตายไปแล้ว แต่แม้เจ้าจะมีความพยายามและฉวยโอกาสรอด ข้าก็ยังไม่ตายและเตะก้นเจ้าได้อยู่ดี”
ใบหน้าของโหยวกุ่ยฉีแดงก่ำและหอบอย่างหนักเพื่อบรรเทาความโกรธในตัวเขา
คำพูดของจั๋วฝานเป็นการดูหมิ่นฉายาเขา
โหยวกุ่ยฉีไม่ได้ทรงพลังแค่เพราะฐานบ่มเพาะ แต่เพราะฉายาเขา ปีศาจเจ้าเล่ห์ จอมปราชญ์อันดับหนึ่งแห่งโหยวหมิงกู่
แต่จั๋วฝานกำลังเย้ยหยันความภาคภูมิใจของเขา เหมือนกับจะบอกว่า[ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าคงฆ่าคู่ต่อสู้ข้าได้ไปนานแล้ว และไม่ต้องเสียเวลามาเปลืองน้ำลาย!]
นี่เป็นความอัปยศที่สุดที่โหยวกุ่ยฉีเคยประสบ
คนอาจเย้ยหยันนิสัยเขา แต่เขามองเป็นตราแห่งเกียรติยศ แต่เขาจะไม่มีวันยอมให้ใครมาดูถูกสติปัญญาของเขา นั่นคือเส้นที่เขาวาด
ใครก็ตามที่เยาะเย้ยเขาว่าเป็นคนโง่ เขาจะมอบสิ่งที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตายให้พวกมัน
แต่จั๋วฝานกลับทำให้เขาจนมุมและยังเยาะเย้ยเขา โดยที่เขาไม่มีอำนาจต่อต้าน นี่ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
“อย่าได้ใจไปนัก เจ้าหนู!”
ความโกรธของโหยวกุ่ยฉีพุ่งถึงจุดกแตกหัก ปราณของเขาระเบิดออกมา สะบัดปีกจั๋วฝานออกไป
จากนั้น เขาก็ควงโซ่ใส่จั๋วฝานโดยทิ้งภาพติดตาไว้เบื้องหลัง
โหยวกุ่ยฉีใช้ความเร็วสูงสุด และด้วยผลพิเศษของโซ่หยินหยาง เขาจึงไปถึงจุดสูงสุดใหม่
จั๋วฝานยังคงสงบขณะหัวเราะ ร่างของเขาถลาไปรอบๆด้วยความช่วยเหลือของท่าเท้าวิญญาณลี้ลับและปีกของเขา เขาเคลื่อนไหวได้เร็วกว่าโหยวกุ่ยฉีด้วยซ้ำไป
ผู้คนต่างเป็นสักขีพยานต่อภาพติดต่อและเสียงสายฟ้าฟาดอีกครั้ง แต่ก็ไม่เคยเห็นภาพชัดเจนของการต่อสู้ระหว่างทั้งสอง
พวกเขาพุ่งไปทั่วลานกว้าง หนึ่งไปทางตะวันออก หนึ่งไปทางตะวันตก พุ่งไปในทุกทิศทางและแม้กระทั่งรอบผู้คุ้มกันระดับหลอมกระดูก
แต่เนื่องจากคนได้ยินและไม่เห็น พวกเขาจึงยืนนิ่งด้วยความกลัว คนหนึ่งเผลอลื่น และก็แหลกเป็นชิ้น ๆทันที
“ผู้อาวุโสแปด เป็นไงบ้าง?”
ตอนโหยวกุ่ยฉีกับจั๋วฝานอวดสมบัติมารกัน เซี่ยเทียนหยางก็พอเข้าใจสถานการณ์ได้ แต่พอเข้าสู่สภาวะต่อสู้ เขาก็ไม่สามารถเห็นได้และต้องถามเจี้ยนซุยเฟิง
แต่เจี้ยนซุยเฟิงกลับไม่สนใจเซี่ยเทียนหยาง
หลังการระเบิดครั้งใหญ่ ร่างสองร่างก็ปรากฏใหม่
จั๋วฝานยืนกอดอกสบายๆที่จดเดิม ขณะที่โหยวกุ่ยฉีหอบหายใจ ท่าทีเฉยเมยของจั๋วฝานไม่เพียงทำให้เขาตกใจ แต่ยังรวมถึงเจี้ยนซุยเฟิง
“คะ-ใครชนะ?”เซี่ยเทียนหยางรู้แต่ยังอดถามไม่ได้
เจี้ยนซุยเฟิงเคร่งขรึม”เจ้าจะได้รู้ในไม่ช้า”
เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นและสายฟ้าก็ฟาดผ่าในคนของโหยวหมิงกู่ มันระเบิดหัวของพวกเขา ทำให้อวัยวะพวกเขากลายเป็นของเหลว
ผู้คุ้มกันคนอื่นหนีไปให้ห่างจากจุดที่โหยวกุ่ยฉีกับจั๋วฝานยืนจ้องหน้ากัน
“กะ-เกิดอะไรขึ้น?”เซี่ยเทียนหยางจ้องศพด้วยความกลัว
ดวงตาของเจี้ยนซุยเฟิงไม่เคยละออกจากจั๋วฝาน.”เทียนหยาง เพื่อนของเจ้าน่ากลัวมาก ข้าไม่เคยเห็นใครเหมือนกับเขามากว่า โหยวกุ่ยฉีคนนั้น เขาไม่เคยพ่ายแพ้ย่อยยับแบบนี้มาก่อน”
เซี่ยเทียนหยางไม่เข้าใจ แต่เจี้ยนซุยเฟิงพูดต่อ”ในการปะทะกัน โหยวกุ่ยฉีทุ่มสุดตัว พวกเขาโจมตีกันครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ข้าเชื่อว่าจั๋วฝานกำลังสู้สุดตัว แต่ทันใดนั้น ความเร็วของเขากลับเพิ่มขึ้น แต่…”
“แต่อะไร?”เซี่ยเทียนหยางดูเหมือนจะใจร้อน
เจี้ยนซุยเฟิงเผยรอยยิ้ม”แต่แทนที่จะจบการต่อสู้นี้ เขากลับลากโหยวกุ่ยฉีไปรอบๆ เข่นฆ่าผู้คุ้มกันภายใต้สายตาของโหยวกุ่ยฉี”
เซี่ยเทียนหยางตกใจ”ทำไมถึงทำเช่นนี้?ทำไมเขาไม่รีบจัดการตาแก่นั่นตอนเขามีโอกาส?”
“ฮ่าๆๆ นี่แหละที่ทำให้เด็กนี่น่ากลัว”
ดวงตาของเจี้ยนซุยเฟิงสั่นไหวและเขาก็จริงจัง”เขาทำมันเพื่อเยาะเย้ยตาแก่นั่น ผู้อาวุโสคนหนึ่งกลับโดนเด็กจูงจมูก เข่นฆ่าคนของเขาไปหลายคน แต่เขากลับไร้อำนาจหยุดมัน โหยวกุ่ยฉี ปีศาจเจ้าเล่ห์ผู้โด่งดังกลับโดนเด็กระดับหลอมกระดูกปั่นหัวเหมือนแมวเล่นกับหนู หลังจากนี้เขาจะไปหลงเหลือความภาคภูมิใจอะไรอีก?”
“จั๋วฝานกับโหยวกุ่ยฉีเหมือนกัน การตอแยกับคนดังกล่าเท่ากับเชิญตัวเองสู่ยมโลก เพราะการแก้แค้นของพวกเขาจะไม่จำกัดแค่เจ้า แต่จะขโมยสิ่งที่เจ้ารักหวงแหนทั้งหมด ความตายจะมาหลังไม่เหลืออะไรให้ปล้นแล้ว”
เจี้ยนซุยเฟิงหัวเราะ รู้สึกว่าความคับข้องใจทั้งหมดหายไป”มีเพียงคนชั่วถึงสู้กับคนชั่วได้!โหยวกุ่ยฉียืนอยูบ่นเส้นทางนี้มานานไป วันนี้เขาได้พบกับปีศาจน้อยที่มีหัวใจดำมืดเหมือนเขา!อ่า รู้สึกดีเหลือเกิน!”
เสียงหัวเราะของเจี้ยนซุยเฟิงดังในหูทุกคนและโหยวกุ่ยฉี อย่างหลังนั้นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และแทบจะกระอักเลือด เขารู้สึกอนาถทุกครั้งที่เห็นจั๋วฝานยืนสบายๆ
พลังของจั๋วฝานเกินความคาดหมายของเขา
ในกระบวนท่าแรก เขาพบว่าจั๋วฝานเหนือกว่าเขา อีกฝ่ายไม่เพียงมองนี่เป็นการซ้อมมือ แต่ยังมีเวลาว่างไปฆ่าคนของเขาอีกด้วย
จั๋วฝานทำให้เขาไร้อำนาจ โดยเฉพาะตอนพูดถึงแผนการ ที่จั๋วฝานจะเหนือชั้นกว่า
โหยวกุ่ยฉีรู้สึกปวดหัว รู้สึกอ่อนแอเป็นครั้งแรก
[ไม่ จะเป็นแบบนี้ไม่ได้!ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เขาจะฆ่าข้าแน่ ข้าต้องรีบจบมันในกระบวนท่าเดียว!]โหยวกุ่ยฉีวางแผนในหัวแต่ไม่รู้ว่ามันจะได้ผลไหม โดยเฉพาะในกรณีของจั๋วฝาน แต่เขาไม่มีทางเลือก
ดวงตาของเขาเป็นประกายและเหวี่ยงโซ่ใส่จั๋วฝาน
“สิ่งนี้ใช้กับข้าไม่ได้ผล”จั๋วฝานยิ้ม เตรียมสะบัดปีก
แต่โซ่หยินหยางได้เบี่ยงออกจากเขาออกในนาทีสุดท้าย เล็งไปที่เสวี่ยหนิงเซียง
เสวี่ยหนิงเซียงยืนนิ่งด้วยความกลัว แต่จั๋วฝานปรากฏต่อหน้านางในชั่วพริบตาและสะบัดโซ่ด้วยปีกของเขา
“ฮ่าๆๆ ข้าเข้าใจแล้ว!”
โหยวกุ่ยฉีหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง”จั๋วฝาน โอ้ จั๋วฝาน ข้าพบจุดอ่อนเจ้าแล้ว ในเทือกเขาหมื่นอสูร เจ้าฝังความกลัวลึกๆลงในกระดูกแก่เหล่านี้ด้วยการโจมตีอย่างต่อเนื่องของเจ้า ข้าจึงคิดว่าเจ้ามาคราวนี้เพื่อแก้แค้น แต่ตอนนี้ข้าเห็นแล้วว่ามันเพราะนาง”
“และเจ้าคิดว่านี่จะเปลี่ยนอะไรได้?เจ้าจะตายอยู่ดี”จั๋วฝานพูด
“ฮึ่ม ถ้าเจ้าเบื่อหน่ายความโหดเหี้ยมแบบเดิมที่เจ้าเคยแสดง ข้าก็คงเข้าใจผิด แต่เจ้าห่วงใยเด็กสาวคนนี้และมอบชัยชนะให้ข้า ฮ่าๆๆ..”